(ฟรี)ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 713 ยุคใหม่(3)
ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 713 ยุคใหม่(3)
เขามองไปที่กฏแห่งปฐมโกลาหลที่ถูกกฎแห่งเต๋าสวรรค์แทรกซึม
เต๋าสวรรค์สามารถรองรับตัวตนขอบเขตปฐมโกลาหลได้แล้ว ดังนั้น จ้าวมังกรและอีกสองคนก็บรรลุขอบเขตปฐมโกลาหลแล้ว
ฉินและเฟิงหยิ่งด้อยกว่าอีกฝ่ายเพียงเล็กน้อย
การพัฒนาของเต๋าสวรรค์นั้นดำเนินโดยไม่ต้องการความสนใจจากฉู่เซวียน
เขาเชื่อว่าครั้งต่อไปที่เขาออกมาจากการปิดด่าน กฎแห่งเต๋าสวรรค์ก็คงจะเข้าครอบครองหนึ่งในกฎแห่งปฐมโกลาหลแล้ว
เขาเข้าสู่การปิดด่านอีกครั้ง ซูเซียนเอ๋อร์ก็เช่นกัน
ฉู่เซวียนไม่รู้ว่าเขาจะสามารถก้าวข้ามความโกลาหลได้หรือไม่
ดูเหมือนมันจะอยู่ไกลเกินเอื้อม แต่เขาก็ไม่ได้หยุดที่จะฝึกฝน ปราณโกลาหลแห่งการสรรค์สร้างภายในร่างกายของเขายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เขาฝึกฝนเป็นเวลากว่าหนึ่งแสนปี
ฉู่เซวียนตื่นจากการฝึกฝนและถอนหายใจ
เวลาผ่านไปแสนปี แต่เขากลับรู้สึกว่าตนนั้นผล็อยหลับไปเพียงช่วงเวลาสั่น ๆ
อายุของเขาก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
เมื่อเขาดูที่ระบบอีกครั้ง มันยังคงอยู่ในการพัฒนาและเริ่มต้นใหม่ ด้วยเหตุนี้ เขาแน่ใจว่าระบบจะเสร็จสิ้นการพัฒนาหลังจากที่เขาก้าวข้ามความโกลาหลแล้วเท่านั้น
“นายน้อย”
ซูเซียนเอ๋อร์ปรากฏตัวต่อหน้าเขาด้วยรอยยิ้ม
ในระหว่างที่นางฝึกฝนมาเป็นเวลาแสนปี นางได้ตื่นขึ้นมาสองครั้ง นี่เป็นครั้งที่สาม สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตเบิกโลกา เวลาแสนปีนั้นไม่ถือว่านานมากนัก
ในช่วงเวลานี้ มีเพียงผู้ที่มาถึงระดับนี้เท่านั้นที่จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานเช่นนี้ หลายสิ่งหลายอย่างภายในความโกลาหลเปลี่ยนไปอย่างมาก
ฉู่เซวียนเงยหน้าขึ้นและมองออกไปข้างนอก
สิ่งมีชีวิตโกลาหลขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นภายนอกที่พักของเขา
อีกฝ่ายมีร่างที่สูงใหญ่และไม่เล็กไปกว่าเก้าดินแดนเลย
เขามีลำตัวเป็นช้างและมีหัวเป็นวัว จมูกของเขาพ่นปราณโกลาหลราวกับพายุโหมกระหน่ำออกมาสองลูก
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉู่เซวียนได้เห็นสิ่งมีชีวิตโกลาหล เมื่อเขามาถึงปลายขอบแห่งความโกลาหลเป็นครั้งแรก เขาก็พบตัวตนเช่นนี้มาบ้างเช่นกัน
สิ่งมีชีวิตโกลาหลเหล่านี้ไม่ได้ฉลาดมากนัก พวกเขาอาศัยร่างกายอันทรงพลังเพื่อท่องไปในความโกลาหล ดูเหมือนว่าพวกเขาจะกินปราณโกลาหลที่รั่วไหลออกมาจากการที่กฎแห่งปฐมโกลาหลขยายตัว
เขาไม่อ่อนแอไปกว่ายอดฝีมือขอบเขตเบิกฟ้าแยกปฐพี
ฉู่เซวียนโบกมือ ทันใดนั้นชิ้นเนื้อก็ปรากฏขึ้น
มันถูกตัดออกมาจากร่างของสิ่งมีชีวิตโกลาหลนั้น
สำหรับตัวตนเช่นนี้ การสูญเสียชิ้นเนื้อขนาดเท่าตัวของฉู่เซวียนไม่ต่างอะไรจากการถูกยุงกัด ดังนั้นอีกฝ่ายจึงไม่ตอบสนอง
“เซียนเอ๋อร์ เจ้าลองปรุงเนื้อชิ้นนี้ดูเถอะ ข้าสงสัยว่ามันจะอร่อยหรือไม่”
ซูเซียนเอ๋อร์ตกตะลึงไปชั่วขณะ เขาตัดชิ้นเนื้อนั่นมาได้อย่างไร?
