1061 - สังหารหมู่ครั้งใหญ่
1061 - สังหารหมู่ครั้งใหญ่
แสงสีเลือดระดมยิงเข้าสู่ภูเขา เลือดเปรอะเปื้อนท้องฟ้าชายชราเสื้อผ้าเก่าขาดร่วงตกลงมาจากท้องฟ้าร่างกายของเขาถูกฉีกกระชากออกจากกันโดยสิ้นเชิง
“ลุงหก!”
ในหมู่บ้านโบราณ มีเสียงร้องไห้คร่ำครวญ และคนกลุ่มก็พุ่งออกมาด้วยความโกรธ
“สิบเจ็ดเหตุใดเจ้าไม่ถามให้แน่ชัดก่อน การกระทำเช่นนี้จะแตกต่างอะไรจากปีศาจ”
ในเรือรบทองอีกลำชายวัยกลางคนที่มีอายุมากกว่าเล็กน้อยกล่าวด้วยความเย็นชา
“ตระกูลของเราสูญเสียมามากแล้ว เมื่อ 12 ปีก่อนแม้แต่เถิงเอ๋อก็ยังต้องตายด้วยความเศร้าโศก ข้าไม่จำเป็นต้องเมตตาคนเถื่อนเหล่านี้”
“พวกเจ้าเป็นใครมาจากไหน เหตุใดจึงทำกับเราเช่นนี้?”
ชายวัยยี่สิบปีบินขึ้นไปบนท้องฟ้า ร่างกายท่อนบนของเขามีกล้ามเนื้อปูดปน สีผิวเหมือนกับทองแดงที่แข็งแกร่ง ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างโกรธแค้น
บนเรือรบสีเงินผู้อาวุโสสิบเจ็ดมีสีหน้าเรียบเฉย เขาเพียงดีดนิ้วออกไปเบาๆ
“ปัง!”
ดอกไม้สีเลือดบานออก ร่างกายของชายหนุ่มคนนั้นถูกฉีกกระชากออกจากกันเหลือเพียงซากศพเท่านั้นที่ร่วงตกลงมาจากท้องฟ้า
“พี่ฉวน!”
“พี่หลี่ฉวน!”
ในหมู่บ้านเบื้องล่าง มีเสียงร้องไห้ดังขึ้น เด็กน้อยหลายคนกรีดร้องด้วยความเสียใจ
“สิ่งที่ข้าชื่นชอบที่สุดก็คือมองเห็นความสิ้นหวังของผู้คน” ผู้อาวุโสสิบเจ็ดของตระกูลหวังยิ้มอย่างเย็นชา
“มารดาเจ้าเป็นลูกสำส่อน บิดาขอเสี่ยงชีวิตกับเจ้าแล้ว!” ชายร่างใหญ่ในหมู่บ้านคำราม ร่างของเขาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับถือค้อนดาวตกขนาดใหญ่ไว้ในมือ
“กลับมา!”
ในขณะนี้ชายชราเสื้อผ้าเก่าขาดอีกคนปรากฏตัวขึ้น
“ลุงห้า…”
หลายคนมารวมตัวกันร้องไห้ ในหมู่บ้านโบราณชายชราคนนี้คือผู้นำสูงสุด การปรากฏตัวของเขาทำให้จิตใจของผู้คนเบิกบานขึ้นเล็กน้อย
“ได้ยินมานานแล้วว่าเผ่าโบราณบางเผ่ามียอดฝีมือที่สั่นสะเทือนทั้งสวรรค์พิภพ ดูเหมือนว่าคำพูดนั้นจะเป็นความจริง ในหมู่บ้านเล็กๆ เช่นนี้กลับมีครึ่งเซียนขั้นสูงสุดปรากฏตัวออกมาได้” ผู้อาวุโสสิบเจ็ดของตระกูลหวังหัวเราะเยาะ
“สิบเจ็ด ยกคนพรุ่งนี้ให้กับพี่สิบสาม ข้าไม่ได้ต่อสู้กับใครมาหลายปีแล้ว” ชายวัยกลางคนบินออกจากเรือรบ
“ถ้าเช่นนั้นเราสองคนมาแข่งกัน ใครฆ่าได้มากกว่าผู้นั้นจะได้รับชัยชนะ” ผู้อาวุโสสิบเจ็ดยิ้มอย่างโหดร้าย
“สหายทุกท่าน ข้ามีชีวิตมานานหลายพันปีแต่กลับจำไม่ได้ว่าเคยมีความขัดแย้งกับพวกเจ้า เหตุใดเจ้าจึงทำกับเราเช่นนี้?” ลุงห้ากล่าว
“ตระกูลหวังแห่งเป่ยหยวนของข้าจำเป็นต้องให้เหตุผลกับคนเถื่อนกับเจ้าหรือ ในเมื่อพวกเราอยากฆ่าเราก็ฆ่าเท่านั้น”
ผู้อาวุโสสิบเจ็ดของตระกูลหวังเย้ยหยัน เส้นผมสีดำของเขาโบกสะบัดด้วยสีหน้าเย็นชา
ชายชราถอนหายใจ “พวกเรามีวิถีชีวิตเรียบง่าย ไม่เคยแย่งชิง ไม่ทำตัวโหดเหี้ยม ฆ่าคนและขโมยสิ่งของ เจ้าทำกับเราเช่นนี้ไม่กลัวว่าสวรรค์จะลงโทษหรือ”
“สวรรค์คืออะไร บอกให้มันมาเถอะข้าจะรออยู่ตรงนี้!”
“สิบเจ็ดเลิกพูดไร้สาระได้แล้ว” ชายวัยกลางคนกล่าว
“ตงฟางเย่คือคนจากเผ่าของเจ้าใช่หรือไม่ ในเมื่อเจ้าปล่อยให้มันออกไปสร้างความเดือดร้อนข้างนอกพวกเจ้าก็ต้องรับผลที่ตามมาด้วย”
“แม้ว่าเย่เอ๋อจะเป็นศัตรูของเจ้า เจ้าก็ไม่ควรตำหนิหมู่บ้านของเรา มีคนบริสุทธิ์มากมายที่นี่ เด็กน้อยพวกนั้นก็ไม่เคยรู้เรื่องอะไรด้วย เจ้าไม่ละอายใจที่จะฆ่าพวกเขาหรือ” ลุงห้ากล่าว
“สู้ สู้กับพวกมัน!”
ผู้คนในหมู่บ้านเริ่มตะโกนด้วยความโกรธ พวกเขาไม่ต้องการที่จะยอมรับการเชือดเฉือนจากฝ่ายตรงข้ามเพียงฝั่งเดียว
แม้แต่เด็กตัวเล็กๆ ก็ถูกผู้ใหญ่อุ้มขึ้นบนหลังพร้อมกับร้องว่า
“สู้ ล้างแค้นให้กับผู้ที่ตาย!”
“ล้างแค้นให้กับบิดาของข้า ข้าจะไม่ยอมรับความเมตตาของศัตรู”
แม้แต่หญิงสาวตัวเล็กๆ คนหนึ่งก็ยังถือดาบร่ำร้องอยู่บนพื้นพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลอาบใบหน้า
“กลุ่มคนดึกดำบรรพ์ที่ไร้อารยธรรม ในเมื่อพวกเจ้าต้องการที่จะตายข้าจะสนองให้เอง”
ผู้อาวุโสสิบเจ็ดของตระกูลหวังเย้ยหยัน ในเวลาเดียวกันฝ่ามือขนาดใหญ่ของเขาก็กดลงไปที่หมู่บ้าน
“ปัง”
ผู้คนนับร้อยที่ร่ำรองอยู่ด้านล่างเสียชีวิตทันที
“บูม”
ในเวลาเดียวกันลำแสงสีแดงเลือดก็ถูกระดมยิงออกมาจากเรือรบที่อยู่บนท้องฟ้า ผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนถูกสังหาร แม้แต่ภูเขาที่อยู่ข้างเคียงก็ยังพังทลายลงมา
“ท่านลุง!”
“ท่านปู่!”
คนในหมู่บ้านโบราณร้องอย่างโศกเศร้า ผู้ใหญ่ ชายหญิง เด็กหนุ่มเด็กสาว แม้แต่เด็กเล็กๆก็ยังถูกสังหารอย่างต่อเนื่อง
คนในราชวงศ์เป่ยหยวนไม่แยแสและไร้ความปรานี มียอดฝีมือนับร้อยคนที่หลั่งไหลออกมาจากเรือรบทั้งสองลำและมุ่งหน้าเข้าประหารประหารผู้คนที่อยู่ด้านล่าง
“พี่ตงฟางจะล้างแค้นให้พวกเรา... อีกไม่กี่อึดใจ” เด็กน้อยคนหนึ่งร่ำร้องก่อนที่ศีรษะของเขาจะถูกหมดขยี้
“คนในตระกูลหวังแห่งเป่ยหยวนจะไม่มีใครรอดชีวิตแม้แต่คนเดียว!”
“บูม”
บนท้องฟ้า เท้าสีทองขนาดใหญ่บดขยี้เรือรบของผู้อาวุโสสิบเจ็ด จากนั้นมือสีทองขนาดใหญ่ก็เอื้อมลงมาและคว้าผู้อาวุโสสิบเจ็ดเหมือนหิ้วคอลูกไก่ตัวเล็กๆ
“คนในตระกูลหวังพวกเจ้าทุกคนจะต้องตาย!”
ภายใต้เสียงคำรามนี้ยอดฝีมือของตระกูลหวังที่อยู่บนท้องฟ้าช่วงหล่นลงมาราวกับแมงเม่าบินเข้ากองไฟ
คลื่นเสียงที่สั่นสะเทือนนี้เขย่าภูเขาและแม่น้ำให้แตกเป็นเสี่ยงๆ ผู้คนจำนวนมากเกิดความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด!
เย่ฟ่านไม่ได้ฆ่าผู้อาวุโสสิบเจ็ดของตระกูลหวังในทันที แต่เขาฉีกกรามล่างของฝ่ายตรงข้ามออกจากกันพร้อมกับหิ้วร่างที่อ่อนปวกเปียกนั้นไล่ฆ่าผู้คนจากตระกูลหวังอย่างต่อเนื่อง
ร่างกายของเย่ฟ่านมีความสูงนับหมื่นวา เขาเป็นเหมือนยักษ์ตัวใหญ่ที่สามารถทำลายโลกทั้งใบด้วยการพลิกฝ่ามือเพียงข้างเดียว
“เจ้าเป็นใคร!”
วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของผู้อาวุโสสิบเจ็ดกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
ชายหนุ่มคนนี้ปรากฏตัวขึ้นจากความว่างเปล่า ก่อนจะลงมือไล่ล่าสังหารยอดฝีมือของตระกูลหวังในเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น
“ปะ”
ศีรษะของผู้อาวุโสสิบเจ็ดในตระกูลหวังแห่งเป่ยหยวนถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด มีเพียงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขาเท่านั้นที่อยู่ในกำมือของเย่ฟ่าน
ผู้อาวุโสสิบเจ็ดของตระกูลหวังแห่งเป่ยหยวนเกิดความหวาดกลัวและสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด ในขณะนี้เขาตระหนักได้แล้วว่าไม่มีทางที่เขาจะรอดชีวิตไปจากที่นี่ได้
“สิบเจ็ด!”
ในระยะไกลผู้อาวุโสสิบสามแห่งตระกูลหวังกรีดร้อง เขาพุ่งเข้าหาเรือรบของตัวเองด้วยความหวาดกลัวโดยไม่คิดจะช่วยเหลือชีวิตน้องชายแต่อย่างใด
เย่ฟ่านบีบวิญญาณของผู้อาวุโสสิบเจ็ดด้วยมือเดียว ในขณะเดียวกันเพียงเขาก้าวไปข้างหน้าสองก้าวเท่านั้นเรือรบของผู้อาวุโสสิบสามก็ถูกไล่ตามทันอย่างรวดเร็ว
“แคร้ง”
บนท้องฟ้ามีระเบิดดังขึ้น
ภายใต้การกระทืบเท้าอย่างแผ่วเบาเรือรบขนาดใหญ่ที่โอบล้อมด้วยค่ายกลของจักรพรรดิโบราณก็ถูกทำลายให้แหลกสลายเป็นชิ้นๆ
ไม่ใช่ว่าเรือรบไม่แข็งแกร่งพอ และไม่ใช่ว่าค่ายกลจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ไม่แข็งแกร่ง แต่มันไม่เพียงพอที่จะป้องกันพลังของเย่ฟ่านได้