ตอนที่ 505 ลินนิจยังมีชีวิตอยู่?
ตอนที่ 505 ลินนิจยังมีชีวิตอยู่?
เล่ห์มายา!
ลูกบอลแสงผสานร่างเข้ากับขนอุยอย่างฉับพลัน ซึ่งในพริบตาต่อมามันก็มีร่างของเซี่ยเฟยปรากฏขึ้นอีกคน
“เอาเลย!” เซี่ยเฟยตะโกนด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
ทันทีที่พูดจบเซี่ยเฟยกับวอร์สตาร์ก็พุ่งออกไปพร้อมกัน โดยวอร์สตาร์มีหน้าที่ในการควบคุมกองทัพหุ่นยนต์เอาไว้ ขณะที่เซี่ยเฟยมีหน้าที่ในการจัดการแม่ทัพหุ่นยนต์อย่างเซียน่า
“ควบแน่น!”
“แข็ง!”
พริบตาต่อมาหุ่นยนต์นับหมื่นก็รู้สึกเหมือนกับพวกมันถูกแช่แข็งเอาไว้ ทำให้พวกมันไม่สามารถที่จะก้าวเท้าเข้าไปในสนามรบได้เลยแม้แต่น้อย
ในเวลาเดียวกันแถบพลังงานของวอร์สตาร์ก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเวลา 3 นาทีต่อจากนี้จะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะตัดสินชะตากรรมในอนาคต เพราะท้ายที่สุดเมื่อพลังงานภายในร่างหมดลง วอร์สตาร์ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้อีกต่อไปแล้ว ชะตากรรมของเขาจึงถูกแขวนเอาไว้กับเซี่ยเฟยโดยสมบูรณ์
การพยายามใช้พลังปิดกั้นกองทัพหุ่นยนต์ทั้งหมดเอาไว้คือขีดจำกัดสูงสุดเท่าที่เขาจะทำได้แล้ว หลังจากนี้มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเซี่ยเฟยจะสามารถจัดการกับเซียน่าได้หรือไม่
จิ้ว! จิ้ว! จิ้ว! จิ้ว!
เซียน่าเริ่มยิงลำแสงเลเซอร์ออกมาจากร่าง ซึ่งลำแสงเลเซอร์พวกนี้สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างว่องไวราวกับอสรพิษ และมันย่อมเป็นอาวุธที่เหมาะสำหรับการต่อสู้ในระยะประชิดมากกว่าระยะไกลอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ย๊าก!
เซี่ยเฟยใช้ดาบดราก้อนสเกลไขว้กันคล้ายกับกรรไกร พร้อมกับพุ่งตัวไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็วราวกับว่าเขาต้องการจะใช้การจู่โจมในครั้งนี้ตัดศีรษะเซียน่าให้หลุดออกมาจากร่าง
เซียน่าส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนที่เธอจะควบคุมลำแสงเลเซอร์ 2 เส้นเข้าจู่โจมเซี่ยเฟย และใช้ลำแสงเลเซอร์อีกสองเส้นในการปกป้องร่างของเธอเอาไว้ ซึ่งการจู่โจมของเซียน่าก็คล้ายกับการขว้างบูมเมอแรงที่วกกลับไปกลับมา เพียงแต่การโจมตีด้วยเลเซอร์ของเซียน่าทั้งรวดเร็วและแม่นยำกว่าการจู่โจมด้วยบูมเมอแรง
ทันใดนั้นชายหนุ่มก็พลิกร่างของเขาอย่างฉับพลันพยายามใช้ดาบคู่ภายในมือฟันใส่ขาช่วงล่างของเซียน่า อย่างไรก็ตามมันก็ดูเหมือนกับว่าจักรกลหญิงคนนี้จะเดาการเคลื่อนไหวของเซี่ยเฟยอยู่แล้ว ลำแสงเลเซอร์ทั้งสองเส้นที่เธอเก็บเอาไว้ใช้ในการป้องกันจึงเคลื่อนไหวมาปิดกั้นการจู่โจมอย่างรวดเร็ว
“ไม่มีประโยชน์หรอก ฉันเดาการเคลื่อนไหวของแกได้ตั้งนานแล้ว” เซียน่ากล่าวด้วยรอยยิ้มราวกับว่าการเผชิญหน้ากับเซี่ยเฟยไม่ใช่สิ่งที่เธอจำเป็นจะต้องกังวลเลยแม้แต่น้อย
