ตอนที่แล้วบทที่ 37 สัตว์อสูรอันแปลกประหลาด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 39 นักฆ่าหมูป่า!!

บทที่ 38 การเข้าสู่ภูเขาเทียนหมัง


“ข้าต้องการทักษะการขยายร่างนี้!”

สไลม์เป็นสัตว์อสูรที่คล้ายกับโคลนซึ่งสามารถตัวใหญ่ขึ้นและตัวเล็กลงได้ ดังนั้นมีเพียงสไลม์เท่านั้นที่มีทักษะการขยายร่าง

มีสัตว์อสูรระดับเหนือธรรมชาติน้อยมากที่เชี่ยวชาญทักษะการขยายร่าง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะพบกับพวกมัน

ดังนั้นซืออวี๋จึงไม่ตั้งใจที่จะปล่อยสไลม์ออกไปหากเขาได้เผชิญหน้ากับมัน

แม้แต่วานรเช่นซุนหงอคงก็สามารถเรียนรู้ทักษะกฏร่างรวมศูนย์แห่งสวรรค์และปฐพี และเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นวานรยักษ์ได้… ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องผิดหลักวิทยาศาสตร์สำหรับแพนด้าของเขาที่จะเรียนรู้การขยายร่าง!

กล่าวโดยย่อ นี่คือทักษะสากล สัตว์อสูรทุกประเภทเหมาะที่จะเรียนรู้มัน การเก็บมันไว้ก็ไม่เสียหาย

“ทุกคน ฟังทางนี้!”

หลังจากค้นหาทักษะที่เหมาะสมมาเป็นเวลานาน ในที่สุดซืออวี๋ก็รู้สึกว่าเขาจะพลาดทักษะนี้ไปไม่ได้ ในขณะนี้ นักฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพโจวหวันซานผู้ที่รับผิดชอบการฝึกฝนก็ตะโกนขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“การฝึกฝนจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในอีกครึ่งชั่วโมง ในเวลาครึ่งชั่วโมงนี้ พวกเจ้าสามารถไปที่ร้านค้าข้างฐานการฝึกฝนเพื่อเติมอาหารและยาของพวกเจ้า”

“แต่หลังจากเข้าไปที่ภูเขาเทียนหมัง ยกเว้นกรณีพิเศษบางอย่าง พวกเจ้าจะไม่สามารถออกมาได้อีกเป็นเวลาสามวัน”

ไม่ว่ายังไง ทุกคนมีกระเป๋าเพียงหนึ่งใบ จำนวนของที่พวกเขาสามารถเก็บได้นั้นขึ้นอยู่กับการเตรียมตัวของผู้สมัครเอง

ซืออวี๋ได้เตรียมสิ่งของพื้นฐานมาแล้ว แต่พวกมันอยู่ได้ไม่ถึงสามวัน เขาจะยังคงต้องหาอาหารหลังจากที่เข้าไปในภูเขาเทียนหมัง ในเวลาเดียวกัน เขาก็ยังได้เตรียมถุงนอนไปเช่นกัน

ในตอนนี้ ซืออวี๋เริ่มรู้สึดหมดหนทาง หากเพียงมิติฝึกสัตว์อสูรสามารถเก็บของสิ่งอื่นได้… การไม่มีอุปกรณ์มิตินั้นเป็นเรื่องที่ลำบากมาก

เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ มีคลังมิติในโลกใบนี้ไหม?

นี่เป็นคำถามที่ควรพิจารณา… หากมี เขาต้องหามันมาในอนาคต

ใช่แล้ว ซากปรักหักพังอาณาจักรลึกลับนั่นในเขตผิงเฉิงดูราวกับคลังเก็บของขนาดใหญ่ไม่ใช่เหรอ? มันอาจเก็บของที่ไร้ชีวิตได้

ซืออวี๋ตกอยู่ในห้วงความคิดลึก

“ซืออวี๋”

ในขณะที่ซืออวี๋กำลังสงสัยว่าซากปรักหักพังอาณาจักรลึกลับจะเป็นของเขาได้หรือไม่ เฉินไคก็เข้ามาหาเขาในทันใด

