ตอนที่แล้วตอนที่ 505 ลินนิจยังมีชีวิตอยู่?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 507 อดีตและปัจจุบันของอันธ

ตอนที่ 506 ราชากระป๋อง


ตอนที่ 506 ราชากระป๋อง

ลินนิจผู้ซึ่งเคยเป็นอดีตราชาเผ่าพันธุ์จักรกลคือผู้ซึ่งเคยสร้างอารยธรรมอันรุ่งโรจน์ขึ้นมาในจักรวาล และเขายังได้ครอบครองเทคโนโลยีระดับสูงอยู่อย่างมากมาย ซึ่งแม้แต่เทพธิดาผู้ถึงเป็นลูกสาวของอดีตราชาก็ยังไม่สามารถคิดค้นเทคโนโลยีที่เทียบชั้นกับลินนิจได้ แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาจนถึงปัจจุบัน

ย้อนกลับไปในตอนที่ลินนิจเคยอยู่กับเผ่าพันธุ์จักรกลนั้น เขาเคยได้รับเชิญให้ไปท่องเที่ยวในดินแดนของผู้ใช้กฎ แต่หลังจากที่ราชาผู้นี้ได้เข้าไปในดินแดนของผู้ใช้กฎแล้วข่าวคราวของเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

ก่อนที่ในเวลาต่อมาอีกเพียงแค่ไม่นานเผ่าพันธุ์จักรกลจะถูกทำลายจากพวกผู้ใช้กฎที่เชิญตัวราชาของพวกเขาไป ทำให้เผ่าพันธุ์ของพวกเขาเหลือจำนวนผู้รอดชีวิตมาจนถึงปัจจุบันเพียงแค่น้อยนิดเท่านั้น และนี่ก็คือความอัปยศที่จักรกลทุกคนไม่มีวันลืม

แต่จู่ ๆ เทพธิดาผู้พิทักษ์ก็ได้บอกว่าลินนิจยังคงมีชีวิตอยู่ภายในดินแดนของผู้ใช้กฎ มันจึงทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ท่านลินนิจยังมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ?!”

“นี่มันเรื่องจริงรึเปล่า?”

มอร์โรว์กับวอร์สตาร์ต่างก็รีบถามขึ้นมาอย่างฉับพลัน

“สาเหตุที่ฉันรู้ว่าผู้ใช้กฎกำลังวางแผนทำลายอารยธรรมมนุษย์โบราณ นั่นก็เพราะว่าฉันได้รับข้อความมาจากพ่อ ดูเหมือนว่าแม้แต่ตัวของพ่อเองก็ไม่อยากให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ถูกทำลายหายไป” เทพธิดาผู้พิทักษ์กล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นท่านลินนิจได้พยายามติดต่อหาคุณอีกหรือเปล่า?” มอร์โรว์กล่าวถาม

“ตั้งแต่ที่ท่านพ่อหายตัวไปมีข้อความส่งมาถึงฉันสั้น ๆ เพียงแค่ 3 ครั้ง ครั้งแรกคือในตอนที่เราตั้งรกรากอยู่ในพันธมิตรมนุษย์ได้เพียงแค่ไม่นาน ครั้งที่ 2 คือการเตือนว่ามนุษย์กำลังตกอยู่ในอันตราย ส่วนครั้งสุดท้ายคือตอนที่พวกเรากำลังร่อนเร่อยู่ในอวกาศ หลังจากที่พวกเราตัดสินใจทำลายมนุษย์ส่วนใหญ่ลง ในครั้งนั้นพ่อเป็นคนส่งพิกัดดินแดนแห่งความลับแห่งนี้มาให้กับฉัน และหลังจากนั้นท่านพ่อก็ไม่เคยส่งข้อความใด ๆ มาอีกเลย”