นางเองก็พยายามทำเช่นเดียวกับฉู่เซวียน อย่างไรก็ตาม ด้วยความแข็งแกร่งของนาง การโจมตีของนางไม่สามารถทิ้งแม้แต่ร่องรอยไว้บนร่างของสิ่งมีชีวิตโกลาหล อีกฝ่ายไม่ได้สนใจนางเลยด้วยซ้ำ
“ข้าจะไปเตรียมเครื่องปรุงเดี๋ยวนี้!”
ซูเซียนเอ๋อร์รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
สิ่งมีชีวิตโกลาหลที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้น่าจะมีเนื้ออร่อยใช่หรือไม่?
ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งของเขา การกินเนื้อนี่จะทำให้แข็งแกร่งขึ้นด้วยหรือไม่?
ซูเซียนเอ๋อร์เตรียมเครื่องปรุง จากนั้นนางก็โยนเนื้อลงในหม้อขนาดใหญ่
หลังจากเติมเครื่องปรุงรสแล้ว นางใช้วิถีเต๋าแห่งไฟในการปรุงอาหาร
เครื่องปรุงที่นางใช้ล้วนแต่เป็นสมบัติชั้นยอด
หม้อต้มเป็นสมบัติระดับปฐมโกลาหลที่สุดแสนจะล้ำค่า
อย่างไรก็ตาม เนื้อของสิ่งมีชีวิตโกลาหลนี้มีความพิเศษมาก แม้จะใช้เครื่องมือเหล่านี้ก็ต้องใช้เวลานานในการปรุง
ยิ่งเคี่ยวนานก็ยิ่งมีรสชาติมากขึ้น
ที่พักขนาดเล็กดูเหมือนจะไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้าสิ่งมีชีวิตโกลาหล
จากนั้นสิ่งมีชีวิตโกลาหลก็หาวและล้มตัวนอนลงในความโกลาหล
ร่างใหญ่โตของเขาลอยอยู่ในความโกลาหล
จากนั้น บ้านหลังเล็กก็หายไปทันที
ช่วงเวลาต่อมา ที่พักก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของสิ่งมีชีวิตโกลาหล
ฉู่เซวียนตรวจสอบเต๋าสวรรค์หลังจากหนึ่งแสนปีผ่านไป กฎแห่งเต๋าสวรรค์ได้ครอบครองหนึ่งในเก้ากฎแห่งปฐมโกลาหล ตอนนี้มันกำลังรุกล้ำกฎแห่งปฐมโกลาหลอีกแปดข้อ
หากมีเวลาเพียงพอ กฎแห่งเต๋าสวรรค์จะเข้ามาแทนที่กฏแห่งปฐมโกลาหลอย่างสมบูรณ์
ฉู่เซวียนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเต๋าสวรรค์
ฉู่เซวียนตรวจสอบกลุ่มแชทมหาเต๋า
เป็นเวลานานแล้วที่เขาให้ความสนใจกับมัน
หงหยวนชิวและคนอื่น ๆ ยังคงอยู่ในกลุ่มแชท
หลังจากผ่านไปหลายปี ในที่สุด หงหยวนชิวก็มีเส้นทางเต๋ายาว 100,000 ลี้
ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตเต๋าในกลุ่มแชทได้บรรลุขอบเขตเต๋านิรมิตแล้ว
ม่อถูเองก็มีเส้นทางเต๋ายาวกว่าแสนลี้แล้ว
หลังจากที่มารพุทธะออกจากเต๋าสวรรค์ พระนะโมพุทธเจ้าและม่อถู่ก็กลายเป็นผู้นำของนิกายพุทธในเต๋าสวรรค์
พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อย ๆ
เผ่าพันธุ์ผีก็แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน
โหย่วเอ๋อร์และเถิงหลงต่างก็มีเส้นทางเต๋ายาว 100,000 ลี้แล้ว
วิถีมารเองก็เริ่มมีบทบาทในโลกศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน เผ่าพันธุ์มารได้กลายเป็นเพียงอดีตไปแล้ว วิถีมารนั้นเปิดกว้างสำหรับทุกคน
เผ่าพันธุ์มนุษย์ยังคงเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกศักดิ์สิทธิ์
พวกเขามีอัจฉริยะนับไม่ถ้วน
ฉู่เซวียนคิดอยู่ครู่หนึ่งและเปิดกลุ่มแชทใหม่โดยใช้วงแหวนต้นกำเนิดเต๋า
เขาถ่ายเทกลิ่นอายของติงเยว่ และศิษย์คนอื่น ๆ เข้าไปในกลุ่มแชท พวกเขาสามารถติดต่อกันผ่านทางกลุ่มแชทนี้
ฉู่อวิ๋นก็ถูกเพิ่มเข้าไปในกลุ่มแชทเช่นกัน
นอกจากศิษย์ทั้งเก้าของเขาแล้ว ยังมีอีกไม่กี่คนที่ถูกดึงเข้าไปในกลุ่มแชทนี้ด้วย
ฉินและเฟิงหยิ่งก็อยู่ในหมู่พวกเขา
จี๋, หงหยวนชิว, ม่อถู และเถิงหลง รวมถึงสิ่งมีชีวิตขอบเขตเต๋านิรมิตอีกสองสามคนก็ถูกดึงเข้ากลุ่มแชทด้วยเช่นกัน
คนเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นผู้ติดตามของเขา
ฉู่เซวียนพูดถึงจุดประสงค์ของกลุ่มแชทนี้และไม่สนใจมันอีกต่อไป
มือสังหารจักรพรรดิมีความกระตือรือร้นผิดปกติและเริ่มแสดงความแข็งแกร่งของเขา
เขาแสดงตัวว่าเขาจะกลับไปยังโลกศักดิ์สิทธิ์เพื่อเอาชนะหงหยวนชิว
ในที่สุดเขาก็ก้าวข้ามหงหยวนชิว ทำให้เขาหยิ่งทะนงมากยิ่งขึ้น
ใบหน้าของหงหยวนชิวมืดมนลง อย่างไรก็ตาม เขาทำอะไรไม่ถูก
มือสังหารจักรพรรดิคนนี้ตามเขาทันแล้วจริง ๆ
เขาถอนหายใจและตัดสินใจออกไปสู่ความโกลาหล
กลุ่มแชทเริ่มครึกครื้น
พวกเขาทั้งหมดกำลังพูดถึงประสบการณ์ของตนเองในความโกลาหล
“ข้าไม่มีสหายแม้แต่คนเดียว” ฉู่เอ๋อร์พูดด้วยสีหน้าขมขื่น
ทั้งกลุ่มเงียบไปครู่หนึ่ง
ติงเยว่และคนอื่น ๆ ต่างก็เคยได้ยินเกี่ยวกับความสำเร็จของฉู่เอ๋อร์
มันช่างน่าสะพรึงกลัวจริง ๆ
“ศิษย์น้อง ผู้ที่แข็งแกร่งต่างก็โดดเดี่ยวกันทั้งนั้น เจ้ายังมีพวกเราอยู่” ติงเยว่ปลอบใจเขา