ตอนที่ 102 ตึกกิลด์เทพศาสตรา(ฟรี)
ตอนที่ 102 ตึกกิลด์เทพศาสตรา
ตลอดเวลา 5 วัน บอสตันได้แสดงฝีมือเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานของเขาอย่างเต็มที่ ก่อนที่บอสตันจะปลุกพลังเหนือมนุษย์และมาเข้าร่วมกับลุค เขาเป็นพนักงานบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองปลาย แต่ด้วยภาระและแรงกดดันหลายอย่างบอสตันเลือกจะมาเป็นฮันเตอร์
ถึงอย่างนั้นความสามารถของเขาก็ไม่ได้หายไป
บอสตันเข้าออกสำนักงานเมืองจนเกือบที่จะนอนที่นั่นเลยก็ว่าได้ เขาต้องทำการซื้อขาย โอนกรรมสิทธิ์ที่มากมาย โดยเฉพาะช่วงหลังภัยพิบัติ มันยิ่งยากเข้าไปอีก
และเมื่อรวมกับจำนวนที่ดินที่ต้องซื้อยิ่งมากขึ้นไปด้วย
ที่ดินที่ลุคต้องการซื้อด้วยเงิน 100 ล้านเครดิต ที่ดินพวกนั้นเป็นที่ดินแบบราคาประเมินที่ดินของภาคราชการ เนื่องจากส่วนใหญ่เจ้าของเดิมและญาติของเจ้าของที่ดินตายหมด ทำให้ที่ดินถูกคืนแก่สำนักงานเมือง สำนักงานเมืองจึงประเมินราคาของภาคราชการและออกมาขาย
ราคาขั้นต่ำที่ตั้งไว้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยกเว้นว่าจะถูกไปประมูลโดยกรมที่ดินของสำนักงานเมืองปลายฝน แต่ในตอนนี้จะมีใครมาประมูลแย่งพวกเขา ดังนั้นบอสตันเลยซื้อที่พวกนี้ได้จนครบ
ยกเว้นก็แค่ที่ดินอีกผืนคือส่วนของโรงงานอุตสาหกรรมร้าง แม้มันจะร้างแต่ที่ดินพื้นนั้นอยู่ในการครอบครองของบริษัทลูกที่โดนทำลายจนหมดไปในภัยพิบัติมอนสเตอร์ ถึงอย่างนั้นตัวที่ดินก็ยังถือว่าเป็นของบริษัทแม่
บอสตันใช้ความพยายามซื้อที่ดินผืนนี้ที่มีขนาด 200 ไร่เป็นอย่างมาก เพราะลุคย้ำว่าต้องได้มันมาเนื่องจากที่ดินผืนนี้ติดกับแม่น้ำสายที่ใหญ่สุดของเมือง ลุคมีแผนการสำคัญกับมัน
หลังจากความพยายามพวกการอดนอน 2 วัน 2 คืน ในที่สุดบอสตันก็เจรจากับอีกฝ่ายสำเร็จ แถมยังได้ราคาที่ถูกลงมาด้วย มันไม่ใช่เพราะบริษัทนั้นไม่อยากขาย แต่เป็นเพราะความยุ่งยากในการโอนที่ค่อนข้างล่าช้าจากการที่ผู้ซื้อและขายอยู่คนละเมือง
แถมพวกเจ้าหน้าที่ราชการก็ค่อนข้างไร้ประสิทธิภาพหรืออาจจะแกล้งไร้ บอสตันเลยใช้เครดิตไปเล็กน้อยกระตุ้นพวกเขา จนทำสำเร็จ
หลังจากได้ข่าวดีมาบอกทุกคน ลุคเตรียมของออกเดินทาง การได้ที่ดินมาเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เขายังต้องเตรียมตัวอีกหลายอย่าง จากแผน 5 วันคือการซื้อที่ดินและอีก 2 วันหลังจากนั้นร้านอสูรกายจะมาส่งมนุษย์โคลนนิ่งให้เขา
