นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 38
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 38
เวลาผ่านไปจวบจนปีใหม่มาถึงอีกปี
ราอนในวัย14ปี สามารถสรุปชีวิตของเขาที่ผ่านมาได้ด้วยคำเพียงคำเดียวนั่นคือ‘การฝึกฝน’
เขาใช้ชีวิตเป็นปีศาจบ้าการฝึกฝนโดยการมาถึงสนามฝึกซ้อมคนแรกและออกไปเป็นคนสุดท้ายในทุกๆ วัน
ส่วนรูนัน...สายตาของรูนันยังคงว่างเปล่าเหมือนเดิม แต่วิชาดาบของเธอและออร่าน้ำแข็งของเธอก็ได้แข็งแกร่งขึ้นอย่างที่แทบไม่มีใครเทียบได้
เบอร์เรนเติบโตขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะการที่เขาสามารถเอาชนะใจของคนอื่นๆได้มากขึ้น เขากวัดแกว่งดาบทั้งวันทั้งคืนเพื่อเตรียมตัวที่จะแย่งชิงตำแหน่งผู้ฝึกฝนอันดับหนึ่งจากราอน
ในส่วนของมาร์ธา เธอกวัดแกว่งดาบของเธออย่างต่อเนื่องและฝึกฝนออร่าของเธออย่างไม่หยุดพัก เธออยากจะลบรอยแผลจากความพ่ายแพ้ครั้งแรกของเธอออกไปให้ได้
ปัญหาก็คือ... นิสัยของมาร์ธาที่เคยแย่อยู่แล้วกลับแย่ยิ่งกว่าเดิม ทุกวันนี้ไม่มีใครกล้าเข้าไปเฉียดเธอเลยด้วยซ้ำ
ยกเว้นกับราอน ซีกฮาร์ทล่ะนะ…
เธอไม่ยอมฟังใครเลยแม้แต่กับผู้ฝึกสอน เธอจะยอมฟังก็ต่อเมื่อราอนพูดออกมาเท่านั้น ไม่เคยมีการเถียงหรือบ่นอะไรออกมาจากปากของเธอ เหมือนกับว่าเธอเป็นคนรับใช้ที่เชื่อฟังราอนเพียงคนเดียว
ทุกๆคนรู้ว่าดีว่านั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องทำหลังจากแพ้การประลอง พวกเขาเลยคิดว่าเธอคงจะทนได้ไม่กี่วันหรอก
แต่พวกเขาคิดผิด
ปีใหม่มาถึงแล้วและมาร์ธาก็ยังเชื่อฟังราอนอยู่เหมือนเดิม
ทุกคนต่างก็ประหลาดใจเหมือนกันหมด
พวกเขาไม่คิดเลยว่ามาร์ธาคนที่อารมณ์ร้อนและปากเสียจะยอมรักษาสัญญากับราอนมาจนถึงตอนนี้
ด้วยเหตุนี้เอง ราอนจึงได้รับการยอมรับจากผู้เข้าร่วมการฝึกฝนทุกคนในสนามฝึกที่ห้า
***
“รวมตัว!”
สิ้นเสียงของราอน ผู้ฝึกฝนทุกคนที่กำลังอบอุ่นร่างกายก็หันมองไปที่เขาทันที
“ชิ…”
“อึ้ม”
เบอร์เรนเดาะลิ้นของเขาของเขาและไปยืนตรงหน้าราอน ส่วนรูนันก็ค่อยๆวิ่งเข้าไปหาราวกับว่าเธอเป็นหมาที่ได้ยินเจ้าของเรียก
“……”
สายตาของมาร์ธาเต็มไปด้วยความแค้นเคือง แต่เธอก็แค่ไปยืนอยู่ในแถวโดยไม่พูดอะไร
ทุกๆคนเชื่อฟังคำสั่งของราอนและวิ่งไปหาเขาอย่างเป็นธรรมชาติ
“ทำไมถึงบอกให้พวกเรามารวมตัวกันล่ะ?”
เบอร์เรนเงยหน้าขึ้นมองเวทีที่ไม่ได้มีใครยืนอยู่
“เช้าวันนี้เราไม่ต้องฝึกฝนกันตามแผนเดิมแล้ว”
“ไม่ใช่มั้ง... วันนี้เป็นการฝึกปกตินี่นา”
“ฉันไม่เห็นเคยได้ยิน”
“อาจารย์ริมเมอร์บอกว่าเขาลืมน่ะ”
ราอนถอนหายใจ ริมเมอร์มาหาเขาในตอนเย็นของเมื่อวานและบอกให้เขาเรียกรวมตัวผู้ฝึกฝนแล้วบอกเรื่องนี้แทนเขา
“เพราะคนๆนั้นเองสินะ…”
เบอร์เรนกัดฟัน ดูเหมือนเบอร์เรนจะยังไม่ชอบริมเมอร์อยู่เหมือนเดิม
“อย่างไรก็ตาม ทุกคนอย่าพึ่งรีบแยกย้ายกันไปนะ เราต้องอบอุ่นร่างกายกันก่อน”
“เฮอะ”
“ทำไมเขาถึงขี้ลืมได้ขนาดนี้? เริ่มเข้าสู่วัยชราแล้วรึไง?”
“เขาน่าจะไปเที่ยวเล่นแล้วก็เมา ฉันได้ยินมาว่าเมื่อคืนนี้เขาก็อยู่ที่บาร์ล่ะ”
“เขาก็เป็นแบบนี้ตลอดแหละ เราควรจะทำใจให้ชิน”
ผู้เข้าร่วมการฝึกฝนพากันบ่นอุบ แต่พวกเขาก็เริ่มอบอุ่นร่างกายตามคำแนะนำของราอน
เมื่อพวกเขาทำไปได้ห้านาที เหล่าผู้ฝึกสอนก็เปิดประตูเข้ามาในสนามฝึก
“ฮ้าวววว…”
ริมเมอร์หาวออกมาเสียงดัง เขาไม่แม้จะยกมือขึ้นปิดปากแล้วเดินขึ้นไปบนเวที
“อาจารย์มาช้านะครับ”
เบอร์เรนยกมือขึ้นแล้วตะโกน
“เอ๊ะ พอดีว่าที่ผู้ฝึกสอนมาถึงช้าเพราะพวกเรากำลังเตรียมอะไรบางอย่างให้พวกเธอยังไงล่ะ นี่ไม่นับว่ามาสายหรอก”
“นั่นไม่เกี่ยวกัน…”
“เอาล่ะ! ในเมื่อเราสายมากแล้วงั้นก็มาเริ่มกันเลย!”
ริมเมอร์ไม่สนใจเบอร์เรนแล้วรีบโบกมือให้ทุกคนสนใจฟัง
ราอนถึงกับได้ยินเสียงเบอร์เรนกัดฟันเล็ดรอดออกมา ถึงอย่างไรริมเมอร์ก็ยังเป็นริมเมอร์และเบอร์เรนก็เกลียดริมเมอร์
“เหตผลที่พวกฉันยกเลิกการฝึกฝนของพวกเธอในเช้าวันนี้ก็เพราะว่ามีอะไรสำคัญจะมอบให้นักดาบอย่างพวกเธอทุกคน”
“ของที่สำคัญสำหรับนักดาบงั้นเหรอ?”
"อะไรล่ะ?"
“วิชาดาบใหม่เหรอ?”
“หรือว่าเทคนิคลับ?”
“เทคนิคการปลูกฝังหรือเปล่า?”
ดวงตาของเหล่าผู้เข้าร่วมการฝึกฝนเต็มไปด้วยประกายแห่งความคาดหวัง
“แฮ่ม!”
ริมเมอร์ยืนมองดูความตื่นเต้นของพวกเขาอยู่พักนึง และเขาก็เริ่มพูดต่อ
“นั่นก็คือ....จังหวะเท้า!”
“เอ๋?”
“จังหวะเท้า?”
“นั่นสำคัญสำหรับนักดาบงั้นเหรอ?”
