บทที่ 11 ความหวังและฮัลค์
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 11 ความหวังและฮัลค์
แม้ว่าจะเป็นการดีที่ได้ทำความดีเป็นครั้งคราว
แต่เมื่อเห็นชายวัยกลางคนในร้านขายของเก่าอีกครั้ง อารมณ์ของไรอันในตอนนี้ก็ค่อนข้างแปรปรวนพอสมควร
'คราวนี้อะไรอีก?'
"คุณครับ พลอยเม็ดนี้ได้เท่าไรเหรอครับ?"
ภายในร้าน ชายวัยกลางคนพยายามระงับอารมณ์ในใจขณะที่ดวงตาของเขากวาดมองไปทั่วของที่ขายในร้าน เขาชะงักไปโดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นสร้อยข้อมือหยกที่คุ้นเคยบนกองของชำด้านหลังไรอัน
"เป็นไพลินที่รูปสวย การเจียระไนถือว่ายอดเยี่ยม ระดับสามหรือระดับสี่ได้เลย ในแง่ของสี เป็นสีฟ้าเล็กน้อยและมีขนาดเล็ก แต่ยังคงเป็นอัญมณีที่ดีพอสมควร" ไรอันมองไปที่อัญมณีที่คุ้นเคยในมือของอีกฝ่ายและรู้สึกพูดอะไรไม่ออกเลย เขาไม่ได้คิดเลยว่าอัญมณีที่เขามอบให้ จะกลับมาหาเขาเช่นนี้
"ส่วนเรื่องของราคา เมื่อเร็วๆ นี้ราคาอัญมณีลดลงเล็กน้อย แต่ก็คงที่แล้ว ไพลินมีขนาดใกล้เคียงกับ 3 กะรัต ซึ่งจะแปลเป็นราคาได้ที่ 10,000 ถึง 15,000 แต่แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการประมาณการเบื้องต้นของฉันเท่านั้น หากคุณต้องการราคาที่ถูกมากกว่านี้ ฉันคงจะต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบด้วยเครื่องมือที่มีอยู่"
แม้ว่าเขาจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับอัญมณีในมืออีกฝ่ายแล้ว แต่ไรอันก็แสร้งทำเป็นแสดงพร้อมกับพูดตอบชายตรงหน้า
"ท...เท่าไรงั้นเหรอครับ?"
แม้ว่าเขาจะตระหนักถึงความล้ำค่าของอัญมณี แต่เมื่อรู้มูลค่าที่แท้จริงจากปากของไรอัน ชายคนนั้นก็ยังตื่นเต้นเกินไปจนไม่อาจเก็บซ่อนอารมณ์ของเขาได้
[คะแนนชื่อเสียงจากพลเมืองนิวยอร์ก +0.5]
เมื่อมองลงไปที่การแจ้งเตือนของระบบ ใบหน้าของไรอันก็ยังคงนิ่งเฉยขณะที่เขาตอบกลับไปว่า "มันอยู่ระหว่าง 10,000 ถึง 15,000"
"10,000? 10,000! 10,000 ราคามากขนาดนั้นเลยเหรอ..."
ขณะที่ยืนอยู่ในร้านขายของเก่า สีหน้าของเขาก็คล้ายกับจะหัวเราะและร้องไห้เป็นเวลานาน ก่อนที่เขาจะพึมพำกับตัวเอง
จากนั้นชายคนนั้นก็พยายามตั้งสติและแววตาของเขาก็คล้ายกับมีแสงสว่างไสว่ลุกโชนออกมา "คุณครับ ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะแลกเปลี่ยนไพลินนี้เป็นเงินสด"
ดวงตาของชายคนนั้นกวาดไปที่กำไลบนกองของชำอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว "และ..."
"อืม เขาดู...ต่างไปจากเดิมนะว่าไหม?"
ในร้านซักรีด แจ็คมองไปยังแผ่นหลังที่คุ้นเคยที่ออกมาจากร้านขายของเก่าด้วยความสับสน
"แตกต่างตรงไหนเหรอ?"
ไรอันเดินออกจากร้านขายของเก่า พอยินแจ็คพูดกับตัวเขาเองก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมา
"สายตาของชายคนนั้นน่ะสิ เขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ราวกับว่าเขาพบความหวังอีกครั้ง"
แจ็คเงยหน้าขึ้นด้วยความไม่แน่ใจสักเท่าไร
“อืม นั่นก็เป็นเรื่องดีแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“จริงด้วย” แจ็คพยักหน้า แต่ก็สังเกตเห็นว่าไรอันกำลังจะปิดร้านของเขาแล้ว
"ทำไมวันนี้ร้านปิดเร็วจังล่ะ?"
"เพราะฉันมีนัดสำคัญรอฉันอยู่" ไรอันยิ้มและหันป้ายที่ประตูไปทางด้านที่เขียนว่า 'ปิด'
"ฮ่าฮ่า จริงเหรอ? ผู้หญิงคนไหนที่ตกอยู่ภายใต้มนต์สะกดของพ่อหนุ่มไรอันของเรากันนะ?" ตาแก่แจ็คพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหยอกล้อพร้อมกับหัวเราะออกมา
"เป็นผู้หญิงที่ดีเลยแหละ"
ผมสีทองสวยของเจนนี่แวบเข้ามาในหัวของเขา ในขณะที่ไรอันรับมุขตลกของแจ็ค
“อืม? ถ้าอย่างนั้นขอให้โชคดีกับคู่เดทของนายนะไรอัน”
“ขอบคุณ”
ไรอันพยักหน้าเล็กน้อยและรับคำอวยพรจากแจ็ค
"วัยรุ่นนี้ดีจังเลยนะ"
ในร้านซักรีด แจ็คมองดูไรอันที่เดินจากไปพลางกระซิบกับตนเอง จากนั้นสายตาของเขาก็กลับไปที่หนังสือพิมพ์ในมือของเขา
ในมือของแจ็ค มีข่าวบันเทิงเต็มหน้าของหนังสือพิมพ์อยู่ มันบอกถึงปาร์ตี้อันแสนยิ่งใหญ่ของโทนี่ สตาร์ค เพลย์บอยชื่อดังของเมืองนิวยอร์ก
...
"ไรอัน ขอบคุณคุณมากเลยนะคะ!"
เจนนี่เดินออกมาจากโรงหนังพร้อมกับวาดแขนของเธอไว้บนไหล่ของไรอันด้วยความรู้สึกดี
"เฮ้ เจนนี่ คุณไม่ต้องขอบคุณผมหรอก"
ไรอันส่ายศีรษะพร้อมกับเอื้อมมือผ่านผมสีบลอนด์เรียบของหญิงสาว จากนั้นจึงตอบออกไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "เป็นเกียรติของผมต่างหากที่ได้ใช้เวลามื้อเย็นที่ยอดเยี่ยมกับหญิงสาวที่สวยงามตรงหน้าผม"
"ไรอัน" คำพูดของไรอันแม้ดูซ้ำซาก แต่มันก็ทำให้เจนนี่หลงเข้าไปเต็มเป้า
เธอมองไปที่ชายตรงหน้าเธอ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย
ตู้ม--
อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นกลับเกิดการระเบิดครั้งใหญ่พร้อมกับเสียงกรีดร้องที่ดังลั่นออกมา
มันเปลี่ยนฉากภาพอันแสนอันอบอุ่นที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาให้กลายเป็นภาพยนตร์หายนะได้เลย
"เกิดอะไรขึ้น?"
ไรอันปกป้องเจนนี่ในอ้อมแขนของเขาพลางมองไปรอบๆ ฝูงชนที่ตื่นตระหนกด้วยสีหน้าสับสน
'มนุษย์ต่างดาวกำลังโจมตีนิวยอร์กหรือเปล่า?'
'ไม่สิ โทนี่ยังไม่กลายเป็นไอรอนแมนและกัปตันอเมริกาก็ยังคงถูกแช่แข็งในแอนตาร์กติก จังหวะเวลามันผิดเพี้ยนไปเต็มๆ'
ทว่าไรอันก็ไม่ได้สับสนนานนัก
เสียงดังสนั่นของกำแพงสูงของโรงภาพยนตร์ได้ถูกทุบทะลุออกมา ทันทีหลังจากนั้น ร่างสีเขียวเข้มขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา
"เป็นเดอะฮัลค์สินะใ.."
ร่างขนาดใหญ่และผิวสีเขียวพร้อมกางเกงขายาวอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้ไรอันนึกถึงตัวตนของชายคนนี้ได้ทันที -- สมาชิกของอเวนเจอร์สในอนาคต ฮัลค์
ไรอันมองไปที่อีกฝ่ายด้วยความงุนงงพร้อมกับกลับมาตั้งสติได้ 'ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะคิดถึงเรื่องนั้นแล้ว'
ฮัลค์ในช่วงเวลานี้พูดน้อยกว่าตอนที่เขาอยู่ในอเวนเจอร์สมาก เพราะเขากำลังถูกตามล่าโดยกองทัพสหรัฐอย่างไม่หยุดหย่อน จนทำให้ความโกรธภายในของเขามันประทุออกมาอย่างต่อเนื่อง หากแบนเนอร์ที่ซ่อนอยู่ในฮัลค์ไม่พยายามต่อต้านและหลบหนีออกมา ทั้งเมืองนิวยอร์กต้องถูกทำลายโดยความโกรธเกรี้ยวของฮัลค์เป็นแน่
ไรอันมองไปยังผนังโรงภาพยนตร์ตรงหน้าเขา ที่ซึ่งฮัลค์ได้พุ่งผ่านไปจนทิ้งรอยร่างมนุษย์ไว้ จากนั้นเขาก็หันศีรษะไปมองเฮลิคอปเตอร์ที่ลอยอยู่เหนือศีรษะ เขามั่นใจเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้ว ดูเหมือนทหารของสหรัฐอเมริกาได้ล่อลวงแบนเนอร์ด้วยวิธีการบางเพื่อที่จะจับกุมเขา แต่มันกลับทำให้ฮัลค์เป็นอิสระจนเกิดสถานการณ์ตรงหน้าของไรอันขึ้น
มีบางครั้งที่ไรอันไม่เข้าใจความคิดของทหารสหรัฐพวกนี้ พวกเขารู้ดีว่าพลังของฮัลค์นั้นยิ่งใหญ่มาก จนอาวุธธรรมดาทั่วไปไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย แต่พวกเขากลับใช้วิธีการจับแบบรุนแรงอย่างต่อเนื่อง แทนที่จะใช้วิธีการที่ยืดหยุ่นโดยร่วมมือกับแบนเนอร์
หากคุยกับแบนเนอร์คงพอจะเป็นไปได้ แต่ฮัลค์ไม่สามารถควบคุมได้เลย นอกจากนี้ แบนเนอร์ก็มีความคิดที่จะควบคุมและทำลายฮัลค์มาโดยตลอด ในเวลานี้ หากกองทัพสามารถปรับทัศนคติและเผยเจตนาอันดีได้ พวกเขาก็คงสามารถทำงานร่วมกับแบนเนอร์และศึกษาฮัลค์ได้
ทว่าทั้งหมดมันเป็นเพราะนายพลรอสผู้รับหน้าที่นี้ ได้เลือกที่จะจัดการปัญหาด้วยความรุนแรง
ทางกองทัพได้เปลี่ยนสถานการณ์จากดีทั้งสองฝ่ายให้กลายเป็นเลวร้ายในชั่วพริบตา
เห็นได้ชัดว่ากองทัพสหรัฐในมาร์เวลไร้ซึ่งความอดทนและเหตุผลไปอย่างสิ้นเชิง
....