บทที่ 77 - กองทัพโบว์แดงที่น่าสังเวช
ได้โปรดมาติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 77 - กองทัพโบว์แดงที่น่าสังเวช
"หือ?"
ไทต์สูดหายใจเข้าลึกๆ และสังเกตเห็นสายตาของผู้อื่นหลายคน
นางแลบลิ้นออกมาด้วยความอายและวางนิ้วไว้ระหว่างคิ้ว
ครู่ต่อมา ผู้คนที่อยู่รอบๆ ตัวนางก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าไทต์ได้ได้หายไปอีกครั้ง
เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นเดิมปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทุกคนก็มั่นใจแล้วว่าไม่ได้ตาฝาด
ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องก็ได้ดังขึ้นมา
ในขณะที่ไทต์ก่อให้เกิดความวุ่นวายเล็กๆ อีกด้านหนึ่งในชั้นบนสุดของอาคารใกล้เคียง
หลังจากอยู่ห่างจากโลกเป็นเวลาหลายเดือน ไทต์ก็ได้กลับมาหลังจากได้เรียนรู้เคลื่อนย้ายพริบตาจากชาวยาร์ตรัต
การไม่ได้พบครอบครัวของนางเป็นเวลานานทำให้นางรู้สึกคิดถึงพ่อแม่ของนางไม่น้อย ดังนั้นนางจึงเริ่มสัมผัสหาตำแหน่งครอบครัวนางทันที
“อืม…บูลมาและคนอื่นๆ อยู่ที่บ้านกันหมดเลยเหรอ? แปลกจัง พลังแบบนี้ บูลม่ากำลังต่อสู้อยู่หรือเปล่า?”
เมื่อรู้สึกว่าออร่าของบูลม่ากำลังแปรปรวนเล็กน้อย ไทต์ก็ขมวดคิ้วด้วยความสับสน
ทันใดนั้น เสียงระเบิดได้ดังขึ้นในระยะไกลจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงกรีดร้องและเสียงปืนนับไม่ถ้วน
"เกิดอะไรขึ้น?"
ไทต์ขมวดคิ้วและเคลื่อนย้ายทันที
เมื่อนางปรากฏตัวอีกครั้ง นางก็ปรากฏตัวในบ้านที่คุ้นเคยแล้ว
จากที่นางมองเห็น เหมือนว่ากำลังเกิดการต่อสู้กันอยู่
ดร.บรีฟและภรรยาของเขาซ่อนตัวอยู่หลังโต๊ะ ในขณะที่บูลม่าน้องสาวของไทต์กำลังต่อสู้กับทหารหญิงผมสีม่วง
ไทต์กำลังจะช่วยนาง แต่ก็พบว่าบูลม่าและทหารหญิงกำลังต่อสู้กันไปมา ดูเหมือนว่านางคงไม่ต้องการความช่วยเหลือ
ดังนั้นนางจึงเข้าไปทักทายพ่อแม่ของนางก่อน: “พ่อแม่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”
"อา? ไทต์? เจ้ากลับมาแล้วหรือ?"
“ไทต์ลูกรัก ไหนขอแม่ดูเจ้าหน่อย”
เมื่อพวกเขาเห็นลูกสาวคนโตของพวกเขา ดร.บรีฟและภรรยาของเขาก็ลืมความกลัวของพวกเขาและเดินเข้าไปหาลูกสาวของพวกเขาพร้อมกับทักทายนาง
แม้แต่บูลม่าก็อดไม่ได้ที่จะหันศีรษะมาและอุทาน “พี่สาว!”
"ได้โอกาสแล้ว!" เมื่อเห็นแบบนี้ ทหารหญิงก็ต้องการลอบโจมตีบูลม่าทันที แต่ไทต์ก็ยื่นฝ่ามือออกไปและปล่อยพลังเข้าใส่นาง
ราวกับโดนรถที่มองไม่เห็ นทหารหญิงถูกส่งบินถอยหลังและกระแทกเข้ากับกำแพงก่อนที่จะเป็นลมไป
“พี่สาวมีศัตรูอยู่ข้างนอกอีก!”
เมื่อได้ยินเสียงร้องของบูลม่า ไทต์ก็เดินออกมาและแน่นอนว่านอกบ้านของดร.บรีฟ มีกองทัพที่มีสัญลักษณ์แปลกๆ กำลังปะทะกันกับกองกำลังของเมืองตะวันตก
ดูเหมือนว่ากองกำลังรักษาความปลอดภัยจะพยายามเข้าไปช่วยดร.บรีฟ แต่ก็ถูกขัดโดยกองกำลังอีกฝ่ายที่อยู่ข้างนอก
“เฮ้ พวกเจ้าทั้งหมดน่ะ นี่คือบ้านของข้านะ!”
ไทต์ตะโกนและวิ่งไปล้มเหล่าทหารด้วยหมัดและเท้า
รถถังพยายามเล็งปากกระบอกปืนไปที่ไทต์ แต่ก่อนที่มันจะยิงได้ มันถูกไทต์ระเบิดเป็นชิ้นๆ ด้วยคลื่นพลังงาน
เมื่อเห็นความโกลาหลในอีกด้านหนึ่ง กองกำลังรักษาความปลอดภัยก็ต้องการใช้โอกาสนี้ในการโต้กลับ แต่เมื่อพวกเขาเห็นรถถังถูกระเบิดโดยเด็กสาว ทุกคนก็ได้แต่ยืนนิ่งตะลึงค้างไป
เมื่อนางปรบมือเป็นอันเรียบร้อย ไทต์ก็กลับเข้าไปในบ้าน
"พ่อ เกิดอะไรขึ้นหรือ? กองทัพพวกนั้นมาจากไหนกัน?”
“เจ้าจัดการพวกเขาทั้งหมดเลยหรือ? ไทต์ พ่อไม่ได้เจอเจ้ามาแค่สองสามเดือน ไหงเจ้าถึงกลายเป็นเด็กไม่ดีแบบนี้…” ดร.บรีฟรู้สึกประหลาดใจมาก
“เงียบเลย! เมื่อครู่เป็นข้าที่ช่วยพ่อกับแม่ไม่ใช่เหรอ?”
จากนั้นบูลม่าก็เป็นคนอธิบายให้พี่สาวของนางฟังว่าเกิดอะไรขึ้น
ปรากฎว่ากองทัพแปลกๆ นั้นคือกองทัพโบว์แดงที่ชั่วร้าย ซึ่งปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันดีในโลกใบนี้!
กองทัพโบว์แดงมีอุปกรณ์ไฮเทคและทรัพยากรทางการเงินมากมาย รวมถึงกลุ่มทหารที่โหดเหี้ยม ดังนั้นกองทัพปกติจึงกลัวพวกเขามาก
เมื่อเร็วๆ นี้กองทัพโบว์แดงกำลังจับตาดูดร.บรีฟกับบริษัทแคปซูลของเขา
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากความร่วมมือกับชาวไซ จึงทำให้นอกจากแคปซูลพกพา สินค้าบริษัทแคปซูลของดร.บรีฟจะโด่งดังไปไกลแล้ว พวกเขายังเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องโดยใช้เทคโนโลยีจากดาวเคราะห์ต่างดาว
เช่นอัลลอยด์ที่มีความแข็งแรงสูง เครื่องยนต์ต้านแรงโน้มถ่วงใหม่และอื่นๆ มากมาย
เทคโนโลยีใหม่เหล่านี้ได้ดึงดูดความสนใจของกองทัพโบว์แดงต่อบริษัทแคปซูล ซึ่งทำให้พวกเขาตามตื้อดร.บรีฟซ้ำแล้วซ้ำเล่า
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอของกองทัพโบว์แดงได้ถูกปฏิเสธโดยดร.บรีฟอย่างไม่ลังเล
สิ่งที่ตามมาคือการโจมตีในวันนี้
กองทัพโบว์แดงจัดตั้งหน่วยพิเศษภายใต้การบังคับบัญชาของพันเอกไวโอเล็ต เพื่อที่จะลักพาตัวครอบครัวของดร.บรีฟ แต่ก็ถูกขัดขวางโดยบูลม่า
เมื่อได้ยินข่าว กองกำลังรักษาความปลอดภัยของเมืองตะวันตกก็รีบวิ่งออกไปช่วยเหลือและต่อสู้กับกองทัพริบบิ้นแดงข้างนอกอย่างดุเดือด
แต่ถ้าไทต์ยังไม่มาถึงในวันนี้ ก็ยากที่จะบอกได้ว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นเช่นไร
เพราะกองทัพโบว์แดงมียอดฝีมือมากมาย แม้ว่าบูลม่าจะเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้จากผู้เฒ่าเต่าเป็นเวลาสองสามปีนับตั้งแต่หลินเฉินและไทต์แต่งงานกัน ทว่าบูลม่าก็หมดความสนใจในศิลปะการต่อสู้แล้ว ทำให้ระดับของนางค่อยๆ ลดลง
“เจ้าพวกบ้ากองทัพโบว์แดง! พวกมันกล้ารังแกครอบครัวของเรางั้นเหรอ! ท่านแม่ ท่านพ่อ รออยู่ที่บ้านนะคะ ข้าจะไปทำลายกองทัพโบว์แดงเอง!” ไทต์พูดขณะกำหมัดแน่น
"เอ่อ?"
