บทที่ 124 แต่ละเงื่อนไข
“เจ้าต้องการอะไรอีกไหม?” หลินเป้ยถาม
หลินเป้ยรู้ถึงคุณค่าของยานี้ดี แต่เขาไม่มีทางที่จะขายโอสถเหล่านี้ได้ ดังนั้นเขาจึงต้องการที่จะใช้ช่องทางของสมาคมการค้าว่านเป่าเพื่อให้พวกเขาขายโอสถให้
นอกจากนี้ มูลค่าทางการค้าของโฮสถนี้ยังดีมาก จนมันสามารถตกเป็นเป้าได้ง่าย
การขายสูตรยาให้กับหมิงหลาน ไม่เพียงแต่จะได้รับเงินมากเท่านั้น แต่มันยังให้ความปลอดภัยในระดับหนึ่งอีกด้วย เช่นเดียวกับการปกป้องตระกูลหลิน
สิ่งที่หลินเป้ยต้องจ่ายเป็นเพียงสูตรยาเท่านั้น
สูตรยานี้ถูกพบโดยหลินเป้ยในระบบห้างสรรพสินค้ามาเป็นเวลานานแล้ว เขาประมาณการว่าโอสถชนิดนี้ ต้องเป้นที่ต้องการของโลกบ่มเพาะ เพราะโอสถแบบนี้ไม่มีในโลก
ตราบใดที่โลกนี้ไม่มีโอสถแบบนี้ มันก็มีมูลค่าอย่างแน่นอน
หลินเป้ยยังมีสูตรยาย้อนวัย แต่เป็นโฮสถระดับ 5 และมีราคาสูงกว่ามาก ซึ่งไม่ตรงกับสถานการณ์ปัจจุบันของหลินเป้ย ดังนั้นเขาจะไม่นำมันออกมาในตอนนี้
เพียงแค่สูตรยาของโอสถสงบจิตนั้น ก็น่าทึ่งมากพออยู่แล้ว
“ข้าต้องการอัจฉริยะที่จะช่วยข้าในอีก 10 ปีข้างหน้า ข้าต้องการคนที่มีความสามารถเพื่อช่วยข้าชนะในการประลอง ตราบใดที่ข้าชนะคนอื่นๆ สถานะของข้าในสมาคมการค้าว่านเป่าจะสูงขึ้น ในอีก 10 ปี ข้าอยากให้เจ้าอยู่ขอบเขตราชานักรบ(หวู่หวาง) เป็นอย่างน้อย ในท้ายที่สุด ไม่ว่าเจ้าจะชนะหรือแพ้ เจ้าจะถือว่าได้ทำงานให้ข้าสำเร็จ นี่คือเงื่อนไขของข้า”หมิงหลานกล่าว
หลินเป้ยเข้าใจแล้วว่า หมิงหลานต้องการให้เขาช่างชิงตำแหน่งในสมาคมการค้าว่านเป่านั่นเอง
ปรากฎว่า เช่นเดียวกับตระกูลหลินในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ก็มีการแข่งขั้นกันทุกที่
ตราบใดที่หลินเป้ยสัญญาว่าจะช่วยนางเข้าร่วมการประลองในอีก 10 ปีให้หลัง เขาก็ไม่ต้องกังวลกับตระกูลหลินแล้ว
ในโลกนี้ ผู้อ่อนแอจะอยู่ในระดับต่ำสุดเสมอ และพวกเขาอาจถูกกวาดล้างเมื่อใดก็ได้
หากตระกูลหลิน ได้รับการดูแลจากสมาคมการค้าว่านเป่า ตระกูลหลินก็คงจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ข้าสัญญาได้ว่า ภายใน 10 ปี ข้าจะไปถึงขอบเขตราชานักรบ หรือสูงกว่านั้น และข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเจ้าในการชนะการประลอง แต่ข้าก็ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าเช่นกัน”หลินเป้ยกล่าว
ตอนนี้หลินเป้ยอยู่ในขอบเขตนักรบแท้จริงขั้น 3 เท่านั้น แล้วเขากล้าพูดได้อย่างไรว่า 10 ปีต่อมาเขาจะไปถึงอบเขตราชานักรบอย่างแน่นอน?
