บทที่ 29: ภาคีมือสังหาร
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 29: ภาคีมือสังหาร (ขอเปลี่ยนเป็นภาคีนะครับ)
"ภาคีมือสังหาร?"
เจสซิก้าดูสับสน
แน่นอนว่าเธอไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน เพราะก่อนที่ไรอันจะพูด มันไม่มีสิ่งที่เรียกว่าภาคีมือสังหารเลย
ใช่แล้ว ภาคีที่ไรอันกล่าวถึง มันก็เหมือนกับเผิงไหลที่เขาแสร้งทำเป็นพูดยกขึ้นมา
มันคือสิ่งที่ไรอันสร้างขึ้นมาเอง ภาคีที่ว่าก็เพิ่งสร้างขึ้นเมื่อครู่เลย
เพราะเหตุใดเขาจึงไม่ใช้ชื่อของเผิงไหลต่อน่ะเหรอ? นั่นเป็นเพราะความสามารถของ [เวสลีย์ กิบสัน] ไม่ว่าจะเป็น [กระสุนโค้ง] หรือ [เร่งอะดรีนาลีน] มันไม่ตรงกับตำนานของเกาะเผิงไหลที่เป็นของทางประเทศตะวันออก ถ้าเขายืนยันที่จะรวมพวกมันเข้าด้วยกัน ผู้อื่นคงจะต้องมองมันออกอย่างแน่นอน
ดังนั้นไรอันจึงคิดว่าแทนที่จะเชื่อมโยง [เวสลีย์ กิบสัน] กับเกาะเผิงไหล สร้างองค์กรใหม่ขึ้นมาเลยจะดีกว่า ดังคำกล่าวที่ว่าถ้ามีหนึ่งก็จะมีสอง ถ้ามีสองก็จะมีสาม และถ้ามีสามก็...โอเค นั่นดูค่อนข้างยืดยาวไปหน่อย
อย่างไรก็ตามแต่ เจสซิก้ารู้สึกสับสนมากเมื่อได้ยินคำว่า ภาคีแห่งพี่น้องจากริมฝีปากของไรอัน
ก็เป็นปฏิกิริยาปกติที่เธอจะรู้สึกแหละนะ ไรอันไม่ได้แปลกใจอะไรเลย
ในร้านขายของเก่า ไรอันจงใจขยับใบหน้าของเขาลงไปประมาณ 15 องศาพร้อมกับทำตัวลึกลับ จากนัน้จึงลดเสียงของเขาลงและพูดด้วยเสียงแผ่วเบา "ภาคีแห่งพี่น้องเป็นองค์กรที่เก่าแก่มาก ย้อนกลับไปในสมัยโบราณของกรุงโรม มันเป็นกลุ่มนักฆ่าที่จัดตั้งขึ้น ซึ่งสามารถปรากฏขึ้นจากเปลวไฟได้เสมอ แม้จะมีคนมากมายพยายามกวาดล้างมันก็ตาม"
[คะแนนชื่อเสียงจากเจสซิก้า โจนส์ +15]
“แล้วทำไมฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย” เจสซิก้าเลิกคิ้วขึ้น เธอไม่ใช่คนโง่ ในความเป็นจริงด้วยฐานะนักสืบเอกชน แม้ว่าเธอจะทำได้ไม่ดีในย่านเฮลคิทเช่น แต่เธอก็ยังมีความกระตือรือร้นและรู้สึกสงสัยในจุดที่ประหลาดอยู่ สิ่งนี้สามารถเห็นได้จากจำนวนคะแนนชื่อเสียงที่ไรอันได้รับ
“นั่นเป็นเพราะหลักการของภาคีแห่งพี่น้องผูกมัดพวกเขา”
"หลักการเหรอ?"
