บทที่ 15 เผชิญหน้ากับฮัลค์
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 15 เผชิญหน้ากับฮัลค์
กรร!!
เมื่อโยนซากเฮลิคอปเตอร์ไปด้านหลัง ฮัลค์ก็เงยหน้าขึ้นสูงและส่งเสียงคำรามอย่างหนวกหูใส่เฮลิคอปเตอร์ที่เหลืออยู่ในอากาศ
"เขากำลังท้าทายเรา"
บนเฮลิคอปเตอร์ลำอื่น นายพลรอสยังคงมองไปที่การกระทำของฮัลค์ด้วยใบหน้าเย็นชา
อย่างที่นักปราชญ์เคยกล่าวไว้ คนที่รู้จักคุณดีที่สุดมักจะเป็นศัตรูของคุณ
หลังจากหลายปีของการล่า นายพลรอสได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการกระทำและความสามารถของฮัลค์ในระดับหนึ่ง ทำให้เขาสามารถรู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่
"เมื่อเทียบกับข้อมูลก่อนหน้านี้จากการไล่ล่ากันกลางทะเลทราย คราวนี้ความแข็งแกร่งและพลังป้องกันของฮัลค์ได้เพิ่มขึ้นมากพอสมควร อีกทั้งยังมีความสามารถในการกระโดดที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ความสูงในการกระโดดครั้งแรกของเขาคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 20 เมตร จำเป็นต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติม..."
"ความสามารถของฮัลค์พัฒนาอย่างต่อเนื่อง" ใบหน้าของนายพลรอสแสดงให้เห็นถึงความวิตกกังวลที่หาได้ยาก ดวงตาของเขากวาดมองข้อมูลที่ทหารนำส่งมาให้ "เราต้องจับมันให้ได้ก่อนที่มันจะแข็งแกร่งขึ้นไปอีก"
แม้ว่าจิตใจของเขาจะยังคงปั่นป่วนอยู่ แต่นายพลรอสก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจับจ้องไปทางฮัลค์
การเลือกตำแหน่งของไรอันทำให้การเคลื่อนไหวของฮัลค์ช้าลงอย่างแน่นอน แต่อาคารสูงก็ขัดขวางเฮลิคอปเตอร์เช่นกัน ทำให้พวกเขาไม่สามารถเข้าไปโจมตีใส่ฮัลค์ได้
"กองกำลังภาคพื้นดินอยู่ที่ไหน? ทำไมพวกเขาถึงยังมาไม่ถึงอีก?"
หลังจากได้ข้อมูลมา เฮลิคอปเตอร์หลายลำก็ลอยขึ้นสูง เพื่อหนีห่างจากเงื้อมมือของฮัลค์ นายพลรอสถามคนของเขาขณะที่เขาจ้องมองไปที่ฮัลค์ที่อยู่ด้านล่าง
"เส้นทางของหน่วยยานเกราะกำลังเปลี่ยนเส้นทางไป เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางบนท้องถนน คาดว่าจะมาถึงตามเป้าหมายในอีก 3 นาที"
"3 นาทีเหรอ?! แกคิดว่าฮัลค์จะอยู่เฉยๆ และรอเรา 3 นาทีไหม?" นายพลรอสหันไปพูดกับทหารที่รายงานสถานการณ์ด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ทหารได้แต่ชำเลืองมองลงไปที่ฮัลค์ด้านล่างและส่ายศีรษะ "ไม่ครับท่าน"
"ถ้าอย่างนั้นจงบอกทหารในหน่วยหุ้มเกราะให้มาที่นี่ทันที"
"ครับท่าน!"
"ท่านครับ..."
"คราวนี้อะไรอีก!?"
"เป็นสายจากฐานทัพครับ"
นายพลรอสขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวและหยิบโทรศัพท์ที่ลูกน้องส่งมาให้เขา
กองทัพสหรัฐมีสายการบังคับบัญชาที่ซับซ้อน ฝั่งหนึ่งเป็นทหารผ่านศึกสายแข็งอย่างนายพลรอส แต่ก็มีอีกฝ่ายหนึ่งที่ผลักดันแผนการเจรจา ทว่าด้วยเหตุการณ์เหนือมนุษย์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง จึงส่งผลให้กลุ่มใช้ความรุนแรงภายในกองทัพ ซึ่งนำโดยกลุ่มของนายพลรอสได้รับความได้เปรียบ
"รอส"
"นายพลรอส คุณรู้ไหมว่าในการเผชิญหน้าระหว่างคุณและสัตว์ประหลาดผิวเขียวได้สร้างปัญหาให้กับกองทัพในแมนฮัตตันมากแค่ไหน? เมื่อสักครู่นี้ท่านประธานาธิบดีได้เรียกฝ่ายทหารมาถามเกี่ยวกับ..."
"ชื่อของสัตว์ประหลาดผิวเขียวที่คุณเรียกคือฮัลค์"
...
บนเฮลิคอปเตอร์ นายพลรอสได้ถูกรบกวนด้วยสายที่เรียกเข้ามาอย่างกะทันหัน
ส่วนด้านล่าง ฮัลค์ได้เปลี่ยนความสนใจไปยังเครื่องบินแทนแมลงตัวจ้อยแล้ว
แต่ในไม่ช้า ร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวออกมา
แทนที่จะใช้ประโยชน์จากการที่ฮัลค์กำลังสนใจเฮลิคอปเตอร์อยู่ แมลงเล็กตัวจ้อยกลับยืนอย่างอาจหาญคล้ายกำลังรอบางอย่าง
"สวัสดี!" เมื่อหนีรอดจากสายตาของฮัลค์แล้ว ไรอันก็สูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นจึงนำมือของเขามารวมกันเป็นรูปทรัมเป็ตรอบๆ ปากของเขาและตะโกนว่า "เฮ้ พ่อตัวใหญ่ ตรงนี้ ฉันอยู่ตรงนี้ ทางนี้..."
ภาพในตอนนี้คงเป็นฉากอบอุ่นหัวใจแน่ หากแทนทั้งสองเป็นตัวละครในซิสคอม ช่างน่าเสียดายที่ความเป็นจริงคือ ไรอันที่สวมชุดขาดๆ กำลังอ้าปากตะโกนและฮัลค์ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของถนนกำลังแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา
ซึ่งมันก็ทำให้ภาพที่เกิดขึ้น ทำให้พวกเขาสะดุดตาเป็ฯอย่างยิ่ง
"ไว้ฉันจะกลับมาอธิบายสถานการณ์ด้วยตนเองทีหลัง" บนเฮลิคอปเตอร์ นายพลรอสที่สังเกตถึงสิ่งที่เกิดขึ้นบนพื้นเบื้องล่าง เขาก็วางสายโทรศัพท์โดยไม่ลังเล
การกระทำของไรอันดึงดูดความสนใจของฮัลค์ได้อย่างไม่น่าแปลกใจ
เมื่อเห็นแมลงตัวเล็กๆ ตัวนี้ที่ก่อนหน้านี้ทำได้เพียงวิ่งหนีไปกลับอาจหาญท้าทายเขา ฮัลค์ก็คำรามออกมา เพราะไม่อาจเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้เลย แต่มันยังสัมผัสได้ถึงความตั้งใจของชายผู้นี้ ที่คล้ายกับกำลังท้าทายให้มันเข้าไปหา
'ในเมื่อต้องการให้ฮัลค์ไป ฮัลค์ก็จะทุบเขาเป็นชิ้นๆ!'
ฮัลค์ที่สมองเต็มไปด้วยความโกรธไม่ได้คิดเลยว่าจะมีกับดักอยู่เบื้องหลังการกระทำของไรอันหรือไม่ สิ่งเดียวที่เขาคิดคือการทุบให้แหลก
เสียงคำรามได้ดังขึ้นมา ฮัลค์เอามือแตะพื้นราวกับสัตว์ร้ายและรีบวิ่งไปหาไรอันด้วยมือและเท้าทั้งสองข้าง
'มาแล้ว!'
เมื่อดึงฮัลค์เข้ามาหาตัวเองได้สำเร็จ ไรอันก็ไม่ลังเลที่จะหันกลับมาและเผยให้เห็นหัวฉีดน้ำดับเพลิงสีแดงเด่นชัดอยู่ข้างหลังเขา ด้วยการหมอบลงเล็กน้อย ขาเหล็กอันทรงพลังก็เตะลงไปที่ด้านบนของหัวฉีดด้วยพลังทั้งหมดของเขา
แกร๊ง--
เสียงที่คมชัดราวกับว่าโลหะกำลังปะทะกับโลหะได้ดังขึ้น หัวฉีดน้ำดับเพลิงเริ่มแปรเปลี่ยนรูปร่างอย่างช้าๆ ด้วยใต้ขาของไรอัน สายน้ำเริ่มทะลักออกมาตามรอยแตกในหัวฉีดน้ำ
เบื้องหน้าของเขา หัวฉีดน้ำดับเพลิงได้เปลี่ยนรูปไปด้วยพลังอันทรงพลังขาเหล็กอันยิ่งใหญ่ของไรอัน
อย่างไรก็ตาม ด้านหลังเขา ฮัลค์ก็เข้ามาใกล้เขาด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
'เร็วเข้า เร็วเข้าสิ!'
เมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนที่ใกล้เข้ามาข้างหลังเขา เสียงคำรามที่รู้สึกราวกับว่าอยู่ห่างเพียงเอื้อมมือ...
ไรอันก็รู้สึกได้เพียงว่าหัวใจของเขาเต้นแรงและใบหน้าของเขากำลังเปียกโชกไปด้วยเหงื่อหรืออาจจะเป็นน้ำจากหัวฉีด
"กรรร!"
ด้วยเสียงคำรามที่ดังหนวกหู ฮัลค์ได้วิ่งกระโจนขึ้นพุ่งเข้าหาใส่ไรอันด้วยความรุนแรง
แกร๊ง--
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่หัวฉีดน้ำดับเพลิงที่ถูกไรอันเตะไปได้ปลดปล่อยน้ำไหลทะลักผ่านช่องว่างในหัวฉีดและกระทบเข้ากับร่างของฮัลค์
โดยธรรมชาติแล้ว น้ำที่พ่นออกมาจากหัวฉีดน้ำคงไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับฮัลค์ได้มากนัก แรงของน้ำไม่มีทางเลยที่จะเทียบกับความแรงของกระสุนได้ ทว่าด้วยการฉีดพ่นน้ำจำนวนมากจากหัวฉีด มันสามารถหยุดฮัลค์ได้ชั่วครู่
ณ จุดนี้เอง ความไร้สติปัญญาของฮัลค์ก็โผล่ขึ้นมา แทนที่เขาจะวิ่งไปหาไรอัน กลับเลือกที่จะวิ่งไปหาหัวดับเพลิงที่กำลังฉีดเข้าใส่เข้า เขาไม่สนใจไรอันและวิ่งไปหาหัวฉีดน้ำทันที
สิ่งที่ฮัลค์มีอยู่ในความคิดตอนนี้คือการวิ่งฝ่าน้ำเข้าไป
ไรอันตัดสินใจอย่างรวดเร็วและใช้พลังของขาเหล็กอันยิ่งใหญ่ของเขาสิบเปอร์เซ็นต์เพื่อเตะหน้าฮัลค์
...
....
