ตอนที่ 4164 : กฎที่เปลี่ยนไป
ตอนที่ 4164 : กฎที่เปลี่ยนไป
เป็นธรรมดาที่ต้วนหลิงเทียนจะมองแผนของจักรพรรดิเทพขั้นสูงทั้งสองคนออก
ชัดแล้วว่าคนแรกคิดจะผลาญพลังของเฉิงหยานเพื่อที่อีกคนจะได้เปรียบในการสู้กับเฉิงหยาน แม้ว่าเฉิงหยานจะกินยาฟื้นฟูศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เฉิงหยานจะฟื้นฟูพลังทั้งหมดภายในเวลาอันสั้น
สำหรับหูตงหลนจากท่าทีของเขาแล้ว เขารู้ถึงแผนของสองคนนี้ ไม่ใช่แค่นั้นแต่เขายังรู้ว่าเฉิงหยานนะจงใจปกปิดพลังตอนที่สู้กับเขาด้วย
....
ตอนที่จักรพรรดิเทพขั้นสูงคนสุดท้ายเข้าไปในลานประลอง แม้แต่ต้วนหลิงเทียนก็ยังไม่มั่นใจว่าใครจะชนะ แต่จากสีหน้าที่มั่นใจของเฉิงหยานแล้วเหมือนกับว่าเฉิงหยานจะชนะได้
“เฉิงหยาน ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะปกปิดความแข็งแกร่งเอาไว้” จักรพรรดิเทพขั้นสูงพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเครียดพร้อมกับมองไปที่เฉิงหยาน
จักรพรรดิเทพขั้นสูงไม่กล้าลดการป้องกันลงเลยแม้แต่น้อยถึงจักรพรรดิเทพขั้นสูงอีกคนจะผลาญพลังของเฉิงหยานไปแล้วก็ตาม ยังไงเสียเฉิงหยานก็ดูไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เขาไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะเฉิงหยานได้
แม้ว่าแผนในการผลาญพลังของเฉิงหยานนั้นจะสำเร็จก็ตาม แต่เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเข้ามาสู้ ยังไงเสียก็มีโอกาสครั้งสำคัญเป็นเดิมพัน เขาไม่อยากจะกลายเป็นเจ้าเมืองของตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ แต่เขาต้องการเป็นตัวแทนของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรมระหว่างการต่อสู้ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ในหุบเขาโชคชะตา คือโอกาสครั้งใหญ่อาจจะช่วยให้เขากลายเป็นอริยะเทพได้
หากไม่มีโอกาสเช่นการต่อสู้ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์หรือโชคแล้ว เขารู้ว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะทะลวงผ่านขึ้นเป็นอริยะเทพได้
“ดูเหมือนว่านี่จะเป็นคู่สุดท้ายแล้ว”
“คนที่ชนะการต่อสู้นี้จะได้เป็นผู้นำมณฑลชั่วคราวของตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ !”
“ถูกต้อง นี่ต้องเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย นอกจากเสียว่าจะมีจักรพรรดิเทพขั้นสูงอีกคนโผล่มา”
ผู้คนรวมถึงหวังชุนที่ยืนอยู่ข้างๆต้วนหลิงเทียนพากันคิดไปทางเดียวกัน
ในขณะเดียวกันจักรพรรดิขั้นสูงคนนั้นก็ไม่มัวเสียเวลา ไม่นานหลังจากที่เขาเข้าไปในลานประลอง เขาก็เริ่มทำการโจมตี การโจมตีของเขาอัดเข้าที่เฉิงหยานอย่างต่อเนื่อง หวังว่าจะเอาชนะเฉิงหยานได้ก่อนที่เฉิงหยานจะฟื้นฟูพลังงานได้มากกว่านี้
แต่เฉิงหยานไม่ได้สั่นไหวแม้แต่น้อยถึงเผชิญหน้ากับการโจมตีที่ราวกับห่าฝนเหล่านี้
เมื่อเห็นเช่นนั้น ทุกคนรวมถึงผู้ส่งสารต่างก็รู้ว่าเฉิงหยานปกปิดความแข็งแกร่งเอาไว้มากกว่าที่พวกเขาคิด ซึ่งไม่ยากเลยที่พวกเขาจะรู้ถึงผลลัพธ์ในการต่อสู้
“หากไม่มีอะไรให้แปลกใจอีก จักรพรรดิเทพขั้นสูงคนนั้นต้องพ่ายแพ้แน่...”
“เฉิงหยานจะได้เป็นผู้นำมณฑลชั่วคราวของตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเรา !”
อย่างที่คาดเอาไว้ ใช้เวลาไม่นานก่อนที่เฉิงหยานจะกลับมาได้เปรียบและเอาชนะอีกฝ่ายไปได้ใน 10 กระบวนท่าน เพราะเช่นนั้นเขาจึงป้องกันตำแหน่งได้สำเร็จ หลังจากที่เอาชนะจักรพรรดิเทพขั้นสูงไป 3 คนติดต่อกัน
แม้ว่าจักรพรรดิเทพขั้นสูงทั้งสามคนจะรู้สึกขมขื่นกับความพ่ายแพ้ แต่พวกเขาก็ยอมรับในความแข็งแกร่งของเฉิงหยาน เป็นเพราะเช่นนั้นพวกเขาจึงพากันแสดงความยินดีกับเฉิงหยาน พวกเขาต่างก็แสดงน้ำใจของผู้แพ้ออกมา
“ยินดีด้วยเฉิงหยาน !”
เฉิงหยานยิ้มบางๆออกมาและพูดขึ้น “ยังเร็วเกินไปที่จะแสดงความยินดีกับข้า การแข่งขันยังไม่จบ”
ในความเห็นของทุกคนแล้ว เฉิงหยานนะแค่ถ่อมตัว ไม่ต้องเดาเลยว่าในมุมมองของทุกคนแล้ว เฉิงหยานนั้นต้องเป็นผู้ชนะของการแข่งขันชิงตำแหน่งผู้นำมณฑลชั่วคราวของตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์
ตอนนั้นเองหวังชุนก็พูดขึ้นมาพร้อมถอนหายใจ “เฉิงหยานจะได้กลายเป็นผู้นำมณฑลชั่วคราวของตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเรา เขาค่อนข้างแข็งแกร่งและยังหนุ่ม หากเขาโชคดีก็อาจจะได้โอกาสในการก้าวเป็นเทพสูงสุดระหว่างการต่อสู้ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ในหุบเขาโชคชะตา !”
ไม่มีใครรวมถึงต้วนหลิงเทียนที่รู้เกี่ยวกับหุบเขาโชคชะตาในการต่อสู้ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์มากนัก แต่คนส่วนมากคิดว่ามันคือการแข่งขันระหว่างจักรพรรดิเทพขั้นสูงจากที่ต่างๆ พวกเขาอาจจะพบกับโชคเข้าซึ่งช่วยให้พวกเขาก้าวขึ้นเป็นอริยะเทพได้
ตอนที่ทุกคนซุบซิบกันกับชัยชนะของเฉิงหยาน เฉิงหยานที่อยู่ในลานประลองซึ่งดูไร้เทียมทาน เขายืนรอราวกับรอคู่ต่อสู้คนต่อไป
....
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆก่อนที่จะถึงเวลาบ่าย
แม้ว่าทุกคนจะมั่นใจในชัยชนะของเฉิงหยานทันทีที่เขาเอาชนะจักรพรรดิเทพขั้นสูงคนสุดท้ายได้ แต่ก็ไม่เหลือใครอยู่อีกแล้ว พวกเขาก็ยังไม่อยากจะพลาดหากมีจักรพรรดิเทพขั้นสูงโผล่มาอีกคน ไม่ว่ามันแทบจะไม่มีโอกาสก็ตาม
“เหลืออีก 15 นาที หากไม่มีจักรพรรดิเทพขั้นสูงคนอื่นอีก เฉิงหยานจะกลายเป็นผู้ชนะในการแข่งขันนี้”
“ถูกต้อง ยิ่งกว่านั้นตอนนี้ก็ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วหลังจากการต่อสู้รอบที่แล้ว ท่านเฉิงต้องฟื้นฟูพลังกลับมาได้ด้วยยาฟื้นฟูศักดิ์สิทธิ์”
“ชัดแล้วไม่ใช่หรือว่าเขาแกร่งขึ้นกว่าเดิม ?”
“แม้ว่าจักรพรรดิเทพขั้นสูงจะปรากฏตัว แต่ก็คงยากที่เขาหรือนางจะเอาชนะท่านเฉิงได้”
ไม่นานหลังจากนั้นก็มีคนพูดขึ้นมาพร้อมถอนหายใจ “เราผ่าน 15 นาทีมาครึ่งทางแล้ว...ข้าเดาว่าอีกเดี๋ยว เราคงต้องแยกย้ายกันแล้ว..”
“ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นจากเวลาที่น้อยนิดนี้...”
ตอนนั้นหวังชุนที่คิดแบบเดียวกับคนอื่นๆก็ได้บอกกับต้วนหลิงเทียน “น้องชาย ไม่มีอะไรให้ดูแล้ว เวลาแทบจะหมดแล้ว ข้าคิดว่าเราควรกลับไปที่เมืองกันดีกว่า”
ตั้งแต่ที่ต้วนหลิงเทียนตอบกลับหวังชุนเป็นบางครั้ง หวังชุนก็เดาว่าพวกเขาไม่ใช่เพื่อนกัน สุดท้ายแล้วก็เป็นแค่ความรู้สึกข้างเดียว
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าและพูดขึ้น “เจ้าพูดถูก นี่ก็ได้เวลากลับไปที่เมืองแล้ว” หลังจากที่เงียบได้ไม่นานเขาก็พูดขึ้นต่อ “แต่ก่อนที่เราจะกลับเมืองกัน มันมีอีกเรื่องที่ข้าต้องทำ”
“หือ ? เรื่องอะไรหรือ ?” หวังชุนถามขึ้นมาด้วยความสับสน
ต้วนหลิงเทียนไม่ได้ตอบคำถามหวังชุน อยู่ๆเขาก็หายไปจากสายตาอีกฝ่าย
เมื่อเห็นเช่นนั้น หวังชุนก็สับสนยิ่งกว่าเดิม เขาพึมพำกับตัวเอง “เขากลับไปแล้วหรือ ? เหตุใดเขาถึงไม่รอข้า ?”
หวังชุนเดาว่าต้วนหลิงเทียนกลับไปแล้ว เขาหันกลับและต้องอึ้งกับร่างที่คุ้นตาบนลานประลอง
ในเวลาเดียวกันผู้คนก็พากันฮือฮาขึ้นมาเมื่อเห็นคนในชุดม่วงบินเข้าไปในลานประลองเพื่อเผชิญหน้ากับเฉิงหยานที่ซึ่งเอาชนะจักรพรรดิเทพขั้นสูงมาได้ 3 คนติด
เฉิงหยานเองก็คล้ายกับคนอื่นๆ เขาตะลึงเมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนและไม่คิดเลยว่าจะมีคนมาท้าทายเขาตอนที่เวลาเกือบจะหมด
ที่สำคัญและน่าตกใจที่สุดคือต้วนหลิงเทียนนั้นเป็นแค่จักรพรรดิเทพขั้นต้น เขาถามขึ้นมาด้วยความสงสัย “เจ้าเป็นแค่จักรพรรดิเทพขั้นต้น แต่เจ้ากลับอยากจะท้าทายข้าเพื่อตำแหน่งผู้นำมณฑลชั่วคราวของตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นหรือ ?”
ผู้คนพากันตะลึงเมื่อได้ยินว่าต้วนหลิงเทียนเป็นแค่จักรพรรดิเทพขั้นต้น หลายคนคิดว่าต้วนหลิงเทียนเข้าไปในลานประลองเพราะเข้าใจผิด บางคนรู้สึกว่าต้วนหลิงเทียนอยากจะตาย
“จักรพรรดิเทพขั้นต้น !”
“เขาอยากจะตายหรือ ? เขากล้าดีเช่นใดไปท้าทายท่านเฉิง ?”
“ข้าเห็นเขาใช้ทักษะเคลื่อนย้าย...บางทีเขาอาจจะเข้าไปในลานประลองเพราะความผิดพลาด ?”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นคนคำนวณผิดและเดินทางไปผิดที่หลังจากที่ใช้การเคลื่อนย้าย !”
ในเวลาเดียวกันผู้ส่งสารจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรมก็อดไม่ได้ที่จะคิ้วขมวด เขาคิดว่ามันคงเกินจริงที่จักรพรรดิเทพขั้นต้นจะกล้าท้าทายจักรพรรดิเทพขั้นสูง
แม้ว่าความเป็นไปได้นั้นจะต่ำ แต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะสงสัยในใจ ‘ เฉิงหยานเตรียมให้เขาเข้ามาสู้เพื่อกันไม่ให้จักรพรรดิขั้นสูงคนอื่นๆท้าทายเขาในตอนสุดท้ายหรือ ? ’
สายตาของผู้ส่งสารเย็นชาขึ้นมาเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ เขาเกลียดลูกตุกติกมากที่สุดและฮึดฮัดออกมา หลายคนสังเกตุเห็นท่าทีของเขา
จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา “ แค่จักรพรรดิเทพขั้นต้นกล้าพอที่จะท้าทายจักรพรรดิเทพขั้นสูง...นิ ไม่ใช่เวทีทำการแสดง การต่อสู้นี้จะเป็นการต่อสู้ตัดสินชีวิต
หากพวกเจ้าสองคนไม่เต็มใจที่จะสู้ตัดสินชีวิตกัน พวกเจ้าทั้งสองคนถือว่าแพ้ พวกเจ้าทั้งสองคนจะถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขันผู้นำมณฑลชั่วคราวของตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์นั้นจะตกเป็นของผู้ถูกเลือกในหมู่จักรพรรดิเทพขั้นสูงทั้งสามคน ”
ผู้คนต่างก็พากันอึ้งและสับสนกับคำพูดของผู้ส่งสาร แต่หลังจากนั้นสักพักก็มีคนเดาความคิดของผู้ส่งสารออกและเข้าใจถึงการเปลี่ยนกฎครั้งนี้
“ชายชุดม่วงนั้นมาที่นี่เพื่อช่วยยื้อเวลาให้ท่านเฉิงหรือ ?”
“จำเป็นด้วยหรือ ?”
“ข้าคิดว่าท่านเฉิงน่าจะไม่คิดว่าผู้ส่งสารจะเปลี่ยนกฎเช่นนี้ ?”
“ข้าเดาว่าท่านเฉิงน่าจะฆ่าชายชุดม่วง ไม่เช่นนั้นแล้วเขาจะถูกตัดสิทธิ์”
“หากเขาเป็นคนของท่านเฉิง ข้าคิดว่าท่านเฉิงก็น่าจะฆ่าเขาไม่ใช่หรือ ?”
“ซึ่งอาจจะไม่เป็นเช่นนั้น หากเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับท่านเฉิง ข้าคิดว่าเป็นไปได้ที่ท่านเฉิงจะฆ่าเขาเพื่อเป็นเจ้าเมืองชั่วคราวของตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเรา”
สายตาของทุกคนพากันจับจ้องไปที่ต้วนหลิงเทียนและเฉิงหยานด้วยความสงสัย
ในเวลาเดียวกันหวังชุนก็พึมพำออกมาด้วยความตะลึง “งั้นต้วนหลิงเทียนก็มาช่วยเฉิงหยานสิ ? หากเป็นเช่นนั้นจริง สถานการณ์ตอนนี้ก็ไม่ดีกับเขาเท่าไหร่นัก”
หวังชุนถอนหายใจออกมา ‘ ข้าหวังว่าเฉิงหยานจะไม่ฆ่าเขาเพื่อจะก้าวเป็นเจ้าเมืองชั่วคราวของตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ’
ในขณะเดียวกันเฉิงหยานก็รู้สึกว่าตนเองถูกเข้าใจผิด ‘ ผู้ส่งสารคิดว่านี่เป็นแผนของข้าหรือ ? ’
ในเวลาเดียวกันเฉิงหยานก็มองไปที่ต้วนหลิงเทียน เขารู้สึกเลือดร้อนไปตาม เขาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าหนู ทุกคนคิดว่าข้าจ้างเจ้ามาเพื่อยื้อเวลา แต่เจ้านะรู้ความจริง ข้าไม่รู้ว่าเหตุใดเจ้าถึงได้เข้ามาในลานประลองเช่นนี้ แต่ว่าเจ้าเตรียมใจตายไว้ได้เลย !”