ตอนที่แล้วตอนที่ 503 จักรกลโบราณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 505 ลินนิจยังมีชีวิตอยู่?

ตอนที่ 504 เลเซอร์ที่ควบคุมได้


ตอนที่ 504 เลเซอร์ที่ควบคุมได้

ยานรบสีดำลำหนึ่งกำลังนอนหลับใหลอยู่ในมุมที่ไม่รู้จักของจักรวาล และในปัจจุบันยานบรรทุกที่ทรุดโทรมของพวกเซี่ยเฟยก็กำลังบินวนรอบ ๆ ยานสีดำลำนั้นอย่างช้า ๆ

“นี่คือยานประจัญบานเซียน่าที่เราขับมาจนถึงดินแดนมนุษย์ แต่ตอนนี้พวกเราได้ทำการปรับปรุงสภาพภายนอกของมันใหม่ เพื่อพยายามทำให้มันดูเหมือนเป็นยานจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้ได้มากที่สุด” มอร์โรว์กล่าวอย่างไม่ค่อยชอบใจนักที่เขาจำเป็นจะต้องเปลี่ยนรูปร่างของยานให้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

หลังจากนั้นมอร์โรว์กับวอร์สตาร์ก็ยืนเคียงข้างกันที่ช่องหน้าต่าง โดยภายในแววตาของพวกเขาเหมือนกำลังนึกถึงเรื่องราวในอดีต

“เซียน่า? ยานประจัญบานลำนี้คือร่างของเซียน่างั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยอุทานพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ถ้าจะพูดให้ถูกต้องบอกว่ามันเคยเป็นร่างของเซียน่าต่างหาก ตอนนี้ไม่มีใครรู้แล้วว่าร่างกายของเซียน่าเป็นยังไง แต่เราก็ยังพอสามารถติดตามร่องรอยไปจากร่างเดิมของเธอได้” มอร์โรว์กล่าว

ทันใดนั้นฮามิที่อยู่ในสะพานเชื่อมยานก็ทำการส่งสัญญาณว่าการเชื่อมต่อระหว่างยานทั้งสองได้เชื่อมต่อกันอย่างเสร็จสมบูรณ์

มอร์โรว์ใช้คำสั่งควบคุมยานอัตโนมัติเป็นการชั่วคราว ก่อนที่พวกเขาจะเดินเข้าไปในยานรบของเผ่าพันธุ์จักรกลพร้อมกับเซี่ยเฟย

โครงสร้างภายในยานมีความซับซ้อนมาก และเซี่ยเฟยก็มองเห็นอุปกรณ์ที่แปลกประหลาดอยู่ทั่วทุกที่ ซึ่งในความเป็นจริงเขารู้จักอุปกรณ์เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ส่วนใหญ่จึงล้วนแล้วแต่เป็นอุปกรณ์ที่เขาไม่เคยเห็น

หลังจากเดินผ่านทางเดินก็ได้พบกับห้องโดยสารขนาดใหญ่ ซึ่งเคยถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับเทพธิดาผู้พิทักษ์โดยเฉพาะ แต่เนื่องมาจากร่างที่แท้จริงของเทพธิดามีขนาดใหญ่มาก ห้องแห่งนี้จึงกินพื้นที่มากกว่าครึ่งของตัวยาน

หลังจากเดินผ่านห้องของเทพธิดา พวกเขาก็ได้เดินมาจนถึงแคปซูลเก็บร่างของนักรบเครื่องจักรซึ่งถูกเก็บเอาไว้ภายในแคปซูลรูปวงรี

“ทั้งหมดนี่คือร่างสำรองของเซียน่า ร่าง 7 ร่างนั้นได้รับความเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมกลับมาได้แล้ว มันจึงเหลือร่างอีกเพียงแค่ 4 ร่างที่ถูกทิ้งเอาไว้ที่นี่” วอร์สตาร์กล่าว

“หมายความว่าตอนนี้ร่างของเซียน่าก็เป็นแบบนี้งั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยถาม

“มันก็มีโอกาสเป็นไปได้ ในกรณีที่เธอไม่พบร่างกายอื่นที่นำมาทดแทน”

เซี่ยเฟยพิจารณาร่างของเซียน่าตรงหน้าอย่างระมัดระวัง ซึ่งเขาก็ได้พบว่าร่างของเซียน่าไม่ได้ทำขึ้นมาจากโลหะเหลวเหมือนกับร่างของวอร์สตาร์ แต่มันเป็นโลหะเบาที่มีความแข็งแกร่งมาก ขณะเดียวกันอาวุธของเธอก็ไม่ใช่อาวุธเย็น แต่เป็นเครื่องยิงลำแสงเลเซอร์ 4 เครื่องบนร่างกายของเธอ นอกจากนี้มันยังมีระบบจำลองพลังพิเศษเหมือนวอร์สตาร์ติดตั้งอยู่บนร่างของเธอด้วย

“แถบพลังงานของเซียน่ามี 30 แถบเลยงั้นเหรอ! นั่นมันสูงกว่านายถึง 3 เท่าเชียวนะ” เซี่ยเฟยหันไปถามวอร์สตาร์

“ใช่แล้ว เซียน่าเป็นจักรกลนักสู้ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในสภาวะสงครามโดยเฉพาะ ดังนั้นร่างของเธอจึงติดตั้งอุปกรณ์สำรองพลังงานเอาไว้ เพื่อให้เธอสามารถยืดเวลาศัตรูเอาไว้ได้เป็นเวลานาน ซึ่งมันแตกต่างจากฉันที่มีหน้าที่จบการต่อสู้ให้ได้โดยเร็วที่สุด”

จักรกลนักรบคือจักรกลที่ถูกออกแบบมาเพื่อการต่อสู้แบบตัวต่อตัว ขณะที่จักรกลนักสู้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในสภาวะสงคราม ดังนั้นแม้ว่ามันจะมีความแตกต่างในการเขียนเพียงแค่เล็กน้อยระหว่างจักรกลนักสู้กับจักรกลนักรบ แต่จุดประสงค์ในการสร้างจักรกลทั้งสองประเภทนี้กลับมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

“พวกเราไปที่ห้องบัญชาการกันเถอะ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเปิดระบบค้นหาของยานลำนี้ เราก็จะสามารถค้นหาตำแหน่งและรูปร่างปัจจุบันของเซียน่าได้” มอร์โรว์กล่าว

“พวกนายไปกันเถอะ ฉันขอศึกษาวิธีเอาชนะเซียน่าก่อน อาวุธเลเซอร์ของเธอค่อนข้างพิเศษมากเหมือนกับว่าพวกมันไม่ได้มีเอาไว้สำหรับการโจมตีเท่านั้น” เซี่ยเฟยกล่าว

วอร์สตาร์ส่งสัญญาณให้มอร์โรว์ไปจัดการเรื่องในห้องบัญชาการ ขณะที่เขาอยู่ช่วยอธิบายไขความข้องใจให้กับเซี่ยเฟย

“อาวุธเลเซอร์ของเซียน่าพิเศษมาก โดยปกติอาวุธเลเซอร์ทั่วไปจะยิงออกเป็นเส้นตรง แต่เซียน่าสามารถควบคุมเลเซอร์ของเธอได้อย่างอิสระ ดังนั้นเธอจึงสามารถออกแบบวิธีการจู่โจมด้วยเลเซอร์ได้ตามแต่ใจเธอต้องการ” วอร์สตาร์อธิบาย

“เทคโนโลยีควบคุมลำแสงเลเซอร์ในระหว่างการโจมตีงั้นเหรอ? เทคโนโลยีของเผ่าพันธุ์พวกนายนี่มันน่าทึ่งจริง ๆ” เซี่ยเฟยอุทานออกมาด้วยความตกตะลึง

“ทุกอย่างมันเป็นเพียงแค่อดีตไปแล้ว” วอร์สตาร์กล่าวพร้อมกับส่ายศีรษะอย่างไม่เห็นด้วย ก่อนที่เขาจะอธิบายต่อไปว่า

“สิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับการเผชิญหน้ากับเซียน่าคือการจู่โจมที่เราไม่สามารถคาดเดาวิถีการโจมตีได้ ดังนั้นถึงแม้ว่าเราจะสามารถหลบหลีกการจู่โจมจากลำแสงเลเซอร์ได้ครั้งหนึ่งแล้ว แต่ลำแสงเลเซอร์ลำแสงนั้นมันก็พร้อมที่จะวกกลับมาจู่โจมเราจากทางด้านหลังได้ทุกเมื่อ”

