บทที่ 41 เส้นทางการฝึกฝนธาตุสายฟ้าของอสูรกินเหล็ก
“โอ้ ในที่สุดอันดับหนึ่งในการจัดอันดับก็มีการเปลี่ยนแปลง”
ในห้องตรวจสอบหลัก นักฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพทั้งห้าคนก็กำลังเพลิดเพลินกับเครื่องปรับอากาศและเริ่มแสดงความคิดเห็นต่อการจัดอันดับ
พวกเขาไม่ได้รับผิดชอบงานรักษาความปลอดภัยโดยตรง กล่าวตามตรง บุคลากรของบริษัทรักษาความปลอดภัยยังคงมีหน้าที่ช่วยเหลือผู้เข้าร่วม
“ข้าคิดว่าพวกเขาล่ามหูป่าหนามยาวห้าตัว ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นการผสมผสานระหว่างนักฝึกสัตว์อสูรและสัตว์อสูรที่ค่อนข้างทรงพลงั”
พวกเขาประเมินเพียงเล็กน้อย จากนั้นก็เปลี่ยนหัวข้อการสนทนา พวกเขาไม่ได้ให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงนี้มากนัก ท้ายที่สุด เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น และมันยังเหลือเวลาอีกนานก่อนที่การประเมินจะสิ้นสุดลง
…
นักฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพคือนักฝึกสัตว์อสูรที่ฝึกสัตว์อสูรระดับเหนือธรรมชาติอย่างไม่ต้องสงสัย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ยังไม่ผ่านการประเมินมืออาชีพอาจไม่จำเป็นต้องมีพลังต่อสู้ระดับเหนือธรรมชาติ
มิติฝึกสัตว์อสูรของนักฝึกสัตว์อสูร เมื่อถึงระดับสองก็จะส่งผลให้กำแพงคริสตัลจิตวิญญาณเปลี่ยนจากไร้สีเป็นสีเทา ระดับการเติบโตของสัตว์อสูรที่รองรับได้ก็จะเพิ่มเป็นระดับเหนือธรรมชาติ นี่เป็นเงื่อนไขพื้นฐานสำหรับการเข้าร่วมในการประเมินมืออาชีพ
และนักฝึกสัตว์อสูรก็เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นสูงที่ถูกคัดเลือกจากนักฝึกสัตว์อสูรนับพันคนที่เติมเต็มเงื่อนไขนี้ได้ พวกเขาต้องมีความรู้ทางทฤษฏี ทักษะการเอาชีวิตรอดในป่า และความสามารถในการต่อสู้ พวกเขาต้องโดดเด่นในทุกด้าน
ดังนั้นนักฝึกสัตว์อสูรเหล่านี้ที่มีคุณสมบัติในการเข้าร่วมการประเมินมืออาชีพ แต่ไม่ผ่านก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาแข็งแกร่งเท่ากับนักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดเท่านั้น ดังนั้นชื่อนักฝึกสัตว์อสูรกึ่งมืออาชีพจึงเหมาะสมกับผู้ที่มีคุณสมบัติในการเข้าร่วม
ตัวอย่างเช่น เอี้ยนฉี หนึ่งในเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในครั้งนี้นั้นเป็นนักฝึกสัตว์อสูรกึ่งมืออาชีพ ระดับของเขาเพียงพอ และระดับสัตว์อสูรของเขาก็เพียงพอเช่นกัน แต่เขาเพียงแค่ไม่ผ่านการประเมินมืออาชีพและไม่สามารถเอาชนะคนอื่นได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่ได้รับใบรับรอง
เอี้ยนฉีเป็นชาวเมืองผิงเฉิง สัตว์อสูรตัวแรกของเขาก็คืออสูรกินเหล็ก เขาได้เข้าสู่ฐานเพาะพันธุ์ของอสูรกินเหล็ก ศูนย์ฝึกศิลาไผ่เพื่อเรียนรู้ ดังนั้นเขาจึงเข้าใจในอสูรกินเหล็กค่อนข้างดี
นับตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาเห็นการแสดงของอสูรกินเหล็กของซืออวี๋ผ่านหน้าจอตรวจสอบ เขาก็ตระหนักกได้ว่าซืออวี๋และอีเลฟเว่นนั้นไม่ธรรมดา
หลังจากอยู่ในสำนักงานใหญ่ศูนย์ฝึกศิลาไผ่ที่มุ่งเน้นการเลี้ยงอสูรกินเหล็กมาเป็นเวลานาน เขาก็ไม่เคยเห็นอสูรกินเหล็กที่เชี่ยวชาญการเคลือบแข็งขั้นชำนาญในตอนที่มันยังคงเป็นลูกสัตว์อสูรมาก่อนเลย นี่เป็นเรื่องไร้สาระมาก
ท้ายที่สุด อสูรกินเหล็กของเขาก็อยู่ระดับเหนือธรรมชาติแล้ว มันยังได้ถูกบ่มเพาะเป็นเวลาห้าถึงหกปี… ความเชี่ยวชาญในการเคลือบแข็งในปัจจุบันก็ถึงแค่ขั้นชำนาญเท่านั้น
กล่าวโดยย่อ ซืออวี๋นั้นไม่ธรรมดาเลย เมื่อเขาเปลี่ยนเวรเพื่อพักผ่อน เขาก็ใช้โทรศัพท์โทรหาศูนย์ฝึกศิลาไผ่และพบจ้าวโถงหลินผู้ที่เป็นเจ้าของศูนย์ฝึก
“ท่านอาจารย์หลิน ท่านจำข้าได้ไหม? ข้าคือฉีน้อย เอี้ยนฉีที่มีชื่อเล่นว่าหมีน้อย”
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์กล่าวว่า “หมีน้อยเอี้ยนฉีที่เข้าร่วมการประเมินมืออาชีพสองปีไม่ผ่าน และไปทำงานที่บริษัทรักษาความปลอดภัยเหรอ?”
มันเจ็บปวดมาก
เอี้ยนฉียิ้มอย่างขมขื่น “ขอโทษ ข้าทำให้ศูนย์ฝึกศิลาไผ่ของเราต้องอับอาย…”
“ท่านอาจารย์หลิน ในตอนนี้ข้ารับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยในฐานฝึกฝนของภูเขาเทียนหมัง ข้าพบกับนักฝึกสัตว์อสูรที่น่าสนใจมาก”
“อสูรกินเหล็กของเขามีอายุเพียงสองปีเท่านั้น แต่มันก็เชี่ยวชาญการเคลือบแข็งขั้นชำนาญแล้ว นี่ไร้สาระอย่างแท้จริง คนผู้นี้ไม่ใช่ศิษย์ใหม่ของศูนย์ฝึกศิลาไผ่หรอกเหรอ?”
“ข้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเขามาก่อน ดังนั้นข้าจึงมาถามท่านอาจารย์ แต่ไม่ว่ายังไง ชื่อของเขาก็คือซืออวี๋”
ภายในศูนย์ฝึกศิลาไผ่…
ในห้องอันหรูหราซึ่งมีทั้งภูเขาและแม่น้ำ ชายวัยกลางคนที่มีท่าทางเข้มงวดได้เงียบลง
อสูรกินเหล็กอายุสองปี การเคลือบแข็งขั้นชำนาญ?
เอี้ยนฉีผู้นี้แน่ใจเหรอว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น? นี่เป็นไปได้ยังไงกัน?
อาจกล่าวได้ว่าอสูรกินเหล็กทุกตัวในเมืองทุ่งน้ำแข็งนั้นมาจากฐานเพาะพันธุ์ไผ่เหล็ก หากมีอสูรกินเหล็กที่มีพรสวรรค์ดังกล่าวก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้
“เจ้าบอกว่าเขาชื่ออะไรนะ?”
“ซืออวี๋ เขาชื่อซืออวี๋”
ซืออวี๋!
“นั่นเขาเหรอ?” หลินฮงเหนียนจำได้ว่าเมื่อไม่กี่วันก่อน ดอกเตอร์หลู่จากมหาวิทยาลัยเมืองหลวงดบราณได้มาหาเขาที่ศูนย์ฝึกศิลาไผ่
อีกฝ่ายดูเหมือนจะกล่าวว่านางได้มอบหมายให้เขาช่วยดูแลญาติห่างๆ… ญาติผู้นั่นชื่อว่าซืออวี๋ใช่ไหม?
