ตอนที่ 4163 : เฉิงหยาน
ตอนที่ 4163 : เฉิงหยาน
จักรพรรดิเทพขั้นสูงทั้งสองคนไม่เข้าไปในสนามประลอง แต่จักรพรรดิเทพขั้นกลางหลายคนต่างก็อยากจะแสดงฝีมือของตนเองโดยหวังว่าพวกเขาจะได้รับความสนใจจากผู้ส่งสารอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรมเพื่อที่พวกเขาจะได้ติดตามผู้ส่งสารกลับไปยังเมืองหลวง
ยังไงถ้าหากพวกเขาได้รับความสนใจ ชีวิตของพวกเขาก็จะเปลี่ยนไปจากเดิม
กว่าครึ่งวันกลุ่มจักรพรรดิเทพขั้นกลางก็ได้ทำเต็มที่ในการต่อสู้ มีหลายคนที่ได้รับคำชมจากผู้ส่งสาร
“เมื่อเจ้าขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูงแล้วจงไปหาข้าที่เมืองหลวง ข้าจะเตรียมการให้กับเจ้า”
...
ผิดจากที่เหล่าจักรพรรดิเทพขั้นกลางคาดกันเอาไว้ ผู้ส่งสารไม่คิดจะพาพวกเขากลับไปที่เมืองหลวงด้วย แค่บอกพวกที่น่าสนใจว่าให้ไปหาที่เมืองหลวง หลังจากที่ขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูงได้แล้ว นี่ไม่ใช่สิ่งที่เหล่าจักรพรรดิเทพขั้นกลางต้องการ
เมื่อพวกเขากลายเป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูงแล้ว แม้แต่คนที่อ่อนแอที่สุดก็ยังได้รับตำแหน่งจากผู้ปกครองอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ได้ง่ายๆ
ยิ่งกว่านั้นส่วนมากแล้วไม่คิดจะรับใช้ผู้ปกครองของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าจะเป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูงก็ตาม สิ่งที่พวกเขาต้องการคือเป็นลูกน้องของผู้ส่งสารในตอนนี้เพื่อที่พวกเขาจะได้รับทรัพยากรในการช่วยทำให้การบ่มเพาะนั้นในการพัฒนาเร็วขึ้นก่อนจะขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูง
ตอนที่เหล่าจักรพรรดิเทพขั้นกลางสู้กันอยู่นั้น จักรพรรดิเทพขั้นสูงอีกคนก็มาถึง เขาคือผู้บ่มเพาะไร้สังกัดจากเมืองตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน
คนส่วนมากจะจดจำจักรพรรดิเทพขั้นสูงผู้นี้ไม่ได้
หวังชุนมองไปที่จักรพรรดิเทพขั้นสูงก่อนจะพูดขึ้นมา “เขาคือเฒ่าซู ข้าเคยได้ยินเรื่องของเขามาก่อน หากข่าวลือเป็นจริง เขาไม่ได้แกร่งไปกว่าหูตงหลานและจักรพรรดิเทพขั้นสูงคนอื่นๆเลย”
เพราะเช่นนั้นจึงมีจักรพรรดิเทพขั้นสูง 3 คนที่ปรากฏตัวเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ชิงตำแหน่งผู้นำมณฑลชั่วคราวของเมืองตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งทำให้ผู้คนคาดหวังกับการต่อสู้ในวันพรุ่งนี้ยิ่งกว่าเดิม
....
ตกดึก
การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป คนส่วนมากที่นั่นพากันเบื่อและหลับใหลไป
อยู่ ๆ...
ฟรึด...
หูตงหลานก็ได้บินขึ้นไปบนลานประลอง เขามองไปที่จักรพรรดิเทพขั้นกลางที่แกร่งที่สุดและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “เจ้าเทียบข้าไม่ได้”
คู่ต่อสู้ของหูตงหลานลังเลอยู่สักพัก แต่ก่อนที่เขาจะได้ยอมแพ้ หูตงหลานก็ได้ต่อยออกมา
ปัง...
มิติสั่นไหวพร้อมพลังศักดิ์สิทธิ์อันน่ากลัวหลอมรวมกับกฎพุ่งเข้าหาจักรพรรดิเทพขั้นกลางคนนั้น ภาพติดตาของหมัดจากหูตงหลานเกิดขึ้นก่อนที่พลังงานจะพุ่งออกไป
จักรพรรดิเทพขั้นกลางคนนั้นเตรียมจะยอมแพ้แล้วเมื่อเห็นหูตงหลานขึ้นมาบนลานประลอง แต่ในฐานะจักรพรรดิเทพขั้นกลางที่แกร่งที่สุด เขาก็สงสัยถึงความแตกต่างระหว่างเขากับหูตงหลาน
ยังไงเขาก็รู้ว่าหูตงหลานนั้นถือว่าอยู่ระดับทั่วไปในหมู่จักรพรรดิเทพขั้นสูง แต่เขาก็ต้องรู้สึกผิดที่ลังเล เขารีบป้องกันการโจมตีของหูตงหลาน แม้ว่าจะใช้พลังทั้งหมดที่มี แต่ว่าการป้องกันของเขาก็พังทลายไปในพริบตา
หลังจากนั้นเขารีบตะโกนออกมา “ข้ายอมแพ้ !”
แม้ว่าจักรพรรดิเทพขั้นกลางคนนั้นจะยอมแพ้ แต่ว่าหูตงหลานก็ไม่คิดจะหยุดการโจมตี คลื่นพลังงานได้ซัดเข้าใส่อีกฝ่ายทำให้อีกฝ่ายกระเด็นออกจากลานประลองไป
สีหน้าของจักรพรรดิเทพขั้นกลางคนนั้นหม่นลง เขาพยายามประคองตนเอง พลังงานของเขาอ่อนแออย่างมาก ราวกับจะสลบได้ทุกเมื่อ เขาไม่ลังเลที่จะรีบนำยาฟื้นฟูศักดิ์สิทธิ์ออกมากิน โชคดีที่กินเวลาได้ไม่นานก่อนที่เขาจะรู้สึกดีขึ้น
หลังจากที่ได้เห็นหูตงหลานเอาชนะจักรพรรดิเทพขั้นกลางคนนั้นได้ ในที่สุดผู้คนก็ได้รู้ว่าหูตงหลานนั้นแข็งแกร่งแม้ว่าจะเป็นแค่จักรพรรดิเทพขั้นสูงที่มีความแข็งแกร่งทั่วไปก็ตาม ด้วยความแข็งแกร่งที่เขาแสดออกมา คนที่ยังไม่ได้เข้าไปในลานประลองต่างก็ไม่กล้าคิดเข้าไปในลานประลองอีก
“เขาแกร่งจริงๆ !”
“สมกับเป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูง !”
“ไม่มีใครเทียบกับท่านหูได้นอกจากจักรพรรดิเทพขั้นสูงที่อยู่ที่นี่ !”
“ชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือ ? ท่านหูนั้นเป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูง ยิ่งกว่านั้นเขาก็ยังมีวัตถุศักดิ์สิทธิ์ระดับโดดเด่นที่มีจิตวัตถุสมบูรณ์ !”
“จักรพรรดิเทพอีกสองคนน่าจะเข้าไปในลานประลองเร็วๆนี้ใช่หรือไม่ ?”
ผู้คนพากันหันกลับไปมองจักรพรรดิเทพขั้นสูงทั้งสองคน แต่ดูเหมือนว่าทั้งสองยังไม่คิดที่จะเคลื่อนไหว บางทีพวกเขาอาจจะรอให้อีกฝ่ายเคลื่อนไหวก่อน ยังไงเสียกฎของการแข่งขันก็ทำให้คนที่เข้าไปในลานประลองภายหลังได้เปรียบ
ตอนนั้นเองก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมา
“หูตงหลาน ข้าจะสู้กับเจ้า !” อยู่ๆก็มีร่างกำยำปกคลุมด้วยเปลวไฟปรากฏขึ้นมา
ทันทีที่ผู้มาใหม่มาถึง ผู้คนก็รู้สึกได้ถึงความร้อนแผดเผาราวกับพวกเขายืนอยู่ตรงหน้าดวงอาทิตย์
“จักรพรรดิเทพขั้นสูงที่เข้าใจกฎแห่งไฟ...”
แม้ว่าจะไม่ใช่การรับรู้ศักดิ์สิทธิ์ แต่ต้วนหลิงเทียนก็ยังรับรู้ถึงพลังของจักรพรรดิเทพขั้นสูงที่เพิ่งมาถึงได้ อีกฝ่ายนั้นเข้าใจกฎแห่งไฟ
ชายคนนี้เป็นชายวัยกลางคนรูปร่างกำยำสวมชุดสีแดง เคราและผมของเขาเองก็เป็นสีแดงเช่นกัน ตากลมโตเขาจับจ้องไปที่หูตงหลานทันทีที่เข้ามาถึง
ในอีกด้านหูตงหลานก็คิ้วขมวดเล็กน้อยทันทีที่เห็นชายคนนี้ ก่อนที่เขาจะพูดอะไรออกมา ชายวัยกลางคนก็ได้เข้าโจมตี
ฟรึด ฟรึด ฟรึด....
เปลวไฟปะทุขึ้นในอากาศก่อตัวเป็นวงแหขนาดใหญ่พุ่งเข้าหาหูตงหลาน
หลังจากนั้นก็มีกระบี่สีแดงยาวกว่า 6 ฟุตพร้อมปราณลึกลับปรากฏขึ้นมาในมือของชายวัยกลางคน
....
ตอนที่หูตงหลานและชายวัยกลางคนสู้กัน ในที่สุดก็มีคนจำชายคนนี้ได้
“เขาคือเฉิงหยาน !”
“เฉิงหยานนั้นเป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูงไร้สังกัดที่โด่งดังในตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ แต่ข้าคิดว่าเขาจากที่นี่ไปนานแล้ว....”
“ถูกต้อง ไม่มีใครได้ยินเรื่องเขามาหลายร้อยปีแล้ว”
“ชื่อเสียงของเฉิงหยานนั้นไม่ได้ด้อยกว่าหูตงหลานเมื่อหลายร้อยปีก่อนเลย !”
“ข้าได้ยินมาว่าทั้งสองคนเคยสู้กันในอดีต ผลคือเสมอกัน”
....
หูตงหลานไม่ได้ด้อยกว่าเลย แม้ว่าเฉิงหยานจะโจมตีก่อน แต่เขาก็ไม่ได้ตกอยู่ในตำแหน่งเสียเปรียบ
ทั้งสองคนเข้าปะทะกันอย่างต่อเนื่องปล่อยคลื่นพลังอันน่ากลัวออกมากระจายออกไปโดยรอบ โชคดีที่ลานประลองนั้นปกคลุมด้วยค่ายกลที่คอยดูดซับพลังงานที่กระจายออกมาจึงไม่เป็นอันตรายต่อผู้คน
เฉิงหยานหัวเราะออกมา “หูตงหลาน เจ้าพัฒนาตนเองได้ไม่มากนักเมื่อเทียบกับในอดีต ! หากนี่คือความแข็งแกร่งของเจ้า ไม่เช่นนั้นก็เตรียมตัวแพ้ได้เลย !”
ตอนที่พูดนั้นพลังศักดิ์สิทธิ์ของเฉิงหยานก็เริ่มปะทุออกมา ไฟรอบตัวเขาพุ่งปะทุขึ้นไปบนท้องฟ้า
ฟรึด..
เปลวไฟในอากาศรวมตัวกันก่อขึ้นเป็นกระบี่เล่มใหญ่ การปรากฏตัวของมันทำให้คนรอบๆพากันหน้าซีดและฟันเข้าใส่หูตงหลาน กระบี่นี้ราวกับตัดทุกอย่างที่ขวางทางได้
สีหน้าของหูตงหลานหม่นลงทันที เขาไม่คิดเลยว่าคู่ต่อสู้ที่เขาคิดว่าเขาทัดเทียมด้วยนั้นกลับเหนือกว่าเขาไปแล้ว ยิ่งกว่านั้นเขาก็บอกได้ว่าเฉิงหยานนั้นยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด แต่เขาก็ไม่คิดจะยอมแพ้ กลับกันแล้วเขาเริ่มโคจรพลังทั้งหมดเพื่อตอบโต้
ตูม...