แน่นอน ที่เขามั่นใจเพราะเขามีระบบ
“ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถเข้าถึงอบเขตราชานักรบได้ภายใน 10 ปี เพราะอัจฉริยะที่เข้าร่วมการประลองล้วน ขอบเขตขั้นต่ำล้วนอยู่ขอบเขตนี้ และอัจฉริยะที่ทรงพลังบางคนก็ไปถึงขอบเขตจักรพรรดินักรบ(หวู่ฮวง) อีกด้วย” หมิงหลานมองหลินเป้ยด้วยความประหลาดใจ นางคิดเขาจะเห็นด้วยกับเงื่อนไขนี้จริงๆ
อัจฉริยะที่เข้าร่วมการประลองจะต้องมีอายุไม่เกิน 40 ปี และขอบเขตบ่มเพาะต้องไม่ต่ำกว่าขอบเขตราชานักรบ
การประลองนี้จัดขึ้นโดสมาคมการค้าว่านเป่าทุก ๆ 10 ปี การแข่งขันครั้งสุดท้ายเพิ่งจบลง
เป็นเพระหมิงหลานยังเด็กเกินไป และเพิ่งออกมาจากตระกูล ดังนั้นนางจึงไม่ได้เข้าร่วม
หมิงหลานวางแผนที่จะเข้าร่วมการประลองครั้งต่อไป ดังนั้นตอนนี้นางจึงเริ่มเตรียมตัวแล้ว
สมาชิกในตระกูลหมิงที่มีอายุไม่เกิน 50 ปีสามารถเข้าร่วมได้
แต่หากพวกเขาไม่สามารถพิสูจน์ความแข็งแกร่งได้หลังจากอายุ 50 แล้ว ตระกูลก็จะละทิ้งพวกเขาและจัดให้พวกเขาไปทำงานในสถานที่ห่างไกล
ส่วนสมาชิกตระกูลที่โดดเด่นบางคน จะได้รับสถานะที่สูงขึ้น นี่คือความเป็นจริงของตระกูลหมิง
ปีนี้หมิงหลานอายุเพียง 19 ปี นางเยาว์วัยอย่างมาก
แม้ว่าร่างกายนางจะดูโตกว่าอายุก็ตาม
ในฐานะเจ้าตำหนัก นางอายุมากกว่าหลินเป้ยเพียง 2 ปีเท่านั้น
“เจ้ายังมีเงื่อนไขอะไรอีก?” หมิงหลานขมวดคิ้ว นางรู้สึกว่าหลินเป้ยรับมือได้ยาก แ
เดิมทีนางวางแผนที่จะรับเขาเข้ามาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ใครจะรู้ว่าทั้งสองฝ่ายจะเริ่มมีเงื่อนไขขี้นมา
“จะมีคู่หมั้นมาหาข้าเพื่อยกเลิกสัญญาหมั้นหมาย และนางบอกว่าข้าเป็นคนไร้ค่า นางต้องการทำให้ข้าอับอายอย่างเห็นได้ชัด ข้าต้องการให้เจ้ามาที่ตระกูลหลินในวันนั้น และช่วยเหลือข้า” หลินเป้ยเอ่ยอย่างช่วยไม่ได้
“ฮิฮิฮิ” หมิงหลานปิดปากแล้วยิ้ม การยกเลิกสัญญาหมั้นของหลินเป้ยเป็นเรื่องน่าอับอายสำหรับผู้ชายจริงๆ
แน่นอนว่าหมิงหลานรู้ข่าวนี้มาก่อนแล้ว แต่นางไม่เคยคาดหวังว่าหลินเป้ยจะขอให้นางช่วยในเรื่องนี้
“ตกลง มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ วันนั้นข้าจะไปตระกูลหลินเพื่อไปหาเจ้า” หมิงหลานพูดอย่างใจเย็น
“ถ้าอย่างนั้น ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่ตระกูล” หลินเป้ยกล่าว
“ตกลง” หมิงหลานกล่าวตอบทันทีโดยไม่ต้องคิดอะไร
“ตอนนี้เราได้บรรลุข้อตกลงแล้ว ข้าขอเห็นหน้าที่แท้จริงของเจ้าได้ไหม?” หลินเป้ยกล่าว
หลังจากได้ยินคำพูดของหลินเป้ย ดวงตาของหมิงหลาน ก็เปล่งประกายด้วยความโกรธ เขาขอมากเกินไปแล้ว!
