ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 701 ทิ้งไว้ก็เสียเปล่า(ฟรี)
เจ้าปกครองแห่งจักรวรรดิฉีเย่ เพิ่งจะสำเร็จการฝึกฝนได้ไม่นนานต้องรีบออกมาดูดินแดนของเขาที่กำลังล้มสลาย
เขานั้นพยายามทำให้ชิงฮวงนั้นประทับใจและให้พื้นที่เพาะเลี้ยงปีศาจเอาไว้ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
ร่างเงาของซู่เสี่ยวไปสร้างความพินาศไปทั่ว ที่ใดที่มันเห็นทหารยาม หรือผู้พิทักษ์มันจะพุ่งเข้าใส่ทันที และกวาดล้างทุกอย่าง แต่เพราะแบบนี้ทำให้สิ่งมีชีวิตปีศาจพวกนั้นได้ถูกปลดปล่อยด้วย
เมื่อจ้าวปกครองแห่งฉีเย่เห็นว่าปีศาจกำลังหลบหนีออกไป มันก็ทำให้เขาปวดใจอย่างมาก แต่ก็ไม่สามารถหยุดอะไรได้อีกแล้ว
“เรียกกำลังเสริมมาเร็ว และสังหารผู้บุกรุกให้หมด!”
จ้าวปกครองฉีเย่นั้นเรียกกำลังรบของตัวเองออกมา ประกอบไปด้วยจ้าวภัยพิบัติระดับสูงจำนวนมาก เข้าโจมตีร่างเงาทันที
แต่เมื่อเงาถูกทำลายมันก็ไปปรากฏตัวขึ้นใหม่อีกที่หนึ่ง และเริ่มทำลายล้างทุกอย่างอีกครั้ง
มีผู้พิทักษ์บางคนต้องเผชิญหน้ากับการถูกระเบิดพลีชีพจากร่างเงาไม่หยุด
ตูม!! ตูม!! ตูม!!
ดอกไม้ไฟจำนวนมากผุดขึ้น บนท้องฟ้าสร้างคลื่นอัดกระแทกไปทั่วดินแดน แรงระเบิดของเขตแดนภัยพิบัติขั้น 10 นั้น คือพาุยุทำลายล้างที่กลืนกินทุกอย่าง ท้องฟ้าได้กลายเป็นเปลวเพลิงร่างของผู้พิทักษ์มากมายสลายกลายเป็นฝุยผง
ซู่เสี่ยวไป่มองดูทุกอย่างจากอีกฝั่งหนึ่ง และเห็นว่ามีสิ่งมีชีวิตที่ถูกเลี้ยงไว้เป็นเชื้อเพลิงมากมายเต็มไปหมด และไม่มีใครดูแลสนใจพวกมันเลย
“พวกมันล้วนเป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ได้ และพวกมันก็ได้สูญเสียความคิดของตัวเองไปหมดแล้ว ทิ้งเอาไว้ก็เสียเปล่า”
ซู่เสี่ยวไป่ต้องดูดกลืนพวกมัน แม้ว่าจะต้องการดูดกลืนจ้าวภัยพิบัติมากกว่าก็ตาม
ร่างเงาใช้ความสามารถหมุนเวียนในคลิกเดียวกับทุกสิ่ง และดูดกลืนพวกมันเข้ามาทั้งหมด
“-ติ๊ง!! หมุนเวียนสำเร็จ ได้รับวิชาระดับภัยพิบัติ 171 วิชา-”
“-ติ๊ง! หมุนเวียนสำเร็จได้รับวิชาระดับภัยพิบัติ 212 วิชา-”
ระบบเริ่มทำงานของมันและดูดซับทุกอย่าง และมันได้เปลี่ยนพื้นฐานของพลังซู่เสี่ยวไป่อย่างชัดเจน จนเขารู้สึกได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
มันเป็นก้าวใหม่ก่อนที่พลังของเขาจะพุ่งทะยานสู่เขตแดนปฐมตำนาน
แม้ว่าจะผ่านการเพิ่มพลังอย่างต่อเนื่องแต่พลังของซู่เสี่ยวไป่ในปัจจุบันนั้น เหนือกว่าจ้าวภัยพิบัติทั้งหมดแล้ว แม้แต่เงาหลักของเขาก็ทรงพลังเท่ากับจ้าวภัยพิบัติขั้น 10
ต้องรู้ว่าตัวตนระดับที่เหนือจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 นั้นถือเป็นกำลังหลักของจักวรรดิ หรือแม้แต่จ้าวภัยพิบัติขั้น 10 เองก็มีเพียงน้อยนิด
หากเทียบกับกำลังของซู่เสี่ยวไป่แล้วที่มีจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 นับล้านก็ยากที่จะหาใครมาทัดเทียมได้
แล้วจักรวรรดิฉีเย่นั้นเป็นแค่พื้นที่เพาะเลี้ยงของชิงฮวงเท่านั้นไม่ได้มีผู้แข็งแกร่งอยู่มาก มีแค่ผู้พิทักษ์คอยดูแลความสงบให้กับเผ่าที่เป็นเชื้อเพลิงเท่านั้น
เพราะแบบนั้นทำให้ไม่มีกองกำลังของจักรวรรดิฉีเย่ต้านทานการบุกได้ ทำให้จ้าวปกครองฉีเย่มองดูด้วยสายตาที่ว่างเปล่า และมองดูแหล่งเพาะเลี้ยงที่สร้างพังไปกับตา
“เร็ว!! หยุดมันเอาไว้ อย่าให้เผ่าปีศาจพวกนี้หนีไปได้”
“ไม่ต้องกังวลเรื่องการบุกโจมตีอีกแล้ว รักษาพวกปีศาจเอาไว้และจับให้ได้มากที่สุด”
“ไม่งั้นท่านผู้ยิ่งใหญ่คงไม่ให้อภัยให้พวกเราแน่!”
เมื่อเห็นว่าไม่สามารถหยุดการบุกรุกของเงาได้ เขาได้เปลี่ยนคำสั่งทันที ให้เก็บและรักษาเผ่าปีศาจเอาไว้ ตอนนี้ชีวิตพวกมันมีค่าอย่างมาก เพราะเวลานี้เกือบครึ่งถูกซู่เสี่ยวไป่ดูดกลืนไปเกือบหมด
ซู่เสี่ยวไป่ดูดกลืนสิ่งมีชีวิตที่เป็นเชื้อเพลิงไปจำนวนมาก และพลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนยากที่จะหยุดอีกต่อไป
จ้าวภัยพิบัติมากมายต่างท้อแท้ในการทำลายร่างเงาพวกนี้ ทุกครั้งที่ทำลายมันลงมันก็จะฟื้นกลับขึ้นมาใหม่ และจะระเบิดตัวเองอย่างไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้น
ตูม!!
เมื่อเงาถูกทำลายมันได้ฟื้นกลับขึ้นมา และกลายเป็นระเบิดอีกครั้ง พลังทำลายล้างนั้นไม่มีใครต้านทานได้
“ข้าคงปล่อยให้แกทำตามใจชอบแบบนี้ต่อไปไม่ได้!”
จ้าวปกครองฉีเย่นั้นลงมือทันทีเท่าที่เขาจะพอทำได้ เขาปิดผนึกทั้งพื้นที่ของจักรวรรดิกินอาณาเขตเป็นพันล้านกิโลเมตร และโซ่นับหมื่นสายก็ตกลงมาจากท้องฟ้า และมัดร่างเงาทั้งหมดเอาไว้
พลังในการปิดผนึกนี้อาจทำให้ผู้ฝึกตนไร้หนทางขัดขืน และกลายเป็นลูกแกะในกำมือของผู้ใช้ผนึก
แต่เมื่อมันถูกใช้กับเงาของซู่เสี่ยวไป่ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไปเป็นคนละอย่างกับทีจ้าวปกครองคิด
เงาที่ถูกปิดกั้นพื้นที่และพันธนาการด้วยโซ่วิญญาณได้สลายหายไปเป็นของเหลวและไหลไปรวมกันที่จุดหนึ่งโดยไม่สนใจสิ่งที่จ้าวปกครองฉีเย่ทำเลยแม้แต่น้อย มันยังพุ่งออกไปไล่ฆ่าและดูดกลืนทุกอย่าง
จ้าวปกครองฉีเย่ก็ยังไม่ยอมแพ้ และพยายามที่จะไล่จับร่างเงาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาต้องการจะทุบร่างเงาทั้งหมดทิ้งไปพร้อมกับดินแดนแห่งนี้เลย
ซู่เสี่ยวไป่รับรู้ถึงแรงกดดันจากเขตแดนปฐมตำนาน เขาจึงไม่มีทางเลือกต้องลงมือให้จริงจังขึ้น และเว้นระยะห่างเอาไว้
เขาได้สร้างเงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์ขึ้น พร้อมกับอาวุธสะเทือนดินแดนจำนวนมาก
คราวนี้เป้าหมายของซู่เสี่ยวไป่ไม่ใช่ผู้พิทักษ์อีกแล้ว แต่เป็นจ้าวปกครองฉีเย่!
ขุมกำลังทั้งหมดพยายามรวมพลังกันต่อต้านและโจมตีเงายักษ์ศักดิ์สิทธ์ ซึ่งปล่อยพลังต่างจากก่อนหน้านี้ออกมา
“เจ้าพวกนี้คงฝึกฝนแบบเดียวกับชิงฮวงมาเหมือนกัน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการ”
เริ่มมีกลิ่นไอเหมือนพวกปีศาจออกมาจากตัวของทุกคน ทำให้เขาเข้าใจได้ทันทีว่าคนเหล่านี้ก็ดูดกลืนปีศาจพวกนี้ด้วย
เขาได้ขอกำลังเสริมจากเฉี่ยวเห้อกับซื่อหลงให้มาช่วยเขา
ตอนนั้นเองที่ร่างของมังกรยักษ์ปรากฏตัวออกมาจากท้องฟ้าทำให้ทุกอย่างปั่นป่วนไปหมด
พายุเปลวเพลิงแผดเผาไปทุกทิศ ท้องฟ้าร้องราวกับเป็นวันโลกาพินาศ จ้าวภัยพิบัติมากมายต้องร้องอย่างทุกข์ทรมานจากพลังของสองมังกรโบราณ
อย่างไรก็ตามหากต้นกำเนิดพลังของพวกมันมาจากปีศาจโบราณ พลังของสองมังกรโบราณเองก็อยู่ในประเภทเดียวกัน มันง่ายต่อการที่จะหักล้าง และทำลายตัวตนพวกนี้จากภายใน
“นี้มันมนต์ดำอะไรกัน! ข้าไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว!”
กองกำลังของจักวรรดิฉีเย่นั้นได้แต่หวาดกลัวกับสิ่งที่เห็น จนไม่กล้าสู้อีกต่อไปและหนีกระจัดกระจายไปทั่ว
ซู่เสี่ยวไป่ใช้ช่วงเวลาอันน้อยนิดในการดูดกลืนปีศาจที่เป็นเชื้อเพลิงทั้งหมด และได้รับวิชาจำนวนมาก ในเวลาเดียวกันผลึกต้นกำเนิดก็ไหลเข้ามาในมิติเก็บของไม่หยุด
เดิมทีการมาครั้งนี้ของเขาคิดว่าจะได้เพียงข้อมูลเท่านั้นไม่คิดว่าจะได้สิ่งตอบแทนเยอะขนาดนี้
ทั้งได้พบความลับอันยิ่งใหญ่ และยังทำลายรากฐานพลังของศัตรูไปพร้อมกัน ทำให้ซู่เสี่ยวไป่รู้สึกดีเป็นอย่างมากที่ยึดฐานพลังมาจากชิงฮวงมาเป็นของตัวเองได้