“หลักการทั้งสามของภาคีประการแรกคือ: จงยั้งดาบจากเลือดเนื้อผู้บริสุทธิ์ ประการสอง: จงซ่อนกายในที่แจ้ง ประการสาม: จงอย่านำความเสื่อมเสียมาสู่ภาคี หลักการพวกนี้ทำให้สมาชิกภราดรต่อสู้ด้วยความสามัคคี เพื่อบรรลุจุดประสงค์ร่วมกัน เพื่อการลอบสังหารทางการเมืองและวางแผนอย่างแยบยล ภาคีได้ปฏิบัติตามหน้าที่โดยหวังว่าจะช่วยคนหลายพันคนโดยการฆ่าคนเพียงหนึ่งคน ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของผู้ที่ไม่มีความสามารถ ทรัพยากรหรือความรู้ที่จะสามารถต่อต้านผู้ที่ใช้อำนาจในทางที่ผิดได้”
[คะแนนชื่อเสียงจากเจสซิก้า โจนส์ +35]
"มันฟังดูเหมือนองค์กรซูเปอร์ฮีโร่เลยนะ" เจสซิก้าทำหน้าบูดบึ้ง ทุกวันนี้เธอไม่ใช่แฟนตัวยงของซูเปอร์ฮีโร่อยู่แล้ว
"แล้วคุณล่ะ? คุณเองก็เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่เรียกว่าภาคีนี้ด้วยหรือ?”
แม้ว่าเจสซิก้าจะประหลาดใจกับภาคีลึกลับ แต่เธอก็ไม่ลืมความสงสัยในตอนแรก
“ผม...” ท่ามกลางคำถามของเจสซิก้า ไรอันส่ายศีรษะแล้วก้มศีรษะด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่นอย่างเห็นได้ชัด “ผมกระตือรือร้นที่จะเข้าร่วมกลุ่มภาคีมาก แต่น่าเสียดายที่กฎภายในของภาคีนั้นเข้มงวดมาก ผมเองก็ไม่ดีพอที่จะเป็นนักฆ่าของภาคีด้วย ดังนั้นที่นี่จึงเป็นเพียงจุดติดต่อของภาคี เพื่อช่วยให้ภาคีสามารถรวบรวมข้อมูลและติดต่อสมาชิกกันได้”
“แล้วคุณจะพิสูจน์ยังไงว่าภาคีที่คุณพูดถึงมันมีจริง? บางทีมันอาจจะเป็นแค่เรื่องโกหกที่คุณคิดขึ้นมาเพื่อหลอกฉันก็ได้ไม่ใช่เหรอ?”
เจสซิก้าพยุงตัวเองขึ้นไปบนเคาน์เตอร์ เธอชะโงกหน้าไปข้างหน้าเล็กน้อยเพื่อมองไรอันตรงไปที่ดวงตา
การปรากฏตัวของคิลเกรฟทำให้เจสสิก้าสงสัยกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอมาก เพราะชายที่อีกฝ่ายเจอเป็นปีศาจที่สามารถควบคุมจิตใจและร่างกายของผู้คนได้
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามที่มากมายของเจสซิก้า ไรอันก็ไม่ได้ตอบกลับด้วยคำพูดเพิ่มเติม แต่เพียงแค่ยกปืนขึ้นมาจ่อที่หน้าของเธอและเหนี่ยวไก
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอกะทันหันมาก จนแม้แต่เจสซิก้าที่มีพลังพิเศษของเธอก็ไม่สามารถหลบกระสุนที่ตรงมายังเธอได้ในเสี้ยววินาที
ทั้งหมดที่เธอทำได้คือมองดูขณะที่กระสุนกำลังพุ่งตรงมาหาเธอ
ในใจของเธอ ความคิดที่ว่าไรอันถูกควบคุมโดยชายม่วงแวบขึ้นมาในทันที
แต่ความตายที่คาดคิดไว้ก็ไม่ได้มาถึง กระสุนที่พุ่งตรงมาที่เธอเปลี่ยนทิศทางไปอย่างน่าอัศจรรย์ ในวินาทีต่อมา ก่อนที่มันจะชนกับเจสสิก้า มันตัดผ่านปลายผมของเธอและพุ่งเข้าเซรามิกที่อยู่ข้างหลังเธอ
