ตอนที่ 106 ข้อมูลกิลด์และเบาะแสที่ตามหา(ฟรี)
ตอนที่ 106 ข้อมูลกิลด์และเบาะแสที่ตามหา
7 ต่อมาทุกอย่างดำเนินไปอย่างที่พวกเขาประชุมกันกลางดึกวันนั้น
บอสตันพาหน่วยพิฆาตที่ 1-2 ไปกวาดล้างมอนสเตอร์ตามที่ดินที่ลุคซื้อเอาไว้ในนามของเขา ซึ่งมันก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของกิลด์ด้วย ที่ดินกว่า 500 ไร่จะว่าน้อยก็น้อย แต่จะว่ามากก็มาก
นอกจากมอนสเตอร์ที่โดนกำจัด พวกเขายังเข้าไปควบคุมแหล่งเชื้อเพลิงและสิ่งของที่หลงเหลือไว้ด้วย ของทั้งหมดถูกขายพร้อมกับที่ดิน แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าจะมาเอาไปได้หรือเปล่า
บางสิ่งมีค่ามาก ซึ่งบอสตันสั่งให้คนรวบรวมส่งไปที่ตึกกิลด์ เพราะลุคค่อนข้างให้ความสำคัญกับเงินและบอสตันก็รู้ดีว่ากิลด์ต้องการเงินมาก
บอสตันและหน่วยพิฆาตก็กำจัดมอนสเตอร์ที่มาทำรังและอยู่ในที่ดินไปมากกว่า 400 ไร่แล้ว รังมอนสเตอร์โดนทำลาย บางส่วนตาย แต่บางส่วนถูกจับกลับไปโดยนิโคลที่มาพร้อมกับหน่วยพิฆาตที่สาม แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะบางกลุ่มถูกส่งไปช่วยไอกะดูและพื้นที่ของตึกกิลด์เทพศาสตราวุธ
ส่วนลุคในตอนนี้เขากำลังค้นหาเบาะแสของตัวเอง โดยอาศัยทางที่ถนัดที่สุด
พวกสัตว์เลี้ยง
ลุคออกไปค้นหาแถมแม่น้ำที่มีสวนสาธารณะอยู่แถวนั้น ในนั้นมีสัตว์ที่ยังเหลือรอดอยู่จำพวกนกขนาดเล็กและนกพิราบ มีหนูบ้านตามท่อน้ำทิ้งด้วย ยังมีสุนัขหลายสิบตัวที่พลัดหลงจากเจ้าของและยังรอดอยู่ในพื้นที่ เขาเก็บพวกมันมาทั้งหมด
เขาใช้ไอเทมคัมภีร์ตราประทับทาสกับพวกสัตว์ที่เก็บมาทั้งหมด เมื่อรวมกับ 10 ตัวก่อนหน้าก็เท่ากับ 150 ตัวพอดี
แบ่งเป็นนกขนาดเล็กจำพวกนกกระจิบที่มีมากกว่า 70 ตัว นกพิราบขาวและพิราบทั่วไป 20 ตัว หนูแรท 10 และหนูท่อน้ำ 20 ตัว สุนัขทั้งขนาดเล็กและใหญ่ 20 ตัว แมวอีก 10 ตัว
ลุคเริ่มแบ่งหน้าที่ของพวกมันมาสักพักแล้ว โดยเขาให้นกกระจิบทั้ง 5 ตัวที่มาจากห้องทดลองเป็นผู้นำฝูงกระจิบ เพราะลุคพบว่ามันฉลาดกว่ากระจิบภายนอกมาก หน้าที่ของฝูงกระจิบคือกระจายกันออกไปตรวจสอบมอนสเตอร์ในพื้นที่เขต 5 ทั้งหมด
ส่วนหนูแรท 5 ตัวก็ได้เป็นหนูชนชั้นสูงควบคุมฝูงหนูท่อให้สำรวจตามใต้ดินค้นพาคนที่รอดและมอนสเตอร์ด้วย แต่พวกมันจะอยู่ในพื้นที่เขต 5 เช่นกัน
ลุคสั่งให้พวกมันระวังตัวมากที่สุด เพราะทุกการตายของสัตว์แต่ละตัวหมายถึงคัมภีร์ตราประทับทาสหนึ่งอันและเขามีจำกัดด้วย
ส่วนนกพิราบ ตัวพวกใหญ่เกินไปและตกเป็นเป้าได้ง่าย เลยให้ทำหน้าที่ตรวจสอบรอบตึกกิลด์เทพศาสตราวุธเป็นหลัก ไม่มีใครหลบพ้นสายตาของนกพิราบพวกนี้ได้ เท่ากับลุคมีกล้องวงจรปิดที่มีชีวิตคอยตรวจสอบและจับตาดูทุกสิ่งตลอดเวลา
โดยจะมีแมวอีก 5 ตัวที่เดินไปมาทั่วทุกที่เป็นหน่วยอิสระ เพราะนิสัยของแมวค่อนข้างสั่งการยาก แต่ลุคกลับพบว่าแมวนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดมาก อาจจะฉลาดเกินไปด้วยซ้ำ พวกมันใช้งานเฉพาะบางสิ่งได้อย่างการแอบติดตามและตรวจสอบคนน่าสงสัย แม้จะยังไม่มีตอนนี้ แต่ก็มีพวกมันไว้ก่อนได้ ลุคเรียกพวกมันว่า นินจาแมว
สุดท้ายที่ลุคค่อนข้างพึงพอใจเล็กน้อยคือสุนัข พวกสุนัขได้กลายเป็นสุนัขเฝ้ายามที่จะผลัดเปลี่ยนไปกับหน่วยพิฆาตต่าง ๆ เพื่อเป็นทั้งหูตาและเครื่องตรวจจับช่วยพวกมนุษย์โคลนนิ่ง
บอสตันและหน่วยพิฆาตพอใจกับกลุ่มสุนัขมาก ในสงครามตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถ้าบอกว่าสัตว์ชนิดใดมีส่วนร่วมในสงครามเป็นอันดับต้น ๆ สุนัขจะติดหนึ่งใน 3 ชนิดแน่นอน
มนุษย์โคลนนิ่งมีความสามารถการฝึกสุนัขกองทัพตามความทรงจำเกี่ยวกับทหารที่โปรแกรมใส่ไว้ พอได้ลุคที่คุยกับสัตว์รู้เรื่องและคัมภีร์ตราประทับทาสที่ทำให้พวกมันฉลาดขึ้น
สุนัขพวกนี้เลยฉลาดไม่ต่างจากมนุษย์เลย พวกมันเข้าใจงานเป็นอย่างดีและแม้จะไม่สามารถสื่อสารกับคนอื่นได้นอกจากลุค แต่พวกมันก็มีวิธีในการบอกแบบของสุนัขให้หน่วยพิฆาตรู้ได้ผ่านการสังเกต
นอกจากนั้นลุคก็แบ่งบางตัวไว้ที่ตึกกิลด์ทำงานกะกลางคืนคอยลาดตระเวนกับหน่วยลาดตระเวนด้วย
เรียกว่าสัตว์เลี้ยงทุกตัวของลุคมีคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง
“อย่างนั้นเหรอ” ลุคสนทนากับนก ก่อนจะบอกให้มันไปรับเนื้อมอนสเตอร์และพักสักหน่อยค่อยบินไปต่อ
“ขอบคุณเจ้านาย จิ๊บ ๆ” นกกระจิบกระพือปีกด้วยความดีใจ มันรีบบินออกไปจากห้องตรงไปยังโกดังสัตว์เลี้ยงที่ลุคสร้างมาเป็นพิเศษเป็นที่พักผ่อนของสัตว์เลี้ยงโดยตรง ที่นั่นมีเนื้อมอนสเตอร์บริการให้สัตว์ทุกตัวไม่อั้น ขอแค่พวกมันทำงานก็จะมีกินได้สบาย
ลุคเปิดแหวนเครือข่ายไกอาก่อนจะติดต่อไปหาบอสตัน
“มีอะไรเหรอ” ภาพของบอสตันที่นั่งอยู่บนรถถามอย่างสงสัย
“มีพวกมอนสเตอร์มีปีกอยู่ด้านหน่วย 1 ห่างไป 3 กิโลเมตร มีกัน 2 ตัวฝากจัดการด้วย เจ้าพวกนั้นเป็นอันตรายต่อนกกระจิบ”
“ได้เลยไม่มีปัญหา จริงสิ! มีมอนสเตอร์ใหม่อีก 2 ตัวเป็นแกะขนเมฆกับไก่หางฟินิกซ์ พวกมันเป็นระดับ E ฉันกับนิโคลช่วยกันจับกว่าจะจับพวกมันได้”
“แกะขนเมฆกับไก่หางฟินิกซ์อย่างนั้นเหรอ เอาพวกมันกลับมาเดี๋ยวฉันจะรอ” ลุคตอบ
“ได้ ไว้เจอกัน”
บอสตันวางสาย
...
ลุคเปิดเข้าไปในหน้าเว็บของกิลด์ด้วยแหวนเครือข่ายไกอา ที่นี่เป็นเหมือนกับหน้าเพจทั่วไปมีทั้งข่าวสารจากกิลด์ แต่ยังไม่มีการโพสต์อะไร เพราะสมาชิกมีกันแค่ 4 คนเท่านั้น มันจึงว่างเปล่า
เขาไม่สนใจมัน แต่สิ่งที่ลุคสนใจคือตรงชื่อเสียงกิลด์ คะแนนกิลด์ ภารกิจ และแรงค์ของกิลด์
“กิลด์เทพศาสตราวุธ”
“แรงค์ : ระดับเหล็ก 2 ดาว”
“คะแนนชื่อเสียง : 1,509/10,000”
“สมาชิก : 154 คน (รายละเอียด ซ่อน)”
“ภารกิจ : ฆ่ามอนสเตอร์ระดับ F, ฆ่ามอนสเตอร์ระดับ E, สำรวจพื้นที่ความเสียหายเขต 5, ภารกิจช่วยผู้รอดชีวิต, (รายละเอียด ซ่อน)”
ตั้งแต่ก่อตั้งกิลด์มาจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาจะ 10 วันแล้ว กิลด์เทพศาสตราวุธใช้วิธีการรับภารกิจแบบไม่จำกัดคือการกำจัดมอนสเตอร์และยืนยันภารกิจผ่านระบบไกอา ทำให้สะสมคะแนน 100 คะแนนแรกได้สำเร็จ ซึ่งเป็นช่วยทดสอบกิลด์ได้อย่างรวดเร็ว และกิลด์จะถูกเลื่อนจากกิลด์ไร้อันดับไปที่แรงค์เหล็ก 1 ดาวสำเร็จ
และเมื่อสามวันก่อนกิลด์พวกเขาสะสมคะแนนได้ครบ 1,000 คะแนน เลยเลื่อนไปที่แรงค์เหล็ก 2 ดาวได้สำเร็จ แต่การจะเลื่อนไปที่แรงค์เหล็ก 3 ดาวยากมาก เพราะต้องใช้นับหมื่นคะแนน
แต่ถึงแบบนั้นลุคก็พอใจกับความเร็วในการพัฒนานี้ ด้วยจำนวนคนที่เป็นเหนือมนุษย์มากถึง 154 คนนับเป็นจำนวนสมาชิกของกิลด์ในระดับใหญ่ของเมืองปลายฝนแล้ว แม้แต่ก่อนหน้าก็จัดเป็นระดับกลางได้เลย
“ถ้าฉันไม่โดนโทษไม่ได้รับเงินภารกิจคงได้เงินไม่ต่ำกว่า 500 ล้านเครดิตไปแล้ว เห้อ...” ลุคถอนหายใจเบา ๆ
“เอาเถอะ เขต 5 ยังอยู่ในการควบคุม แต่ว่าด้านเขต 3-4 กิลด์ทั้งสามต่อสู้กันรุนแรงมาก แต่กิลด์กระดูกดำเสียเปรียบมาก พวกนั้นไม่รู้ว่าจะรู้เรื่องที่ฉันฆ่าเรทเจอร์ไปแล้วหรือยัง ไม่แน่ว่าอาจจะรู้แล้วก็ได้ แต่แหวนไกอาฉันจัดการทิ้งลงแม่น้ำไปแล้ว ถ้าพวกเขาอยากจะตามก็ต้องไปงมเอาละ”
ลุคยิ้มอย่างชั่วร้าย แม่น้ำก็ใช่ว่าจะปลอดภัยมันมีมอนสเตอร์อยู่จำนวนมาก ยิ่งลงไปใสภาพแวดล้อมที่เสียเปรียบ ต่อให้เป็นระดับ D ก็ตายได้
“เห็นว่ามีระดับ D ขึ้นมาจากแม่น้ำสามตัวเมื่อวานนี้ ยังดีที่พวกมันไปขึ้นทางฝั่งแม่น้ำแถวเขต 1 ที่มีคนจำนวนมาก ถ้ามาขึ้นตรงนี้คงยากที่ฉันจะรอด”
“คลื่นพลังของฉันมาถึง 530 หน่วยแล้ว ถือว่าไม่เลว แต่เม็ดยาโอสถผู้หิวกระหายหมดแล้ว เมื่อไหร่จะเจอเบาะแสของมอนสเตอร์หมูจอมตะกละนะ เอ๊ะ! มีสัญญาณส่งมา กระจิบหนึ่งเหรอ คงต้องไปดูสักหน่อย”
ลุคเปิดหน้าต่างก่อนจะกระโดดออกไป พริบตานั้นเกราะด้วงทมิฬก็ปรากฏบนตัวลุคพร้อมกับกางปีกบินออกจากตึกกิลด์เทพศาสตราวุธไป
แต่บินออกมาไม่กี่ร้อยเมตรลุคก็เห็นว่ามีมอนสเตอร์ตัวหนึ่งบุกมาที่นี่ สารานุกรมมอนสเตอร์ระบุตัวตนของมอนสเตอร์ตัวนั้นในทันที
“แรดนอเหล็กตันระดับ E มอนสเตอร์สายพันธุ์แรด ขนาด 5 เมตร กระดูกแข็งแกร่งราวกับโลหะ ผิวหนาเป็นเกราะอย่างดี มีนอแรดที่ทรงพลังสองนอที่สามารถวิ่งชนและทำลายแผ่นเหล็กหนา 2 เมตรได้”
“เชี่ย! มันทรงพลังขนาดนั้นเลย ต้องรีบจัดการก่อนที่มันจะทำลายกำแพงรอบตึกกิลด์ฉันเป็นรู” ลุคบินดิ่งลงไปจัดการมัน
พอไปถึงระยะห่าง 3 เมตรลุคก็ใช้เคียวยมทูตฟันเข้าที่กลางหลังของมัน แต่เคียวยมทูตกลับสร้างความเสียหายเพียงเปิดผ่านชั้นผิวหนังนอกเท่านั้น จนเห็นไขมันด้านในสีขาวเหลือง
ฟืดๆ !!!
เสียงร้องแรดดังราวกับเสียงเครื่องยนต์ขนาดยักษ์ มันหงุดหงิด แต่ไม่เจ็บเพราะยังไม่โดนเนื้อด้านใน แต่นั่นก็ทำให้แรดนอเหล็กตันรู้ถึงอันตราย มันหันกลับไปใช้หนอขวิดใส่ลุค
“เร็วมาก” ลุครีบบินหนีขึ้นที่สูงเพื่อหลบการโจมตี ทำให้แรดนอเหล็กตันทำอะไรเขาไม่ได้
แรดนอเหล็กตันย้ำเท้าไปมา มันก้มลงไปงัดเอาพื้นปูนทั้งแผ่นขึ้นไปบนฟ้าพยายามงัดให้โดนลุค แต่หลังจากทำสองสามครั้งมันก็ทำไม่โดนจึงโมโหมากจนวิ่งชนใส่อาคารสูงสามชั้นไปมาซ้ำ ๆ จนพัง เพื่อระบายอารมณ์
ลุคมองเหตุการณ์นี้อย่างตกตะลึง และพอเห็นว่ามันทำอะไรลุคไม่ได้ก็เลยเลือกจะวิ่งไปที่ทิศทางของตึก ซึ่งอยู่ห่างไปไม่กี่ร้อยเมตร
“เวร รีบฆ่ามันก่อน”
ลุคโจมตีใส่ที่บาดแผลเดิมอีกสองครั้งจนในที่สุดเจ้าแรดนอเหล็กตันก็ตายอย่างน่าอนาถใจ ถ้าไม่ใช่เพราะลุคบินได้ แรดนอเหล็กตันไม่มีความสามารถบินมันคงไม่ถูกฆ่าตายแบบนี้
“เจ้านี่จะเป็นฝันร้ายของรถถังทุกชนิดบนสนามรบเลย ดีที่มันมีมาตัวเดียว”
ลุคเปลี่ยนศพของมันเป็นไอเทม
“คุณได้รับไอเทมชุดเกราะแรดนอเหล็กตัน ระดับ E เกรดสีส้มจำนวน 1 ชุด ผลพิเศษพุ่งชนทำลายล้างที่รุนแรงและความทนทานที่น่าหวาดกลัว”
“ชุดเกราะเหรอเหลือเชื่อแหะ! จากที่ฉันเจอมามีมอนสเตอร์ 3 ชนิดที่ให้ไอเทมชุดเกราะ คือหมาป่าขนเหล็ก ด้วงเกราะทมิฬ และสุดท้ายคือเจ้านี่ แรดนอเหล็กตัน”
“ผลพิเศษของมันน่าสนใจ น่าจะเป็นความสามารถคล้าย ๆ กับที่แรดนอเหล็กตันใช้ แต่มันก็ไม่สะดวกเท่ากับชุดเกราะด้วงทมิฬ”
คุณสมบัติของชุดเกราะด้วงทมิฬและชุดเกราะแรดนอเหล็กตันคล้ายกัน เพียงแต่ความต่างอยู่ที่ชุดเกราะด้วงทมิฬบินได้ ส่วนชุดเกราะแรดนอเหล็กตันบินไม่ได้ แต่ก็ได้ความสามารถในการพุ่งชนมาแทน
“พุ่งชนของมันก็คล้ายของด้วงทมิฬด้วย แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียว เพราะของชุดเกราะด้วงทมิฬต้องอาศัยความเร็วจากการบิน แต่แรดนอเหล็กตันอาศัยพลังขา ไว้ลองทดสอบดู น่าจะใช้รวมกับรองเท้าสายฟ้าได้”
ลุคกำลังคิดหาที่ลองชุดเกราะแรดนอเหล็กตันที่พึ่งได้รับมา แต่แล้วเขาก็ได้รับสัญญาณจากตราประทับของนกกระจิบหนึ่งอีกครั้ง ดูเหมือนมันจะค่อนข้างร้อนใจอยู่ไม่มากก็น้อย ลุคเลยทิ้งเรื่องชุดเกราะแรดนอเหล็กตันไปก่อนและรีบไปหานกกระจิบหนึ่ง
ระยะค่อนข้างไกลออกไปจากที่ดินของลุค เกือบจะสุดขอบของเขต 5 กันเลยทีเดียว แต่ลุคก็ตามตำแหน่งที่ปรากฏในจิตใจมาจนถึง
“เจ้านายมาแล้ว จิ๊บ ๆ” นกกระจิบหนึ่งกระโดดอยู่บนขอบตึกอย่างดีใจ
ลุคบินลงมาข้าง ๆ มัน ก่อนจะยื่นมือไปให้นกกระจิบหนึ่งขึ้นมาเกาะ
“เกิดอะไรขึ้น แกพบอะไรอย่างนั้นเหรอ”
“พบ จิ๊บ ๆ มันเป็นตัวที่เจ้านายเคยเล่าให้ฟังจิ๊บ ๆ”
“มีตัวที่ให้ตามหาด้วยจิ๊บ ๆ”
นกกระจิบหนึ่งกล่าวอย่างตื่นเต้น ลุคนึกขึ้นเล็กน้อย เหมือนเมื่อหลายวันก่อนเข้าเคยเล่าเรื่องเจ้าก็อบลิน มอนสเตอร์ที่เปลี่ยนเป็นไอเทมแหวนได้ ซึ่งเขาเล่าเพราะพวกนกกระจิบและหนูจากห้องทดลองถาม พวกมันฉลาดและอยากรู้อยากเห็นเขาก็ไม่คิดที่จะเล่า
แต่ไม่คิดว่าพวกมันจะเจอก็อบลินที่นี่
“เดี๋ยว แกบอกว่าเจอกับตัวที่ให้ตามหาด้วย มันคือหมูป่าจอมตะกละใช่ไหม” ลุคถามอย่างร้อนใจ
“ใช่แล้วจิ๊บ ๆ”
“หมูป่าจอมตะกละแหละจิ๊บ ๆ”
“กินเนื้อหมูได้ไหม จิ๊บ ๆ”
“ทำดีมาก ถ้าใช่มันเดียวฉันจะเชือดให้แกกินตัวแรกเลย” ลุครูปหัวนกและชมเชย
“เจ้านายใจดีที่สุด จิ๊บ ๆ” นกกระจิบหนึ่งกระโดดไปมาไม่หยุด
“เอาละพาฉันไปดูหน่อยมันอยู่ตรงไหนกัน”
“ตามาเลย จิ๊บ ๆ!” นกกระจิบหนึ่งรีบบินนำไปทันที มันอยากให้เจ้านายมันรีบเชือดหมู เพราะเจ้านายบอกว่าเนื้อหมูอร่อยมาก มันจึงอยากลองกินมานานหลายวันแล้ว
ขณะที่บินไปก็ร้องจิ๊บ ๆ เนื้อหมู ๆ ไปด้วยอย่างอารมณ์ดี ต่างจากลุคที่ตอนนี้ใบหน้าจริงจังอย่างมาก การปรากฏตัวของก็อบลินมันต้องไม่ธรรมดาแน่นอน