บทที่ 14: ข้าราชการผู้เที่ยงธรรมอย่างข้าจะมาอยู่ในสถานที่แบบนี้ได้ยังไง
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 14: ข้าราชการผู้เที่ยงธรรมอย่างข้าจะมาอยู่ในสถานที่แบบนี้ได้ยังไง
ทุกคนตกใจและคุกเข่าลงโค้งคำนับและกล่าวขอโทษทันที
“ข้าขออภัยด้วยท่านข้าราชการชั้นสูง ข้าไม่รู้ว่าเป็นท่าน!”
“ข้าผิดไปแล้ว ได้โปรดให้อภัยข้าด้วย!”
“ข้าจะไม่กล้าพูดจาหยาบคายเช่นนี้อีกแล้ว!”
“คราวนี้ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไป เพราะพวกเจ้าไม่รู้ แต่อย่าพูดไม่ดีฉันลับหลังข้าในอนาคตอีก ไม่เช่นนั้น…” หลินเป่ยฟานหรี่ตาลง
“ไม่เช่นนั้นอะไรหรือ?” ทุกคนตัวสั่นด้วยความกลัว
“ไม่อย่างนั้นข้าจะทำด้วย!”
ทุกคนถึงกับเงียบกริบ
“อืม เช่นนั้นข้างต้องขอตัวไป!” หลินเป่ยฟานตบบั้นท้ายของเขาและจากไป
ทุกคนมองหน้ากันด้วยความสับสน ข้าราชการระดับสูงที่พวกเขาแอบวิพากษ์วิจารณ์ได้ออกไปโดยไม่ลงโทษพวกเขางั้นหรือ?
เขาปล่อยพวกเขาออกไปอย่างง่ายดายเช่นนี้เลย?
หลินเป่ยฟานยังคงเดินเตร่ไปรอบๆ โดยไม่รู้สึกอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเขาเคยเจอความโกรธเกรี้ยวของประชาชนในชีวิตก่อนมาแล้ว ต่อให้มาด่าทอเขาต่อหน้า เขาก็ไม่รู้สึกอะไรสักนิดเดียว
จากนั้นเขาก็ได้มาถึงหน้าอาคารที่หรูหราและคึกคักไปด้วยผู้คนโดยไม่รู้ตัว
สาวน้อยสวยงามหลายคนที่มีรูปร่างอันมีเสน่ห์ยืนอยู่หน้าอาคาร โบกมือและดึงดูดลูกค้าด้วยความกระตือรือร้นอย่างยิ่ง
ชายแต่งตัวดีหลายคนยิ้มและโอบเอวของหญิงสาวเดินเข้าไปในอาคาร
เมื่อตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ก็เห็นป้ายที่เขียนว่า “เรือนร้อยบุปผา” แขวนอยู่เหนืออาคาร!
หลินเป่ยฟานพลันสูญเสียความสงบในใจไปทันที "ให้ตายสิ! ที่นี่มันซ่องไม่ใช่เหรอ? ข้าราชการผู้เที่ยงธรรมอย่างข้าจะมาอยู่ในสถานที่แบบนี้ได้ยังไงกัน?"
เมื่อหลุดออกจากห้วงภวังค์ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกตัว
ถึงจะข้ามโลกมาต่างมิติ แต่ดูเหมือนกฎของเมอร์ฟีจะยังคงอยู่
ยิ่งพยายามหลีกเลี่ยงบางสิ่งมากเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสเกิดขึ้นมากขึ้นเท่านั้น
ในขณะนั้นเอง คุณนายผู้หนึ่งที่เห็นหลินเป่ยฟานก็เบิกตากว้าง นางเดินเข้ามาหาเขาด้วยรอยยิ้มกว้างและพูดว่า “นี่ไม่ใช่ข้าราชการระดับสูงคนใหม่ ท่านหลินเป่ยฟานหรอกเหรอ? ไหนๆ ก็มาแล้ว เชิญเข้ามานั่งสิ! สตรีทุกนางที่นี่ชื่นชมท่านมากเชียวนะ!”
เมื่อคว้ามือของหลินเป่ยฟานไป นางก็ไม่ต้องการให้เขาหลุดรอดไปเลย
หลินเป่ยฟานได้แต่กระแอมไอตอบ “ท่านหญิง ท่านเข้าใจผิดว่าข้าเป็นผู้อื่นแล้ว ข้าไม่ใช่นักวิชาการระดับสูง ข้าคืออู่ต้าหลัง คนขายแพนเค้ก !”
“ข้าจะเข้าใจผิดได้อย่างไรกัน?” คุณนายกล่าว “ข้าเคยเห็นนักวิชาการระดับสูงมามากมาย คนที่โดดเด่นอย่างท่านที่มีทวงท่าการเดินอันประณีตและมีเสน่ห์เช่นนี้ มีเพียงคนเดียวเท่านั้น ข้าจำท่านได้ถูกต้องอย่างแน่นอน แม้ว่าเจ้าจะกลายเป็นเถ้าถ่านก็ตาม!”
หลินเป่ยฟานยิ้มอย่างสดใสขณะที่เขาฟัง “ข้าชอบนะที่เจ้าเอ่ยชมเช่นนี้”
อย่างไรก็ตาม ตัวเขาเป็นคนที่มีหลักการและเขาจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แน่
หลินเป่ยฟานกางมือและพูดว่า “แต่ข้าไม่มีเงินเลย คงไม่สามารถจ่ายให้ได้!”
คุณนายสาวยังคงจับหลินเป่ยฟานไว้และกล่าวออกมาอย่างกระตือรือร้น “ท่านข้าราชการระดับสูงเช่นท่าน เป็นเกียรติของเราที่ท่านจะได้มาเยี่ยมชมเรือนร้อยบุปผาของเรา เราจะกล้าเก็บเงินจากท่านได้อย่างไร? นายท่าน อย่าปฏิเสธแล้วเข้ามาเถอะ!”
ในยามนั้นเอง เด็กสาวสวยหกคนเดินออกจากห้องหนึ่งพร้อมกับยิ้มและทักทายหลินเป่ยฟาน
หลินเป่ยฟานไอออกมาและพูดว่า “ข้าไม่ได้คิดที่จะเข้าไปเลย แต่เจ้าเชิญข้ามาตั้งเจ็ดครั้งแล้ว ถ้าข้าปฏิเสธอีกครั้ง ข้าก็คงดูแย่เกินไป นำทางข้าเลย”
คุณนายหญิงและสาวๆ ดีใจมากที่สามารถส่งหลินเป่ยฟานเข้าไปข้างในได้ พวกนางยิ้มออกมาพร้อมตะโกนอย่างมีความสุขว่า “ท่านข้าราชการระดับสูงของเรามาแล้ว!”
ภายใต้การต้อนรับของสาวๆ หลินเป่ยฟานก็เดินเข้าไปในเรือนร้อยบุปผาและพบว่า แม้จะเป็นยามเช้า แต่ก็เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย เสียงหยอกล้อดังเต็มไปด้วยอากาศ
หลินเป่ยฟานอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “เรือนแห่งนี้คงจะเต็มเพราะหัวใจของผู้คนรู้สึกโดดเดี่ยวสินะ”
ทุกคนต่างตะโกนเห็นด้วย “ใช่แล้ว! ถ้าไม่ใช่เพราะความโดดเดี่ยวจนไม่อาจทนไหว ผู้ใดอยากจะอยากมาที่นี่กัน?”
"ถูกต้องเลย! ถ้าข้ากลับเรือนของข้า ข้าก็จะต้องเผชิญหน้ากับยัยเสือเฒ่า ข้าน่ะจึงชอบที่จะมาที่นี่เพื่อใช้เงินเพื่อบรรเทาความเหงาของข้า!”
“สาวๆ ที่นี่ต่างก็สวยและเสียงหวาน ข้ารักที่นี่มากเลยล่ะ!”
"ใช่แล้ว พ่อหนุ่มบัณฑิตเข้าใจหัวใจของข้าเป็นอย่างดีเลย ฮ่าฮ่าฮ่า!"
ด้วยประโยคเดียว หลินเป่ยฟานก็สนิทกับทุกคนที่อยู่ที่นี่ทันที
ในขณะนั้นเอง คุณนายได้นำแผ่นกระดาษมาให้และพูดอย่างยิ้มแย้มว่า “ท่านหลิน ได้โปรดเขียนบทกวีให้ด้วยเถิด!”
สิ่งนี้เหมือนกับเป็น "ค่าเงิน" ของหลินเป่ยฟานที่ต้องใช้บริการที่นี่
จิตใจของหลินเป่ยฟานพลันลุกโชน เขาหยิบแปรงขึ้นมาเขียนอย่างรวดเร็วและคล่องแคล่ว ทุกคนมารวมตัวกันและท่องบทกวีที่ถูกเขียน พวกเขาปรบมืออย่างบ้าคลั่งหลังจากที่ได้ยลโฉมมัน
ข้าราชการคนหนึ่งยกย่องความสามารถของหลินในการจับอารมณ์ของเหล่านางโลมอย่างเชี่ยวชาญด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ สตรีที่อยู่ที่นี่ต่างจ้องมองหลินเป่ยฟานด้วยสายตาอันเย้ายวนใจ
ในช่วงเวลานั้น ราวกับว่าหลินเป่ยฟานเป็นบุรุษที่หล่อเหลาที่สุดแล้วในหอนางโลมแห่งนี้
1.
กฎของเมอร์ฟี่เป็นเหมือนคำพังเพยที่ไว้อธิบายเหตุการณ์ที่ “อะไรที่มันจะเกิด สุดท้ายก็จะเกิด” . ซึ่งที่จริงกฎนี้มักถูกใช้เพื่อบอกว่าสิ่งต่างๆ จะไม่เป็นไปตามแผนเสมอไปและสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะเป็นไป ก็อาจไม่เป็นเช่นนั้น