ตอนแรกอยากรู้ชื่อข้า และตอนนี้อยากเห็นหน้าข้างั้นเหรอ!?
“หลินเป้ย เจ้าขอมากไปแล้ว!” หมิงหลานพูดด้วยความโกรธ
“เฮ้ๆ ข้าตกลงที่จะช่วยให้เจ้าเข้าร่วมการประลองในอีก 10 ปีข้างหน้า จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีสาวงามคนอื่นที่ปลอมตัวเป็นเจ้า และข้าไม่เคยพบเจ้ามาก่อน แล้วข้าควรทำอย่างไรหากข้าถูกหลอก?” หลินเป้ยกล่าวด้วยรู้สึกที่บริสุทธิ์
สำหรับซุนซิงที่อยู่ด้านข้าง เขาก็ตกตะลึงเช่นกัน ชายหนุ่มผู้นี้กล้าหาญมาก+
“เจ้า...เหตุผลเจ้ามากมายจริงๆ” หมิงหลานยิ้มเยาะ
“เมื่อข้าร่วมมือกับใครสักคน ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายหน้าตาเป็นยัง ความร่วมมือนี้ทำให้ข้าค่อนข้างกังวล ไม่เป็นไร ลืมมันไปซะ ข้ายกเลิกข้อตกลงทั้งหมดก็ได้” หลินเป้ยถอนหายใจ
“แต่เดิม ข้ายังคงมีสูตรยาย้อนวัยอยู่ที่นี่ นี่คือโอสถระดับ 5 ซึ่งไม่ใช่โอสถระดับ 7 ในท้องตลาด ข้าวางแผนที่จะร่วมมือกับเจ้าในครั้งต่อไป หากทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันอย่างมีความสุขในครั้งนี้ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่จริงใจมากพอ งั้นข้าคงได้แต่หากองกำลังอื่นมาร่วมมือ ส่วนเจ้าก็ลืมการประลองในอีก 10 ปี ข้างหน้าไปละกัน” หลินเป้ยพูดอย่างช่วยไม่ได้
“โอสถย้อนวัย!!” ทั้งซุนซิงและหมิงหลานมองหลินเป้ยด้วยความตกใจ
หลินเป้ยบอกว่า เขามีสูตรยาของยาย้อนวัยงั้นหรือ!?l
หมิงหลานเพียงได้ยินมาว่ามีเพียงกองกำลังขนาดใหญ่เท่านั้นที่มีสูตรยาโอสถย้อนวัย และกองกำลังฝ่ายนั้นก็มีอำนาจไม่อ่อนแอไปกว่าสมาคมการค้าว่านเป่าเลย
สมุนไพรของโอสถย้อนวัยนั้นหายากมาก ดังนั้นปริมาณของโอสถนี้ในท้องตลาดจึงมีไม่มากนัก
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะหามันสักเม็ด และแต่ละเม็ดสามารถขายได้ในราคาที่สูงมาก
ผู้เชี่ยวชาณหญิงที่แข็งแกร่งหลายคนกระตือรือร้นที่จะหาโอสถย้อนวัยมาก
แม้ว่าการปรับปรุงระดับพลังยุทธ์จะช่วยเพิ่มอายุขัยและชะลอความแก่ได้ แต่เวลาก็ช่างโหดร้ายยิ่งนัก หลังจากช่วงระยะเวลาหนึ่ง คนผู้หนึ่งจะยังคงต้องแก่ตัวลง
แต่โฮสถย้อนวัยนั้นแตกต่างออกไป มันสามารถทำให้คนแก่ดูอ่อนกว่าวัย ทำให้เด็กสวยขึ้น โอสถนี้สามารถรักษารูปลักษณ์ที่สวยงามนี้ไว้ตลอดเวลา
แม้จะถึงบั้นปลายชีวิต เขาหรือนางก็จะยังดูสวยงามมาก
แน่นอน หากมีอุบัติเหตุใดๆ หากเจ้าได้รับพิษหรืออะไรบางอย่าง โอสถย้อนวัยอาจสูญเสียประสิทธิภาพของมัน
ท้ายที่สุดแล้ว โอสถย้อนวัยเป็นเพียงโอสถลำดับ 7 และพิษบางอย่างยังคงสามารถทำลายผลของมัน