ไม่ใช่เพราะลุคเลื่อนเวลาออกไปในการจัดส่ง แต่เป็นเพราะการส่งเข้ามาที่เมืองค่อนข้างยาก เนื่องจากเส้นทางขนส่งที่ใช้ได้ตอนนี้คือทางอากาศเท่านั้น
ส่วนทางรถไฟทางสำนักงานเมืองกับสำนักงานเหนือมนุษย์ร่วมมือกันอย่างที่เต็มที่เคลียร์เส้นทางรถไฟให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็วที่สุด และต้องใช้เวลาประมาณ 7 วันในการทำให้เส้นทางรถไฟกลับมาใช้งานได้แบบชั่วคราวก่อน
ซึ่งก็เหลืออีก 2 วันตามเวลาที่ว่า
ลุคออกมาจากเขต 1 ด้วยรถยนต์สองคันที่ขนของมาก่อนข้างมาก ส่วนใหญ่เป็นน้ำและอาหาร ที่เอามาสำรองไว้ หลังจากนั้นค่อยไปหาเอาตามซากเมืองในเขต 4 เขต 5
“นายเป็นยังไงบ้าง” ลุคหันไปถามบอสตันที่นอนอยู่เบาะหลัง
“ยังไหว แต่ขอนอนงีบอีกสักหน่อย” บอสตันหาวออกมาและนอนเหยียดไปกับเบาะจนเต็ม อาศัยเสื้อเชิดปิดหน้าบังแสงเพื่อนอนพัก
ในรถมีแค่ลุคกับบอสตัน ส่วนสาว ๆ ทั้งสองไปกันกับรถอีกคัน บอสตันต้องนอนพักทำให้ลุคต้องมาทำหน้าที่ขับรถแทน
ออกจากเขต 2 มาไม่นานพวกเขาก็พบกับฮันเตอร์ที่ไล่ล่ามอนสเตอร์กันอยู่หลายกลุ่ม ลุคไม่ได้จอดดูพวกเขา แต่ขับผ่านไปเลย
จนกระทั่งเข้าสู่เขต รอยต่อของเขต 3 และเขต 4 แถวนี้มีมอนสเตอร์มากที่สุดรองจากเขตที่ 5 เลยเป็นจุดหมายของฮันเตอร์จากทั้งกิลด์ในเมืองและกิลด์นอกเมือง ด้วยระยะทางที่สามารถไปเช้าเย็นกลับได้ไม่อยาก พวกเขาจึงมาล่ากันที่นี่เป็นจำนวนมากในตลอดหลายวันมานี้
ลุคค่อนข้างเงียบขรึม เพราะการที่พวกเขามาล่าที่นี่จะมีผลกระทบแน่นอน มอนสเตอร์จะไปรวมตัวกันที่เขต 5 มากขึ้น เพื่อหลบเลี่ยงฮันเตอร์เหล่านี้ แต่ขณะเดียวกันมันก็จะมีมอนสเตอร์อันตรายที่มั่นใจในตัวเองออกมาท้าทายฮันเตอร์มากขึ้น
มีรายงานตลอดเวลาว่ามีมอนสเตอร์หลายตัวอาศัยภัยพิบัติในครั้งนี้ยกระดับพลังของตัวเอง จึงมีระดับ D และ C ปรากฏขึ้นมาให้พบเจอเป็นครั้งคราว ฮันเตอร์ที่โชคร้ายเจอพวกระดับนี้แทบไม่มีโอกาสรอดเลย แต่ทันทีที่พวกมันปรากฏตัวไม่เกิน 2 ชั่วโมงสำนักงานเหนือมนุษย์จะส่งเหนือมนุษย์ที่ทรงพลังพอมาไล่ล่าพวกมันเป็นการเฉพาะ
ขณะที่กำลังเข้าไปที่เขต 5 ลุคก็ต้องเจอกับฝูงมอนสเตอร์ที่ดูเหมือนเป็นผลมาจากการล่าที่ล้มเหลวของมอนสเตอร์บางกลุ่ม คนพวกนั้นพอเห็นรถเข้ามาก็พากันวิ่งมาทางลุคทันที
แต่มาถึงไม่ถูกมอนสเตอร์ฆ่าตายจนหมดก่อน
“เกิดอะไรขึ้น” บอสตันสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ
“มีพวกฮันเตอร์ล่อมันมา แต่คนพวกนั้นตายไปแล้ว ถึงอย่างนั้นมอนสเตอร์ก็ยังหันมาเล่นงานเรา นายมาขับแทนหน่อย ฉันจะออกไปจัดการมอนสเตอร์พวกนั้น”
“เวรแล้ว นั้นมันกิ้งก่าบินหางดาบ แถมมีกันเป็นฝูงเลย” บอสตันตะโกนอย่างต่างตกใจ รีบข้ามเบาะเข้าไปขับแทนลุคอย่างรีบร้อน
อีกด้านเสียงวิทยุดังขึ้นมาจากนิโคลและไอกะที่อยู่บนรถอีกคัน
“ลุคนายเห็นไหม กิ้งก่าบินหางดาบ”
“เห็นแล้ว ฉันกำลังจะลงมือ แต่มันมีเยอะเกินไปถ้าหยุดรถมีหวังมันพังรถเราเละแน่” ลุคพูดกับก็เปิดประตูกระโดดขึ้นไปบนอากาศไอเทมครบชุดปรากฏบนตัว ชุดเกราะด้วงทมิฬ เคียวยมทูต รองเท้าสายฟ้า
“กิ้งก่าบินหางดาบ เป็นมอนสเตอร์กึ่งบินที่อาศัยการบินร่อนจากที่สูง ตัวไม่ใหญ่ แค่ 1 เมตรเท่านั้น แต่ว่าที่ด้านหลังมีหางที่สามารถแข็งตัวเป็นดาบคมเดียวแบบคาตานะยาวกว่า 1.5 เมตร มันจะโจมตีโดยการร่อนผ่านศัตรูและใช้ดาบตัดหัว อีกชื่อคือ จอมเด็ดหัว”
ลุคประเมินจากสายตากิ้งก่าบินหางดาบมีกันไม่ต่ำกว่า 400 ตัว พวกมันร่อนลงและกระโดดขึ้นและบินร่อนสลับกันไป แม้ดูเหมือนจะช้า แต่ความเร็วฝูงของพวกมันไม่ช้าเลย
กิ้งก่าบินหางดาบเกือบจะบินมาถึงรถมันกำลังจะโจมตีรถ แต่แล้วนิโคลก็โผล่ออกมาพร้อมกับปืนยิงตะขอทั้งสองมือ หญิงสาวยิงทะลุร่างของกิ้งก่าบินหางดาบสองตัว
พวกมันเป็นแค่ระดับ F จึงโดนปืนยิงตะขอระดับ E เจาะร่างทะลุอย่างง่ายดาย นิโคลเหวี่ยงเส้นใยที่เหมือนสลิงของปืนกวาดกระแทกใส่ตัวอื่น ๆ ก่อนจะดึงกลับมาจนตัวกิ้งก่าบินหางดาบที่ติดอยู่กับตะขอตายเลือดสาดกระจาย
ลุคบินพุ่งผ่านรถไปหาฝูงกิ้งก่าบินหางดาบจากนั้นก็ละเลงเลือดพวกมัน ฝูงของฝูงกิ้งก่าบินหางดาบและลุคสวนกันไม่เกิน 20 วินาที แต่มีพวกมันตกตายไปมากกว่า 50 ตัว
ทุกตัวกลายเป็นไอเทมหมด
“คุณได้รับไอเทมดาบหางกิ้งก่า ระดับ F เกรดสีส้ม จำนวน 20 ชิ้น”
“คุณได้รับไอเทมดาบหางกิ้งก่า ระดับ F เกรดสีม่วง จำนวน 10 ชิ้น”
“คุณได้รับไอเทมดาบหางกิ้งก่า ระดับ F เกรดสีฟ้า จำนวน 5 ชิ้น”
“คุณได้รับไอเทมดาบหางกิ้งก่า ระดับ F เกรดสีเขียว จำนวน 15 ชิ้น”
เสียงแจ้งเตือนเข้ามาที่ลุคอย่างต่อเนื่อง แต่ลุคไม่มีเวลาไปสนใจมัน เขาม้วนตัวกลับไปหาพวกฝูงกิ้งก่าบินหางดาบ มีบางส่วนหมุนตัวกลับมาหาลุคเช่นกัน
“ตายซะ!”
ลุคฆ่าไม่ละเว้น
ด้านเดียวกันหลังจากรถพ้นระยะและฝูงกิ้งก่าบินหางดาบก็โดนดึงดูดโดยลุค พวกนิโคล บอสตันและไอกะก็ลงมาช่วยจัดการ
1 ชั่วโมงผ่านไป ฝูงกิ้งก่าบินหางดาบก็โดนสังหารจนหมด มีบางตัวพยายามจะหลบหนี แต่ลุคไล่ตามเจ็บจนเกลี้ยง
ในฝูงมีระดับ F ขั้นสูงสุดตัวหนึ่งที่เป็นมอนสเตอร์บอสและดูเหมือนจะพยายามยกรับตัวเองอยู่ พวกมันถึงได้ดุร้ายแบบนั้น เพราะต้องการกินให้มากขึ้น
“เอายังไงกับศพมอนสเตอร์” นิโคลถาม เพราะมีศพมากกว่า 100 ตัวที่เป็นการฆ่าของทั้งสาม เลยทำให้พวกมันไม่สามารถเปลี่ยนเป็นไอเทมได้
“เอาบางส่วนไว้ย่างกินก็แล้วกัน คุณทำอาหารจากพวกมันได้ใช่ไหม” ลุคบอกกับนิโคลและหันไปพูดกับไอกะ
“ได้ เนื้อมันน่าจะอร่อยด้วย ฉันดูแล้วทั้งคล้ายเนื้อวัวและเนื้อไก่ผสมกัน ถ้าเอาไปย่างบาร์บีคิวจะอร่อยน่าดู” ไอกะพูดเอาจนคนทั้งสามพากันกลืนน้ำลาย
“ถ้าอย่างนั้นเอาไปเยอะหน่อยแล้วกัน” บอสตันพูดจบก็แบกซากกิ้งก่าบินหางดาบโยนขึ้นหลังรถไป 10 ตัวก่อนจะใช้เชือกมัดจนแน่น
ลุคเดินเข้าไปตรวจสอบศพฮันเตอร์ที่ตาย พวกเขาเป็นฮันเตอร์ต่างเมืองเขาจึงถ่ายรูปรายงานและเก็บแหวนเครือข่ายไกอาไป เพื่อเอาไว้ส่งคนทีหลัง
จากนั้นก็ให้บอสตันเผาศพพวกเขา อย่างน้อยก็กันไม่ให้มอนสเตอร์มากิน รวมทั้งศพกิ้งก่าบินหางดาบที่เหลือถูกเผาทิ้งจนหมด ถ้าเป็นเวลาปกติของพวกนี้คงขายได้ไม่ต่ำกว่าหลักล้าน แต่ลุคและพวกไม่มีเวลาไปสนใจ เขามีเรื่องสำคัญกว่าต้องไปทำ
...
เขต 5
อาคารสำนักงานบริษัทเฟริซิตี้ ฟู้ดส์ จำกัด ที่นี่คือบริษัทด้านการขนส่งและกระจายสินค้าทั้งเขต 4-5 ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของเมืองปลายฝน พวกเขามีเนื้อที่กว่า 30 ไล่
มีโอดังเก็บสินค้ามากกว่า 20 แห่งและอาคารสำนักงานขนาด 30 ชั้นอีกแห่งหนึ่ง
บอสตันต้องใช้ความพยายามพอสมควรกว่าจะได้ที่นี่มา มันยากรองแค่เขตอุตสาหกรรมร้างเท่านั้น และสถานที่นี้ยังตั้งอยู่หน้าอุตสาหกรรมร้างพอดี
ลุคคิดจะใช้ที่นี่เป็นฐานเข้า โครงสร้างของตึก 30 ชั้นไม่ได้เสียหาย ส่วนใหญ่เป็นแต่กระจก ประตู กระเบื้องผนังบางส่วน ซึ่งมันสามารถซ่อมแซมและกลับมาใช้งานได้ นอกจากนั้นยังโกดังก็มีสินค้ามามากที่ถูกขายติดมากับพื้นที่ เพราะบริษัทแม่ของบริษัทเฟริซิตี้ ฟู้ดส์ จำกัดประเมินแล้วว่ามันไม่คุ้มค่าที่ต้องมาขนไป ลุคเลยได้ทุกอย่างมาในราคาที่เหมือนกับแถม
“เราต้องเคลียร์สถานที่นี้ในสองวัน” ลุคลงมาจากรถมองดูด้านใน ที่นี่มีรั้วกั้น แต่ส่วนใหญ่พังลงแล้วเพราะมอนสเตอร์บุกเข้าไป
พวกเขาเริ่มลงมือกวาดล้างมอนสเตอร์กันในทันที
ตลอดสองวันไม่เพียงแต่พวกเขากำจัดมอนสเตอร์ทั้งหมดในอาคารสำนักงานบริษัทเฟริซิตี้ ฟู้ดส์ จำกัดเท่านั้น แต่บริเวณรอบ ๆ ก็โดนเก็บกวาดจนหมด
ที่นี่มีอาหารและน้ำมากมาย แม้ส่วนใหญ่จะโดนมอนสเตอร์กัดกินทำลายไปแล้ว แต่มันยังเหลือมากพอในให้คน 500 คนกินได้สองสามเดือนอย่างไม่มีปัญหา
ระหว่างนั้นลุคและพวกยังเจอกับพนักงาน 10 กว่าคนที่รอดมาด้วย พวกเขาขังตัวเองในโกดังและล็อกจากด้านในจึงรอดมาได้ หลายคนยังอยู่ในสภาพหวาดกลัวและพยายามติดต่อขอความช่วยเหลือทางโทรศัพท์
แต่เพราะเสาสัญญาณในแต่ละเขตโดนทำลายไปจนหมดจึงไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ใด ๆ เลย ยกเว้นก็แต่แหวนเครือข่ายไกอาของเหนือมนุษย์เท่านั้น
พอทุกคนเห็นว่ามีเหนือมนุษย์มาพวกเขาก็ยินดีกันใหญ่
ลุคอธิบายสถานการณ์คร่าวๆ ให้คนพวกนี้ฟังและบอกว่าพวกเขาอาจจะต้องอยู่ที่นี่กันอีกพักใหญ่ แต่ถ้าใครไม่ต้องการก็สามารถไปที่ศูนย์ช่วยเหลือที่เขต 1 ได้ แน่นอนว่าไม่มีใครยอมไป ลุคเลยขอให้พวกเขาช่วยนำทางไปยังที่ต่าง ๆ ในบริษัท เนื่องจากคนพวกนี้เป็นพนักงานเลยคุ้นเคยกับบริษัทแห่งนี้เป็นอย่างดี
ทำให้ไฟฟ้าสำรองจากเครื่องปั่นไฟถูกใช้งานขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาจึงมีไฟฟ้าใช้งานกัน
ในเช้าวันนี้ลุคไม่ได้อยู่ที่อาคารสำนักงานบริษัทเฟริซิตี้ ฟู้ดส์ จำกัดที่ถูกเขาเปลี่ยนไปเรียกว่า ตึกกิลด์เทพศาสตรา แต่เขากำลังเดินทางไปคนเดียวไปที่สถานีรถไฟประจำเขต 5
พอลุคไปถึงเขาก็พบกับกลุ่มคนที่มายืนรออยู่แล้วนับแล้วมีกันประมาณ 150 คนดีไม่ขาดไม่เกิน ทุกคนนั้นแต่งกายด้วยชุดเครื่องแบบทหาร เพียงแต่ไม่มีอาวุธใด ๆ
“นี่สินะมนุษย์โคลนนิ่ง” ลุคพึมพำและยิ้มมุมปากถึงความคาดหวังต่อพวกมัน