เซี่ยเฟยยังคงรักษาความสงบของเขาเอาไว้และจู่โจมในระยะประชิดด้วยความเร็วที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสำหรับผู้ที่มองการต่อสู้จากระยะไกล พวกเขาก็จะเห็นเหมือนกับว่าเส้นแสงสีสันต่าง ๆ กำลังพุ่งเข้าปะทะกัน และถ้าหากว่าใครไม่ได้มีสายตาที่ว่องไวพอ พวกเขาก็ไม่มีทางที่จะเห็นการต่อสู้ระหว่างหนึ่งมนุษย์หนึ่งจักรกลคู่นี้ได้เลย
จู่ ๆ สีหน้าของเซียน่าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นจริงจัง เมื่อเธอได้พบว่าความคิดของเซี่ยเฟยหยุดลงอย่างกะทันหัน
เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากเกินไป เพราะมนุษย์จะสามารถหลบการโจมตีพร้อม ๆ กับจู่โจมออกมาได้ยังไงทั้ง ๆ ที่ใช้ออกไปเพียงแค่สัญชาตญาณ
“หรือว่าเขาจะเกิดมาพร้อมกับสายเลือดนักรบในตำนาน?!” เซียน่าอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
ขณะนี้เซี่ยเฟยยังคงหลบหลีกและโจมตีออกไปอย่างต่อเนื่อง แต่เขาได้ใช้เพียงแค่สัญชาตญาณในการกำหนดการเคลื่อนไหวของเขาเท่านั้น
ความคิดงั้นเหรอ?
นักรบที่ฝึกฝนการเคลื่อนไหวมาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนแบบเขาไม่จำเป็นจะต้องใช้ความคิดในระหว่างการหลบหลีกหรือการจู่โจมด้วยซ้ำ เพราะสิ่งเหล่านั้นได้ถูกฝังเอาไว้ในเลือดเนื้อของเขาแล้ว แล้วมันก็คงจะมีเพียงแค่นักสู้ที่แท้จริงเท่านั้นที่จะสามารถใช้เพียงแค่สัญชาตญาณในระหว่างการเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งได้
เมื่อเซี่ยเฟยเริ่มเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณ สถานการณ์ทางฝั่งของชายหนุ่มก็ค่อย ๆ เริ่มมีความได้เปรียบมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกการจู่โจมของเขาต่างก็ล้วนแล้วแต่มุ่งเป้าไปยังตำแหน่งที่มีการป้องกันอ่อนแอที่สุด ซึ่งแม้แต่การพยายามมองหาจุดอ่อนของศัตรูก็คือสิ่งที่เซี่ยเฟยสามารถทำได้โดยที่เขาไม่จำเป็นจะต้องใช้ความคิด
ในความเป็นจริงแม้แต่ตัวของเซี่ยเฟยเองก็ไม่รู้ว่าสัญชาตญาณของเขาจะสามารถทำได้จนถึงขนาดนี้ เพราะในระหว่างที่เขาพยายามศึกษาหาวิธีจัดการกับเซียน่า เขาก็ได้พบว่ามันมีเพียงแค่การหยุดคิดในระหว่างการต่อสู้เท่านั้นที่จะทำให้เขาเอาชนะจักรกลคนนี้ได้
ดังนั้นเซี่ยเฟยจึงตัดสินใจละทิ้งความคิดในระหว่างการต่อสู้ออกไปอย่างสิ้นเชิง และผลลัพธ์จากการใช้เพียงแค่สัญชาตญาณมันก็ทำให้แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังรู้สึกประหลาดใจอย่างแท้จริง
“38,000 เมตรต่อวินาที! โอ้แม่เจ้า! นี่น่ะเหรอความแข็งแกร่งที่แท้จริงของนาย” อันธอุทานเมื่อได้เห็นความเร็วของเซี่ยเฟยค่อย ๆ เพิ่มขึ้น
“40,000 เมตรต่อวินาที! ความเร็วของนายเพิ่มขึ้นขนาดนี้มาได้ยังไง?!”
น่าเสียดายที่ตอนนี้เซี่ยเฟยหลงเหลือเพียงแค่สัญชาตญาณที่เอาไว้ใช้ในการเคลื่อนไหวเท่านั้น ไม่ว่าอันธจะพยายามตะโกนยังไงมันก็ไม่มีทางที่เซี่ยเฟยจะได้ยินสิ่งที่เขาส่งเสียงออกไป
ความเร็วของชายหนุ่มยังคงค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจากเดิมไปเรื่อย ๆ ส่วนวิธีการจู่โจมอันเรียบง่ายของเขาก็กลับกลายเป็นการจู่โจมที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเช่นเดียวกัน
การเคลื่อนไหวแบบนี้น่าจะมีเพียงแต่ปรมาจารย์นักสู้เท่านั้นที่ทำได้ และด้วยการโจมตีจากดาบดราก้อนสเกลซึ่งเป็นอาวุธระดับอิมมอทอลลิตี้ มันจึงทำให้ร่างกายของเซียน่าได้รับความเสียหายมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะท้ายที่สุดร่างกายของเธอก็ไม่ได้เป็นโลหะเหลวเหมือนกับวอร์สตาร์ ด้วยเหตุนี้เมื่อเวลาผ่านไปเซียน่าจึงเต็มไปด้วยความกังวล
บนร่างกายของเธอมีบาดแผลที่ชัดเจนปรากฏขึ้นมาแล้วหลายร้อยแห่ง โชคดีที่ลำแสงเลเซอร์สามารถปกป้องพื้นที่ส่วนสำคัญบนร่างกายของเธอเอาไว้ได้ ดังนั้นถึงแม้ภายนอกมันจะดูเหมือนเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่มันก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้เธอล้มลงและพ่ายแพ้ให้กับการต่อสู้ในครั้งนี้
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมามันไม่เคยมีครั้งไหนที่ศัตรูสามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับคลื่นสมองของเธอได้ เธอจึงคุ้นชินกับการต่อสู้โดยใช้พลังทำนายมาเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว
แต่จู่ ๆ วันนี้เธอกลับได้พบกับนักรบที่อาศัยการเคลื่อนไหวเพียงแค่สัญชาตญาณ เซียน่าจึงสูญเสียพลังพิเศษของเธอไป แล้วมันก็ทำให้เธอเริ่มตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบมากขึ้นเรื่อย ๆ
ฉัวะ!
ในเวลาที่แถบพลังงานแถบสุดท้ายของวอร์สตาร์หายไป ดาบดราก้อนสเกลในมือของเซี่ยเฟยก็ตัดผ่านเกราะโลหะผสมเข้าไปทำลายระบบพลังงานของเซียน่าโดยตรง
ตูม!
พริบตาต่อมามันก็ได้ก่อให้เกิดการระเบิดขึ้นมาอย่างรุนแรง เพราะท้ายที่สุดพลังงานภายในร่างของเซียน่าก็มีมากกว่าพลังงานในร่างของวอร์สตาร์ถึงสามเท่า ดังนั้นเมื่อพลังงานภายในร่างของเธอรั่วไหลออกมามันจึงก่อให้เกิดการระเบิดขึ้นมาอย่างรุนแรง
—
“สุดท้ายคุณก็ฆ่าเธอสินะ” วอร์สตาร์กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“นายก็น่าจะรู้ว่าในสนามรบมันพร้อมจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาได้ตลอดเวลา” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับยักไหล่
ด้วยนิสัยของเซี่ยเฟยแน่นอนว่าเขาไม่มีทางปล่อยให้เซียน่ารอดชีวิตกลับไป แต่ในครั้งนี้เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำลายเซียน่าลงจริง ๆ เพราะการเคลื่อนไหวทุกอย่างมันเกิดขึ้นตามสัญชาตญาณไม่ใช่ความคิดเหมือนกับการต่อสู้ในครั้งที่ผ่าน ๆ มา
กองทัพหุ่นยนต์ยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงแม้ว่าพวกมันจะหลุดออกมาจากพันธนาการของวอร์สตาร์แล้วก็ตาม เพราะท้ายที่สุดเมื่อผู้มีอำนาจในการควบคุมอันดับ 2 อย่างเซียน่าได้ถูกทำลายลง ผู้มีอำนาจควบคุมอันดับ 3 อย่างมอร์โรว์จึงสามารถเข้าควบคุมหุ่นยนต์เหล่านี้ได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายาม
“ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไงแต่ความวุ่นวายในครั้งนี้ก็จบลงแล้ว พวกเรากลับไปพบเทพธิดากันเถอะ หวังว่าเธอจะหลุดพ้นออกมาจากความเศร้าโศกในอดีตเสียที” มอร์โรว์กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
—
เมื่อเซี่ยเฟย, มอร์โรว์และวอร์สตาร์ได้กลับมาถึงเมืองไอร่อน พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับจากหุ่นยนต์ในกลุ่มนกพิราบที่ในตอนนี้พวกเขาได้ขึ้นมาใช้ชีวิตอยู่เหนือพื้นดินแล้ว
มอร์โรว์กับวอร์สตาร์ยังคงนิ่งเงียบโดยไม่พูดอะไร เพราะท้ายที่สุดเซียน่าก็เป็น 1 ใน 4 จักรกลคนสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน แต่ตอนนี้เผ่าจักรกลเหลือรอดชีวิตอยู่เพียงแค่ 3 คนแล้ว มันจึงทำให้พวกเขารู้สึกเสียใจอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
เทพธิดาผู้พิทักษ์ก็ตกอยู่ในความเงียบงันเช่นเดียวกัน และไม่ว่ามอร์โรว์กับวอร์สตาร์จะพูดอะไรแต่เธอก็ยังคงนิ่งเฉยเหมือนกับคนที่ไร้วิญญาณ
ในระหว่างที่ 3 จักรกลยังคงอยู่ภายใต้ความเสียใจ เซี่ยเฟยก็ได้หยิบกล่องที่บรรจุพิมพ์เขียวของไททันออกมาเพื่อโชว์พิมพ์เขียวนั้นให้จักรกลทั้งสามได้ดู
“นั่นมันพิมพ์เขียวของเผ่ายู่หลานที่มอบให้กับมนุษย์ในตอนนั้นนี่! ของสิ่งนี้มันมาอยู่ในมือของคุณได้ยังไง?” เทพธิดาผู้พิทักษ์ถามด้วยความสับสน
“มันไม่สำคัญหรอกว่าฉันได้รับของสิ่งนี้มาจากไหน ที่สำคัญคือของสิ่งนี้คือโอกาสสำหรับพวกเราต่างหาก”
“โอกาส?”
“ใช่ นี่คือโอกาสที่พวกเราจะจัดการกับพวกผู้ใช้กฎ ถ้าหากว่าเธอยังต้องการที่จะร่วมมือกับมนุษย์ ฉันก็คิดว่าเราสามารถใช้ดินแดนแห่งความลับแห่งนี้เป็นฐานในการผลิตยานไททันขึ้นมาได้ ท้ายที่สุดสถานที่แห่งนี้ก็อยู่ในมุมมืดที่เป็นความลับ และเทคโนโลยีที่เธอครอบครองอยู่ก็สามารถสร้างไททันขึ้นมาได้ใช่ไหมล่ะ” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างจริงจัง
“ถ้าเราสร้างไททัน พวกผู้ใช้กฎ…” มอร์โรว์กล่าวขึ้นมาอย่างกังวล
“ฉันไม่ชอบให้ใครมาควบคุมชะตาชีวิตของฉัน และฉันก็เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในจักรวาลย่อมไม่ชอบให้ใครมาคอยบงการชีวิตของตัวเองด้วยเหมือนกัน ฉันให้เวลาพวกเธอคิดอีก 2 ปีว่าพวกเธอจะเข้าร่วมแผนการนี้กับฉันหรือเปล่า? แต่ไม่ว่าพวกเธอจะให้ความร่วมมือด้วยหรือไม่ แต่ฉันก็จะพยายามหาวิธีหลุดพ้นออกมาจากเงื้อมมือของคนพวกนั้นให้ได้” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับวางพิมพ์เขียวกลับลงไปในกล่อง
“คุณกำลังจะไปดินแดนของผู้ใช้กฎงั้นเหรอ? คุณกำลังจะไปหาพ่อใช่ไหม?!” จู่ ๆ เทพธิดาผู้พิทักษ์ก็กล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
“อะไรนะ?! ลินนิจยังมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยถามด้วยความงุนงง
***************
จงหาประโยชน์ของขนอุยในการต่อสู้ครั้งนี้? ติ๊กต่อกๆๆ