ตอนที่ 507 อดีตและปัจจุบันของอันธ
ตอนที่ 507 อดีตและปัจจุบันของอันธ
“มันอาจจะกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าตอนนี้กระป๋องคือราชาของหุ่นยนต์ทั้งหมด!” วอร์สตาร์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
คำอวดอ้างของวอร์สตาร์ทำให้กระป๋องแสดงท่าทางเขินอายออกมาอยู่เล็กน้อย เนื่องจากในปัจจุบันมันก็ยังปรับตัวเข้ากับร่างกายใหม่ได้ไม่ดีนะ แต่ไม่ว่ามันจะเป็นราชาของหุ่นยนต์หรือไม่ ท้ายที่สุดมันก็ยังคงเป็นหุ่นยนต์ที่จะคอยรับใช้เซี่ยเฟยอยู่เช่นเดิม ส่วนสาเหตุที่กระป๋องยอมเปลี่ยนมาใช้ร่างกายใหม่ นั่นก็เพราะว่ามันคิดว่าร่างกายนี้สามารถจะช่วยให้บริการเซี่ยเฟยได้ดีขึ้นกว่าเดิม
“แน่นอนว่าระดับการสั่งการมีเอาไว้ใช้สำหรับหุ่นยนต์ทั่วไปเท่านั้น ระดับการสั่งการนี้จึงไม่สามารถใช้ได้กับท่านเทพธิดา, ฉันแล้วก็มอร์โรว์ได้” วอร์สตาร์อธิบาย
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ และการที่เทพธิดาผู้พิทักษ์มอบอำนาจการสั่งการอันดับแรกให้กับกระป๋อง มันก็แสดงออกถึงคำสัญญาว่าหลังจากนี้หุ่นยนต์จะเป็นพันธมิตรกับมนุษย์ตลอดไป
อย่างไรก็ตามการมอบอำนาจในลักษณะนี้ก็ถือว่าเป็นการทดสอบเซี่ยเฟยด้วยเช่นกัน เพราะถ้าหากว่าเขายังคงไว้วางใจในตัวของกระป๋อง เขาก็เหมือนกับได้รับสิทธิ์สั่งการกองทัพหุ่นยนต์ผ่านทางกระป๋องได้ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาทำให้กระป๋องไม่ไว้วางใจแล้ว วันนั้นเขาก็จะไม่มีสิทธิ์สั่งการกองทัพหุ่นยนต์เช่นเดียวกัน
นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเทพธิดาผู้พิทักษ์จึงไม่ได้ส่งมอบระดับการสั่งการให้กับเซี่ยเฟย เพราะเธอยังคงคาดหวังว่าเซี่ยเฟยจะยังคงมอบความไว้วางใจให้กับหุ่นยนต์อยู่เช่นเดิม
“อันธอยู่ไหน? ทำไมฉันถึงไม่เห็นเขาเลย” เซี่ยเฟยถามด้วยความสงสัย
“เรื่องนี้ท่านเทพธิดาจะเป็นคนอธิบายให้คุณทราบเป็นการส่วนตัว” วอร์สตาร์กล่าว
หลังจากนั้นจักรกลนักรบก็มอบเครื่องสื่อสารให้กับเซี่ยเฟย ซึ่งชายหนุ่มก็เดินกลับไปในห้องฝึกของเขาเพื่อพูดคุยกับเทพธิดาผู้พิทักษ์เพียงลำพัง
เมื่อเครื่องสื่อสารถูกเปิดใช้งานภาพโฮโลแกรมของเทพธิดาผู้พิทักษ์ก็ปรากฏตัวต่อหน้าชายหนุ่ม
“สวัสดีเทพธิดาผู้พิทักษ์” เซี่ยเฟยกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม
“คุณจะเรียกฉันว่าโซฟีก็ได้นะ นั่นคือชื่อของฉันในตอนที่ฉันยังอยู่ในเผ่าจักรกล ถึงยังไงตอนนี้พวกเราก็เป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันแล้ว คุณไม่จำเป็นจะต้องเรียกฉันว่าเทพธิดาอีกต่อไป อีกอย่างคุณก็กำลังจะเข้าสู่ดินแดนของผู้ใช้กฎ ถ้าหากว่าคุณบังเอิญเจอกับพ่อของฉันเข้าพ่อก็คงจะไม่รู้ว่าเทพธิดาที่คุณพูดถึงนั่นคือฉัน” โซฟีกล่าวอธิบาย
“ไม่มีปัญหา หลังจากนี้ฉันจะเรียกเธอว่าโซฟีก็แล้วกัน”