“จากข้อความที่พ่อที่ส่งมาทำให้ฉันได้รู้ว่าท่านพ่อยังคงมีชีวิตอยู่ในดินแดนของผู้ใช้กฎอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าการเคลื่อนไหวของเขาน่าจะถูกจำกัด ทำให้เขาไม่สามารถที่จะติดต่อมาหาเราได้ตามที่เขาต้องการ” เทพธิดาผู้พิทักษ์กล่าว

คำบอกเล่าของเทพธิดาทำให้มอร์โรว์กับวอร์สตาร์เผยสีหน้าออกมาอย่างเศร้าสร้อย เพราะท้ายที่สุดดินแดนของผู้ใช้กฎก็เป็นดินแดนอันลึกลับสำหรับพวกเขามากจนเกินไป และมันก็ไม่มีใครรู้ตำแหน่งที่ตั้งของดินแดนผู้ใช้กฎเลย

ดังนั้นหากพวกเขาต้องการที่จะค้นหาร่องรอยของอดีตราชา มันก็ไม่ต่างไปจากการพยายามงมเข็มในมหาสมุทร เพราะจักรวาลมีความกว้างใหญ่มากและพวกเขาก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะต้องเริ่มออกค้นหาตั้งแต่ตรงไหน

“คุณกำลังจะบอกว่าคุณจะไปในดินแดนของผู้ใช้กฎในอีก 2 ปีใช่ไหม?” เทพธิดาผู้พิทักษ์ถามเซี่ยเฟยด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

“ใช่ ฉันจะต้องไปในดินแดนของผู้ใช้กฎในอีก 2 ปี 3 เดือน 11 วัน” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“มอร์โรว์, วอร์สตาร์ ฉันขอคุยกับเซี่ยเฟยส่วนตัวหน่อยได้ไหม?” เทพธิดากล่าว

“ได้ครับ” ทั้งมอร์โรว์และวอร์สตาร์ต่างก็รีบถอยออกไปด้วยความเคารพ เหลือเพียงแค่เทพธิดาผู้พิทักษ์กับเซี่ยเฟยอยู่ภายในห้องเพียงลำพังเท่านั้น

“คุณช่วยตามหาพ่อฉันหน่อยได้ไหม?” เทพธิดาผู้พิทักษ์กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ

“เธอช่วยฉันสร้างยานไททันได้ไหมล่ะ?” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“นี่คือเงื่อนไขของคุณงั้นเหรอ?” เทพธิดาผู้พิทักษ์กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ไม่ใช่เงื่อนไขแต่เป็นข้อเสนอ ในจักรวาลนี้คงไม่มีใครอยากอยู่ในเงามืดไปตลอดกาล และฉันก็เชื่อว่าเธอก็คงจะต้องการใช้ชีวิตอย่างอิสระด้วยเหมือนกัน” เซี่ยเฟยกล่าว

“การสร้างไททันมันอันตรายมากเลยนะ ถ้าหากว่าพวกผู้ใช้กฎรู้เรื่องนี้เข้า…”

“ทุกอย่างในจักรวาลมีความเสี่ยงอยู่แล้ว แต่ถ้าหากว่าเธอต้องการที่จะได้รับอิสระเธอก็แค่จะต้องยอมเสี่ยงมากหน่อย” เซี่ยเฟยกล่าว

“ถ้าฉันเป็นคนสร้างไททันขึ้นมา คุณไม่กลัวว่าฉันจะใช้ยานลำนี้กับมนุษย์งั้นเหรอ?” เทพธิดาผู้พิทักษ์กล่าว

“มนุษย์ในปัจจุบันไม่คุ้มค่าที่จะต้องใช้ยานไททันหรอก ถ้าหากว่าพวกเธอต้องการที่จะทำลายมนุษย์ลงจริง ๆ แค่หุ่นยนต์ในดินแดนแห่งความลับนี่เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะกวาดล้างมนุษย์ให้หายไปจากจักรวาลแล้ว ดังนั้นฉันจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเชื่อใจเธอในเรื่องนี้” เซี่ยเฟยกล่าว

“ขอบคุณมากที่ยังยอมเชื่อใจฉันอยู่ เอาล่ะฉันจะทำตามคำแนะนำของคุณ หลังจากนี้มนุษย์กับหุ่นยนต์จะเป็นมิตรที่ดีต่อกันตลอดไป” เทพธิดาผู้พิทักษ์กล่าวอย่างมีความสุข

“ถ้าอย่างนั้นฉันก็สัญญาว่าฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะหาพ่อของเธอในดินแดนของผู้ใช้กฎให้พบให้ได้” เซี่ยเฟยกล่าว

คำสัญญาของเซี่ยเฟยทำให้เทพธิดาผู้พิทักษ์รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะถึงแม้ว่าเธอจะมีตัวตนมาเป็นเวลานาน แต่เธอก็ยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้จากพ่อของเธออีกอย่างมากมาย

“คุณมีหุ่นยนต์รับใช้ผู้ซื่อสัตย์คอยอยู่เคียงข้างตลอดเลยใช่ไหม?” เทพธิดาผู้พิทักษ์ถาม

“ใช่ เขาชื่อกระป๋อง”

“คุณช่วยออกไปก่อนแล้วทิ้งกระป๋องกับอันธเอาไว้ที่นี่ได้ไหม?”

คำพูดของเทพธิดาประโยคนี้ทำให้เซี่ยเฟยตกใจอยู่ครู่หนึ่ง เพราะเขาไม่เข้าใจว่าเธอกำลังพยายามจะทำอะไรกันแน่

“ความร่วมมือของพวกเราเริ่มต้นด้วยความเชื่อใจ คุณเป็นคนพูดเรื่องนี้เองใช่ไหม?” เทพธิดาผู้พิทักษ์เน้นย้ำขึ้นมาอีกครั้ง

เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่เขาจะหยิบกระป๋องออกมาจากแหวนมิติ จากนั้นเขาก็ถอดสร้อยที่คอออกมาวางลงบนพื้นอย่างเบามือ

“นายจะทิ้งฉันเอาไว้แบบนี้ไม่ได้นะ!” อันธกล่าวขึ้นมาอย่างกังวล

“นายท่าน! นายท่านไม่ต้องการกระป๋องแล้วงั้นเหรอ?” กระป๋องกล่าวโดยท่าทางที่เกือบจะร้องไห้

เซี่ยเฟยไม่สามารถทนเห็นท่าทางเว้าวอนของทั้งสองคนได้อีกต่อไป แต่เขาก็ยังคงกัดฟันเดินจากไปเพื่อแสดงความไว้วางใจว่าเขาเชื่อใจเทพธิดา

“3 เดือนหลังจากนี้ฉันจะส่งพวกเขากลับไปหาคุณเอง” เทพธิดาผู้พิทักษ์กล่าวอย่างนุ่มนวล

ในอดีตทีมผจญภัยของเขาเคยประกอบไปด้วยหนึ่งคน, หนึ่งสัตว์อสูร, หนึ่งหุ่นยนต์และหนึ่งวิญญาณ แต่เมื่อเขากลับมาเพียงแค่หนึ่งคนกับหนึ่งสัตว์อสูร มันจึงทำให้บรรยากาศค่อนข้างที่จะเงียบเหงาอยู่เล็กน้อย

โชคดีที่เทพธิดาผู้พิทักษ์แสดงออกถึงการหลุดพ้นออกมาจากพันธนาการในจิตใจ และเธอก็เต็มใจที่จะช่วยเซี่ยเฟยสร้างไททันขึ้นมา ซึ่งอย่างน้อยมันก็ทำให้เซี่ยเฟยได้รับพันธมิตรที่ดีมาคอยช่วยงานซึ่งเป็นภารกิจหลักของเขาอีกหนึ่งคน

ณ วังของคอนสแตนติน

“เซี่ยเฟย!! ในที่สุดนายก็กลับมาแล้ว ก่อนหน้านี้นายหายไปไหนมาตั้ง 1 เดือน?” คอนสแตนตินกล่าวอย่างกังวลใจ

ท้ายที่สุดเซี่ยเฟยก็คือผู้ปกครองภูมิภาคดาวเหวทมิฬคนปัจจุบัน และถ้าหากว่าเขาได้หายตัวไปในอาณาจักรเทียนโลหิต มันก็ไม่มีทางที่อาณาจักรเทียนโลหิตจะสามารถปัดความรับผิดชอบในเรื่องนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นการค้าขายเรดนาเร็ดเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นและคอนสแตนตินยังคงรอให้เซี่ยเฟยเป็นคนตัดสินใจ

“ฉันแค่ออกไปเดินเล่นแถว ๆ นี้มาน่ะ” เซี่ยเฟยกล่าว

“ออกไปเดินเล่นเป็นเดือน ๆ เนี่ยนะ! นายหายตัวไปไหนมากันแน่?” คอนสแตนตินกล่าวพร้อมกับเผยใบหน้าออกมาอย่างเหยเก

เซี่ยเฟยตอบกลับไปเพียงแค่รอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะเดินตามคอนสแตนตินเข้าไปภายในวัง จากนั้นเขาก็เดินลงไปนั่งลงในห้องรับแขกที่คอยคนรับใช้ยกอาหารและเครื่องดื่มมาให้กับเขาอย่างมากมาย

ระหว่างอาศัยอยู่ในดินแดนของหุ่นยนต์เซี่ยเฟยแทบที่จะไม่ได้กินอาหารดี ๆ แบบนี้เลย ดังนั้นเขาจึงรีบกินอาหารเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง เพื่อพยายามเติมเต็มสารอาหารที่ขาดไปในก่อนหน้านี้

“เรื่องเรดนาเร็ดเป็นยังไงบ้าง?” เซี่ยเฟยเริ่มกล่าวถามอย่างเป็นกันเองหลังจากที่เขากินอาหารเข้าไปเป็นจำนวนมาก

คอนสแตนตินรีบหยิบเอกสารกองหนาออกมามอบให้กับเซี่ยเฟย โดยภายในเอกสารได้บันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณเรดนาเร็ดที่อาณาจักรโลหิตต้องการจะขายให้เซี่ยเฟยไปอีก 10 ปี ตลอดจนรายการวัตถุดิบที่พวกเขาต้องการที่จะแลกเปลี่ยนกับเรดนาเร็ดพวกนี้

ท้ายที่สุดอาณาจักรเทียนโลหิตก็เป็นดินแดนที่มีความแห้งแล้งมาก สิ่งของส่วนใหญ่ที่พวกเขาต้องการจึงเป็นของในปัจจัย 4 อย่างอาหารและยา ซึ่งมันก็มีของใช้ฟุ่มเฟือยอยู่ในรายการบ้างเล็กน้อยเท่านั้น แน่นอนว่าของเหล่านั้นน่าจะเป็นข้อเสนอจากชนชั้นสูงของอาณาจักร

เมื่อพิจารณาจากเงื่อนไขที่อาณาจักรเทียนโลหิตได้เสนอมาแล้ว มันก็ต้องบอกว่าการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้เป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่ามาก ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะใช้เรดนาเร็ดไปสร้างบ้านจริง ๆ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขาขาดทุนจากการแลกเปลี่ยนเลยแม้แต่น้อย

“ฉันยอมรับข้อเสนอตามนี้” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

คำตอบรับของเซี่ยเฟยเหมือนกับทำให้คอนสแตนตินยกภูเขาออกมาจากอก และถึงแม้ว่าในความคิดของเซี่ยเฟยเรดนาเร็ดพวกนี้จะมีราคาถูกอย่างไม่น่าเชื่อ แต่สำหรับมุมมองคนในอาณาจักรอย่างคอนสแตนตินแล้ว การแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่ามากสำหรับอาณาจักรของพวกเขาเช่นกัน

“เอาล่ะเพื่อเป็นของรางวัลสำหรับนายที่ช่วยฉันรวบรวมเรดนาเร็ด ฉันจะมอบของรางวัลเป็นสิทธิ์ในการซื้อขายเรดนาเร็ดกับอาณาจักรของฉันอย่างเต็มที่รวมถึงอาวุธและยานรบจำนวนหนึ่งด้วย หวังว่าฉันคงจะไม่ต้องบอกนะว่าหลังจากนี้นายควรจะทำอะไรต่อไป” เซี่ยเฟยกล่าวเสริม

คอนสแตนตินพยักหน้ารับซ้ำ ๆ และมองไปที่เซี่ยเฟยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง ท้ายที่สุดมันก็เห็นได้ชัดว่าเซี่ยเฟยพยายามช่วยให้เขาสร้างฐานอำนาจขึ้นมาภายในอาณาจักร เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแย่งชิงบัลลังก์ที่กำลังจะมาถึง

ความจริงแล้วเพียงแค่การได้รับความไว้วางใจจากเซี่ยเฟยในการรวบรวมเรดนาเร็ดในครั้งนี้ มันก็ทำให้ชื่อเสียงของคอนสแตนตินไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เหล่าบรรดาขุนนางทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่ปฏิบัติตัวต่อคอนสแตนตินอย่างสุภาพ และถ้าหากว่าเซี่ยเฟยช่วยสนับสนุนเรื่องอาวุธกับยานรบให้กับเขา มันก็คงจะทำให้เขามีโอกาสได้ครองบัลลังก์เป็นราชาคนต่อไปอย่างแน่นอน

“เอาล่ะคืนนี้ฉันจะไปลาพ่อของนาย แล้วฉันก็จะกลับไปยังที่ของฉันสักที” เซี่ยเฟยกล่าว

3 เดือนผ่านไป

ในที่สุดเวลาที่เซี่ยเฟยกับเทพธิดาผู้พิทักษ์ตกลงกันก็เดินทางมาถึง เซี่ยเฟยจึงขับยานแวมไพร์มาเพียงแค่ลำพังมุ่งหน้าไปยังเขตพื้นที่ดาวอันรกร้างที่อยู่ด้านนอกภูมิภาคดาวเหวทมิฬ

ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาขนอุยยังคงนอนอยู่บนโซฟาอย่างเกียจคร้าน แอวริลก็เดินทางกลับไปยังพันธมิตร เซี่ยเฟยจึงไม่มีใครคอยให้พูดคุยด้วยเหมือนกับเมื่อก่อน มันจึงทำให้ช่วงตลอดเวลา 3 เดือนที่ผ่านมานี้เขาใช้ชีวิตอย่างค่อนข้างเงียบเหงา

ทันใดนั้นเองมันก็ได้มีรูหนอนถูกเปิดห่างออกไปไม่ไกล ก่อนที่มันจะมียานอวกาศลำเล็กปรากฏตัวขึ้นตรงข้ามกับแวมไพร์

ทันทีที่ยานอวกาศทั้งสองลำได้เชื่อมต่อสะพานเข้าสู่กันและกัน ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงของกระป๋องดังขึ้นมาตั้งแต่ไกล

“นายท่าน!”

“นายท่าน! กระป๋องกลับมาแล้ว”

“กระป๋องคิดถึงนายท่านจังเลย”

กระป๋องกระโดดเข้ามาในอ้อมแขนเซี่ยเฟยสุดแรงและกอดเขาเอาไว้อย่างไม่ยอมปล่อย จนทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

“นี่มันกระป๋องจริง ๆ งั้นเหรอ?”

ย้อนกลับไปในตอนที่กระป๋องพยายามปกป้องเขาในตอนที่พวกเขาพบเจอกันเป็นครั้งแรก มันได้มีบาดแผลที่ร้ายแรงถูกทิ้งไว้บนร่างกายของกระป๋องเป็นจำนวนมาก และถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะพยายามรักษาบาดแผลเหล่านั้น แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะทำให้บาดแผลหายออกไปจากร่างของกระป๋องได้

อย่างไรก็ตามในวันนี้กระป๋องกลับมีรูปลักษณ์เหมือนใหม่ ยิ่งไปกว่านั้นเปลือกนอกของมันยังทำขึ้นมาจากโลหะเบาที่แข็งแกร่งคล้ายกับโลหะที่ใช้ทำร่างของเซียน่า และแม้แต่ดวงตาของกระป๋องก็ดูให้ความแตกต่างไปจากเดิม

“เทพธิดาผู้พิทักษ์ทำอะไรกับนายกันแน่?” เซี่ยเฟยถามด้วยความสงสัย

“ท่านเทพธิดาได้ช่วยปรับแต่งกระป๋องในทุก ๆ ด้าน นายยังจำร่างสำรองของเซียน่าที่อยู่บนยานลำนั้นได้ไหม?” วอร์สตาร์กล่าวด้วยรอยยิ้มขณะที่เขาค่อย ๆ เดินเข้ามาหาเซี่ยเฟยอย่างช้า ๆ

“ฉันว่าแล้วว่าโลหะบนร่างของกระป๋องดูคุ้น ๆ ที่แท้มันก็เป็นโลหะที่เคยใช้ประกอบเป็นร่างของเซียน่านี่เอง” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกตะลึง

“ใช่แล้ว ตอนนี้ชิ้นส่วนกลไกทั้งหมดในร่างของกระป๋องทำขึ้นมาจากโลหะวูรี่อัลลอย ซึ่งเหนือกว่าโลหะโครรี่อัลลอยและโฟวรี่อัลลอยที่เป็นโลหะที่ดีที่สุดในพันธมิตรตอนนี้มาก และเรายังได้ติดตั้งระบบเครื่องยนต์ของเซียน่าลงในร่างของกระป๋องด้วย มันอาจจะกล่าวได้เลยว่านอกเหนือจากพวกเราแล้วกระป๋องคือหุ่นยนต์ที่ทรงพลังที่สุด”

“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้กระป๋องก็มีระบบจำลองพลังพิเศษเหมือนกับนายแล้วใช่ไหม?” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างยินดี เพราะในฐานะที่กระป๋องคือพวกพ้องคนสำคัญ มันจึงเป็นเรื่องที่ดีที่กระป๋องได้พัฒนาความสามารถขึ้นมา

“น่าเสียดายที่ระบบจำลองพลังพิเศษไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถปลูกถ่ายไปให้กับใครง่าย ๆ ดังนั้นพวกเราจึงไม่สามารถจะทำอะไรกับเรื่องนี้ได้จริง ๆ” วอร์สตาร์กล่าวพร้อมกับกางแขนออกทั้งสองข้าง

เซี่ยเฟยรู้สึกผิดหวังอยู่เล็กน้อย แต่เขาก็ต้องรู้สึกตกใจกับสิ่งที่วอร์สตาร์พูดหลังจากนั้น

“ถึงแม้เราจะไม่สามารถปลูกถ่ายระบบจำลองพลังพิเศษให้กับกระป๋องได้ แต่ท่านเทพธิดาก็ได้มอบคำสั่งประกาศิตของหุ่นยนต์ให้กับกระป๋องแล้ว มันจึงทำให้แม้แต่ตัวของท่านเทพธิดาก็ไม่สามารถออกคำสั่งหุ่นยนต์ที่ขัดต่อคำสั่งของกระป๋องได้ หรือมันอาจจะกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าตอนนี้กระป๋องคือราชาของหุ่นยนต์ทั้งหมด”

***************

อยู่ๆ น้องกระป๋องที่น่ารักก็ถูกยกระดับเป็นราชาซะงั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด