ตอนที่ 270: ถล่มเมือง
พระอาทิตย์กําลังที่จะตกดิน
หลงเหลือเพียงแต่ก้อนเมฆที่เริ่มเลือนหายไปเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในขอบฟ้า ที่พยายามรักษาความอบอุ่นของช่วงเวลากลางวันอย่างเต็มที่
ผู้พิทักษ์ของเมืองเมฆากําลังตะโกนส่งสัญญาณให้ปิดประตูเมือง
เหตุผลที่เมืองนี้ถูกเรียกว่าเมืองเมฆานั้น ไม่เพียงแต่แสดงความสูงส่งและความศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะเมืองหลักนั้นได้สร้างขึ้นมาบนเทือกเขาทังกูลา ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางก้อนเมฆทั้งมวล
เทือกเขาทังกูลาเป็นสิ่งกีดขวางที่แยกป่าสัตว์อสูรกับโลกมนุษย์ออกจากกัน
เมืองเมฆาที่สร้างขึ้นบนเทือกเขาทังกูลานั้น มันถูกสร้างขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะปกป้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองและเพื่อป้องกันการรุกรานของบีสต์ป่าทั้งหลาย
เทือกเขาทังกูลานั้นมีความสูงเป็นอย่างมาก
แม้ว่ายอดเขาที่ไม่ใช่ยอดเขาหลักเองก็ตาม แต่ก็ยังมีความสูงที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลมากกว่าหนึ่งพันเมตรเลยทีเดียว
แม้ว่าเมืองเมฆานั้นจะมีชื่อเสียง แต่ก็เป็นเมืองหลักที่แยกตัวออกมาจากโลกภายนอก
แม้แต่ส่วนหนึ่งของเมืองที่สร้างขึ้นบนฝั่งที่ใกล้ที่สุดกับดินแดนของมนุษย์ สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 800 เมตรเลยทีเดียว
หากคนธรรมดาที่ต้องการเข้าสู่เมืองเมฆาแล้ว พวกเขาจะต้องไต่กำแพงที่สูงชันขึ้นไป
แม้ว่าจะมีคนๆ หนึ่งจะปีนขึ้นไปบนภูเขาด้วยมือเปล่าๆ ได้พวกเขาก็ยังใช้เวลาอย่างน้อยทั้งวันในการปีนขึ้นไปที่ยังเมืองเมฆา
คนส่วนใหญ่ที่เข้าและออกจากเมืองเมฆานั้นล้วนแล้วแต่เป็นบีสต์มาสเตอร์ผู้สูงศักดิ์กันทั้งนั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นบีสต์มาสเตอร์เจ้าของแบทเทิลบีสต์ ประเภทที่บินได้
แบทเทิลบีสต์ที่บินได้ส่วนใหญ่นั้นมีขนาดเล็ก มีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่สามารถบินได้ และความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของพวกมันก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก
ดังนั้นเมืองเมฆาจึงกลายเป็นหนึ่งในเมืองหลักของสมาคมแห่งแสง
สมาคมแห่งแสงเป็นศาสนาที่เน้นไปที่การใช้ธาตุแสงและมุ่งเน้นไปที่การรักษาเป็นหลัก
เมื่อจําเป็น พวกเขาจะบินออกมาจากเมืองเมฆาเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ เมื่อไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้น คนนอกจะพบว่าเป็นการยากที่จะบุกรุกเข้าไปหาพวกเขาได้
เมื่อใดก็ตามที่พระอาทิตย์ตกดิน เหล่าผู้พิทักษ์จะเริ่มทำการปิดประตูเมืองและเตรียมตัวที่จะเลิกงานกัน
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ เสียงคำรามของมังกรก็ดังมาจากขอบฟ้า มังกรแสงศักดิ์สิทธิ์ที่มีเกล็ดแวววาวกำลังเข้ามาใกล้เมืองด้วยความเร็วที่สูงเป็นอย่างมาก
ในตอนแรกมันมีขนาดเพียงเมล็ดข้าวเท่านั้น เมื่อเสียงคำรามของมังกรสิ้นสุดลง มันก็อยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว
แฮธาเวย์เงยหน้าขึ้นจากตักของล๊อค และมองเขาด้วยสีหน้าขมขื่น เธอยกมือขึ้นลูบที่มุมปากของเขา
เธอเป็นผู้หญิงที่ขี้หึงมาก
แม้แต่ในเวลานี้ เธอก็ยังพยายามยั่วยวนล๊อคได้เสมอ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้นั้นล๊อคไม่มีอารมณ์
ท้ายที่สุดแฮธาเวย์นั้นถูกวางยาพิษอยู่
ก่อนที่เรื่องนี้จะคลี่คลายได้ ครึ่งล่างของร่างกายเธอจะต้องถูกปิดผนึกเอาไว้ก่อน
แต่ฮาธาเวย์นั้นไม่ได้มีความรู้สึกแบบเดียวกัน
จนถึงตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้ว เนื่องจากพวกเขาอยู่ด้วยกันตามลำพัง อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเข้าสู่เมืองเมฆาแล้ว ล๊อคจะได้พบกับผู้หญิงที่โดดเด่นมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน
ด้วยเสน่ห์ของล๊อคจะมีผู้หญิงแสนสวยมาเสนอตัวนอนกับเขาได้ทุกเมื่อ
เนื่องจากแฮธาเวย์ไม่มีทางที่จะหยุดล็อคได้ อย่างน้อยที่สุดที่เธอทําได้คือการใช้กลิ่นของเธอให้ติดอยู่บนตัวของเขาเอาไว้เสมอ
ด้วยวิธีนี้ แม้ว่าผู้หญิงคนอื่นจะเข้าหาเขา แต่ส่วนใหญ่พวกเธอก็จะเป็นได้แค่ตัวสำรองเพียงเท่านั้น
แต่สิ่งเดียวที่เธอนั้นเสียใจคือมังกรแสงศักดิ์สิทธิ์นั้นบินเร็วเกินไป และล็อคนั้นใจแข็งเกินไปสําหรับเธอ
แฮธาเวย์บีบล๊อคด้วยความโกรธและทําหน้ามุ่ยในขณะที่ช่วยเขาจัดระเบียบเสื้อผ้าของเขาไปด้วย
เมื่อผู้พิทักษ์ของเมืองเมฆา ได้ยินเสียงคํารามของมังกร พวกเขาต่างก็สะดุ้งตกใจ พวกเขาคิดว่ามันเป็นมังกรป่าจากเทือกเขาสัตว์อสูรที่บุกเข้ามา
เมื่อมังกรแสงศักดิ์สิทธิ์ลงจอดที่หน้าประตูเมือง เขาพบว่ามีบีสต์มาสเตอร์สองคน เป็นผู้ชายหนึ่งคนและผู้หญิงอีกหนึ่งคน
"ฉันต้องขอโทษด้วย"
“ฉันชื่อล็อค นี่คือเพื่อนของฉันเธอชื่อแฮธาเวย์น่ะ”
“เรามาจากเมืองหุบเขาที่ห่างไกล เราข้ามไปเกือบหมื่นไมล์เพื่อมาที่เมืองเมฆา เพื่อมาขอความช่วยเหลือ ฉันไม่ได้คาดคิดว่าเราจะมาสายไปหน่อยหนึ่งน่ะ”
“คุณช่วยยกเว้นและให้เราเข้าไปในเมืองได้ไหม”
“ฉันจะรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง โปรดรับของขวัญเล็กๆ น้อยๆ นี้ด้วยเถอะ!”
ล๊อคหยิบถุงผ้าออกมาแล้วเปิดออก มันเต็มไปด้วยคริสตัลบีสต์ คริสตัลหลากสีทําให้ดวงตาของผู้พิทักษ์นั้นพล่ามัว
“คุณผู้ชายสุภาพเกินไปแล้ว เชิญเข้ามาเถิด!”
“เหล่าพี่น้อง จงทํางานหนักขึ้นกันหน่อยนะ เปิดประตูเมือง”
หัวหน้าผู้พิทักษ์หยิบคริสตัลบีสต์ด้วยรอยยิ้มและสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาให้เปิดประตูเมืองอีกครั้งหนึ่ง
แม้ว่าล๊อคจะมีคริสตัลบีสต์ระดับต่ำเพียงเท่านั้น คริสตัลแต่ละชิ้นพวกนี้ก็เพียงพอแล้วสําหรับตระกูลธรรมดาที่จะใช้มันได้เป็นเวลาถึงหนึ่งปี
ซึ่งมันมีอย่างน้อยถึงแปดสิบชิ้นในกระเป๋าใบนี้
มีผู้พิทักษ์เพียงสิบคนเท่านั้น หากพวกเขาแบ่งกันแล้ว พวกเขาจะมีรายได้ที่สามารถใช้ไปได้อย่างน้อยหลายปีเลยทีเดียว
เพื่อป้องกันบีสต์ป่า ประตูเมืองของเมืองเมฆาถูกแกะสลักจากบลูสโตนที่มีความหนามากกว่าครึ่งเมตร พวกมันมีน้ำหนักอย่างน้อยสองถึงสามร้อยตันเลยทีเดียว
ด้วยการสนับสนุนของเครื่องจักร ผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งหลายสิบคนจึงต้องใช้กําลังทั้งหมด พวกเขาใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงในการปิดประตูเมือง
เครื่องจักรที่จําเป็นในการปิดประตูเมืองและเปิดประตูนั้นแตกต่างกัน
ประตูเมืองกําลังจะปิด ตอนนี้พวกเขาต้องเปิดมันอีกครั้ง มันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย
เหล่าผู้พิทักษ์ตะโกนและปรับเครื่องจักร
โซ่เหล็กเส้นใหญ่บนข้อมือของพวกเขาสั่น ประตูหินส่งเสียงดัง แต่ก็สามารถขยับได้ทีละนิดเพียงเท่านั้น