“เจ้าต้องการสร้างทีมไหม?” เฉินไคเอ่ยถามขึ้นในทันที “ชั้นเรียนของข้าวางแผนสร้างทีมเพื่อล่างูหลามคลั่ง”

“อสูรเกราะน้ำแข็งของข้าสามารถเป็นสายควบคุมได้ มีบางคนในชั้นเรียนที่มีสัตว์อสูรธาตุสายฟ้าที่สามารถระเบิดปลาในทะเลสาบได้…”

ซืออวี๋เอ่ยถามขึ้นมาว่า “คราวนี้เจ้าก็สร้างทีมอีกแล้วเหรอ? เราจะแบ่งของยังไงล่ะ?”

เฉินไคกล่าวว่า “ไม่ว่ายังไง ผู้ตรวจสอบก็ไม่ได้ปฏิเสธ มันน่าจะเป็นไปได้ ทะเลสาบรอบงูหลามคลั่งก็ยังมีทรัพยากรหายากอยู่อีกไม่ใช่เหรอ? มันน่าจะเพียงพอนะ”

ซืออวี๋ส่ายหัวของเขาและกล่าวว่า “ไม่ พวกเจ้าไปกันเลย ข้ามีเป้าหมายอื่น”

เขารู้สึกว่าการติมตามคนเหล่านี้ไปอาจไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับการไปเพียงลำพัง และมันก็ไม่สะดวกมากเท่าไหร่

“อ่า ข้าเข้าใจแล้ว”

แม้ว่าเฉินไคจะต้องการสร้างทีมกับซืออวี๋มากกว่า แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแย่เนื่องจากเขาและเพื่อนร่วมชั้นของเขาได้ตกลงร่วมมือกันแล้ว

ส่วนเรท่องที่ผู้เข้าร่วมได้รับอนุญาตให้สร้างทีมหรือไม่ ไม่มีกฏที่ชัดเจนในฐานฝึกฝน อย่างไรก็ตาม สิ่งเดียวที่คล้ายกันก็คือทั้งหมาป่าเดียวดายและทีมขนาดเล็กบางส่วนต่างก็จับจ้องไปที่บอสขนาดเล็กไม่กี่ตัวที่มีระดับการเติบโตสูงกว่าปลุกตื่นขั้นเก้า

หากเขากำจัดหนึ่งในนั้น บางทีเขาอาจอยู่ในยี่สิบอันดับแรก

ต่อไป ซืออวี๋ก็ไปที่ร้านเพื่อซื้อถุงมือกันความร้อน และเขาก็กลับมา

มันยังเร็วเกินไปที่จะออกเดินทาง ดังนั้นซืออวี๋จึงอ่านสารบัญสัตว์อสูรต่อไป

เขาเพิ่งพลิกดูส่วนสัตว์อสูรดุร้ายเท่านั้นและยังไม่ได้ดูส่วนทรัพยากร การรวบรวมทรัพยากรก็ให้คะแนนเช่นกัน โดยรวมแล้ว มันคล้ายกับการทดสอบในปีที่ผ่านมา

อืมม… นอกเหนือจากสัตว์อสูรดุร้ายและทรัพยากร ยังมีอีกสองหน้า “เจ้าเรียนรู้เทคนิคการเอาชีวิตรอดประจำวันแล้วหรือไม่?”

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตา ครึ่งชั่วโมงผ่านพ้นไป ผู้ที่รับผิดชอบการฝึกฝนก็รวบรวมทุกคนอีกครั้ง

“ตอนนี้ก็สิบโมงแล้ว ทุกคน ออกเดินทางได้เลย พวกเจ้ามีอิสระที่จะปีนขึ้นเขาจากทางเข้าทั้งสี่”

มีการปิดล้อมรอบภูเขาเทียนหมัง โดยมีทางเข้าและออกเพียงสี่ทาง สภาพแวดล้อมของทางเข้าและออกแต่ละทางจะแตกต่างกัน

นักฝึกสัตว์อสูรทุกคนในปัจจุบันได้ศึกษาแผนที่อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว พวกเขายังมีเป้าหมายในการล่าในจิตใจเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงมีความคิดว่าพวกเขาจะเข้าไปทางไหน

ดังนั้นทันทีที่โจวหวันซานกล่าวเสร็จ นักฝึกสัตว์อสูร 100 คนก็แยกย้ายกันไปในทันใด

ในเวลาเดียวกัน จักรกลวิหคจำนวนหนึ่งที่มีขนาดเท่ากับนกกระจอกก็เริ่มบินขึ้นมาจากฐานฝึกฝนและสถานที่ปลอดภัยในภูเขา พวกมันเริ่มบินวนเหนือภูเขาเทียนหมัง

[เผ่าพันธุ์] : จักรกลวิหค

[คุณสมบัติ] : จักรกล

[ระดับเผ่าพันธุ์] : เหนือธรรมชาติขั้นต่ำ

[ระดับทักษะ] : การเก็บภาพ การเร่งความเร็ว

[หมายเหตุ] : จักรกลชีวิตเทียมที่ถูกใช้ในการติดตาม การตรวจสอบ และการเฝ้าระวัง

หลังจากที่จักรกลวิหคบินขึ้นไป สถานการณ์ตามจุดต่างๆ บนภูเขาเทียนหมังก็เริ่มปรากฎขึ้นอย่างชัดเจนบนหน้าจอขนาดใหญ่ในห้องตรวจการในฐานฝึกฝน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์อสูรดุร้ายที่มีระดับการเติบโตสูง พวกมันล้วนเป็นเป้าหมายที่สำคัญสำหรับการเฝ้าระวัง

นี่ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อความปลอดภัยของนักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดเท่านั้น แต่ยังเพื่อดูศักยภาพของพวกเขาโดยตรงอีกเช่นกัน ขั้นตอนการเฝ้าดูเป็นหนึ่งในความสุขไม่กี่อย่างที่ผู้ตรวจสอบเหล่านี้ชื่นชอบ

การรอคอยผลลัพธ์การทดสอบนั้นน่าเบื่อเกินไปไม่ใช่เหรอ?

สำหรับเชิงเขาของภูเขาเทียนหมัง ที่ทางเข้าแห่งหนึ่งนั้นเป็นทางเข้าของพื้นที่ภูเขาแม่เหล็กไฟฟ้า ซืออวี๋และนักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดประมาณยี่สิบคนได้เลือกเข้าจากที่นั่น

สำหรับเฉินไคและคนอื่น พวกเขาเข้าจากอีกทางหนึ่งและเตรียมสร้างทีมเพื่อล่างูหลามคลั่ง

“อีเลฟเว่น ออกมา”

พื้นที่ด้านนอกสุดของภูเขาเทียนหมังต้องถูกกวาดล้างไปแล้ว โดยพื้นฐานแล้ว ไม่มีสัตว์อสูรดุร้ายอาศัยอยู่ ดังนั้นนักฝึกสัตว์อสูรส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะอัญเชิญสัตว์อสูรของพวกเขาที่นี่และให้พวกมันป้องกันพวกเขา

ซืออวี๋ก็เช่นกัน เขาเคยเห็นมันมาก่อน มีพืชจิตวิญญาณหายากจำนวนมากอยู่บนภูเขานี้ ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าอีเลฟเว่นจะหมดแรง เขาสามารถปล่อยให้อีเลฟเว่นกินในขณะที่เขาเดินทางได้ ดังนั้นมันจึงน่าจะสามารถรักษาพละกำลังได้ตลอดการทดสอบ

“หือ?”

ในขณะนี้ หลังจากออกมาจากมิติฝึกสัตว์อสูร อีเลฟเว่นก็มองไปรอบตัวด้วยความสับสน

นี่คือที่ไหนกัน?

คู่ต่อสู้อยู่ไหน?

“ข้าจะพาเจ้าไปหาพวกมัน” ซืออวี๋ยังคงมั่นใจในความแข็งแกร่งของอสูรกินเหล็กน้อย

สัตว์อสูรดุร้ายที่นี่อาจกล่าวได้ว่าเป็นสัตว์อสูรป่าที่ไม่ได้รับการฝึกฝน พลังต่อสู้ของพวกมันส่วนใหญ่อาจด้อยกว่าสัตว์อสูรที่ถูกฝึกฝนโดยนักฝึกสัตว์อสูรเล็กน้อย

แม้ว่าอสูรกินเหล็กน้อยของเขาจะเป็นเพียงระดับปลุกตื่นขั้นหก แต่ด้วยสุดยอดการมองเห็นขั้นช่ำชอง การรักษาความเร็วสูงขั้นช่ำชอง และการเคลือบแข็งขั้นชำนาญ พลังต่อสู้ของมันควรจะอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร…

ตราบใดที่พวกเขาไม่พบกับกลุ่มสัตว์อสูรดุร้าย พวกเขาก็จะอยู่ยงคงกระพัน

“อู๋~”

อีเลฟเว่นโบกมือและตามซืออวี๋ไป

ซืออวี๋กล่าวเสริมว่า “ไม่ว่ายังไง เจ้าก็ต้องให้ความนใจกับสภาพแวดล้อมรอบตัวเจ้า”

การรับรู้กลิ่นของอสูรกินเหล็กนั้นดีมาก แตกต่างจากการมองเห็นของมัน…

อย่างไรก็ตาม อีเลฟเว่นนั้นดีทั้งสองด้าน!

ด้วยความมั่นใจนี้ พวกเขาจึงผ่อนคลายและไม่พบกับอันตราย

ตอนนี้ มันถึงเวลาฝึกฝนอีเลฟเว่นในพื้นที่แห่งนี้แล้ว

เป้าหมายสุดท้ายคือสไลม์ไฟฟ้าของพื้นที่ภูเขาแม่เหล็กไฟฟ้า!

หลังจากที่สัตว์อสูรถูกอัญเชิญออกมา เป้าหมายต่อไปของซืออวี๋ก็ชัดเจนมากขึ้นในขณะที่เขาก้าวขึ้นไปบนภูเขา

เขาชำเลืองดูแผนที่ในหนังสือ เพื่อไปถึงจุดหมายปลายทางของเขา เขาต้องผ่านป่าหมูป่าก่อน…

สัตว์อสูรดุร้ายที่ชื่อว่า ‘หมูป่าหนามยาว’ อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้ มันมีพละกำลังมหาศาลและดูดุร้ายมาก เขี้ยวของมันแหลมคม ผิวหนังของมันหนา และมันก็ถูกปกคลุมไปด้วยหนามแหลมที่สามารถป้องกันการโจมตีได้ราวกับเม่น มันเป็นสัตว์อสูรที่มีเผ่าพันธุ์ระดับเหนือธรรมชาติขั้นกลางที่ทำให้เด็กหวาดกลัวจนน้ำตาไหล แต่เนื้อของมันก็สดและฉ่ำมาก

ซืออวี๋ยังคงมีหัวใจของวัยรุ่น น้ำลายไหลออกมาจากมุมปากของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ

ตามหนังสือ ระดับการเติบเฉลี่ยของหมูป่าหนามยาวในป่าหมูป่าคือระดับปลุกตื่นขั้นหก พวกมันถือได้ว่าเป็นแกนหลักของการฝึกฝนภาคสนามนี้

หมูป่าหนามยาวอาจไม่ใช่สัตว์อสูรที่ควรจะล้อเล่นด้วยได้ พลังต่อสู้ของพวกมันไม่อ่อนแอเลย ดังนั้นคะแนนที่ได้รับจากพวกมันก็ไม่ต่ำเลย อย่างไรก็ตาม ยิ่งมันเป็นเช่นนี้ ซืออวี๋ก็ยิ่งรู้สึกยินดีมาก

“อีเลฟเว่น ข้าจะพาเจ้าไปล่าหมู!”

“อู๋~”

ป่าหมูป่า

หมูป่าหนามยาวเป็นสัตว์อสูรที่อยู่กันเป็นกลุ่ม แต่ในกรณีที่สภาพแวดล้อมอันปลอดภัยของพวกมัน พวกมันมักจะแยกย้ายกันออกล่าซึ่งเปิดโอกาสให้นักฝึกสัตว์อสูรที่นี่

การจัดการกับกลุ่มหมูคงเป็นเรื่องน่าปวดหัวอย่างแน่นอน แต่การจัดการกับหมูป่าที่อยู่เพียงตัวเดียว นักฝึกสัตว์อสูรส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมการทดสอบในครั้งนี้น่าจะมีความมั่นใจอยู่บ้าง

ซืออวี๋และอีเลฟเว่นข้ามผ่านเส้นทางป่าและมาถึงใกล้กับป่าหมูป่า ในระหว่างนั้น พวกเขาก็พบกับสัตว์อสูรตัวอื่น แต่พวกมันล้วนเป็นหนูดินที่มีค่า 20 คะแนน ซืออวี๋ไม่ได้สนใจพวกมันเลย

การจัดการกับพวกมันเพื่อไม่กี่สิบคะแนนนั้นลำบากเกินไป มีแม้กระทั่งสัตว์อสูรที่ไม่ให้คะแนน เช่น หนอนไหมเขียวที่ซืออวี๋ไม่มองเมันลย

“พบมันแล้ว”

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขามาใกล้กับป่าหมูป่า ซืออวี๋ก็พบหมูป่าหนามยาวตัวหนึ่งที่กำลังหาอาหาร

[เผ่าพันธุ์] : หมูป่าหนามยาว

[คุณสมบัติ] : ดิน

[ระดับเผ่าพันธุ์] : เหนือธรรมชาติขั้นกลาง

[ระดับทักษะ] : เขี้ยวหิน

[หมายเหตุ] : สัตว์อสูรกลายพันธุ์ที่วิวัฒนาการมาจากหมูป่า มันเก่งด้านการพุ่งชนและแข็งแกร่งมาก เมื่อเขี้ยวของมันโดนศัตรู มันสามารถทำให้ศัตรูเป็นหินได้

“อู๊ด! อู๊ดด!! อู๊ดด!!”

ไม่ใช่แค่ซืออวี๋และอสูรกินเหล็กที่ค้นพบหมูป่าหนามยาว แต่หมูป่าหนามยาวก็ยังพบซืออวี๋และอสูรกินเหล็กเช่นกัน

ศัตรูตามธรรมชาติของหมูป่าหนามยาวคือสัตว์อสูรดุร้าย เช่น หมาป่า หมี เสือดาว และนกที่ดุร้าย ดังนั้นพวกมันจึงต้องระวังการซุ่มโจมตี พวกมันฉลาด ดุร้าย และระวังตัวมาก

ในตอนนี้ มันสัมผัสได้ถึงอันตรายและเงยหน้าขึ้นมา หนามยาวบนร่างกายของมันตั้งตรงขึ้นมาอย่างกะทันหันพร้อมกับที่มันส่งเสียงคำรามออกมา

หมูป่าหนามยาวซึ่งมักจะอาศัยอยู่ในป่ารู้ดีว่ามันอาจเป็นเป้าหมายของนักล่าบางคน

มันเริ่มค้นหาอย่างระมัดระวัง แต่เมื่อมันเห็นซืออวี๋ที่อ่อนแอและผอมบาง และอสูรกินเหล็กที่ตัวเล็กเช่นอีเลฟเว่น มันก็ตกตะลึงในทันที

นั่นมันอะไรกัน?

น้ำลายแห่งความยินดีไหลออกมาจากมุมปากของหมูป่าหนาวยาวโดยไม่รู้ตัว หมูป่าหนามยาวเป็นสัตว์อสูรที่กินไม่เลือก พวกมันกินพืชและเนื้อ สำหรับหมูป่าหนามยาวในปัจจุบัน มันรู้สึกเพียงแค่ว่าสถานการณ์นั้นกลับตาลปัตรในทันใด!

อันที่จริงแล้ว นักล่าก็คือตัวมัน!

อาหารมาเคาะถึงหน้าประตูหน้าบ้านมันแล้ว!

Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน

Link : https://www.facebook.com/translatemoth

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด