ตอนที่ 315 เอาคืนไป่จื่อ(ตอนฟรี)
ผู้อาวุโสของเผ่าอินทรีตกตะลึง ราวกับโดนแช่แข็ง เขายืนจ้องชายตรงหน้าตาเขม็ง
ใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติ ร่างสูงและแข็งแกร่ง กล้ามเนื้อสมส่วน แผ่กลิ่นอายทรงพลังเหมือนแม่น้ำเชี่ยว
แม้จะไม่เคยเจอกับตัว แต่หน้าตาของเขาก็ได้ประทับลึกในหัวของผู้อาวุโส
“ซู ซูสือ?!”
ผู้อาวุโสของเผ่าอินทรีอุทานด้วยความแปลกใจ
ชายคนนี้มาถึงอาณาจักรคนเถื่อนตอนไหน?
เข่อยู่ในลานประลองอสูร แต่พวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่าเขามา
ชายที่สามารถทำให้เกิดคลื่นลมได้ ความพิเศษของซูสือชัดเจน
“มันเป็นเขาจริงๆ!”
หวังเฉวีย เด็กหนุ่มเผ่าสุนัขจ้องซูสือตาเขม็ง ไม่สามารถปกปิดความแปลกใจได้
ผู้อาวุโสดูเหมือนจะตระหนักถึงบางสิ่ง หัวใจของเขาเต้นเร็ว โดยไม่ลังเล เขาพยักหน้า“ข้าจะรีบไปเอามันมา”
เขารีบออกห้องไป หลังจากนั้นไม่นาน ประตูก็ถูกผลักเปิดอีกครั้งและผู้อาวุโสก็นำแหวนมิติมามอบให้ซูสือ
“โปรดตรวจสอบด้วย นายน้อยซู”
ซูสือยื่นมือไปรับ และไม่นานเขาก็เลิกคิ้ว
ปริมาณของหินปราณเกินกว่าที่เขาคาดไว้
นอกจากแก่นทองคำสอบก้อนที่เขากับอวี่เหรินเอ๋อร์เดิมพัน แค่ส่วนเดิมพันของไป่จื่อ ซิงเคอกับเส่ออวี่ก็นับเป็น15000หินปราณขั้นสูงแล้ว
การเดิมพันของผู้ชมที่เหลือยังไม่ถูกนับ ถ้าทั้งหมดแปลงเป็นหินปราณขั้นสูง มันน่าจะได้เกือบสามหมื่น!
แม้กระทั่งสำหรับซูสือ นี่ก็มากมหาศาล!
ซูสือคิดกับตัวเอง“ไม่น่าแปลกที่ไป่จื่อจะโลภ ไม่คิดเลยว่าคนจะเดิมพันกันมากขนาดนี้”
เขาโยนแหวนให้อวี่เหรินเอ่อร์และพูด“เก็บไว้”
อวี่เหรินเอ๋อร์มองเขาและเดาะลิ้นอย่างประหลาดใจ จำนวนหินปราณนี้ทำให้นางอึ้ง
แต่ มันเป็นของพวกนาง นางจึงเก็บมันไปโดยไม่คิดมาก
หลังเห็นอวี่เหรินเอ๋อร์เก็บแหวนไป สุดท้ายไป่จื่อก็ถอนหายใจโล่งอก แต่ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกเจ็บปวดใจ
ลานประลองอสูรในเมืองโคโดจะเปิดทุกสามเดือน แม้ผู้ชมจะถือว่าปานกลาง แต่ครั้งนี้มันจัดเป็นพิเศษเพื่อเอาใจซิงเคอ
การปรากฏของสัตว์อสูรหมายเลขหนึ่งได้แสดงความน่าเกรงขาม กระตุ้นให้ผู้ชมเดิมพัน หลายคนจึงทุ่มหมดตัว
แต่ซูสือกับอวี่เหรินเอ๋อร์ดันชนะ!
ไม่เพียงเขาจะสร้างสัมพันธ์กับซิงเคอไม่ได้ เขายังตอแยซูสือและ’ค่าธรรมเนียมการบริหาร’ที่ควรจะเก็บได้ก็ยังหายไป
เขาเสียทั้งเงินและหน้า! เผ่าจะต้องเอาเรื่องเขาแน่
แต่ ไป่จื่อไม่คิดเกี่ยวกับมันมากในตอนนี้ เพราะการตอแยซูสือหมายถึงการรุกรานทั้งหลินหลางและเผ่าจิ้งจอก!
ควบคู่กับเผ่างูที่จับตาดูอยู่ เผ่าอินทรีจะอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก!
“นายน้อย ท่านพอใจหรือไม่?”ไป่จื่อถามด้วยรอยยิ้ม
ซูสือไม่ตอบแต่หันไปมองหวังเฉวีย“เจ้าคิดว่ายังไง?”
“หะ?”หวังเฉวียตกตะลึง
ขอความเห็นเขา?
“ข้า..”หวังเฉวียกำลังจะพูด แต่ก็โดนซูสือขัด“น้องชายข้าเกือบเสียชีวิต เจ้าคิดว่าเรื่องนี้ควรจัดการยังไง?”
ไป่จื่อส่ายหัว“นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด ถ้าเรารู้ว่าเขาคือสหายของนายน้อย เราคงไม่เปิดเดิมพัน นอกจากนี้…นายน้อยเองก็ได้ลาภก้อนโตไปไม่ใช่หรือ?”
ซูสือขมวดคิ้ว“เจ้าจะบอกว่าหินปราณเหล่านี้สำคัญกว่าชีวิตของน้องชายข้า?”
“..”
“ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น..”
ไป่จื่อรู้สึกโกรธ
ถ้าซูสือสนใจชีวิตของเด็กเผ่าสุนัขจริง เขาคงเปิดเผยตัวตนตั้งแต่ต้น
เขากลับแสร้งทำเป็นไม่สน ทำเงินและตอนนี้ก็ยังแสดงความชอบธรรม?
นี่มันมากเกินไป!
เส่ออวี่กลั้นหัวเราะ และลอบสำรวจซูสือด้วยสายตาชื่นชม
“ซูสือผู้นี้..ดูแตกต่างจากที่ข้าคิดไว้ซะอีก?”ศัตรูของศัตรูคือมิตร พอเห็นไป่จื่อโดนเล่น เส่ออวี่ก็พอใจมาก และยิ่งประทับใจในตัวซูสือ
ไป่จื่อฝืนยิ้มและถาม“งั้น นายน้อยซูสือ ท่านอยากให้เราทำอย่างไร?”
ซูสือตอบ“อะไรที่น้องชายข้าทำได้ ข้าก็เชื่อว่านายน้อยไป่จะทำได้”
ทันทีที่เขาพูด ทั้งห้องก็ตกสู่ความเงียบ รอยยิ้มไป่จื่อหายไป ไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน”ท่านอยากให้ข้าสู้กับสัตว์อสูร?’
“ข้าเชื่อว่านายน้อยไป่จะชนะ”ซูสือพูดพลางหรี่ตา
ไป่จื่อกำหมัด หน้าอกพองอย่างแรง ดวงตาเผยความเย็นชา เขา ทายาทของเผ่าอินทรีถูกสั่งให้สู้กับสัตว์อสูร?
นี่มันมากเกินไป!
ผู้อาวุโสเผ่าอินทรีขมวดคิ้ว“นายน้อยซู ข้ารู้ว่าตัวตนท่านพิเศษ แต่นี่ไม่มากเกินไปหน่อยหรือ?”
“เจ้ามีสิทธิ์พูดด้วยเหรอ?”
“เจ้า!”
พอเจอกับสายตาดูหมิ่นของซูสือ ผู้อาวุโสเผ่าอินทรีก็โกรธ แต่ไม่กล้าพูดมาก
ไป่จื่อก้มหัว
ซูสือยังนั่งกับที่
ไป่จื่อเงียบไปสักพักและกระซิบ“ขอแค่ข้าลงสู้ เรื่องนี้ก็จะถือว่าหายกันใช่หรือไม่?”
“แน่นอน”ซูสือพยักหน้า“ข้าไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น”
อวี่เหรินเอ๋อร์เม้มปาก แทบไม่สามารถกลั้นขำได้
ซูสือไม่ได้เจ้าคิดเจ้าแค้นจริงๆ ถ้าเขาคิดแค้น เขาคงสะสางเสียตรงนี้ไปแล้ว…
ไป่จื่อถอนหายใจ“ได้ งั้นก็สะสางกันด้วยวิธีนี้”
“นายน้อย?!”ผู้อาวุโสเผ่าอินทรีทึ่ง
ไป่จื่อกำลังจะลงสู้เอง?
นี่ไม่น่าขายหน้าไปหรือ?
“ไม่ต้องพูดอีก ไปเตรียมสัตว์อสูรซะ”ไป่จื่อพูดและกำลังจะออกไป แต่ซูสือพูดเตือน“อย่าลืมเปิดเดิมพัน ข้าจะสนับสนุนนายน้อยไป่แน่”
ลมหายใจของไป่จื่อติดขัด และเขาก็กระทืบเท้าออกห้องไปโดยไม่พูดสักคำ ขณะที่ผู้อาวุโสเผ่าอินทรีรีบเดินตามเขาไป