“นอกจากนี้เธอยังสามารถจำลองลำแสงเลเซอร์เป็นอาวุธได้ตามแต่ใจของเธอต้องการ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นดาบเลเซอร์หรือโล่เลเซอร์ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เซียน่าสามารถสร้างขึ้นมาได้ง่าย ๆ”

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างตั้งใจ และเขาก็ฟังคำแนะนำจากวอร์สตาร์โดยไม่คิดที่จะข้ามคำแนะนำใด ๆ เลยแม้แต่นิดเดียว

“แล้วระบบจำลองพลังพิเศษของเซียน่าล่ะคืออะไร?” เซี่ยเฟยถาม

“การทำนาย! เธอสามารถวิเคราะห์คลื่นสมองของฝ่ายตรงข้ามได้ทุกเมื่อ เพื่อที่เธอจะทำนายการเคลื่อนไหวของศัตรูได้ล่วงหน้า” วอร์สตาร์กล่าวอย่างจริงจัง

เมื่อได้รับตำแหน่งร่างของเซียน่าแล้วพวกเซี่ยเฟยก็เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง โดยในตอนนี้ร่างของเซียน่าอยู่ในฐานการผลิตหุ่นยนต์ ซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่เอาไว้สำหรับการผลิตหุ่นยนต์ใหม่ ๆ ในทุก ๆ วัน

เซี่ยเฟยนั่งพักอยู่ในห้องเพียงลำพัง โดยการพยายามจินตนาการซ้ำ ๆ ว่าเขาควรจะต้องเผชิญหน้ากับเซียน่าในสถานการณ์ต่าง ๆ ยังไง

การโจมตีของเซียน่าคือการควบคุมเลเซอร์จู่โจมได้ดั่งใจนึก และเธอยังมีความสามารถในการทำนายการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม มันจึงทำให้เธอกลายเป็นศัตรูที่รับมือได้ยากมาก

นอกจากนี้เครื่องยนต์ของเธอยังมีความก้าวหน้ามากกว่าวอร์สตาร์ ซึ่งมันก็หมายความว่าความเร็วในการตอบสนองของเธอย่อมรวดเร็วกว่าวอร์สตาร์เช่นเดียวกัน ซึ่งจากการประมาณการของชายหนุ่มแล้ว ปฏิกิริยาการตอบสนองของเซียน่าก็น่าจะมากพอที่จะรับมือกับความเร็วของเขาได้

“ลองใช้วิชาเล่ห์มายาแปลงร่างขนอุยในระหว่างการต่อสู้ด้วยดีไหม? ถ้าหากว่านายทำการแชร์พลังงานกับขนอุย มันก็จะทำให้นายสามารถเร่งความเร็วได้ใกล้เคียงกับ 35,000 เมตรต่อวินาที เมื่อมันได้รวมกับวิชาเล่ห์กายามันน่าจะทำให้นายเข้าประชิดเซียน่าได้ และถ้าหากว่านายจู่โจมได้สักครั้งการต่อสู้หลังจากนั้นก็น่าจะง่ายขึ้น” อันธกล่าวแนะนำ

“ถึงแม้ว่าฉันจะแชร์พลังงานกับขนอุย แต่มันก็ช่วยเพิ่มความเร็วให้กับฉันได้เพียงแค่ 5,000 เมตรต่อวินาทีเท่านั้น นายน่าจะเห็นความเร็วของปฏิกิริยาการตอบสนองของวอร์สตาร์แล้ว อย่าลืมว่าความเร็วปฏิกิริยาตอบสนองของเซียน่ารวดเร็วกว่านั้น”

“ดังนั้นการพยายามเข้าไปต่อสู้ในระยะประชิดมันก็ไม่ต่างไปจากการกระโดดเข้าไปในกับดัก และการถูกล้อมรอบด้วยลำแสงเลเซอร์ที่วิ่งอย่างอิสระในระยะประชิด มันก็คงจะไม่ใช่เรื่องดีสำหรับฉันอย่างแน่นอน” เซี่ยเฟยกล่าว

“ถ้าอย่างนั้นใช้วิชาไดมอนด์ชิฟท์ดีไหม? การจู่โจมด้วยไดมอนด์ชิฟท์มีความรุนแรงมากพอ ๆ กันกับการยิงปืนใหญ่ของยานรบออกไปรัว ๆ บางทีเธออาจจะไม่สามารถหลบหลีกการโจมตีที่ทรงพลังแบบนั้นได้” อันธกล่าว

“เธอสามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวของฉันได้ล่วงหน้า และเธอก็มีเลเซอร์ที่สามารถเอามาใช้ปกป้องตัวเองได้ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าฉันฝืนใช้ไดมอนด์ชิฟท์อย่างมากที่สุดฉันก็จะทนได้เพียงแค่ประมาณ 3 นาที ซึ่งถ้าหากว่าฉันไม่สามารถจัดการกับเธอได้ใน 3 นาทีนี้ หลังจากนั้นฉันก็คงจะไม่ต่างไปจากเป้านิ่งที่รอให้เธอเข้ามาทำลายเลย” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

“เผ่าจักรกลเป็นเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังมากจริง ๆ ถึงขนาดที่พวกเขาสามารถสร้างสัตว์ประหลาดอย่างเซียน่าขึ้นมาได้” อันธกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

เซี่ยเฟยพยายามทำการป้อนข้อมูลผ่านทางระบบจำลองการต่อสู้ เพื่อพยายามวิเคราะห์ผลลัพธ์ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่ว่าเขาจะลองป้อนข้อมูลเข้าไปแบบไหน แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังสำหรับเขาอยู่ดี

“ปฏิกิริยาการตอบสนองของฉันควรจะเร็วกว่าเธอ ดังนั้นการต่อสู้ระยะประชิดน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่พลังพิเศษที่ทำให้เธอสามารถอ่านการเคลื่อนไหวของฉันได้ล่วงหน้า มันทำให้ข้อได้เปรียบของฉันถูกลบหายไป บางทีฉันคงจะต้องหาวิธีการหลีกเลี่ยงพลังการทำนายของเธอ” เซี่ยเฟยพึมพำกับตัวเองขณะใช้ความคิด

ฐานผลิตหุ่นยนต์เป็นดาวเคราะห์โลหะที่มีโรงงานขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนดาวเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน ทำให้มีหุ่นยนต์ตัวใหม่ ๆ ถูกผลิตออกมาทุกวินาที แต่บรรยากาศในวันนี้กลับดูแปลก ๆ ไป เพราะสายการผลิตทั้งหมดถูกปิดตัวลงหลงเหลือเพียงแค่ความเงียบงันที่ปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ

“เซียน่ารู้อยู่แล้วว่าพวกเรากำลังมา เพราะว่าเราใช้ยานของเผ่าจักรกลในการหาตำแหน่งของเธอ” มอร์โรว์กล่าว

“เธอรอเราอยู่นั่นแล้ว” วอร์สตาร์กล่าวพร้อมกับจ้องมองไปทางด้านหน้า

ห่างออกไปในระยะไกลมีจักรกลรูปร่างเหมือนผู้หญิงที่ทั่วทั้งร่างถูกออกแบบด้วยสีแดงดำกำลังยืนรอพวกเขาอยู่ และด้านหลังของเธอก็มีหุ่นยนต์นักรบเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังจ้องมองมาที่พวกเขาด้วยแววตาอันดุร้าย

“หุ่นยนต์นักรบเป็นหุ่นยนต์ทำงานผ่านระบบกึ่งอัจฉริยะ ดังนั้นเมื่อพวกมันได้รับคำสั่งพวกมันก็พร้อมที่จะสังหารพวกเราโดยไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย” วอร์สตาร์กล่าวเตือนพร้อมตั้งท่าเตรียมรับการต่อสู้

“ฉันขอถามเป็นครั้งสุดท้าย มันไม่มีวิธีการอื่นในการแก้ปัญหานอกจากการพยายามปิดการทำงานของเซียน่าลงแล้วใช่ไหม?”

“คุณจะถามทำไม? ในเมื่อคุณน่าจะมีคำตอบในใจอยู่แล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เข้าใจแล้ว พวกเรามาช่วยกันปิดการทำงานของเธอกันเถอะ” วอร์สตาร์กล่าวพร้อมกับพยักหน้า

ตึง! ตึง! ตึง! …

กองทัพหุ่นยนต์เดินหน้าเข้ามาหาพวกเขาเรื่อย ๆ และการเคลื่อนที่ของหุ่นยนต์พวกนี้ต่างก็เต็มไปด้วยความหนักแน่น การเดินทัพของพวกมันจึงทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือนจนเกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งบริเวณ

เมื่อระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายลดลงมาเหลืออยู่น้อยกว่า 1 กิโลเมตร เซียน่าก็โบกมือเป็นสัญญาณให้กองทัพหยุดตัวลง

“มอร์โรว์, สตาร์พวกเราไม่ได้เจอหน้ากันนานเลยนะ แต่พวกนายก็ยังเลือกที่จะอยู่ฝั่งเดียวกับมนุษย์และทิ้งฉันที่เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน เรื่องนี้มันทำให้ฉันรู้สึกผิดหวังมากจริง ๆ” เซียน่ากล่าว

“เซียน่า พวกเราไม่ได้ต้องการที่จะทอดทิ้งเธอ ตอนนี้เผ่าจักรกลมันกลายเป็นเพียงแค่อดีตไปแล้ว พวกเราต้องลืมอดีตที่ขมขื่นพวกนั้นไปซะ ส่วนมนุษย์ก็เป็นมิตรของพวกเราไม่ใช่ศัตรู” วอร์สตาร์กล่าวเสียงดัง

“ทำไมเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังอย่างพวกเราจะต้องไปเป็นพันธมิตรกับพวกมนุษย์ที่อ่อนแอแบบนี้ด้วย?!” เซียน่ากล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง จากนั้นเธอก็ชี้นิ้วไปทางด้านหลังพร้อมกล่าวขึ้นมาว่า

“ดูนั่นสิ! หุ่นยนต์ผู้ภักดีพวกนี้ไว้ใจได้มากกว่าพวกมนุษย์พวกนั้นเสียอีก ถ้าเทพธิดาอนุญาตฉันสามารถสร้างหุ่นยนต์จำนวนมากกว่ามนุษย์ได้ในระยะเวลาเพียงแค่สั้น ๆ แล้วด้วยทหารที่ภักดีพวกนี้การพยายามฟื้นฟูเผ่าพันธุ์จักรกลมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้”

“ไม่ว่าเธอจะยอมรับหรือไม่แต่เผ่าจักรกลมันก็ไม่มีอีกต่อไปแล้ว แต่ถ้าหากเทพธิดาไม่อนุญาตการพยายามก้าวเท้าออกจากดินแดนแห่งความลับแห่งนี้ถือเป็นการกบฏ และฉันก็จะไม่ยอมให้เธอทำแบบนั้นอย่างเด็ดขาด” วอร์สตาร์กล่าวพร้อมกับส่ายหัว

“เทพธิดาไม่ได้คัดค้านด้วยซ้ำในตอนที่ฉันสร้างกองทัพ แล้วเธอจะมาคัดค้านเรื่องที่ฉันจะก้าวเท้าออกไปจากดินแดนแห่งความลับแห่งนี้ทำไม?” เซียน่ากล่าวอย่างเย็นชา

“แม้ว่าเทพธิดาจะไม่พูด แต่เทพธิดาก็ไม่มีวันเห็นด้วยกับเธอ” วอร์สตาร์โต้กลับ

“ตราบใดก็ตามที่คุณปิดการทำงานของเซียน่าลงไปได้ ฉันก็สามารถเข้าควบคุมกองทัพที่อยู่ข้างหลังเธอได้เหมือนกัน” มอร์โรว์หันไปกล่าวกับเซี่ยเฟย และเมื่อการต่อสู้ได้ใกล้เข้ามาแล้วเขาก็ค่อย ๆ ถอยกลับไปด้านหลังอย่างช้า ๆ เพราะท้ายที่สุดเขาก็ไม่ใช่จักรกลที่ถือกำเนิดมาเพื่อต่อสู้ มันจึงเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์หากจะนำตัวเขามาอยู่ในสนามรบ

“วอร์สตาร์ใช้พลังพิเศษของนายควบคุมหุ่นยนต์ที่อยู่ข้างหลังเซียน่าเอาไว้ซะ” เซี่ยเฟยสั่งการ

“การใช้พลังเป็นวงกว้างขนาดนั้นจำเป็นจะต้องใช้พลังงานที่สูงมาก ฉันสามารถทนได้เพียงแค่ 3 นาที” สตาร์วอร์ตอบกลับ

“ไม่เป็นไร แค่ 3 นาทีก็พอแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

***************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด