บทที่ 70 - แยกทางและงานแต่งงานของหลินเฉิน
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 70 - แยกทางและงานแต่งงานของหลินเฉิน
“เจ้าต้องการให้ข้าฝึกเจ้างั้นหรือ?” หลินเฉินมองไปที่โกคูและพูดออกมาอย่างเย็นชา
“ใช่! พี่ชาย ท่านมีพลังมาก ข้าต้องการเรียนรู้จากท่าน!” โกคูพูดด้วยสีหน้าจริงจังที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก
“ตกลงตราบใดที่เจ้าตีข้าได้ ข้าจะสอนเจ้าเอง” หลินเฉินกล่าว
"ได้เลย!"
โกคูน้อยพยักหน้าอย่างแรง จากนั้นเขาก็พร้อมแล้วที่จะไปทดสอบกันข้างนอก
ทันใดนั้นท้องของเขาก็ส่งเสียงร้องออกมา
โกคูกล่าวอย่างเขินอาย: “โอ้ ท้องของข้าหิวแล้ว ท่านรอให้ข้าหาอะไรกินก่อนได้ไหม?”
"ไม่จำเป็นหรอก“หลินเฉินโยนถั่วเซียนไปทางโกคู”กินนี่สิ”
"นี่มันคืออะไรเหรอ?" โกคูน้อยหยิบมันเข้าปากและเคี้ยวอย่างอยากรู้อยากเห็น ดวงตาของเขาพลันเบิกกว้างในทันใด
“น่าอัศจรรย์มาก! ข้าอิ่มแล้วจริงๆ ด้วย! แถมความแข็งแกร่งของข้ายังได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่! มันคืออะไรเหรอ?”
“นี่คือถั่วเซียน เจ้าสามารถเติมท้องของเจ้าได้ด้วย 1 เม็ด”
“พี่หลินเฉิน ท่านมีอีกไหม? เอามาให้ข้าหน่อยจะได้หรือเปล่า?”
“ถ้าเจ้าโจมตีข้าได้ ข้าจะให้เจ้าเพิ่ม”
"เอาล่ะ! ข้าจะโจมตีทานให้โดนแน่!”
โกคูน้อยปรับท่าทางของเขาอีกครั้งและหลังจากตะโกนเสียงดัง เขาก็พุ่งเข้าหาหลินเฉิน
แม้ว่าออร่าของเขาจะทรงพลังมาก แต่ก็มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกัน ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของโกคู แม้ว่าเขาจะต้องการโจมตีหลินเฉิน มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำเช่นนั้น
หลังจากเล่นกับโกคูอยู่พักหนึ่ง หลินเฉินก็หมดความอดทน
“ข้าจะโจมตีเจ้ากลับ ระวังตัวด้วยล่ะ”
"อะไรนะ?"
ทันทีที่เขาพูดจบ หางของหลินเฉินก็ฟาดออกมาและทำให้โกคูก็หมดสติไปด้วยหางของหลินเฉิน
"อา? โกคู!" อูลอนและคนอื่นๆ รีบวิ่งมาตบหัวโกคูและปลุกเขาขึ้นมา
“พี่หลินเฉิน เมื่อครู่พี่กระแทกแรงเกินไปหรือเปล่า?” บูลม่าถามด้วยความสับสนเล็กน้อย
หลินเฉินส่ายศีรษะและพูดกับโกคูว่า “โกคู ตอนนี้เจ้าเข้าใจความแตกต่างระหว่างเราแล้วหรือยัง? เรามีพลังต่างกันเกินไป เจ้าไม่สามารถเรียนรู้อะไรจากข้าได้ ในทางกลับกัน เจ้าอาจจะตายในขณะที่ฝึกฝนด้วยซ้ำ”
โกคูน้อยเกาศีรษะของเขา แต่ก็ไม่มีสีหน้าหดหู่บนใบหน้าของเขาเลย เขาแค่พูดออกมาอย่างเสียใจว่า "โอ้ ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นตามที่ท่านว่ามาเลย..."
เมื่อเห็นใบหน้าที่ดูไร้เดียงสาของเขา หลินเฉินก็ยิ้มออกมา ความซื่อของโกคูอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาเติบโตได้อย่างรวดเร็วในอนาคต
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ หลินเฉินก็พูดว่า “โกคู เจ้าจำผู้เฒ่าเต่าได้ไหม?”
โกคูจึงตอบว่า “ท่านกำลังพูดถึงปู่ผู้เฒ่าคนนั้นหรือ? แน่นอนสิว่าข้าจำได้ เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งเป็นอันดับสองที่ข้าเคยพบนอกเหนือจากพี่หลินเฉินเลย!”
“เจ้าควรไปหาเขาเพื่อฝึกนะ เขาเป็นอาจารย์ปู่ของเจ้า ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเจ้า เขาเหมาะที่จะฝึกเจ้ามากที่สุด กระทั่งบูลม่าเองก็เคยฝึกกับผู้เฒ่าเต่าเลย”
ตอนนี้หลินเฉินได้เลือกแล้ว เขายังไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนอนาคตของโกคู
เพราะโกคูสามารถเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้มากมายจากผู้เฒ่าเต่าได้
"จริงงั้นเหรอ? เยี่ยมเลย ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปที่บ้านของปู่ผู้เฒ่าเต่าเพื่อฝึกฝนและแข็งแกร่งขึ้น!”
“โกคู ข้าจะไปกับเจ้าด้วย!” ทันใดนั้นหยำฉาก็พูดขึ้น
“ท่านหยำฉา?” ปูอัลถามออกมาด้วยความประหลาดใจ
“ปูอัล ข้าก็อยากแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน หลังจากได้พบกับหลินเฉินแล้ว ข้าก็รู้ว่าตัวข้าไร้เดียงสาเพียงใด ข้าต้องการแข็งแกร่งขึ้นและเป็นคนที่จะไม่แพ้หลินเฉินในอนาคต!”
อย่างน้อยก็แพ้ผู้หญิงอย่างบูลม่าไม่ได้...
หยำฉากล่าวในใจ
“ฮ่าฮ่า มันคงจะค่อนข้างยากสำหรับเจ้าอยู่นะ” บูลม่ากล่าวหยอกล้อ
“อูลอน แล้วเจ้าล่ะ?” ปูอัลถามขึ้น
“เอ่อ…ข้าไม่น่ามีไรหรอก บูลม่า ข้าไปในเมืองกับเจ้าได้ไหม? ข้าได้ยินมาว่ามีสาวๆ มากมายในเมืองใหญ่...”อูลอนมองไปที่บูลม่าและพูดขึ้น
“ได้ ถึงเจ้าจะเป็นพวกหื่นและน่าขยะแขยงก็เถอะ…”
“แค่บอกข้าว่าจะพาข้าไปด้วยก็พอแล้ว!”
ด้วยเหตุนี้หลังจากที่ทุกคนตัดสินใจเส้นทางในอนาคตของพวกเขาแล้ว พวกเขาก็แยกทางกัน
หลินเฉินดึงบูลม่าและอูลอนออกไปด้วยการใช้เคลื่อนย้ายพริบตา
เมื่อมองไปที่คนทั้งสามที่หายตัวไป โกคูก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า: “วิชาของพี่หลินเฉินนั้นช่างน่าทึ่งจริงๆ ข้าไม่เห็นด้วยซ้ำว่าเขาจากไปได้ยังไง”
“ใช่” หยำฉาเองก็ถอนหายใจออกมา “มีคนที่ทรงพลังมากมายบนโลกอยู่ด้วยสินะ”
…….
ณ เมืองตะวันตก หลังจากบอกลาโกคูและคนอื่นๆ แล้ว หลินเฉินและกลุ่มของเขาก็มาที่บ้านของบูลม่า
ที่นี่หลินเฉินยังได้พบกับไทต์และครอบครัวของดร.บรีฟ หลังจากเวลาผ่านไปเนิ่นนาน
หกปีต่อมา ไทต์มีความเป็นผู้ใหญ่และเป็นกุลสตรีมากขึ้น
เมื่อเทียบกับชาวไซย่า หกปีเป็นช่วงเวลาที่นานมากสำหรับไทต์ที่เป็นเพียงชาวมนุษย์โลก ดังนั้นหลังจากเห็นหลินเฉินแล้ว นางก็อดไม่ได้จนต้องร้องไห้ออกมา
เมื่อมองไปที่ไทต์ หลินเฉินก็รู้สึกขอโทษขณะที่เขากอดนางและพูดออกมาด้วยความจริงจัง: “ไทต์ เรารู้จักกันมาหลายปีแล้ว เจ้าจะแต่งงานกับข้าไหม?”
"อืม" ไทต์พยักหน้าเบาๆ นางรอคำพูดนี้จากหลินเฉินมาเป็นเวลานานแล้ว
"อะไรนะ!"
ที่ด้านข้าง ดวงตาของบูลม่าเบิกกว้างขึ้นด้วยความประหลาดใจ “ทำไมถึงเร็วจังเลยล่ะ?”
"บูลม่า ลูกหมายความว่ายังไง? ไทต์น่ะรอมานานหลายปีแล้วนะ” คุณนายบรีฟกล่าวตำหนิลูกของนาง
แต่บูลม่าก็กระทืบพื้นอย่างแรงและวิ่งกลับเข้าไปในห้องของนางด้วยความโกรธ
“บูลม่า…”
ไทต์จ้องไปที่แผ่นหลังของน้องสาวของนางเพื่อพยายามอธิบาย
แต่หลินเฉินก็โบกมือและพูดว่า “ไม่เป็นไร ข้ารู้ว่านางรู้สึกอย่างไร”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้า……”
ไทต์รู้ว่าหลินเฉินมีภรรยาชาวไซย่าอยู่แล้ว ดังนั้นนางจึงไม่รังเกียจหรอกที่จะแบ่งปันสามีของนางกับน้องสาวของนาง
แต่หลินเฉินส่ายศีรษะและพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องพูดเลย ข้าแค่ปฏิบัติต่อบูลม่าในฐานะน้องสาวของข้า ในอนาคตเดี๋ยวนางคงจะได้พบกับคนที่ใช่”
หนึ่งเดือนต่อมา ณ เมืองตะวันตก งานแต่งงานของหลินเฉินและไทต์ได้เกิดขึ้น
มันเป็นงานแต่งงานยิ่งใหญ่มาก เพราะหลินเฉินเป็นถึงราชาแห่งชาวไซย่า
แม้ว่างานแต่งงานจะจัดขึ้นบนโลก แต่ดาวเคราะห์เบจิต้าก็เตรียมของขวัญแต่งงานมากมายให้กับหลินเฉิน รวมถึงอัญมณีหายากที่เก็บรวบรวมจากดาวเคราะห์ต่างๆ
นอกจากนี้ผู้คนจากฝั่งของหลินเฉินอย่าง บาร์ดัคและผู้อื่นก็อยู่ด้วย รวมถึงฮานาเซียที่คอยให้คำแนะนำแก่ไทต์ เรื่องกฎของราชวงศ์ชาวไซย่า
ในด้านไทต์ เพื่อนของนางหลายคนก็มา อย่างจาโก้และอีกมากมาย แต่น่าเสียดายที่ดร.โทคุโนะชิน โอโมริผู้ประดิษฐ์เครื่องไทม์แมชชีนตัวแรกได้เสียชีวิตไปแล้ว
งานแต่งงานดำเนินไปหนึ่งวัน ในยามราตรี หลินเฉินพาไทต์เข้าไปในบ้านเจ้าสาว
บ้านเจ้าสาวก็อยู่ในเมืองตะวันตก ไม่ไกลจากบ้านของดร.บรีฟนัก หลังจากที่หลินเฉินตัดสินใจแต่งงานกับไทต์แล้ว เขาก็ซื้อมันทันทีโดยใช้เพชรขนาดเท่ากำปั้น
ก่อนงานแต่งงาน คฤหาสน์ทั้งหลังได้รับการปรับปรุงใหม่
เมื่อหลินเฉินและไทต์อยู่คนกันเพียงลำพัง ในที่สุดเขาก็หยิบขวดน้ำพุแห่งความเยาว์วัยออกมา
“ไทต์ จิบนี่สักหน่อยสิ”
แม้ว่าไทต์จะประหลาดใจ แต่นางก็ไม่ถามอะไรมากและจิบลงไป
หลังจากดื่มแล้ว นางก็ถามว่า “นี่มันอะไรกันหรือ? มันมีกลิ่นแปลกๆ มันเป็นพิษหรือเปล่า?”
“นี่คือน้ำพุแห่งความเยาว์วัยที่ข้าได้รับหลังจากขอพรกับเทพเจ้ามังกร การจิบครั้งเดียวสามารถยืดอายุไปได้หลายร้อยปี ในฐานะชาวไซย่า ข้ามักจะเดินทางไปและกลับจากจักรวาล ไทต์ หลังจากที่เจ้าดื่มสิ่งนี้ไป เจ้าไม่ต้องกังวลเลยว่าจะแก่แล้ว”
"ข้ากังวลเรื่องนั้นตั้งแต่เมื่อไรกัน?" ไทต์ยิ้มออกมาอย่างเขินอาย
แต่ในความเป็นจริงลึกๆ ในใจของนาง นางก็เต็มไปด้วยความสุขมาก ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะไม่หวังว่าจะอยู่เป็นหนุ่มเป็นสาวตลอดไปหรอก
“ไทต์ คงได้เวลาที่เราจะเข้านอนแล้ว !”
หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่สนุกสนานไป หลินเฉินก็กอดร่างกายที่นุ่มและเรียบเนียนของไทต์และกระซิบข้างหูของนาง
ไฟในห้องพลันหรี่ลงทันที