จะเห็นได้ว่าด้วยการสนับสนุนของคริสตัลบีสต์นี้ เหล่าผู้พิทักษ์ได้ใช้กําลังทั้งหมดของพวกเขาที่มีออกมา
น่าเสียดายที่เครื่องจักรไม่ได้รับการปรับแต่งอย่างเหมาะสม พวกเขาพยายามอย่างดีที่สุด แต่ทำได้เพียงขยับประตูเมืองทีละนิดเท่านั้น
ด้วยความเร็วขนาดนี้ เมื่อประตูเมืองเปิดและปิดอีกครั้ง อย่างน้อยก็สี่ทุ่มกว่าจะแล้วเสร็จ
เห็นได้ชัดว่าล็อคมีความเข้าใจในระดับอุตสาหกรรมในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงต้องหยิบถุงคริสตัลบีสต์ถุงใหญ่นี้ออกมา
มิฉะนั้น ผู้พิทักษ์จะไม่มีอารมณ์ดีกันเช่นนี้ได้
“พี่ใหญ่ มันยุ่งยากไปหน่อยสําหรับคุณ ทําไมคุณไม่ให้ฉันลองหน่อยล่ะ”
ล๊อคกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของแฮธาเวย์ดังนั้นเขาจึงไม่อยากเสียเวลากับที่นี่
นี่เป็นเพียงประตูเมืองเท่านั้น หลังจากเข้าเมืองแล้ว เขายังต้องไปโบสถ์แห่งแสงเพื่อตามหาหัวหน้าบาทหลวง เขาไม่มีเวลาที่จะมาเสียที่นี่ได้
ด้วยการโบกมือของล๊อค มังกรแสงศักดิ์สิทธิ์ยกอุ้งเท้าหน้าที่ใหญ่และหนาขึ้นและผลักมันออก
ประตูเมืองถูกผลักให้เปิดออกด้วยเสียงลั่นดังเอี๊ยดอย่างต่อเนื่อง
สิ่งมีชีวิตตัวนี้คำรามในลำคออย่างเหยียดหยามและก้มหัวลงเพื่อเข้าไป มันยังเหวี่ยงหางของมันปิดประตูเมืองด้วยเสียงดังก้อง
มันถูกปิดแล้ว!
ตาของผู้พิทักษ์เกือบจะโผล่ออกมาด้วยความตกใจ
ฉันยังปรับเครื่องไม่เสร็จเลยนะ
หากคุณปิดประตูด้วยความรุนแรงมากเกินไป อาจทำให้บ่วงหรือเกียร์แตกได้ และประตูเมืองจะเปิดไม่ได้อีกเลยนะ
มังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงยืนโพสต์ท่า ซึ่งมันคิดว่าดูดีมากและรออยู่เป็นเวลานาน แต่มันไม่ได้ยินคําอุทานที่คาดหวังเอาไว้
มันหันไปมองและเห็นว่าเหล่าผู้พิทักษ์ต่างให้ความสนใจและวิ่งไปตรวจสอบที่เครื่องแล้ว ..
แม้แต่คริสตัลบีสต์ก็ล่วงลงตามพื้น
หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเครื่องจักร ไม่ต้องพูดถึงถุงคริสตัลบีสต์ แม้ว่าพวกมันจะถูกแบ่งและขาย มันก็คงไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้ได้
"รีบไปเร็วเลย!"
ล๊อคแอบเตะมังกรแสงศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างปัญหาและหันหน้าเดินเข้าไปในเมือง
นี่คือเมืองเมฆา และมีบีสต์มาสเตอร์อยู่ทุกหนทุกแห่ง
ไม่จําเป็นต้องเรียกแบทเทิลบีสต์กลับไปในช่องมิติ พวกเขาจําเป็นต้องลดขนาดให้เหมาะสมเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ฮาธาเวย์ยังอยู่บนหลังมังกรแสงศักดิ์สิทธิ์ด้วย
ไม่ใช่เรื่องใหญ่สําหรับล๊อคที่จะอุ้มเธอเดินไปมา แต่มีคนเดินไปมามากเกินไปโดยเฉพาะการมีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในอ้อมแขนของเขา ท่ามกลางอาณาจักรนั้นมันสะดุดตาเกินไป
ล็อคคุ้นเคยกับการดำรงอยู่ของมังกรแสงศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติกับมัน
เขาไม่รู้ว่าการนํามังกรแสงศักดิ์สิทธิ์ไปรอบๆ นั้นสะดุดตามากเพียงใด
หลังจากที่เขาผลักประตูของบาร์ไม้โอ๊คเปิดออก ล๊อคก็แสดงสีหน้าเป็นมิตรและต้องการจองโรงแรมที่จะพัก แต่เมื่อคนรอบข้างมองเขาด้วยความประหลาดใจ เขาก็ตระหนักว่าเขาดูเหมือนจะมองข้ามอะไรบางอย่างไป
ในขณะนี้ เสียงที่อวดเบ่งและประหลาดใจดังขึ้นมา
“โอ้ เทพแห่งแสง”
“มังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงที่รักของข้า ในที่สุดเจ้าก็ได้มาอยู่เคียงข้างข้าแล้ว”