ตอนที่แล้วบทที่ 451 นี่คือสมบัติที่แท้จริง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 453 รับพลัง

บทที่ 452 ยืมไก่มาวางไข่


“....ดังนั้นข้าจึงทูลขอต่อฝ่าบาทโดยหวังว่าพระองค์จะเห็นชอบกับกฎหมายรับคนเข้าอาณาจักร”

ต่อไปกั่วเจียอธิบายสั้นๆ ว่ากฎหมายคนเข้าอาณาจักรคืออะไร พูดง่ายๆ ก็คือการวางแผนและจัดระเบียบกลุ่มชาติพันธุ์ที่กระจัดกระจายเหล่านี้ไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับพวดเขา และอุดมไปด้วยทรัพยากรที่ใช้ในการผลิตสิ่งของ

สิ่งนี้ช่วยให้พวกเขาตั้งหมู่บ้านและตั้งถิ่นฐานได้อย่างมั่นคงในอาณาจักรเทียนหลาน

ภายใต้การบริหารของทีมงานเย่ปิง พวกเขาจะต้องจ่ายภาษีให้กับอาณาจักรเทียนหลาน และในขณะเดียวกันพวกเขาก็สามารถใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นนำมาแปรรูปได้ จากนั้นก็ทำการค้าขายในอาณาจักรเทียนหลาน และที่สำคัญ ผู้นำที่มีระบบก็สามารถค้าขายในแพลตฟอร์มได้

ที่ปรึกษาเซียวเหอสงสัยว่า ทำไมไม่จ้างพวกเขาโดยตรงสำหรับการขุดและผลิต เพราะน่าจะได้กำไรมากกว่า

อย่างไรก็ตาม เย่ปิงรู้ดีว่า วิธีการนี้จะไม่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของอาณาจักรในระยะยาว

ผู้นำทั้งหมดมาจากโลกอื่น ที่ตระหนักดีถึงความสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างเหมาะสม หากพวกเขาไม่ได้ผลประโยชน์ พวกเขาคงอยู่ในอาณาจักรเทียนหลานได้ไม่นาน จากนั้นก็ออกไปตั้งเมืองของตนเอง

และในความเป็นจริง การควบคุมอุตสาหกรรมทั้งหมดโดยผู้เดียวจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาในอนาคต

ไม่มีการแข่งขัน ก็ไม่มีการพัฒนา

ท้ายที่สุด ในเวลานี้อาณาจักรทั้งหมด มีเพียงอาณาจักรเทียนหลานเท่านั้นที่มีการผลิตระดับอุตสาหกรรม ถ้าหากเมืองต่างๆ ในดินแดนได้รับพิมพ์เขียวต่างๆ เช่น อาวุธ อุปกรณ์เพาะปลูก พวกเขาจะสามารถพัฒนาต่อยอดจากอาณาจักรเทียนหลานไปได้

ด้วยการประกาศใช้กฎหมายนี้ เย่ปิงรู้สึกว่า การพัฒนาอาณาจักรเทียนหลานนั้นจะเร็วขึ้นเกินจินตราการอย่างแน่นอน และเขามีความสุขกับความรู้สึกที่ได้เฝ้าดูการเติบโตของผู้คนในดินแดน

ก่อนหน้านี้? ไม่ได้นับ เขาเป็นเพียงผู้นำกองทัพในสงครามและไม่ได้หลงระเริงกับงานธุรการ

ตอนนี้มองดูแล้วก็ไม่เลว

หลังจากการผ่านกฎหมายนี้ ไม่มีหัวหน้าเผ่าคนใดที่คัดค้านกฎนี้

เมื่อพูดถึงคนแคระ ก็อบลิน อสูรโนม กิ่งก่าต่างๆ อสูร ภูติ ยังเป็นแรงงานที่ต้องการอย่างมากในเวลานี้ เพราะทักษะพิเศษของพวกเขานั้นเป็นที่ต้องการของอาณาจักรที่กำลังรุ่งเรืองในโลกที่ป่าเถื่อนเช่นนี้

แล้วเผ่าพันธุ์อื่นๆ เช่นออร์คที่ยอมจำนนล่ะ? พวกเขาได้อะไร?

กล้ามเนื้อขนาดใหญ่เช่นนั้น เย่ปิงวางแผนที่จะให้พวกเขาช่วยงานก่อสร้างเป็นหลัก ซึ่งพวกเขาทำได้เพียงเป็นคนงานใช้แรงเท่านั้น และได้ไวน์รสเลิศเป็นผลตอบแทนเช่นคนแคระ

ตอนนี้อาณาจักรขาดแคลนแรงงานขุดเหมือง ดังนั้น กั่วเจียจึงเสนอแรงงานจากเผ่าพื้นเมืองดั้งเดิมมาช่วย บางเผ่า พวกเขามีความรู้ในด้านงานเหมือง และรู้แหล่งแร่ธาตุได้ดีกว่าผู้ที่ถูกอัญเชิญมาใหม่นี้ สิ่งนี้มันจะทำให้เผ่าของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้น

ทำไมพวกเขาจะไม่มีความสุขไปกับมัน?

พวกเขาจะขอบคุณเย่ปิงเสียมากกว่า ที่ทำให้พวกเขาไม่ต้องกังวลเรื่องการโจมตีใดๆ จากศัตรูนอกอาณาเขต

แน่นอนว่า จำนวนเหล่าผู้นำ เชลย เพียงไม่กี่กลุ่มนี้ยังห่างไกลจากดินแดนอันกว้างใหญ่ของอาณาจักรเทียนหลาน พวกเขาสามารถทำไร่ทำสวนได้ตามความสามารถ

พื้นที่มีไม่จำกัด!

ไม่ต้องพูดถึงสามเกาะของอาณาจักรเฉาไห่ ซึ่งกำลังพัฒนาได้ดีเนื่องจากมีรากฐานอุตสาหกรรมมาก่อน

สำหรับตอนนี้เรามาพูดถึงแผ่นดินใหญ่กัน ทุ่งหญ้าฮูหลุนเป้ยเอ่อร์ไม่ใช่แค่ทุ่งหญ้าธรรมดาที่พวกเรามองเห็น ข้างใต้นั้นมีทรัพยากรนับไม่ถ้วน เช่น เหมืองผลึกวิญญาณ แหล่งน้ำมัน และแร่ธาตุหายากอีกมากมายซ่อนอยู่ ซึ่งกั่วเจียได้เสนอแผนสำรวจ

อะไรสนับสนุนอาณาจักรคานาเตะในการสร้างอาณาจักรของพวกเขาขึ้นมาได้?

ภายในดินแดนของอาณาจักรคานาเตะมีทรัพยากรมากมายที่ยังถูกซ่อนไว้ บางอย่างถูกค้นพบและบางอย่างยังไม่ได้ถูกค้นพบ ซึ่งทรัพยากรเหล่านี้จำเป็นต้องถูกดึงออกมาอย่างรวดเร็ว เพื่อตอบสนองการพัฒนาของอาณาจักรเทียนหลาน

ตอนนี้ปัญหาโดยย่อก็คือ กำลังคนขาดแคลน

ดังนั้น กฎหมายคนเข้าเมืองของกั่วเจียจึงสำคัญมาก เพื่อให้ผู้นำจากภายนอกสามารถย้ายเข้ามาอยู่ในอาณาจักรได้

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่ปิงก็ขมวดคิ้ว

“แล้วท่านกั่วเจียคิดว่าการดำเนินการเช่นนี้ เป็นไปได้หรือไม่?”