ความพยายามของหูตงหลานนั้นไร้ค่า ในพริบตาเดียวกระบี่ของเฉิงหยานก็ได้ทำลายการตอบโต้ของหูตงหลานและทำให้หูตงหลานกระเด็นออกมาจากลานประลอง
หลังจากที่หูตงหลานประคองตัวเองได้ เขาก็เงยหน้าขึ้นมา หน้าของเขาซีดเล็กน้อยพร้อมเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปาก แต่เขาไม่เป็นอันใด เขารีบใช้พลังศักดิ์สิทธิ์เพื่อลบเลือดทิ้ง แต่ว่าผู้คนก็ยังสังเกตเห็นได้อยู่ดี
หลายคนพากันถอนหายใจออกมา พวกเขาไม่คิดเลยว่าหูตงหลานนั้นจะพ่ายแพ้รวดเร็วเช่นนี้
“หูตงหลานพ่ายแพ้ !” ในเวลาเดียวกันสีหน้าของจักรพรรดิเทพขั้นสูงอีกสองคนก็หม่นลง พวกเขารู้สึกกดดัน ทั้งสองพูดคุยกันผ่านจิต
“เจ้ามั่นใจหรือไม่ว่าจะเอาชนะเฉิงหยานได้ ? ข้าไม่ค่อยมั่นใจนักกับการเผชิญหน้ากับหูตงหลาน นี่ไม่ต้องนับเฉิงหยาน”
“ข้าก็เช่นกัน....”
“เมื่อเป็นเช่นนั้น งั้นมาตกลงกัน เราคนหนึ่งต้องไปสู้กับเฉิงหยานเพื่อทำให้เขาหมดพลังเพื่ออีกคนจะได้มีโอกาสชนะเขาได้มากกว่าเดิม”
“ก็ได้ แต่เราจะตัดสินกันยังไงว่าใครจะเข้าไปสู่ก่อน ?”
“ข้าจะไปก่อนเอง หากเจ้ามีอะไรเสนอให้กับข้า...”
จักรพรรดิเทพขั้นสูงทั้งสองคนได้ข้อสรุป หลังจากนั้นหนึ่งในนั้นก็ได้บินเข้าไปในลานประลองเพื่อท้าทายเฉิงหยาน อย่างที่คาด เขาพ่ายแพ้ แต่เขาก็ยังผลาญพลังของเฉิงหยานได้
การต่อสู้นี้ทำให้เฉิงหยานนั้นหมดพลังไปพอๆกับตอนที่สู้กับหูตงหลาน ซึ่งไม่ยากที่เขาจะรู้ว่าจักรพรรดิเทพขั้นสูงทั้งสองคนตกลงกันไว้แล้ว เขารีบกินยาฟื้นฟูศักดิ์สิทธิ์และมองไปยังทั้งสองคนพร้อมกับคิดกับตัวเอง
‘ ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะตกลงกันไว้แล้ว... ’
“เฉิงหยาน !” อย่างที่คาดเอาไว้ จักรพรรดิเทพขั้นสูงอีกคนได้บินเข้ามาในลานประลอง
ตอนนั้นเองดวงอาทิตย์ก็ค่อยๆโผล่ขึ้นที่เส้นขอบฟ้าราวกับว่าพื้นดินได้เปล่งแสงสีทองออกมา
เฉิงหยานตอนนี้ต้องเผชิญหน้ากับจักรพรรดิเทพขั้นสูงคนสุดท้ายหลังจากที่เอาชนะจักรพรรดิเทพขั้นสูงไปได้สองคนติดต่อกัน
เมื่อเห็นเช่นนั้นหวังชุนก็ส่ายหน้าและพูดขึ้นมา “จักรพรรดิเทพขั้นสูงคนแรกพยายามผลาญพลังของเฉิงหยาน ข้าสงสัยว่าจะส่งผลต่อการต่อสู้ของเฉิงหยานหรือไม่ หากไม่ส่งผล เฉิงหยานก็ต้องกลายเป็นผู้ชนะในการแข่งขันครั้งนี้แน่ !”