“ฮ่าๆ ฉันว่าแล้วไง”
เมื่อได้ยินว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการใช้เท้า ผู้เข้าร่วมการฝึกฝนก็กระทืบเท้าด้วยความผิดหวัง
‘เป็นอย่างที่ฉันคิด’
ราอนพยักหน้า เขาไม่ได้ประหลาดใจเท่าไหร่
จังหวะเท้าก็คือวิธีการก้าวเดิน
มันเป็นวิธีการที่เป็นระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทำให้การใช้วิชาดาบหรือเทคนิคหมัดมีประสิทธิภาพมากขึ้น บางครั้งก็ช่วยในการป้องกันและทำให้เคลื่อนไหวได้รวดเร็วขึ้น
'เวลานี้ก็เหมาะเจาะพอดี'
เขาคุ้นเคยกับทั้งเทคนิคการใช้ดาบและหมัดเป็นอย่างดีแล้ว ส่วนออร่าของเขาก็ได้พัฒนาไปในระดับหนึ่ง เขาจึงคิดว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะเริ่มเรียนรู้จังหวะเท้า
“ถึงจะมีหลายคนที่เคยเรียนวิชาดาบก่อนเข้ามาที่นี่แต่ก็ไม่น่าจะมีใครเคยเรียนรู้จังหวะเท้ามาก่อนนะ”
“อืม…”
“นั่นก็จริง”
ผู้ฝึกฝนทุกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่เบอร์เรน รูนัน และมาร์ธายังยืนอยู่เฉยๆ
“แน่นอนว่าเป้าหมายของพวกเธอทุกคนคือการเป็นนักดาบ ยังไงทักษะการใช้ดาบก็สำคัญที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม!”
ริมเมอร์ยิ้มและกระโดดลงมาจากบนเวที จู่ๆเขาก็หายตัวไปราวกับสายลม
“แล้วอะไรที่ทำให้วิชาดาบเฉียบคมยิ่งขึ้นและเร็วขึ้นล่ะ? อะไรที่จะช่วยชีวิตพวกเธอได้ในอนาคตล่ะ? มันคือจังหวะเท้าหรือว่าการเคลื่อนไหวของเท้านั่นเอง”
เสียงของริมเมอร์ดังมาจากด้านหลังของพวกเขา ริมเมอร์โผล่ขึ้นมาหลังจากหายตัวไป เมื่อหันหลังกลับไปจะเจอกับเขาที่กำลังยืนเอามือไขว้หลัง
“เฮือก!”
“ม-เมื่อไหร่กัน…”
"เมื่อกี้คืออะไร?"
ผู้ฝึกฝนพากันอ้าปากค้าง ริมเมอร์มาปรากฏตัวอยู่ข้างหลังพวกเขาโดยไม่มีสัญญาณใดๆ พวกเขาตกใจกันสุดๆ
“พวกเธอต้องตระหนักไว้ตลอดนะว่าการฝึกฝนอยู่กับตัวเองกับการต่อสู้จริงๆ นั้นแตกต่างกันมาก”
“นั่นมันก็ใช่…”
"ใช่เลย ตอนที่ฉันขึ้นประลองฉันแทบจะควบคุมร่างกายไม่ได้”
“ขนาดวิชาดาบที่ฝึกฝนมาอย่างดีฉันยังเผลอลืม”
ทุกคนพยักหน้า พวกเขาเห็นด้วยว่าที่ริมเมอร์พูดเป็นเรื่องจริง
“ถ้าพวกเธออยากทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดพวกเธอก็ต้องฝึกฝนจังหวะเท้าให้มากกว่าทักษะการใช้ดาบ ฉันคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดระหว่างการต่อสู้แบบตัวต่อตัวนั้นไม่ใช่ทักษะการใช้ดาบหรือออร่าเลย แต่เป็นการใช้เท้าของพวกเธอต่างหาก แม้แต่ท่านเจ้าตระกูลก็เห็นด้วยกับฉันในเรื่องนี้”
“ท-ท่านเจ้าตระกูลเหรอ”
"ว้าว!”
“ถ้าเขาพูดอย่างนั้น…”
ในเมื่อเกล็นซึ่งเป็นบุคคลที่พวกเขานับถือมากที่สุดก็พูดแบบนั้นด้วย พวกเขาจึงมั่นใจได้ในทันที
“จังหวะเท้า…”
เบอร์เรนยืดหลังของเขาให้ตรง
'ใช่แล้ว ถ้าฉันในตอนนั้นสามารถใช้จังหวะเท้าได้ล่ะก็…'
จุดแข็งของเขาคือไหวพริบ ความแม่นยำ และความเร็ว ถ้าเขาได้ใช้จังหวะเท้าในตอนที่เขาต่อสู้กับราอนเขาคงจะไม่พ่ายแพ้ง่ายๆ
"ถ้าอย่างนั้น…"
เบอร์เรนหันหัวของเขากลับไปด้วยดวงตาเป็นประกายแม้เพียงเล็กน้อย
มาร์ธากำหมัดแน่นและดวงตาของเธอก็เป็นประกาย ดูเหมือนเธอกับเบอร์เรนจะคิดแบบเดียวกัน
‘เธอก็น่าจะคิดเหมือนกัน’
เขาคิดว่ามาร์ธาจะรู้สึกเฉยๆ แต่มันดูไม่เป็นอย่างนั้น มาร์ธาแสดงความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะเอาชนะราอนออกมาจากภายใน
“เราจะเริ่มต้นด้วยจังหวะสายน้ำ ซึ่งเป็นท่าที่เหมือนกับการการไหลของแม่น้ำไปรวมเข้าด้วยกัน”
ริมเมอร์ย่อขาแล้วเด้งตัวของเขาขึ้น ร่างกายของเขาก็กระโดดขึ้นไปอยู่บนเวที การสาธิตของเขาดูเหมือนไม่ต้องออกแรงเลย เหมือนเขาเป็นใบไม้ที่แค่ไหลไปตามสายน้ำ
“อืม…”
หลังจากสาธิตไปหนึ่งครั้งถ้วน เขาก็บ่นว่ามันน่าเบื่อและล้มตัวลงนอนทันที
“คนที่ทำได้ก็ช่วยออกมาทำทีสิ”
ริมเมอร์ปรบมือแล้วผู้ฝึกสอนที่อยู่ข้างหลังเขาก็เดินขึ้นมาและเริ่มสาธิตจังหวะสายน้ำ
กรอด!
เบอร์เรนกำหมัดแน่น เขาตั้งปณิธานว่า เขาจะสอนบทเรียนให้กับอาจารย์จอมขี้เกียจคนนั้นด้วยการเป็นผู้เชี่ยวชาญจังหวะเท้าให้ได้ เขาจะทำตามทุกๆรายละเอียดของท่าให้ทุกคนตะลึง
* * *
* * *
จังหวะสายน้ำ ประกอบด้วยท่าทางทั้งหมดสิบสองท่า และท่าทางก็เรียบง่ายพอที่จะทำให้การสาธิตใช้เวลาไม่นานจนเกินไป
'นี่สิคือพื้นฐานที่แท้จริง'
ราอนเคยหมุน'วงแหวนแห่งไฟ'มาก่อน เขาเลยรู้สึกว่าการไหลของจังหวะสายน้ำไม่ใช่เรื่องยากเลย
แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาเคยเห็นแต่มันก็เป็นไปตามพื้นฐาน และยังสามารถนำมันไปปรับใช้กับเทคนิคอื่นๆ ได้อีกมากมาย
ผู้ฝึกสอนจะเดินสังเกตและช่วยแก้ไขท่าทางของพวกเธอให้เอง เพราะงั้นพวกเธอก็ลองทำมันซ้ำๆไปเรื่อยๆจนกว่าจะถูกละกันนะ”
"ครับ/ค่ะ!”
ผู้เข้าร่วมการฝึกฝนค่อยๆกระจายตัวไปทั่วสนามฝึกและเริ่มทำท่าจังหวะสายน้ำเท่าที่พวกเขาพอจะจำได้
เหลือเพียงราอนที่ไม่ยอมขยับไปไหน
เขาหลับตาหมุน'วงแหวนแห่งไฟ' และภาพการเคลื่อนไหวของจังหวะสายน้ำก็แสดงขึ้นมาในหัวของเขา
'ป้องกันหกส่วนและโจมตีอีกสี่ส่วน'
จังหวะสายน้ำเป็นท่าพื้นฐาน สัดส่วนในการใช้เป็นท่าโจมตีและป้องกันที่สัดส่วนไม่ได้แตกต่างกันมากนัก
'ตรงนี้คือจุดแข็งของมันสินะ'
ลักษณะเด่นของจังหวะสายน้ำคือการไหลของมันซึ่งราบรื่นราวกับแม่น้ำไหล เขาควรจะเรียนรู้การไหลของมันให้ได้ก่อนที่จะเริ่มฝึกฝนท่าทางเหมือนกับคนอื่นๆ
“ฮ้า…”
ราอนหายใจออกอย่างตื่นเต้นและลืมตาขึ้น ตอนนี้เขาสามารถมองเห็นทุกสิ่งอย่างของจังหวะสายน้ำได้แล้ว
กึก
ขั้นแรก เขาขยับเท้าขวาไปข้างหน้า
ต่อมา เขาเริ่มรู้สึกเพลิดเพลินและค่อยๆขยับเท้าซ้ายต่อ
ทันทีที่เท้าทั้งสองข้างของเขาไขว้กัน ท่าแรก ’ลื่นไหล’ก็ได้เกิดขึ้น
ฟู่ว!
เขาหมุนตัวไปทางขวา การเคลื่อนไหวถัดมาเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อหลบหลีกการโจมตีด้วยดาบของศัตรูและสวนการโจมตีกลับไป ท่าที่สอง ’ปลดปล่อย’ เป็นเหมือนกับการสะท้อนกลับของทรายจากพื้นดิน
การแสดงของเขาสมบูรณ์แบบกว่าการสาธิตของผู้ฝึกสอนหลายๆ คนเสียอีก
ซูม!
ราอนยกยิ้ม ความรู้สึกดีใจแล่นขึ้นมาบนไหล่ของเขา เท้าของเขาได้สร้างการไหลที่ยืดหยุ่นขึ้นมาใหม่ราวกับว่าเท้าของเขาได้รู้จักจังหวะสายน้ำตั้งแต่แรกเกิด
***
“ฮ้าววววว!”
ริมเมอร์หาวแรงมากจนนึกกลัวว่ามุมปากของเขาจะฉีกไปซะก่อน
“ฉันง่วงนอนจังเลย”
เขาไม่ได้นอนมาสองสามวันแล้วเพราะเขาต้องค้นหาจังหวะเท้าที่เหมาะสมให้ผู้ฝึกฝนแล้วก็ต้องทำมันสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น นั่นส่งผลให้ร่างกายของเขารู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก
'ฉันน่าจะแก่แล้ว'
เขายิ้มและมองลงไปในสนามฝึก
ราอนยืนหลับตาลงโดยที่ไม่ทำอะไรเลย เขาอาจจะกำลังจินตนาการถึงการสาธิตของผู้ฝึกสอนในหัวของเขา
'นั่นก็เป็นวิธีที่ไม่แย่ ... '
การจินตนาการถึงศิลปะการต่อสู้ในหัวเป็นวิธีการฝึกฝนที่มีประสิทธิภาพจริงๆ แต่นั่นควรจะทำก็ต่อเมื่อเขามีประสบการณ์มามากพอเท่านั้น
เขาเพิ่งจะได้รู้จักกับเจังหวะเท้าเมื่อกี้นี่เอง เขาควรจะลองขยับร่างกายไปก่อนแทนที่จะเอาแต่จินตนาการแบบนั้น
'เดี๋ยวค่อยไปบอกราอนทีหลังละกัน'
ริมเมอร์ได้เรื่องไว้ล้อเลียนราอนแล้ว เขาจึงหันไปสนใจเด็กคนอื่นๆ
'เขาเริ่มต้นได้ดีเลย'
เบอร์เรนจำลองการไหลของจังหวะสายน้ำได้เกือบทั้งหมดแล้ว ดูเหมือนว่าเขาคงเคยเรียนรู้การใช้เท้ามาก่อนแต่เขาไม่เคยเข้าใจมัน เขาน่าจะสามารถทำท่าทางได้ถูกต้องอีกในไม่ช้า
'ส่วนเธอก็ทำได้ดีเหมือนกัน'
มาร์ธาเองก็กำลังหมุนร่างกายของเธอด้วยฝ่าเท้า เธอเหมือนกับคนที่เรียนรู้การใช้เท้ามาเป็นเวลานาน ท่าทางของเธอดีกว่าของเบอร์เรนมากจริงๆ
“หึๆ”
ริมเมอร์หัวเราะออกมาเบาๆในขณะที่กำลังดูจังหวะเท้าของเบอร์เรนและมาร์ธา
'ในหัวของพวกเขาคงจะมีแต่ใบหน้าของราอน'
ขณะที่พวกเขากำลังฝึกฝนจังหวะเท้า พวกเขาคงคิดถึงการต่อสู้ระหว่างพวกเขากับราอนไปด้วย
ริมเมอร์ไม่จำเป็นต้องลงไปพูดกระตุ้นพวกเขาให้เปลืองแรง
'แล้วก็…'
เขามองดูรูนันที่กำลังฝึกจังหวะสายน้ำอยู่อีกฝั่งของสนาม การเคลื่อนไหวของเธอแตกต่างจากอีกสองคนที่ผ่านมา
การเคลื่อนไหวของเธอดูเหมือนจะทำไปเพื่อสนับสนุนแทนที่จะโจมตีคู่ต่อสู้โดยตรง เห็นได้ชัดเลยว่าเธอต้องการจะเป็นฝ่ายสนับสนุนของใครคนหนึ่ง
หลังจากนั้นริมเมอร์ก็ไล่สำรวจทุกๆคน เขาจดจุดแข็งและจุดอ่อนของทุกคนเอาไว้และเตรียมจะลุกไปให้คำแนะนำพวกเขา
'น่าสนใจ'
พวกเขายังอายุน้อยและใสซื่อบริสุทธิ์ ริมเมอร์สามารถบอกได้เลยว่าพวกเขากำลังคิดอะไรกันอยู่ แค่มองก็รู้แล้ว
“ฮึบบบบ”
ริมเมอร์ยืดตัวและลุกยืนขึ้นเหมือนหมีที่เพิ่งตื่นจากการจำศีล
เปรี๊ยะ
ริมเมอร์กำลังจะลงไปหาเหล่าผู้ฝึกฝนแล้ว แต่อยู่ๆราอนซึ่งเคยยืนนิ่งเหมือนรูปปั้นหินก็ได้ลืมตาขึ้นและค่อยๆขยับเท้าของเขาไปทางด้านหลัง
‘อ่า…’
ริมเมอร์ขนลุกเมื่อได้เห็นสายตาของราอน ขาของราอนค่อยๆเหยียดตรงเหมือนกับนกกระเรียน
การเคลื่อนไหวของราอนค่อยๆ เป็นไปอย่างช้าๆ ท่าแรก 'ลื่นไหล' ไหลผ่านพื้นของสนามฝึกซ้อมราวกับการไหลของแม่น้ำ
ฟู่ว!
เขาเริ่มทำท่าที่สอง การก้าวออกไปของเขาทำให้การเคลื่อนไหวดูร้อนแรงราวกับไฟ ดูเหมือนนั่นจะสะท้อนถึงรูปลักษณ์ของดาบที่คมกริบ
“ฮะ?!”
ริมเมอร์พูดไม่ออก
'เด็กคนนั้น...'
'ลื่นไหล' ของราอนนั้นสมบูรณ์แบบมากกว่าผู้ฝึกสอนอีก
หลังจากนั้นราอนก็ได้แสดงจังหวะสายน้ำทั้งสิบสองท่าโดยไม่มีการหยุดชะงัก ท่าทางพวกนั้นแทบจะสมบูรณ์แบบ เขาไม่ได้ทำพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“อู้ว…”
“อะ-อะไรกัน?!”
ทั้งผู้ฝึกฝนและผู้ฝึกสอนต่างก็ยืนนิ่งและมองดูการเคลื่อนไหวของราอน
“เขาเพิ่งจะเรียนรู้จังหวะเท้าจากมโนภาพของเขาหรือเปล่า?”
มือของริมเมอร์สั่นเทา ขนทั่วทั้งตัวของเขาพร้อมกันลุกชันขึ้นมา
'เมื่อไหร่สัตว์ประหลาดตัวนั้นจะหยุดทำให้ฉันตกใจได้สักที…?'