“ฉันขออธิบายให้คุณฟังก่อนว่าวิญญาณคือสิ่งที่ลึกลับมาก และการมีอยู่ของพวกเขาก็ไม่ได้เป็นที่ประจักษ์เท่าไหร่นัก เพราะผู้ที่สามารถสัมผัสถึงวิญญาณได้มีอยู่เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น วิญญาณจึงกลายเป็นความเชื่อของคนส่วนใหญ่มากกว่าที่พวกเขาจะคิดว่ามันมีวิญญาณอยู่ในจักรวาลนี้จริง ๆ”
“ฉันพยายามทำความเข้าใจว่าทำไมฉันถึงรับรู้การมีอยู่ของวิญญาณได้ ซึ่งหลังจากที่ฉันได้ทำการตรวจค้นร่างกายของตัวเองอย่างระมัดระวัง ฉันก็ได้พบว่าพ่อได้ติดตั้งโปรแกรมพิเศษสำหรับการติดต่อกับวิญญาณเอาไว้ให้กับฉันด้วย ด้วยเหตุนี้เองเมื่อฉันได้พบกับอันธเป็นครั้งแรกโปรแกรมนี้จึงเริ่มทำงานในทันที ฉันจึงได้ยินทุกสิ่งที่เขาพูดและสามารถมองเห็นรูปร่างหน้าตาของเขาได้อย่างชัดเจน”
“ส่วนสาเหตุที่คุณสามารถคุยกับอันธได้ นั่นก็เพราะว่าร่างกายของคุณสามารถเชื่อมโยงได้สองวิญญาณ ซึ่งเรื่องนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อสำหรับฉันด้วยเหมือนกัน” โซฟีอธิบาย
“ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าวิญญาณคืออะไรกันแน่?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับยักไหล่
“ตามข้อมูลที่พ่อทิ้งเอาไว้ วิญญาณคือชื่อเรียกที่มนุษย์ได้ตั้งขึ้นมาให้ แต่ในจักรวาลวิญญาณถูกรู้จักในชื่อของวิญญาณอมตะ”
“วิญญาณอมตะเป็นกลุ่มก้อนพลังงานที่ถูกสร้างขึ้นมาจากเจตจำนงของสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลัง แล้วมันก็เป็นกลุ่มก้อนพลังงานที่สามารถโอนย้ายเข้าไปอาศัยอยู่ในร่างกายร่างใหม่ได้ แน่นอนว่าวิญญาณย่อมสามารถย้ายเข้าไปในวัตถุชนิดพิเศษบางอย่างได้เช่นกัน อย่างเช่น หินมัวร์ที่อันธกำลังอาศัยอยู่นี้เป็นต้น”
“สิ่งที่ทำให้ฉันไม่เข้าใจนั่นก็คืออันธเป็นเพียงแค่ผู้ใช้พลังพิเศษธรรมดายังห่างไกลจากการบรรลุเป็นผู้ที่มีวิญญาณอมตะได้ แต่ทำไมหลังจากที่เขาตายเขาจึงกลายเป็นวิญญาณอมตะอันนี้ฉันก็ไม่รู้ ฉันจึงอยากให้เขาอยู่กับฉันจนกว่าฉันจะหาคำตอบในเรื่องนี้ได้” โซฟีอธิบาย
“อาจจะเป็นเพราะว่าอันธฆ่าคนสำคัญตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า? แต่ถึงแม้ฉันจะพยายามถามรายละเอียดเรื่องนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่ยอมเล่าอะไรให้ฉันฟังเลย” เซี่ยเฟยกล่าว
“เหตุผลที่อันธกลายเป็นวิญญาณอมตะได้มีอยู่หลายปัจจัย ฉันจะพยายามตัดปัจจัยที่ไม่สำคัญออกและจะพยายามค้นหาวิธีที่จะทำให้เขาฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง” โซฟีกล่าว
“ฉันถามจริง ๆ ทำไมเธอถึงสนใจในตัวอันธมากขนาดนั้น ขนาดฉันอยู่กับเขามาตั้งนานแล้วฉันยังไม่เคยหาเหตุผลเลยว่าทำไมเขาถึงกลายเป็นแบบนี้ แต่เธอเพิ่งจะเจอเขาเพียงแค่ไม่นาน ทำไมเธอถึงอยากศึกษาเรื่องของเขามากนัก?” เซี่ยเฟยกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม
“นั่นก็เพราะฉันเห็นเงาของพ่ออยู่ในตัวเขา” โซฟีกล่าวตอบออกมาเบา ๆ
“เห็นเงาของพ่อ? ลินนิจก็เป็นวิญญาณอมตะงั้นเหรอ?!” เซี่ยเฟยถามอย่างตกใจ
“ใช่ พ่อก็เป็นวิญญาณอมตะเหมือนกัน เพียงแต่ร่างของพ่อคือเครื่องจักร ขณะที่ร่างของอันธคือหินมัวร์” โซฟีกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“ดูเหมือนเรื่องนี้จะมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่าอดีตราชาของเผ่าพันธุ์จักรกลจะเป็นวิญญาณอมตะที่อยู่ในร่างของจักรกลแบบนี้ และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมโซฟีให้ความสนใจในตัวอันธมาก เพราะความจริงกลับกลายเป็นว่าอันธเป็นวิญญาณอมตะที่เหมือนกับพ่อของเธอ” เซี่ยเฟยกล่าวพึมพำกับตัวเอง
“ช่วยอย่าบอกเรื่องนี้กับใครด้วย” โซฟีกล่าว
“ไม่ต้องห่วง ถึงแม้ฉันจะบอกคนอื่นว่ามีวิญญาณอยู่ข้าง ๆ ฉัน แต่คนพวกนั้นก็คงหาว่าฉันเป็นพวกบ้าอยู่ดี” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“ช่วงนี้ฉันยังต้องการให้อันธอยู่กับฉันสักพัก แล้วฉันจะส่งเขากลับไปหาคุณก่อนที่คุณจะเริ่มออกเดินทาง ท่านพ่อมีความสำคัญกับฉันและจักรกลทุกคนมาก ฉันจึงอยากจะหาข้อมูลเกี่ยวกับพ่อให้ได้มากที่สุด” โซฟีกล่าวขอร้อง
“อันธค่อนข้างจะเอาแต่ใจบ้าง ถ้าหากว่าเขาตกลงยอมอยู่กับเธอ เรื่องนั้นฉันก็ไม่เป็นปัญหา” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
“เพื่อเป็นของรางวัลในระหว่างที่อันธได้อยู่กับฉัน ฉันจึงได้มอบความรู้เรื่องสมุนไพรกับการผลิตน้ำยาในระบบของฉันให้กับเขา ข้อมูลพวกนี้เป็นข้อมูลที่พ่อทิ้งเอาไว้ให้ แต่ในฐานะที่ฉันเป็นเพียงแค่เครื่องจักรฉันจึงไม่เคยใช้ข้อมูลพวกนั้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว อย่างไรก็ตามอันธก็ดูเหมือนจะให้ความสนใจข้อมูลพวกนี้มาก มันคงไม่มีปัญหาถ้าหากว่าฉันจะขอให้เขาอยู่กับฉันต่อไป” โซฟีกล่าว
ลินนิจเป็นวิญญาณอมตะที่มีความรู้อยู่ในระดับที่สูงมาก ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะไม่สามารถสร้างเผ่าพันธุ์จักรกลที่ทรงพลังขึ้นมาได้ ขณะเดียวกันอันธก็ถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการปรุงยาภายในพันธมิตร และการที่ข้อมูลพวกนั้นสามารถดึงดูดความสนใจของอันธได้ มันก็หมายความว่าข้อมูลเหล่านั้นจะต้องเป็นข้อมูลที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว
แม้ว่าการต้องห่างจากอันธไปเป็นเวลาอีก 2 ปีอาจจะทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเหงาหงอยอยู่เล็กน้อย แต่ถ้าหากในช่วงเวลา 2 ปีนี้อันธได้เรียนรู้วิชาปรุงยามาเพิ่ม มันก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากนัก
“แล้วเรื่องสร้างไททันล่ะ จะเอายังไง?” เซี่ยเฟยกล่าวถามหลังจากหยุดคิดไปชั่วขณะ
โซฟียื่นมือของเธอออกมาก่อนที่จะเผยให้เห็นภาพของแท่นโลหะขนาดใหญ่ที่กำลังถูกสร้างขึ้นในส่วนลึกของทะเลดวงดาว หรือมันอาจจะกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าแท่นโลหะนี้คืออู่ต่อย่านที่มีเอาไว้สำหรับการสร้างยานรบขนาดใหญ่อย่างไททัน
หุ่นยนต์จำนวนหลายร้อยล้านตัวกำลังยุ่งอยู่กับการก่อสร้างทั้งวันทั้งคืนโดยไม่หยุดพัก ท้ายที่สุดการกลับมาของเทพธิดาผู้พิทักษ์ก็ทำให้หุ่นยนต์ทุกตัวมีความสุข พวกมันจึงพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างไททันตามคำสั่งของเทพธิดาให้สำเร็จ
“อู่ต่อยานแห่งแรกจำเป็นจะต้องใช้เวลาในการก่อสร้าง 1 ปีกับอีก 7 เดือน ท้ายที่สุดขนาดของยานไททันก็ใหญ่มากคล้ายกับการเอาดาวเคราะห์หลาย ๆ ดวงมารวมเข้าด้วยกัน ดังนั้นการพยายามหลอมโลหะเพื่อสร้างอู่ต่อยานเพียงอย่างเดียวก็จำเป็นจะต้องใช้เวลานานหลายเดือนแล้ว”
เซี่ยเฟยพยักหน้าอย่างขอบคุณและเขาก็เริ่มนึกถึงคำพูดที่นิโคลเคยบอกเขาว่า มันไม่มีทางที่เขาจะสร้างอู่ต่อยานขนาดใหญ่โดยใช้เพียงแค่กำลังของมนุษย์ แต่ท้ายที่สุดความฝันของเขากลับเข้าใกล้ความเป็นจริงด้วยกำลังของหุ่นยนต์
“มอร์โรว์กำลังวิจัยชิ้นส่วนต่าง ๆ ของไททัน คาดว่าพวกเราจำเป็นจะต้องสร้างชิ้นส่วนประกอบยานขึ้นมาเป็นจำนวนมากกว่า 20 ล้านชุด ซึ่งมันก็น่าจะทำให้เขายุ่งไปอีกพักหนึ่ง”
เซี่ยเฟยชะงักไปครู่หนึ่ง เพราะเขาไม่คิดเลยว่าเพียงแค่ชิ้นส่วนที่ต้องใช้ในการประกอบยานก็มีจำนวนมากเกินกว่า 20 ล้านชิ้นเข้าไปแล้ว
“จากการคำนวณของฉัน เราควรจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 4 ปีถึงจะสามารถสร้างยานไททันลำแรกขึ้นมาได้ ซึ่งตัวเลขนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามความคืบหน้าของการวิจัยและพัฒนา แต่เวลาในการผลิตไททันลำต่อ ๆ ไปจะเร็วขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน”
4 ปี!
นี่คือการก่อสร้างยานที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลเชียวนะ!!
ไททันมีขนาดเท่ากับดาวเคราะห์หลาย ๆ ดวงนำมารวมกัน ซึ่งไม่ว่าเซี่ยเฟยจะจินตนาการยังไง แต่เขาก็ไม่มีทางคิดถึงระยะเวลาการสร้างเพียงแค่ 4 ปีอย่างแน่นอน
คำพูดของโซฟีทำให้เซี่ยเฟยเริ่มจินตนาการถึงกองยานไททันที่มีขนาดใหญ่เทียบเท่ากับกาแล็กซี และอำนาจในการทำลายล้างของพวกมันก็อาจจะก่อให้เกิดหลุมดำในจักรวาลขึ้นมาได้
“ฉันขอฝากเธอจัดการในเรื่องนี้ด้วยก็แล้วกัน ถ้าหากพวกเราไม่อยากถูกใครมารังแกพวกเราก็ต้องพัฒนาความแข็งแกร่งเพื่อไม่ให้ใครเข้ามาดูถูกพวกเราได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องจริงไม่ว่าเวลาจะได้ผ่านพ้นไปเนิ่นนานแค่ไหนก็ตาม” เซี่ยเฟยกล่าว
“มันยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ฉันคิดว่าฉันจะลบหอคอยแฝดที่เซียน่าได้สร้างเอาไว้ในอาณาจักรเทียนโลหิต ไม่ทราบว่าคุณพอจะมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่ายังไงบ้าง?” โซฟีกล่าว
“มันไม่สำคัญหรอกว่าเธอจะลบหอคอยพวกนั้นออกไปหรือเปล่า แต่พวกเธอไม่ควรใช้หุ่นยนต์นาโนในการเปิดพื้นที่สมองส่วนที่ 7 อีกต่อไป ไม่อย่างนั้นมันจะก่อให้เกิดปัญหาในระยะยาว” เซี่ยเฟยกล่าว
โซฟีในตอนนี้เชื่อฟังคำพูดของเซี่ยเฟยมาก เธอจึงตัดสินใจลบหอคอยแห่งคำสาปออกจากอาณาจักรเทียนโลหิตในทันที ซึ่งในระยะสั้นมันอาจจะเป็นข้อเสียสำหรับอาณาจักรเทียนโลหิตไปบ้าง แต่ในระยะยาวมันย่อมเป็นข้อดีสำหรับอาณาจักรนี้อย่างแน่นอน
***************