1060 - นี่คือชะตากรรมของข้า
1060 - นี่คือชะตากรรมของข้า
“อย่าเพิ่งใจร้อน ต้องทำทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง”
หลี่เทียนเตือนเย่ฟ่าน ในตอนนี้เย่ฟ่านไม่ใช่เจ้าถิ่นอีกต่อไปแล้ว เขาจากโลกใบนี้ไปหลายปีและเมื่อกลับมาอีกครั้งเขาต้องเรียนรู้ทุกอย่างใหม่ทั้งหมด
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…”
เย่ฟ่านนึกถึงหลี่เหอซุย อู๋จงเทียน หลิวคุนและคนอื่นๆ ปู่ของพวกเขาคือสิบสามมหาโจรแห่งดินแดนทางเหนือ พวกเขาปล่อยให้ลูกหลานของตัวเองถูกโจมตีได้อย่างไร
“นักฆ่าโบราณสองคนปรากฏตัวออกมา แม้กระทั่งสิบสามโจรผู้ยิ่งใหญ่แห่งภาคเหนือของตงหวงยังอยากจะเอาตัวรอดได้…”
อเวจีและพิภพ เทพนักฆ่าโบราณทั้งสองไม่ได้หลบซ่อนตัวอีกแล้ว พวกเขาฉวยโอกาสที่โลกกำลังตกอยู่ในความวุ่นวายและรับจ้างลงมือสังหารโจรผู้ยิ่งใหญ่
แน่นอนว่าผู้ที่กล้าลงมือจ้างพวกเขาย่อมหนีไม่พ้นกลุ่มมหาอำนาจที่เป็นศัตรูเย่ฟ่าน
ปู่ของหลี่เหอซุย หลี่เหิงโจรคนที่แปดถูกลอบสังหารและเสียชีวิตในสนามรบบนภูเขาที่แห้งแล้งของภาคเหนือ จากนั้นศีรษะของเขาถูกนักฆ่าทั้งสองนำมาห้อยไว้ที่หน้าผากโดยทวนศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นอาวุธของเขาเอง
หลิวเฟิงปู่ของหลิวคุนซึ่งเป็นโจรผู้ยิ่งใหญ่ลำดับที่หกถูกพิภพบดขยี้ศีรษะด้วยหมวกศักดิ์สิทธิ์หลิงหลงซึ่งเป็นอาวุธครึ่งก้าวเต๋าสุดขั้วที่มีอายุหลายพันปี
เมื่อได้ยินเช่นนี้เย่ฟ่านก็กัดฟันด้วยความโกรธ แม้แต่โจรผู้ยิ่งใหญ่ยังถูกฆ่า ไม่แปลกใจเลยที่ชีวิตของลูกหลานพวกเขาจะตกอยู่ในอันตราย
“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือชายชราตาบอดซึ่งเป็นพี่ใหญ่ของสิบสามโจร เซียนลึกลับถูกเล่าขานว่าล่วงลับไปแล้ว บางคนบอกว่าเขาเดินทางเข้าสู่ดินแดนที่ไม่มีใครสามารถไปถึงได้ เกรงว่าต่อให้เขาไม่ตายอีกหลายร้อยปีเขาก็ยากที่จะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง”
“พวกเจ้ารู้อะไรอีกบ้าง” เอี๋ยนอี้ซีถามเพื่อช่วยให้เย่ฟ่านเข้าใจทุกอย่าง
คนเหล่านั้นหันกลับมามองเอี๋ยนอี้ซีด้วยความสงสัย แต่ก็ยังเล่าต่อไปว่า
“มียอดฝีมือลึกลับกลุ่มใหญ่ปรากฏตัวขึ้นในนิกายไท่ซวนของภาคใต้เพื่อฆ่าจางเหวินฉางซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่มีใครรู้จัก อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาข่าวได้รับการเปิดเผยว่าจางเหวินฉางคนนี้เป็นสหายรักของเย่ฟ่าน”
นั่นเป็นภัยพิบัติของนิกายไท่ซวนอย่างแท้จริง ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์หลายคนของพวกเขาเสียชีวิต จนกระทั่งหลี่รั่วหยูปรากฏตัวออกมา เหล่าศัตรูผู้ทรงพลังจึงถอนตัวจากไป
“ข้าไม่คาดคิดจริงๆ ว่าหลี่รั่วหยูจากยอดเขารกร้างจะแข็งแกร่งเทียบเท่ากับเซียนโบราณไปแล้ว”
หลังจากทำความเข้าใจเต๋ามานานนับร้อยปีในที่สุดหลี่รั่วหยูก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าในครั้งเดียว
เย่ฟ่านถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ จางเหวินฉางสบายดี แต่ในไม่ช้าเขาก็ได้รับข่าวร้ายอีกครั้ง
บุคคลลึกลับกลุ่มเดิมลุ่มสังหารหลิวอี่อี้ที่กำลังฝึกฝนอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์หยก แม้ว่าพวกเขาจะลงมือไม่ประสบผลสำเร็จแต่เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้ไม้มั่นที่จะสังหารสหายของเย่ฟ่านให้สิ้นซาก
“คนกลุ่มนี้คือใคร พวกเขาคืออดีตเพื่อนร่วมชั้นของข้าหรือไม่ มันไม่ควรเป็นแบบนี้ ในอดีตพวกเราไม่เคยมีความขัดแย้งกัน เหตุใดพวกเขาต้องฆ่าทั้งสองคนให้ได้” เย่ฟ่านรู้สึกสงสัยในตัวของบุคคลลึกลับเหล่านั้น
ศัตรูของเขากระจายตัวอยู่ทั่วโลก ดูเหมือนว่ามิตรสหายในโลกใบนี้ของเขาแทบจะถูกไล่ล่าอย่างเอาเป็นเอาตาย
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าชนเผ่าคนเถื่อนในหนานหลิงกำลังประสบปัญหาครั้งใหญ่ ราชวงศ์หวังแห่งเป่ยหยวนออกคำสั่งทำลายล้างพวกเขาด้วยตัวเอง”
“ว่ากันว่าตงฟางเย่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผังป๋อและคนอื่นๆ การกระทำของเขาทำให้ชนเผ่าป่าเถื่อนได้รับผลกระทบไปด้วย”
“เรื่องนี้จริงหรือ”
“แน่นอน ข้าได้ยินมาว่าตระกูลหวังส่งคนออกมาตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อน เจ้าไม่เห็นหรือว่ามีคนมาที่การชุมนุมในวันนี้น้อยกว่าเมื่อสองสามวันก่อน? นั่นก็เพราะผู้ที่ได้รับข่าวต่างมุ่งหน้าไปชมเหตุการณ์นั้นแล้ว”
“ไปฆ่าคนกัน!”
เย่ฟ่านยืนขึ้น สีหน้าของเขาเย็นชามาก ข่าวนี้ทำให้เลือดของเขาเดือดพล่านอย่างรุนแรง
เขาได้ยินมาว่าตงฟางเย่อาจเสียชีวิตในสนามรบไปตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน และตอนนี้คนในตระกูลของเขากำลังถูกรังแก เหตุการณ์นี้เย่ฟ่านจะทนได้อย่างไร
“เมื่อพูดถึงเรื่องฆ่าคนมันเป็นสิ่งที่ข้าชื่นชอบมากที่สุด” หลี่เทียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ว่าข้าอยู่ที่ไหน ที่นั่นจะมีสนามรบเสมอ นี่คือโชคชะตาของข้า” กลิ่นอายสังหารของเย่ฟ่านทะลุทะลวงสวรรค์ทั้งเก้า!
เย่ฟ่านยืนขึ้นและเดินออกไปจากแท่นหิน หลายคนมองเขาด้วยความสงสัยและรู้สึกคุ้นเคยอยู่เล็กน้อย
“คนๆ นี้เป็นใครกัน? เขามีพลังสายเลือดที่แข็งแกร่งมาก มันให้ความรู้สึกราวกับเป็นมังกรโบราณในร่างมนุษย์” ใครบางคนกล่าวด้วยความสยดสยอง
เย่ฟ่านเดินจากไปอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่ามีผู้คนคุ้นเคยกับรูปร่างเขาไม่น้อย อย่างไรก็ตามเข้าออกจากโลกนี้ไปนานแล้วไม่มีใครคิดว่าเขาจะกลับมา
“ไปกันเถอะ ตระกูลหวังนั้นทรงพลังจริงๆ พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ไม่อาจต้านทานได้กับเผ่าพันธุ์โบราณ แน่นอนว่าการที่พวกเขามาหนานหลิงในครั้งนี้จะต้องมียอดฝีมือมากมายนับไม่ถ้วนตามมาด้วย”
….