ทันใดนั้นเสียงแก้วเซรามิกแตกก็ดังขึ้น
จากนั้นเสียงของไรอันก็ค่อยๆ ดังก้องอยู่ในหูของเจสซิก้า "[ กระสุนโค้ง] เป็นหนึ่งในวิชาปืนอันน่าอัศจรรย์ที่สมาชิกของภาคีเชี่ยวชาญ น่าเสียดายที่ผมไม่มีความสามารถพอที่จะทำแบบนั้น ผมได้แค่เปลี่ยนมุมกระสุนเล็กน้อยเอง ผมไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางของกระสุนได้แบบสมาชิกของภาคีเลย”
[คะแนนชื่อเสียงจากเจสซิก้า โจนส์ +115]
ปัง--
ไรอันก้มศีรษะพร้อมกับมองไปที่เคาน์เตอร์ที่ถูกทุบครึ่งหนึ่ง จากนั้นก็มองไปที่เจสซิก้าที่กำลังส่ายหมัดของเธอ "ผมแค่แสดงให้ดูเอง เพราะคุณบอกไม่เชื่อผมเอง”
“ก็จริง” เจสซิก้ายกหมัดลงพร้อมกับพยายามทำให้หัวใจของตนสงบ เมื่อครู่ เธอเกือบจะคิดว่าเธอกำลังจะบอกลาโลกแล้ว
หลังจากสงบสติอารมณ์ได้ เจสซิก้าก็เงยหน้าขึ้นมองไรอันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ สายตาของเจสซิก้าที่มองมาที่เขานั้นแตกต่างออกไปเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด
...
ณ ฟิสก์ทาวเวอร์ แมนฮัตตัน
กระจกที่แตกบนชั้นบนสุดได้รับการซ่อมแซมแล้ว
คิงพินยืนอยู่ที่ขอบหน้าต่าง พิงไม้เท้าของตนเองพลางมองลงไปที่เบื้องล่างใต้อาคาร
"ช่วงนี้ธุรกิจของฉันในแมนฮัตตันเจอปัญหามากมาย ไม่ดีเลยนะ“คิงพินหันกลับมาและมองไปที่ชายตัวสั่นที่คุกเข่าอยู่ข้างหลังเขา”มันแย่มากเลยแอนโทนี่ ตอนที่ฉันสั่งนายไปใช่แบบนี้”
“คือว่าผมมีเหตุผลครับ คิงพิน มีคนบ้าอยู่เต็มไปทั่วเลย มันโจมตีธุรกิจของเราและเราก็สูญเสียคนของเราไปจำนวนหนึ่ง” เมื่อเผชิญกับคำถามของคิงพิน ชายคนนั้นก็ได้แต่แก้ตัวเสียงดัง
“ฉันไม่อยากได้ยินคำแก้ตัวของแก” คิงพินพูดออกมาด้วยความเย็นชาขณะที่เขายกชายคนนั้นขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว เขาไม่สนใจการต่อต้านของชายบนมือของเขาเลย “สำหรับฉัน แกก็แค่ปกปิดความไร้ความสามารถของแกด้วยข้อแก้ตัว สิ่งที่ฉันต้องการคือผลลัพธ์ ผลลัพธ์ที่จะทำให้ฉันพึงพอใจ แกเข้าใจไหม?”
"ผม... ข... เข้าใจครับ..."
ชายคนนั้นที่ถูกคิงพินยกตอบกลับไปด้วยความยากลำบาก
เมื่อโยนชายที่หน้าซีดกลับลงไปที่พื้น คิงพินก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาและเช็ดฝ่ามือของเขา "ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้โอกาสแกอีกครั้ง แต่จำไว้นะ แอนโทนี่ นี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ถ้าแกไม่สามารถทำให้ฉันพอใจได้ บางทีเราอาจจะไม่ได้พบกันที่นี่อีก"
บนพื้น ชายคนนั้นพยักหน้าด้วยสีหน้าที่ยากลำบาก ในขณะที่เขาหอบหายใจและจับคอของตนอย่างเจ็บปวด
...