“ไทต์ อย่าหุนหันพลันแล่นไปสิ!”
“ใช่ พี่สาว ถึงพี่จะดูเหมือนแข็งแกร่งขึ้น แต่กองทัพมากมายก็ไม่สามารถจัดการกับพวกเขาได้เลยนะ!”
เมื่อได้ยินสิ่งที่นางพูด บูลม่าและพ่อแม่ก็พยายามขัดขวางนางทันที
“ถ้าข้าไม่จัดการพวกมัน เจ้าอยากอยู่อย่างหวาดกลัวทุกวันที่จะถูกลักพาตัวไหมบูลม่า?”
“ม-ไม่ …” บูลม่าพูดออกมาด้วยสายตาว่างเปล่า
ดร.บรีฟพลันพูดขึ้นมา “เป็นไปได้ว่าต่อจากนี้กองทัพโบว์แดงคงจะใช้กำลังบังคับขั้นรุนแรงแล้ว…”
“พี่สาว! ถ้าอย่างนั้นก็จัดการกองทัพโบว์แดงเลย!” บูลม่าตะโกนออกมาทันที
“อืมก็ ได้”
ไทต์พยักหน้า จากนั้นก็เดินไปหาผู้พันไวโอเล็ตที่ยังไม่ฟื้นคืนสติ
“นี่! อย่ามาแกล้งตาย! บอกมาว่ากองบัญชาการของกองทัพโบว์แดงอยู่ที่ไหน!”
ไวโอเล็ตเงยหน้าขึ้นและเยาะเย้ยไทต์: “หยุดฝันได้แล้ว ข้าจะไม่ทรยศต่อองค์กรหรอก…”
ไทต์ไม่ได้พูดอะไรมาก แต่ยิงคลื่นพลังงานออกไปโดยตรง จนระเบิดผ่านกำแพงรอบๆ ไวโอเล็ต
เมื่อเห็นหลุมที่ใหญ่กว่าร่างกายของนาง ไวโอเล็ตก็สั่นสะท้านและพูดว่า “ข้าจะพูดแล้ว! ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย ข้ารู้ว่าข้าผิดไปแล้ว!”
……
ณ กองบัญชาการของกองทัพโบว์แดง
กองทัพโบว์แดง ซึ่งเคยมีผู้บัญชาการมากมายและทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนหวาดกลัวกลับได้รับข่าวร้ายมากในวันนี้
ประการแรก ทีมค้นหาของผู้พันซิลเวอร์ได้พ่ายแพ้และลูกแก้วมังกรก็ถูกปล้น
จากนั้นไม่นาน หอคอยมัซเซิ่ลทางตอนเหนือก็ถูกยึดไปอีก
เมื่อได้ภาพถ่ายของศัตรูที่จัดการคนทั้งหอคอยมัซเซิ่ลมา ผู้บัญชาการเรดก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก: “แค่เด็กน้อยเหรอ? กองทัพโบว์แดงที่น่าภาคภูมิใจของเราแพ้เด็กน้อยเนี่ยนะ?”
“ไม่น่าเชื่อ …” รองผู้บัญชาการแบล็ค ผู้ช่วยของผู้บัญชาการเรดก็แปลกใจเช่นกัน
แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้พูดคุยกันต่อ อีกข่าวร้ายก็มาถึง
ผู้พันไวโอเล็ตที่ไปลักพาตัวดร.บรีฟก็พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงเช่นกัน!