เลือดในหัวใจของเย่ฟ่านพลุ่งพล่าน เขาต้องการเดินทางข้ามความว่างเปล่าไปที่ทุ่งหญ้าแดนเหนือเพื่อทำลายตระกูลหวังทั้งหมด
“เพียงแค่มีบุตรชายเกิดขึ้นคนเดียวตระกูลหวังก็คิดจะปกครองโลกนี้ได้หรือ ข้าไม่เชื่อว่าพวกมันจะแข็งแกร่งเทียบเท่าเผ่าอีกาทอง ในเมื่อพวกมันรนหาที่ตายเราจะช่วยสนองให้ก็แล้วกัน!” หลี่เทียนกล่าว
ความปรารถนาของเขาคือสร้างชื่อเสียงให้โด่งดังภายในโลกใบนี้ ดังนั้นเมื่อมีโอกาสสำคัญมาถึงเขาก็ไม่ลังเลที่จะร่วมสนุกด้วย
หัวใจของเย่ฟ่านเต็มไปด้วยความแค้น ดวงตาของเขาดูเหมือนจะเผาผลาญหนานหลิงให้กลายเป็นทะเลเลือด ในเมื่อตระกูลหวังข้ามความว่างเปล่ามาที่นี่ พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทิ้งชีวิตไว้ทั้งหมด
“มีค่ายกลเคลื่อนย้ายทางไกลที่นี่หรือไม่” เขาถามผู้คนเพราะกลัวว่าจะไปไม่ทันเวลา
นักปรุงยาชราคนหนึ่งหันมามองและชี้ไปทางทิศเหนือ “มีค่ายกลเคลื่อนย้ายทางไกลอยู่ข้างหน้า แต่มันพังไปตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน”
เย่ฟ่านพยักหน้าให้ชายชราเป็นเชิงขอบคุณจากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปยังทิศทางของค่ายกลทันที
หลี่เทียนและเอี๋ยนอี้ซีตามมาติดๆ เพียงการเคลื่อนไหวสองสามครั้งร่างของพวกเขาก็ยืนอยู่บนค่ายกลโบราณแล้ว
ค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้ทรุดโทรมมากจริงๆ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ใช้งานมานานหลายหมื่นปี และทันทีที่กลิ่นอายของทั้งสามคนถูกปลดปล่อยออกมา ผู้คนที่กำลังคิดจะซ่อมแซมค่ายกลอยู่นั้นต่างก็หลบหนีออกไปด้วยความกลัว
“มันจะเป็นเรื่องดีอย่างยิ่งหากหวังเถิงมาที่นี่ด้วยตัวเอง ข้าจะได้ส่งศีรษะของเขากลับไปเป็นของกำนันให้กับตระกูลหวังในเป่ยหยวน”
เย่ฟ่านกล่าวและลงมือซ่อมแซมค่ายกลตามความรู้ที่เขาได้รับมาจากจักรพรรดิดำ
หลังจากที่หลี่เทียนยืนอยู่บนค่ายคนโบราณด้วยความองอาจกล้าหาญ ประโยคที่เย่ฟ่านกล่าวออกมานั้นทำให้ผู้คนเกิดความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
ในเวลาไม่นานค่ายกลเคลื่อนย้ายทางไกลก็กลับมาทำงานได้อีกครั้ง และร่างของทั้ง 3 คนก็หายสาบสูญไปในทันที
“มีดินแดนโบราณมากมาย แล้วชนเผ่าใดคือบ้านของตงฟางเย่”
เย่ฟ่านเคยได้ยินตงฟางเย่บอกว่าเขาอยู่ในเทือกเขาโบราณที่ลึกที่สุด อย่างไรก็ตามแม้ว่าเย่ฟ่านจะไม่รู้ว่าหมู่บ้านนั้นอยู่ที่ใด แต่เขาก็มองเห็นผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนกำลังลังไหลไปในทิศทางหนึ่ง
ดังนั้นทั้งสามคนจึงรีบแซงหน้าผู้คนทั้งหมดและติดตามคนกลุ่มแรกไปอย่างรวดเร็ว
ตึง ตึง ตึง
กลองสงครามเขย่าท้องฟ้า ธงปลิวไสว รถศึกโบราณสั่นสะเทือน ท้องฟ้าพังทลาย และความหนาวเย็นกวาดออกไปรอบทิศทาง
“ไม่รู้ว่ามียอดฝีมือที่แข็งแกร่งมากเพียงใดในชนเผ่าเล็กๆ นี้ อย่างไรก็ตามชะตากรรมของพวกมันมาถึงแล้ว”
ชายชราผู้หนึ่งเหาะขึ้นขึ้นไปบนภูเขา ร่างกายของเขาซูบผอมและแห้งผาก เสื้อผ้าของเขาถูกปะชุนเรียบง่ายมาก เขากวาดสายตามองกองทัพอันยิ่งใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าและตวาดออกไปว่า
“เจ้าเป็นใคร เหตุใดจึงคิดจะโจมตีหมู่บ้านเรา?”
“พวกเจ้าก็แค่คนป่าเถื่อนไร้อารยธรรม ข้าขี้เกียจจะคุยด้วย ในวันนี้เผ่าของพวกเจ้าจะถูกกวาดล้างออกจากโลกโดยไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว”
ในอากาศ มีเรือรบสีเงินขนาดใหญ่ที่มีความแวววาวของโลหะอันน่าสะพรึงกลัวบินเข้ามา ชายวัยกลางคนบนเรือมีสีหน้าเรียบเฉยเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง
ในเวลาเดียวกันกำปั้นขนาดใหญ่ของเขาได้กระแทกลงมาข้างล่างและบดขยี้ยอดเขาที่ชายชราเสื้อผ้าเก่าคร่ำคร่าให้พังทลายลงทันที
ปัง!