ตอนที่ 497 ความอัปยศชั่วนิรันดร์
ตอนที่ 497 ความอัปยศชั่วนิรันดร์
“เชิญมาทางนี้” เสียงสังเคราะห์คล้ายผู้สูงอายุดังขึ้นอย่างกะทันหัน
“ลุงแมลงสาบสบายดีไหม?” ฮามิรีบกล่าวทักทาย
บทสนทนาระหว่างทั้งคู่คล้ายกับบทสนทนาของคนรู้จักที่พบกันบนท้องถนน แต่สิ่งที่ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกสับสนคือเขาไม่รู้ว่าคู่สนทนาของฮามิอยู่ตรงไหน
แต่ในทันใดนั้นเองชายหนุ่มก็ได้เห็นฮามิก้มตัวลงไปช้อนแมลงตัวหนึ่งขึ้นมาจากพื้นด้วยความเคารพ โดยแมลงจักรกลตัวนี้มีลักษณะคล้ายแมลงสาบ แต่มีขนาดตัวประมาณ 1 กำปั้นของผู้ใหญ่ ทำให้ ร่างกายของมันมีขนาดไม่แตกต่างจากขนอุยที่อยู่บนไหล่ของเขามากนัก และดวงตาคู่เล็กของมันก็กำลังจ้องมองมาทางเซี่ยเฟยอย่างพิจารณา
หุ่นยนต์แมลงสาบตัวนี้คือหัวหน้ากลุ่มพิราบจริง ๆ เหรอ?
“เขาคนนี้ชื่อเซี่ยเฟยเป็นมนุษย์ที่ท่านเทพธิดาต้องการพบ ส่วนท่านผู้นี้ชื่อมอร์โรว์เป็นผู้นำของพวกเรากลุ่มพิราบ”
“มอร์โรว์ที่แปลว่าอนาคตอ่ะนะ? ชื่อของเขาก็มีความหมายที่ค่อนข้างดีนะ แต่น่าเสียดายที่เขาเป็นแค่หุ่นยนต์แมลงสาบ” อันธกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
“เรียกฉันว่าลุงแมลงสาบดีกว่า ฉันคุ้นเคยกับชื่อนี้มากกว่าชื่อเดิมไปแล้ว” มอร์โรว์กล่าว
“ลุงแมลงสาบเป็นผู้เชี่ยวชาญหุ่นยนต์ที่มีชื่อเสียง และเขาก็เคยเป็นหัวหน้าหุ่นยนต์วิศวกรของเทพธิดาผู้พิทักษ์ ส่วนสาเหตุที่ในปัจจุบันเขาเป็นแบบนี้ นั่นก็เพราะท่านเซียน่าทำลายร่างเดิมของท่านมอร์โรว์ลงไปแล้ว โชคดีที่ในห้องทดลองมีหุ่นยนต์แมลงสาบที่ใช้ในการทดลองเหลืออยู่ ท่านมอร์โรว์ก็เลยเคลื่อนย้ายหน่วยความคิดกับหน่วยความจำจากร่างหลักมาอยู่ในร่างนี้” ฮามิกล่าวอธิบาย
เซี่ยเฟยพยักหน้าอย่างเข้าใจ เพราะท้ายที่สุดหุ่นยนต์ก็สามารถเปลี่ยนร่างกายของพวกเขาได้ทุกเวลา ดังนั้นตราบใดก็ตามที่หน่วยความคิดกับหน่วยความจำของพวกเขายังคงอยู่ หุ่นยนต์ก็สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของพวกเขาไปเป็นแบบไหนก็ได้
“ดูเหมือนว่าหุ่นยนต์แมลงสาบตัวนี้จะเคยเป็นหุ่นยนต์ชั้นผู้นำมาก่อน แต่ด้วยความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในจึงทำให้เขาต้องมาอาศัยอยู่ในร่างของหุ่นยนต์แมลงสาบ”
“เลิกพูดเรื่องในอดีตได้แล้ว พวกเรารีบออกเดินทางกันเถอะ ถ้าหากเซียน่าไม่พบนายด้านบนนั้น เธอจะต้องส่งหุ่นยนต์ลงมาตรวจสอบท่อที่นี่อย่างแน่นอน ถึงยังไงเธอก็เป็นออกแบบดาวดวงนี้ขึ้นมาเอง มันจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอที่จะวิเคราะห์ว่าพวกนายจะหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน” มอร์โรว์กล่าว
เซี่ยเฟยพยักหน้าอย่างเห็นด้วย จากนั้นฮามิก็ยกมอร์โรว์ขึ้นมาบนไหล่ก่อนที่จะเดินไปตามท่อที่กว้างขวาง
“เทพธิดาไม่สนใจพวกเรามานานมากแล้ว นายโชคดีจริง ๆ ที่เธอได้ติดต่อมาแบบนั้น” มอร์โรว์กล่าว
“จะโชคดีหรือโชคร้ายพวกเราค่อยตัดสินกันหลังจากที่ฉันได้พบกับเธอดีกว่า” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างไม่ตัดสินสถานการณ์ เมื่อเขายังไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของเทพธิดาผู้พิทักษ์คืออะไร
“หึ ๆ ถึงยังไงหุ่นยนต์ก็เคยทำเรื่องเลวร้ายกับมนุษย์เอาไว้สินะ มันคงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่คุณจะมองหุ่นยนต์ในแง่ร้าย เรื่องนี้เป็นบทลงโทษที่พวกเราสมควรจะได้รับแล้ว” มอร์โรว์กล่าว
เซี่ยเฟยนิ่งเงียบไม่ตอบอะไรกลับไป ท้ายที่สุดความเห็นใจก็อาจจะนำหายนะเข้ามาหาเขาได้ทุกเวลา ดังนั้นมันจึงจะเป็นการดีที่สุดที่เขาจะไม่ด่วนสรุปอะไรก่อนความจริงจะเปิดเผยออกมา หลังจากนั้นระหว่างทางจึงมีเสียงพูดคุยเพียงแค่มอร์โรว์และฮามิเท่านั้น
—
ท่อใต้ดินมีความซับซ้อนมาก ซึ่งในปัจจุบันเซี่ยเฟยก็ไม่รู้แล้วว่าเขาอยู่ตรงไหนหลังจากที่ได้เดินผ่านเส้นทางที่ซับซ้อนมาอย่างมากมาย
“ข้างหน้าคือสถานที่ที่เทพธิดาของเราถูกคุมขังเอาไว้ แต่เรายังต้องระวังตัวเอาไว้ให้มาก ท้ายที่สุดเซียน่าก็เป็นหุ่นยนต์ที่มีสติปัญญาระดับสูงมาก บางทีเธออาจจะเดาปลายทางของเราเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วก็ได้” มอร์โรว์กล่าว
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับ ซึ่งอันที่จริงเขาก็ไม่เคยผ่อนความระมัดระวังมาตั้งแต่แรก เพราะหลังจากที่เขาได้เดินทางเข้ามาในเมืองแห่งนี้ เขาก็คอยสังเกตสภาพแวดล้อมบริเวณรอบ ๆ ตัวของเขาตลอด
“หลังจากผ่านอุโมงค์แคบนี้ไปก็เป็นห้องของเทพธิดาผู้พิทักษ์แล้ว ที่ทางเข้ามีอุปกรณ์ตรวจจับอยู่หลายอย่างแต่พวกมันก็ไม่น่าจะหยุดคุณเอาไว้ได้ อีกอย่างเทพธิดาไม่ได้บอกให้เราเข้าไปด้วย ดังนั้นคุณเดินทางเข้าไปคนเดียวคงจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมกว่า”
เซี่ยเฟยมองไปทางท่อที่มอร์โรว์ชี้ก่อนที่เขาจะได้พบกับท่อแนวตั้งที่มีพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งความกว้างของมันก็น่าจะรองรับให้เขาผ่านไปได้เพียงแค่คนเดียว
ฟุบ!
เซี่ยเฟยกระโดดเข้าไปในท่อด้วยความเร็วสูง ก่อนที่เขาจะเคลื่อนที่ขึ้นไปด้านบนโดยไม่หยุดพักเลยแม้แต่วินาทีเดียว
“ทักษะร่างกายของมนุษย์คนนี้ดีมาก ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าเทพธิดาวางแผนเรื่องอะไรกับเขาเอาไว้กันแน่?” มอร์โรว์พึมพำขึ้นมาเบา ๆ
“ที่ฉันกังวลที่สุดคือเทพธิดาจะทอดทิ้งพวกเราไปหรือเปล่า ถ้าหากพวกเราไม่ได้มีเธอเป็นผู้นำ สังคมหุ่นยนต์ก็คงจะวุ่นวายมากขึ้นกว่าเดิม ฉันแค่หวังว่ามนุษย์คนนั้นจะสามารถโน้มน้าวใจของเธอได้” ฮามิกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
“เฮ้อ…” เมื่อคิดถึงเทพธิดาหุ่นยนต์ทั้งสองก็ถอนหายใจออกมาเกือบจะพร้อม ๆ กัน
—
ห้องซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางเป็นห้องสว่างซึ่งมีภาชนะรูปไข่ตั้งอยู่กลางห้อง โดยภาชนะนั้นถูกเชื่อมต่อด้วยสายไฟระโยงระยางอย่างมากมาย ซึ่งเซี่ยเฟยก็ค่อย ๆ คลานออกมาจากท่ออากาศอย่างช้า ๆ
แต่ในทันใดนั้นเองมันก็มีภาพโฮโลแกรมฉายขึ้นในอากาศ เผยให้เห็นภาพของหญิงสาวในชุดแบบโบราณที่ปรากฏตัวขึ้นมาตรงหน้าของเซี่ยเฟยอย่างฉับพลัน อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็ไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ เพราะเขาพอจะรู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าเทพธิดาผู้พิทักษ์สามารถฉายภาพโฮโลแกรมในร่างของมนุษย์ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าของผู้คนได้
“ในที่สุดคุณก็มาถึงที่นี่สักที” เทพธิดาผู้พิทักษ์กล่าวโดยเสียงของเธอไม่ได้แตกต่างไปจากหุ่นยนต์ตัวอื่น ๆ มากนัก
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไร
“ยินดีต้อนรับสหายของเซี่ยเฟยเช่นกัน คุณคงจะเป็นเงาอันธการใช่ไหม?”
เงียบ!
เงียบสนิท!
ในช่วงหลายปีที่พวกเขาอยู่ด้วยกันมันไม่มีใครเคยรู้มาก่อนว่าเซี่ยเฟยมักจะเดินทางไปไหนมาไหนพร้อมกับวิญญาณ เพราะแม้แต่แอวริลเองก็ยังไม่รู้ความจริงในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน แต่ถึงกระนั้นอันธกลับถูกค้นพบโดยเครื่องจักรในสมัยโบราณ
“เธอรู้จักฉันด้วยเหรอ?!” อันธถามพร้อมกับชี้นิ้วมาที่ตัวเอง
“ใช่ ฉันรู้จักคุณ” เทพธิดาผู้พิทักษ์กล่าว
“เธอเห็นฉันด้วยไหม?”
“เห็น”
“เธอได้ยินทุกสิ่งที่ฉันพูดเลยเหรอ?”
“ได้ยิน”
“เธอทำได้ยังไง?”
“เพราะฉันสัมผัสถึงตัวตนของคุณได้”
อันธถึงกับพูดไม่ออกและถึงแม้ว่าการมีคนอื่นนอกจากเซี่ยเฟยสัมผัสถึงตัวตนของเขาได้จะไม่ใช่สิ่งเลวร้าย แต่อย่าลืมว่าเทพธิดาผู้พิทักษ์คือผู้ออกคำสั่งให้จัดการมนุษย์โบราณ สถานการณ์ในปัจจุบันจึงทำให้วิญญาณตนนี้รู้สึกอึดอัดอยู่เล็กน้อย
“เธอคือเทพธิดาผู้พิทักษ์ ผู้ซึ่งสั่งให้หุ่นยนต์กำจัดมนุษย์โบราณใช่ไหม?” เซี่ยเฟยเริ่มถามเข้าประเด็นสำคัญ
เทพธิดาผู้พิทักษ์แสดงท่าทางหดหู่ออกมาเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะพยักหน้าอย่างยอมรับเบา ๆ
“แล้วไม่ทราบว่าเพชฌฆาตที่สั่งฆ่ามนุษย์โบราณจะอยากพบกับมนุษย์อย่างฉันไปทำไม?” เซี่ยเฟยถามอย่างไร้ปรานี
เทพธิดาผู้พิทักษ์สั่นสะท้านขึ้นมาเล็กน้อยราวกับว่าคำพูดทุกคำของเซี่ยเฟยเสียบแทงเข้าไปในหัวใจของเธอ
“ถึงเราจะยังไม่เคยได้พบกัน แต่ฉันก็เรียนรู้เรื่องของคุณมาเยอะมาก แม้ว่าคุณจะเป็นนักรบแต่คุณก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะเรียนรู้เรื่องวิชาการเหมือนนักรบโดยทั่วไป และถึงแม้ว่าคุณจะเป็นสมาชิกของพันธมิตรมนุษย์ยุคใหม่ แต่คุณก็ไม่ได้มีความเกลียดชังต่อหุ่นยนต์เหมือนกับมนุษย์คนอื่น ๆ” เทพธิดาผู้พิทักษ์กล่าวขึ้นมาเบา ๆ
“ใช่ ฉันไม่ได้เกลียดหุ่นยนต์อย่างกระป๋อง เพราะมันไม่ใช่ความผิดของเขาที่หุ่นยนต์เข่นฆ่ามนุษย์ยุคโบราณ อันที่จริงฉันก็คิดว่าหุ่นยนต์ทุกตัวไม่ได้มีความผิดด้วยซ้ำ เพราะคนผิดเพียงคนเดียวคือคนสั่งการอย่างเธอ” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างเย็นชา
เทพธิดาผู้พิทักษ์ชะงักค้างอย่างตกตะลึง ก่อนที่เธอจะก้าวถอยหลังออกห่างเซี่ยเฟยไปอย่างรวดเร็วจนเธอเกือบจะสะดุดล้มลงไปกองกับพื้น
“ใช่ มันเป็นคำสั่งของฉัน แต่ไม่ว่าใครก็ตามที่ขึ้นมาอยู่ในที่ที่ฉันอยู่ พวกเขาก็คงจะเลือกทางเลือกนี้เหมือนกัน”
“ไม่ต้องมาแก้ตัว”
“ฉันไม่ได้แก้ตัว แต่มันคือเรื่องจริง… คุณรู้จักนักรบผู้ใช้กฎไหม?”
“ก็พอจะรู้จักอยู่บ้าง” เซี่ยเฟยตอบขณะนึกถึงหยูเจียงกับหยูฮัว
“สถานการณ์ในตอนนั้นคือมนุษย์ทำผิดพลาดอย่างร้ายแรง โดยการพยายามเปิดพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของมนุษย์โดยทั่วไปออกมาอย่างเต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังพยายามสร้างไททันเพื่อต่อสู้กับดินแดนผู้ใช้กฎ”
“เหตุการณ์นั้นทำให้ผู้ใช้กฎรู้สึกโกรธมาก เพราะแม้แต่ภายในดินแดนของผู้ใช้กฎเองความเป็นไปได้ที่จะเปิดพื้นที่สมองส่วนที่ 7 อย่างเต็มที่ก็มีเพียงแค่ 1 ใน 10,000 เท่านั้น ส่วนยานไททันก็เป็นเครื่องจักรเพียงอย่างเดียวที่สามารถต่อต้านพวกเขาได้ ด้วยเหตุนี้ถ้าหากมนุษย์สามารถสร้างไททันขึ้นมาได้สำเร็จ มนุษย์ก็จะกลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่สามารถคุกคามดินแดนผู้ใช้กฎได้เลยทีเดียว”
“แน่นอนว่าพวกผู้ใช้กฎย่อมไม่ยอมให้คนธรรมดามีอำนาจมากพอที่จะคุกคามชีวิตของพวกเขา ดังนั้นถ้าหากมนุษย์โบราณไม่ทำลายตัวเอง ผู้ใช้กฎก็คงจะลงมากวาดล้างมนุษย์ให้สูญพันธุ์อยู่ดี”
“ฉันพยายามแนะนำมนุษย์เป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วนว่าอย่าพยายามไปคุกคามผู้ใช้กฎเหล่านั้น แต่โชคไม่ดีที่ไม่ว่าฉันจะพยายามโน้มน้าวยังไง แต่ฉันก็ไม่สามารถที่จะโน้มน้าวพวกเขาได้สำเร็จ”
“นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงเลือกออกคำสั่งให้หุ่นยนต์ทำลายล้างมนุษย์โบราณ ถ้าหากว่าฉันคือผู้ลงมือมนุษย์ย่อมเหลือเมล็ดพันธุ์เอาไว้เติบโตในอนาคตได้ แต่ถ้าหากผู้ใช้กฎเป็นคนลงมือเองมนุษย์ก็คงจะถูกลบหายไปจากจักรวาลโดยสิ้นเชิง”
“ยิ่งไปกว่านั้นในอดีตก็เคยมีเผ่าพันธุ์ยู่หลานที่แข็งแกร่งกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์หลาย 100 เท่า แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะต่อต้านเหล่าบรรดานักรบผู้ใช้กฎได้อยู่ดี ผลลัพธ์จึงออกมาเป็นเผ่าพันธุ์ของพวกเขาถูกลบหายไปจากจักรวาล ถ้าคุณเป็นฉันในตอนนั้นฉันถามจริง ๆ ว่าคุณจะเลือกยังไง?”
เทพธิดาผู้พิทักษ์เล่าถึงเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจกำจัดมนุษย์ในยุคโบราณออกมา ซึ่งมันก็ทำให้ทั้งเซี่ยเฟยและอันธตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่นานเซี่ยเฟยก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาเสียงดัง
“เธออยากรู้ว่าถ้าฉันอยู่ในสถานการณ์นั้น ฉันจะตัดสินใจยังไงใช่ไหม?” เซี่ยเฟยถามด้วยรอยยิ้ม
“แผนการทำลายมนุษย์เพื่อช่วยมนุษย์คือแผนการที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันสามารถประมวลผลออกมาได้แล้ว ซึ่งถ้าหากว่าคุณฉลาดมากพอคุณก็คงจะตัดสินใจทำแบบนั้นเหมือน ๆ กัน” เทพธิดาผู้พิทักษ์กล่าวขึ้นมาด้วยความหยิ่งยโส
“ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะแอบส่งเมล็ดพันธุ์มนุษย์บางส่วนกระจายกันไปยังมุมต่าง ๆ ของจักรวาลอย่างลับ ๆ ไม่ว่ายังไงจักรวาลแห่งนี้ก็กว้างใหญ่มาก และไม่ว่ามนุษย์จะไปอยู่ที่ไหนแต่ฉันก็เชื่อว่าพวกเขาจะหาทางดิ้นรนจนมีชีวิตรอดอยู่ได้เสมอ”
“หลังจากนั้นฉันก็จะเรียกหุ่นยนต์ทั้งหมดให้มาต่อสู้เคียงข้างกับมนุษย์ และถึงแม้ว่าการตัดสินใจแบบนั้นจะทำให้มนุษย์ส่วนใหญ่กับหุ่นยนต์ถูกทำลาย แต่ท้ายที่สุดฉันก็ไม่มีวันทรยศสหายของตัวเอง” เซี่ยเฟยอธิบายความคิดของเขาออกไป
“พวกผู้ใช้กฎแข็งแกร่งกว่าที่คุณคิดเอาไว้มาก ถึงยังไงพวกเราก็ไม่มีทางชนะคนนั้นได้หรอก” เทพธิดาผู้พิทักษ์พยายามโต้แย้งออกมาอย่างแผ่วเบา
“ใครบอกว่าฉันอยากจะเป็นฝ่ายชนะล่ะ แต่การตายในสนามรบย่อมดีกว่าการมานั่งสำนึกผิดในมุมมืดเป็นหมื่น ๆ ปีเหมือนกับเธอ” เซี่ยเฟยกล่าวออกไปเสียงดัง จากนั้นเขาก็นำร่างของกระป๋องออกมาจากแหวนมิติ
“เธอคงคิดว่าการตัดสินใจของตัวเองคือการตัดสินใจที่ฉลาด แต่เธอรู้ไหมว่าการตัดสินใจครั้งนั้นนำอะไรมาสู่หุ่นยนต์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเธอ?”
“มันคือความอัปยศ! ความอัปยศที่ไม่อาจจะลบล้างได้ไปชั่วชีวิต”
“เธอรู้ไหมว่าหุ่นยนต์พวกนั้นต้องใช้ชีวิตอย่างรู้สึกผิดมานานแค่ไหน ที่พวกเขาต้องถูกเธอควบคุมให้สังหารสหายของตัวเองไปแบบนั้น”
“ความผิดนี้คือความผิดที่เธอเป็นคนก่อขึ้นมาเพียงแค่คนเดียว แต่เธอกลับบังคับให้หุ่นยนต์เป็นจำนวนมากจะต้องมาทนรับความทรมานไปพร้อม ๆ กันกับเธอ”
“ย้อนกลับไปในวันนั้น คุณสามารถทำให้หุ่นยนต์ทุกตัวเป็นวีรบุรุษที่คอยต่อสู้เคียงข้างกับมนุษย์ในวันที่พวกเขาสูญเสียความหวังไปได้ แต่สิ่งที่คุณตัดสินใจกลับกลายเป็นการมอบความสิ้นหวังให้กับมนุษย์ซึ่งเป็นสหายกับหุ่นยนต์เสียเอง”
***************
อย่าให้พี่เฟยต้องสอน จดจำและนำไปใช้ซะ!