เนื่องจากสัตว์อสูรตัวแรกของซืออวี๋คืออสูรกินเหล็ก นางจึงมาหาเขา
ยิ่งกว่านั้น นางยังมอบทรัพยากรระดับสูงที่ได้รับจากซากปรักหักพังเป็นรางวัลอีกด้วย
สำหรับซืออวี๋ผู้นี้แล้ว หลินฮงเหนียนยังได้ตรวจสอบสถานการณ์ของสัตวอสูรในฐานเพาะพันธุ์ไผ่เหล็ก ผลลัพธ์ของการตรวจสอบก็คือ… ข้อมูลของซืออวี๋นั้นธรรมดามาก สัตว์อสูรถูกซื้อด้วยเงินกู้ เขาเป็นชาวเมืองในเขตผิงเฉิง เขาไม่รู้ว่าซืออวี๋เกี่ยวข้องกับหลู่ชิงอี้ผู้ที่ถือได้ว่าเป็นบุตรีแห่งสวรรค์ในประเทศได้ยังไงกัน
อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถขัดความต้องการของดอกเตอร์หลู่ได้ ไม่ต้องกล่าวถึงว่าอีกฝ่ายยังได้มอบรางวัลอันล้ำค่าให้แก่เขาเช่นกัน
“ซืออวี๋ผู้นี้ อสูรกินเหล็กที่เขาได้รับมานั้นมีอายุเพียงแค่หนึ่งปีเท่านั้น ยิ่งกว่านั้น เวลาที่เขาได้รับอสูรกินเหล็กนั้นไม่เกินหนึ่งเดือนใช่ไหม?”
“การเคลือบแข็งขั้นชำนาญเหรอ?” หลินฮงเหนียนค้นพบจุดบอดและสีหน้าของเขาก็กลายเป็นจริงจัง
“ดอกเตอร์หลู่ช่วยเขาเลี้ยงมันโดยการใช้วิธีพิเศษเหรอ?”
มิฉะนั้น หลินฮงเหนียนคงจินตนาการไม่ออกเลยว่านักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดจะสามารถบ่มเพาะทักษะเผ่าพันธุ์ของลูกอสูรกินเหล็กจนถึงขั้นชำนาญได้ในระยะเวลาอันสั้นดังกล่าวได้ยังไงกัน…
บางทีหลู่ชิงอี้อาจมอบทรัพยากรบ่มเพาะที่หายากบางอย่างให้แก่ซืออวี๋
“ท่านอาจารย์หลิน ท่านอาจารย์หลิน…” เมื่อตระหนักว่าไม่มีเสียงตอบรับเป็นเวลานาน เอี้ยนฉีก็กล่าวอีกครั้ง
“เอี้ยนฉี เจ้าหมายความว่าซืออวี๋กำลังฝึกฝนที่ภูเขาเทียนหมังใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว”
“ข้าเข้าใจแล้ว”
“ถ้าเช่นนั้นเขาก็เป็นศิษย์ใหม่ของศูนย์ฝึกศิลาไผ่ของเราจริง…”
หลินฮงเหนียนกล่าวว่า “ยังไม่ใช่ แต่อาจจะภายหลัง แต่ไม่ว่ายังไง เนื่องจากการเคลือบแข็งของอสูรกินเหล็กของเขาถึงขั้นชำนาญและเขาก็บังเอิญอยู่ที่ภูเขาเทียนหมังกับเจ้าที่นั่น… นำทางเขาไปยังพื้นที่ภูเขาแม่เหล็กไฟฟ้า ให้เขาฝึกฝนที่นั่นเป็นหลัก นั่นคือการปูพื้นฐานให้แก่เขาได้เรียนรู้ทักษะของศูนย์ฝึกล่วงหน้า”
“หือ?” เอี้ยนฉีตามไม่ทัน
บัดซ* เกิดอะไรขึ้นกัน? เขายังไม่ได้เข้าศูนย์ฝึกด้วยซ้ำ และเขาก็ได้รับการสอนทักษะเฉพาะของศูนย์ฝึกแล้วเหรอ? เอี้ยนฉีอิจฉาอย่างมาก…
…
ที่พื้นที่ปลอดภัย
ซืออวี๋กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเสร็จและกินไส้กรอกแฮมสองชิ้น หลังจากนั้นเขาก็แทบจะไม่หิวเลย
หลังจากพักผ่อนอีกสักพัก เขาก็จะตรงไปยังพื้นที่ภูเขาแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อค้นหาสไลม์ไฟฟ้า
สำหรับหมูป่าหนามยาวห้าตัว เขาไม่จำเป็นต้องลากพวกมันอีกต่อไป ทิ้งพวกมันไว้ที่นี่ก็พอแล้ว
“ซืออวี๋”
ในขณะที่ซืออวี๋กำลังพักผ่อนอย่างเงียบเชียบที่มุมหนึ่งของพื้นที่ปลอดภัย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่รับผิดชอบในการลงทะเบียนคะแนนของเขาก็เข้ามาหาเขาอีกครั้ง
“มีอะไรงั้นเหรอ?”
ซืออวี๋ลืมตาขึ้นมาและหันไปมองเขา
เอี้ยนฉีหัวเราะและกล่าวว่า “ไม่มีอะไร มาทำความรู้จักกันเถอะ ข้าชื่อเอี้ยนฉี”
“เจ้ายังวางแผนที่จะล่าต่อในช่วงบ่ายไหม?”
ซืออวี๋พยักหน้า
“ถ้าเช่นนั้นข้าก็แนะนำให้เจ้าไปที่พื้นที่ภูเขาแม่เหล็กไฟฟ้า มีแร่ไฟฟ้าที่นั่น มันถือได้ว่าเป็นทรัพยากรแร่เหล็กไฟฟ้าระดับหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในสูตรสำหรับอสูรกินเหล็ก”
“แร่เหล็กไฟฟ้า?” ซืออวี๋นึกย้อนไป นี่ดูเหมือนจะเป็นอาหารที่ถูกแนะนำในคู่มือการบ่มเพาะอสูรกินเหล็ก แต่ลำดับความสำคัญไม่สูงมากนัก
เมื่อเทียบกับไผ่เหล็กแล้ว มันไม่มีประโยชน์มากนักสำหรับทักษะการเคลือบแข็งและการเติบโตของอสูรกินเหล็ก อย่างมากที่สุดก็แค่ช่วยให้อสูรกินเหล็กอิ่มท้อง
“มากับข้า”
เอี้ยนฉีเรียกซืออวี๋และวางแผนที่จะพูดคุยต่อในสถานที่ซึ่งค่อนข้างไร้ผู้คน
“คนผู้นี้ต้องการอะไรกัน?” ซืออวี๋ตกตะลึง เขาเดินตามและตัดสินใจดูว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผู้นี้กำลังจะทำอะไร
“อันที่จริงแล้ว ข้าเป็นศิษย์ของศูนย์ฝึกศิลาไผ่ สัตว์อสูรตัวแรกของข้าคืออสูรกินเหล็กเช่นกัน แต่ไม่ว่ายังไง เจ้ารู้หรือไม่ว่าความลับอันยิ่งใหญ่สองอย่างของศูนย์ฝึกศิลาไผ่คืออะไร?”
หลังจากเดินไปได้สักพักหนึ่ง เอี้ยนฉีก็กล่าวออกมา
“ข้าจำได้ว่ามันเป็นทักษะที่เรียกว่าฝ่ามือสายฟ้าและทักษะที่เรียกว่าหมัดปืนใหญ่ใช่ไหม?” ซืออวี๋นึกย้อนกลับไป
ดังนั้นชายผู้นี้ก็เป็นศิษย์จากศูนย์ฝึกศิลาไผ่… ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาสนใจซืออวี๋และอสูรกินเหล็ก
อสูรกินเหล็กที่ถูกสอนโดยศูนย์ฝึกศิลาไผ่นั้นมีชื่อเสียงในด้านความสามารถในการควบคุมเปลวไฟและสายฟ้า ทักษะเฉพาะของพวกเขาคือฝ่ามือสายฟ้าและหมัดปืนใหญ่ แน่นอนว่าซืออวี๋รู้เรื่องนี้ ท้ายที่สุด เขายังต้องไปที่ศูนย์ฝึกเพื่อเรียนรู้พวกมันในภายหลัง
“มันคือฝ่ามือสายฟ้าและหมัดปืนใหญ่ ด้วยวิธีการบ่มเพาะพิเศษ มีโอกาสที่อสูรกินเหล็กจะสามารถปลุกทักษะในการควบคุมเปลวไฟและสายฟ้าได้”
“ตัวอย่างเช่น หากเจ้าต้องการควบคุมสายฟ้า หนึ่งในพื้นฐานก็คือให้อสูรกินเหล็กกินแร่ธาตุสายฟ้าบางอย่างที่มีคุณสมบัติของไฟฟ้า เช่น แร่ไฟฟ้า”
“ทำไมเจ้าถึงบอกข้าถึงเรื่องนี้ล่ะ?”
หากสัตว์อสูรต้องการเชี่ยวชาญทักษะอื่นนอกเหนือจากทักษะเผ่าพันธุ์ มันต้องถูกบ่มเพาะภายใต้วิธีการพิเศษ อาหารเป็นส่วนสำคัญสำหรับวิธีนั่น และซืออวี๋ก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม เพียงแค่การกินแร่ไฟฟ้านั้นไม่เพียงพออย่างแน่นอน มิฉะนั้น นี่คงจะไม่กลายเป็นคู่มือทักษะเฉพาะของศูนย์ฝึกศิลาไผ่
แม้ว่าวิธีการบ่มเพาะจะไม่ซับซ้อนเท่ากับวิธีการวิวัฒนาการจากหนอนไหมเขียวไปเป็นผีเสื้อแสงแห่งเทพธิดา แต่อาหารเพียงอย่างเดียวก็ไม่เพียงพออย่างแน่นอน
“ข้าได้ยินมาจากท่านอาจารย์หลิยแห่งศูนย์ฝึกศิลาไผ่ว่าเจ้าจะไปเรียนรู้ที่ศูนย์ฝึกในภายหลัง ดังนั้นข้าจึงมาทักทายเจ้าล่วงหน้า”
“เงื่อนไขขั้นต่ำในการกินแร่ไฟฟ้าก็คือการเคลือบแข็งของอสูรกินเหล็กให้ถึงขั้นชำนาญ การเคลือบแข็งของอสูรกินเหล็กของเจ้าถึงขั้นชำนาญแล้ว การดูดซับสาอาหารของแร่ไฟฟ้าให้สมบูรณ์จึงไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน”
“หากเจ้าวางแผนที่จะเข้าศูนย์ฝึกศิลาไผ่เพื่อเรียนรู้ในอนาคต สภาพแวดล้อมการฝึกฝนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเขาที่ภูเขาเทียนหมังก็คือพื้นที่ภูเขาแม่เหล็กไฟฟ้า มีแร่ไฟฟ้าจำนวนมากอยู่ที่นั่น และสัตว์อสูรธาตุสายฟ้าจำนวนมาก…”
“การกินแร่ไฟฟ้าและปล่อยให้ร่างกายรับพลังงานสายฟ้าอย่างต่อเนื่องเป็นการฝึกฝนขั้นพื้นฐานเพื่อควบคุมฝ่ามือสายฟ้า ข้าคิดว่าเจ้าสามารถสัมผัสกับมันได้ล่วงหน้า”
[ทักษะ] : ฝ่ามือสายฟ้า
[ระดับทักษะ] : กลาง
[หมายเหตุ] : มันเป็นทักษะประเภทสายฟ้า มันรวบรวมกระแสไฟฟ้าแรงดันสูงไว้ที่ฝ่ามือ ทำให้ฝ่ามือเปรียบเสมือนใบมีดอันแหลมคมที่มีพลังทะลุทะลวงซึ่งแข็งแกร่ง มันมีผลด้านอัมพาต
เอี้ยนฉีกล่าวด้วยรอยยิ้ม แต่เขาก็ถอนหายใจในหัวใจของเขา นี่เป็นเพราะอสูรกินเหล็กของเขาอยู่ในระดับเหนือธรรมชาติและยังไม่เชี่ยวชาญฝ่ามือสายฟ้าเลย มันอาจมีกระแสไฟฟ้าขนาดเล็กไหลเวียนอยู่รอบฝ่ามือของมัน แต่ก็ไม่ถือได้ว่าเป็นทักษะเลย
หากเขาสามารถเชี่ยวชาญฝ่ามือสายฟ้าได้ เขาคงผ่านการประเมินมืออาชีพไปนานแล้ว
ฝ่ามือสายฟ้าเพียงอย่างเดียวก็ทรงพลังแล้ว หากเป็นการผสมผสานทักษะของการเคลือบแข็งและฝ่ามือสายฟ้า… พลังนั่นเป็นสิ่งที่เอี้ยนฉีตั้งตารอ
“เป็นเช่นนั้น ขอบคุณมาก”
ซืออวี๋ไม่คาดคิดมาก่อนว่าก่อนที่เขาจะไปศูนย์ฝึกศิล่ไผ่ก็ได้มีศิษย์จากศูนย์ฝึกได้รู้จักเขาแล้ว
นี่เป็นบทเรียนแรกที่จ้าวโถงหลินสอนเขาหรือไม่?
ในตอนแรก เขาวางแผนที่จะไปยังพื้นที่ภูเขาแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อจำลองทักษะการขยายร่าง ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีเหตุผลอื่นที่เขาต้องไปแล้ว
เมื่อกล่าวถึงอาหาร… ซืออวี๋รู้สึกว่าแร่ไฟฟ้าในพื้นที่ภูเขาแม่เหล็กไฟฟ้าไม่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนเป็นคะแนนอีกต่อไป หากความเข้มข้นในการฝึกฝนและการต่อสู้ของอีเลฟเว่นนั้นสูงมากเกินไป แร่นี้อาจเข้าไปในท้องของอีเลฟเว่นในอีกสามวันข้างหน้า
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน