บทที่ 17: สตรีโฉมงามเช่นนี้มาสารภาพรัก เจ้ากล้าปฏิเสธหรือ?
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 17: สตรีโฉมงามเช่นนี้มาสารภาพรัก เจ้ากล้าปฏิเสธหรือ?
“คุณหนูหลี่พบคู่ชีวิตของนางแล้วงั้นหรือ?”
"เป็นใครกัน? ใครเป็นผู้โชคดีกันนะ?"
“ได้โปรดบอกเราด้วยเถิดคุณหนูหลี่!”
ทุกคนอยากรู้อยากเห็นกันมาก
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามมากมาย หลี่ซือซือยิ้มและชี้ไปที่หลี่ซือซือที่นั่งอยู่บนชั้นสอง: “คนผู้นั้นคือข้าราชการระดับสูงคนใหม่ หลินเป่ยฟานที่นั่งอยู่บนแท่นสูง!”
หลินเป่ยฟานที่กำลังดื่มถึงกับสำลักและไอออกมา
ทุกคนหันศีรษะมองด้วยความตกใจ
“ข้าราชการระดับสูงคนใหม่ หลินเป่ยฟาน?”
“แม่นางหลี่หมายตาข้าราชการระดับสูงผู้นี้เหรอ?”
“เป็นเขาจริงเหรอ?”
จ่าวหยวนเหว่ยหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่ “ฮ่าฮ่า! ท่านข้าราชการ ข้าคาดเดาได้ถูกต้องจริงด้วย คุณหนูหลี่หมายตาท่านอยู่! ข้ารู้อยู่แล้วว่าสตรีที่ฉลาดมักจะรักผู้ชายที่มากความสามารถ! ท่านทั้งสองเป็นบุรุษที่มีความสามารถและสตรีโฉมงาม ถือได้ว่าเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ! ขอแสดงความยินดีด้วยนะ!”
หลินเป่ยฟานตกตะลึงพลางชี้ไปที่ตัวเอง: "ข้าเหรอ? เจ้ามั่นใจหรือ? แม่นางหลี่ เราไม่เคยพบกันมาก่อน นี่เป็นการพบกันครั้งแรกของเรา ทำไมเจ้าถึงชอบข้าล่ะ?”
หลี่ซือซือหน้าแดงด้วยรอยยิ้ม ความงามของนางมิอาจอธิบายได้เลย: “ท่านหลิน แม้ว่าเราจะไม่เคยพบกันมาก่อน แต่ข้าชื่นชมท่านมานานแล้ว! พรสวรรค์ของและกิริยามารยาทของท่านทำให้ข้าหลงใหลมาตลอด! ดังนั้นข้าจึงใช้โอกาสนี้สารภาพความรู้สึกของข้า โดยหวังว่าท่านจะยอมรับมัน!”
ชั่วขณะหนึ่ง ความอิจฉาริษยาได้เต็มไปทั่วสายตาของคนรอบข้าง
"เวรเอ้ย! ดูเหมือนคุณหนูหลี่จะหมายตาข้าราชการผู้นั้ันจริง!”
“นางถึงขั้นสารภาพความรู้สึกต่อสาธารณะเลย!”
“เป็นเพราะเขาหล่องั้นเหรอ? หรือเป็นเพระาว่าพรสวรรค์กันแน่?”
ด้วยความที่อีกฝ่ายเป็นสตรีโฉมงามและยังมาสารภาพกับเขา หัวใจของหลินเป่ยฟานก็เหมือนกับกำลังล่องลอยขึ้นไป
เมื่อมองไปที่ดวงตาที่อิจฉาริษยาของคนรอบข้าง เขาก็รู้สึกปลาบปลื้มมากยิ่งขึ้น
เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ความหล่อเหลาของข้าคงจะทำให้ใครหลายคนต้องอิจฉาสินะ กระทั่งแม่นางหลี่ยังไม่อาจต้านทานเสน่ห์ของข้าได้เลย เฮ้อ ช่างน่าปวดหัวยิ่งนัก!
ในขณะที่เขากำลังหัวเสียอยู่ในใจ
เขาก็ยกถ้วยขึ้นและยิ้มออกมา “ขอบคุณแม่นางหลี่ที่สนใจในตัวข้า ทว่าข้าเชื่อว่าความรักเป็นเรื่องของการดึงดูดซึ่งกันและกัน แม้นเจ้าจะชอบข้าจริง แต่ข้าเพิ่งพบเจ้าเป็นครั้งแรกในวันนี้ สำหรับข้า เจ้าเป็นแค่คนแปลกหน้าเท่านั้น มันไม่ได้มีความรักหรือความเสน่หาเลย ดังนั้นอย่าพูดถึงเรื่องเหล่านี้เถิด!”
ทุกคนพลันตกตะลึงอีกครั้ง
“หลินเป่ยฟาน เขาปฏิเสธนางจริงหรือ?”
“เขาปฏิเสธคำสารภาพของคุณหนูหลี่จริงๆ หรือ?”
“เขาตาบอดหรือเปล่า? เขากล้าปฏิเสธสตรีที่ดีเช่นนี้ได้ยังไง?”
หลี่สับสนเล็กน้อยที่อีกฝ่ายปฏิเสธนาง
แถมยังดูเหมือนว่าจะไม่ลังเลเลยด้วย! นางมีเสน่ห์ไม่พอหรือเปล่า? เป็นครั้งแรกที่นางเริ่มสงสัยในรูปลักษณ์ของตนเอง
อย่างไรก็ตามนางไม่ยอมแพ้ ถ้านางไม่ติดตามหลินเป่ยฟานไป นางจะตกอยู่ในมือของเกายาไน ซึ่งสถานการณ์ของนางจะน่าสังเวชยิ่งนัก!
“ข้าขอโทษด้วยท่านหลินที่ไม่สุภาพ!”
หลี่กล่าวขอโทษทันที “แต่ข้าหวังว่าท่านหลินจะให้โอกาสข้าได้รับใช้เคียงข้างท่าน จุดเทียน บดหมึก เติมกำยานและชงชาให้ นั่นก็เพียงพอสำหรับข้าในชีวิตนี้!”
ฝูงชนตกตะลึงเป็นครั้งที่สาม "บัดซบ! แม่นางซือซือสารภาพรักเป็นครั้งที่สอง! นางคงหลงรักเขาหัวปักหัวปำเลย!”
“หลินเป่ยฟานสะสมบุญอะไรไว้ในชาติก่อนกัน เขาถึงได้รับความรักจากซือซือมากเพียงนี้?”
"มีอะไรต้องลังเลอีก? ถ้าเป็นข้า ข้าคงจะตอบตกลงในทันที!”
“กับสตรีที่สวยขนาดนี้ แค่ชั่วชีวิตเดียวก็พอแล้ว!”
…หลินเป่ยฟานสับสนอีกครั้ง ข้าปฏิเสธไปแล้ว เจ้าจะยังดันทุรังอีกเหรอ?
พูดตามตรง เมื่อมองไปที่รูปลักษณ์ที่มีเสน่ห์และน่าชื่นชมของหลี่ซือซือ เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวั่นไหว ทว่าในฐานะคนที่อาจจะหนีไปจากที่นี่ได้ตลอดเวลา การหาภรรยาจะเป็นความคิดที่ดีจริงหรือ?
หลินเป่ยฟานโบกมืออย่างรวดเร็ว “ไม่จำเป็นหรอก ข้าสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้เช่นกัน จุดเทียน บดหมึก เติมกำยานและชงชาด้วยตนเอง ข้าคงไม่ต้องให้เจ้าต้องลำบากหรอก แม่นางซือซือ ยิ่งไปกว่านั้น ยามนี้ข้ายังไม่มีแผนที่จะแต่งงานและมีลูกด้วย!”
ฝูงชนตกตะลึงเป็นครั้งที่สาม
“หลินเป่ยฟานปฏิเสธนางอีกแล้วหรือ?”
“เขาไร้สมรรถภาพหรือเปล่า? เขาจะไม่หลงเสน่ห์สตรีสวยๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน?”
“ถ้าเป็นข้า ข้ายินดีเสียอายุขัยไปอีกสิบปีเลย!”
“ข้าสงสัยว่าสมองเขาน่าจะมีอะไรผิดปกติเป็นแน่!”…
ในขณะนี้เอง หลี่ได้สับสนอีกครั้ง เขาปฏิเสธนางอีกงั้นเหรอ?
“ข้าทำถึงเพียงนี้แล้ว เหตุไฉนท่านยังปฏิเสธข้าอีกหรือ?”
ด้วยความคับข้องใจ นางจึงเอ่ยน้ำเสียงที่โศกเศร้าออกมา “ท่านหลิน ทำไมท่านถึงปฏิเสธข้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า? ข้าทำอะไรผิดหรือเปล่า? หรือว่าความงามที่ละเอียดอ่อนของข้าไม่เป็นที่ต้องการของท่าน?”
ในขณะนี้ หัวใจของทุกคนพลันแตกสลาย เมื่อไรกันที่แม่นางซือซือโศกเศร้ามากเช่นนี้?
ทุกคนหันหน้าไปจ้องที่หลินเป่ยฟานด้วยความโกรธ หวังว่าพวกเขาจะสับเขาเป็นชิ้นๆ ได้ ไอ้คนเลวที่ไร้หัวใจ!
หลินเป่ยฟานถึงกับเงียบกริบ
เขาเป็นผู้บริสุทธิ์นะ!
ข้ายังไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมพวกเจ้าถึงมองข้าแบบนั้นกัน?
หลินเป่ยฟานได้แต่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น: “แม่นางซือซือ เจ้าโฉมอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เทียบได้กับเทพธิดาแห่งเมืองลั่ว ในบรรดาสตรีที่ข้าเคยพบเห็น เจ้าอยู่ในอันดับต้นๆ ของรายชื่อ! พรสวรรค์ด้านดนตรีและด้านอื่นๆ ของเจ้าก็โดดเด่นไม่แพ้กัน! ท่าทีและกิริยามารยาทของเจ้าต้องทำให้เจ้าเป็นสตรีที่มีคุณธรรมและสละสลวยที่สุด! ใครก็ตามที่สามารถแต่งงานกับเจ้าได้ คงจะเหมือนได้รับพรไปสามชั่วชีวิต แต่ทว่า...”
"แต่ทว่าอะไรหรือ?" หลี่ซือซือเอ่ยถาม