“ฝ่าบาท ผู้นำเหล่านี้หลังจากยอมจำนนแล้ว พวกเขาถูกนำไปที่เสาเทียนชูเพื่อสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อาณาจักรเทียนหลาน เมื่อพวกเขามาถึง แม้จะมีคนอยู่ใต้บังคับบัญชา แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็อยู่ในระดับหมู่บ้านหรือเมืองเท่านั้น ทรัพยากรรอบๆ พวกเขาก็ไม่ได้อุดมสมบูรณ์มากนัก ส่วนใหญ่เป็นทรัพยากรป่าไม้เป็นหลัก ถ้าหากฝ่าบาท ปล่อยให้พวกเขาอยู่ในพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ และด้วยอุปกรณ์ที่ดีของพวกเรา พวกเขาจะกระตือรือร้นขึ้นอย่างแน่นอนขอรับ ด้วยวิธีนี้ พวกเขาจะช่วยรวบรวมทรัพยากรในดินแดนของอาณาจักรเทียนหลานอย่างดีที่สุดขอรับ และอีกอย่าง ในอนาคตพวกเราไม่จำเป็นต้องพัฒนาเรื่องโชคของอาณาจักร เพราะกฏของระบบผู้นำทุกคนจะต้องเสียโชคเมืองของตนเองร้อยละสิบให้กับอาณาจักรเทียนหลาน….”

กั่วเจียไม่พูดต่อ แต่ทำท่าทางด้วยมือทั้งสองข้าง เลียนแบบท่าทางมันเชือก แล้วรัดแน่น

เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่ปิงก็อดไม่ได้ที่จะขบขันและประหลาดใจ เขาไม่คิดว่ากั่วเจียจะขี้เล่นขนาดนี้

ที่กั่วเจียนั้นหมายถึงคือ ผู้นำที่ยอมจำนนก่อนหน้านี้ถูกดูดกลืนกินโชคของเมืองโดยมังกรทองแห่งโชคชะตาอาณาจักรเทียนหลาน ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้น การกระทำดังกล่าวทำให้มังกรทองเพิ่มระดับ ในครั้งนี้ เขาเรียกผู้นำมาด้วยจุดประสงค์เดียวกัน โดยต้องการดูว่าการเลื่อนตำแหน่งเป็นราชรัฐ และการดูดซับโชคของเมืองของผู้นำต่างๆ จะสามารถเพิ่มระดับมังกรทองได้อีกครั้งหรือไม่

เย่ปิงไม่คาดคิดว่า กั่วเจียจะคิดไอเดียนี้ขึ้นมาได้ นี่ไม่ต่างอะไรกับปฏิบัติต่อผู้นำเหมือนเป็ดนั่งอยู่ในเมือง!

อย่างไรก็ตาม เขาชอบมัน!

"มาดำเนินการตามที่ท่านแนะนำกันเถอะ โอ้… พวกเราควรให้ความสำคัญกับวิธีการนี้ ข้าจำได้ว่าหยูหลันทำได้ดีในการเจรจาครั้งที่แล้ว ปล่อยเรื่องนี้ให้เธอจัดการอีกครั้ง ถ้าผู้นำบางคนไม่ยอมทำสิ่งนี้ เราก็ไม่บังคับ แค่ต้องออกจากดินแดนของพวกเราไปเท่านั้นเอง”

เมื่อได้ยินว่าหยูหลันจะเป็นผู้รับผิดชอบงานนี้ กั่วเจียก็นึกขึ้นได้ทันทีว่าก่อนหน้านี้เธอโน้มน้าวใจผู้คนด้วยวิธีการอย่างไร เขาก็สั่นเล็กน้อยและรีบตอบ:

"ข้าจะทำตามที่ฝ่าบาทสั่งขอรับ"

มีเรื่องให้ปรึกษากันมากมายในห้องโถงจินหลวน นอกเหนือจากการใช้ทรัพยากรภายในแล้ว ยังมีนโยบายการพัฒนาอีกมากมายที่ต้องพิจารณา เช่น การสร้างถนนเพิ่ม

ถนนสายหลักทั้งสี่สายนั้นยังไม่ครอบครุมกับแหล่งทรัพยากรบางจุด ดังนั้น ถนนย่อยจะถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อกับถนนสายหลักอย่างแน่นอน ซึ่งมันจะช่วยเร่งการเคลื่อนย้ายทรัพยากรระหว่างพื้นที่ได้อย่างมาก….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด