บทที่ 9 บาดเจ็บสาหัส
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 9 บาดเจ็บสาหัส
อย่างที่บางคนพูด การหลอกคนคนหนึ่งถือว่าเป็นเรื่องโกหก การหลอกคนสองคนเป็นถือการหลอกลวง
ทว่าแดร์เดวิลส่งมอบคะแนนชื่อเสียงให้ด้วยความเต็มใจ ไรอันก็ยินดีที่จะยอมรับมันไว้
เมื่อคำนึงถึงคำพูดของไรอันแล้ว มาดามเกาก็เผยสีหน้าประหลาดใจออกมาแล้วหันไปตั้งคำถามว่า "ถ้าแกอ้างว่ามาจากเผิงไหล ก็ไม่ควรจะเป็นศัตรูกับเรา ทำไมแกถึงมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหาให้ฉันกัน?"
"เธอจะเชื่อฉันไหมถ้าฉันบอกว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ?"
“หมายความว่ายังไงกัน?” มาดามเกาพูดด้วยใบหน้าเย็นชาพลางมองไปที่ยามที่ล้มลงข้างๆ เธอ
เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ไม่มีทางที่จะมีใครเชื่อเขาหรอก
เมื่อมองไปที่สีหน้าของมาดามเกา ไรอันก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่เชื่อคำพูดของเขาเลย แม้ว่าสิ่งที่เขาพูดจะเป็นความจริงก็ตาม
เขาได้แต่ส่ายศีรษะอย่างเงียบๆ จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นและยังคงแสดงต่อไป "เผิงไหลแม้นจะสันโดษ แต่ใช่ว่าไม่รู้ถูกผิด ยิ่งไปกว่านั้น การทำให้ผู้อื่นตาบอดเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวนั้นขัดต่อหลักสวรรค์และเป็นเส้นทางของเหล่ามารชั่วช้า ข้าจะไม่อนุญาตให้เจ้าทำแบบนั้นต่อไป!"
"อีกกองกำลังที่เหมือนกับพวกคุนหลุนอีกแล้วเหรอ? ไม่ว่าจะเป็นคุนหลุนหรือเผิงไหล พวกเจ้าก็น่ารำคาญไม่แพ้กันเลย
เมื่อได้ยินคำตอบของไรอัน มาดามเกาก็ก้มศีรษะลงเล็กน้อยและกระซิบราวกับว่าเธอกำลังไม่พอใจ
ขณะที่เห็นภาพเช่นนั้น ไรอันก็เกร็งประสาทโดยไม่รู้ตัวด้วยสีหน้ากังวล
เพราะหญิงชราคนนี้มีชีวิตอยู่มานานหลายร้อยปี เขาจึงมั่นใจว่ามาดามเกาย่อมมีไพ่ตายบางอย่างซ่อนไว้แน่
ยิ่งเธอดูเป็นแบบนี้ เขาก็ยิ่งต้องใจเย็น
เมื่อไรอันและมาดามเกาเผชิญหน้ากันอย่างเงียบๆ...
แดร์เดวิลที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขามาที่โรงงานของมาดามเกา ไม่เพียงแต่เพื่อต่อสู้กับกองกำลังชั่วร้ายที่ฝังตัวอยู่ในย่านเฮลคิทเช่นเท่านั้น แต่ยังเพื่อค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างมาดามเกากับคิงพินและค้นหาหลักฐานการก่ออาชญากรรม
"บอกข้ามาว่าระหว่างเจ้ากับคิงพินมีอะไรอยู่กันแน่..."
แดร์เดวิลกระโดดลงมาจากที่สูงพร้อมกับเดินเข้าหามาดามเกา
"ระวัง!"
ไรอันมีเวลาเพียงแค่ชั่วครู่ในการกล่าวเตือน
จากนั้นเขาก็เห็นมาดามเกา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเขาหันหลังกลับอย่างรวดเร็วด้วยการเคลื่อนไหวที่แตกต่างจากรูปลักษณ์ที่มีอายุมากของเธออย่างสิ้นเชิง เธอเหวี่ยงฝ่ามือและส่งแดร์เดวิลบินตรงไปยังทิศทางของไรอัน จากนั้นก็วิ่งหนีไปด้วยความรวดเร็ว
หญิงชราฝีเท้าว่องไวมาก นางดูไม่เหมือนคนที่อยู่มาหลายร้อยปี
ไรอันเอื้อมมือไปคว้าตัวแดร์เดวิลที่กำลังบินอยู่และด้วยการงอขาเล็กน้อย เขาก็สามารถต้านแรงกระแทกได้
เมื่อมองไปยังแดร์เดวิลที่มีสีหน้าเจ็บปวด เขาก็พูดออกมาด้วยความจริงเพียงครึ่งเดียว
"นายหุนหันพลันแล่นมากไป แม้แต่ฉันก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถหยุดเธอได้"
“นายเป็นใครกันแน่?!”
ฉันชื่ออาซิงจากเผิงไหล
แล้วนายล่ะมีความสัมพันธ์อย่างไรกับมาดามเกา? ทำไมเธอถึงมีพลังที่สามารถส่งคนลอยได้ด้วยการตบเพียงครั้งเดียวกัน!" แดร์เดวิลถามไรอันด้วยสีหน้าเจ็บปวด
"ฉันก็ไม่แน่ใจ แต่ฉันรู้สึกได้เลยว่าเธอไม่ธรรมดา ซึ่งนายก็พิสูจน์เรื่องนี้ให้ฉันเห็นแล้ว"
แดร์เดวิลถึงกับเงียบไป
"มันจะสายแล้ว ฉันคงต้องไป..."
เมื่อรู้สึกถึงรสชาติของเลือดที่เต็มปากของเขา แดร์เดวิลก็กระอักเลือดออกมาจากปากและพยายามลุกขึ้นด้วยความช่วยเหลือของไรอัน แต่เขาก็สะดุดและล้มลงกับพื้นทันที เขาจับหน้าอกด้วยสีหน้าเจ็บปวด
เมื่อเห็นเช่นนั้น ไรอันก็เอื้อมมือลงไปและฉีกชุดออกจากหน้าอกของแดร์เดวิล เขาเห็นรอยฝ่ามือที่ชัดเจนของมาดามเกาทิ้งไว้บนร่างกายของอีกฝ่าย เขาจึงพูดว่า "นายบาดเจ็บสาหัส คงต้องได้รับการรักษาทันที"
"ไม่ ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำให้สำเร็จ"
ความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่องในหน้าอกของเขาทำให้เขารู้สึกเจ็บเจียนตายมาก แต่เขาก็ยังคงพยายามฝืนลุกขึ้นยืน
"หากทำเช่นนั้น รังแต่จะทำให้อาการเจ็บปวดสาหัสขึ้นไปอีก" เมื่อมองไปยังแดร์เดวิลที่พยายามลุกขึ้นตรงหน้าเขา ไรอันก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมาว่า "เป้าหมายคืออะไรกันแน่? ไว้รอทำพรุ่งนี้ไม่ได้เหรอ?"
"ช่วยฉันด้วยอาซิง!"
การที่ต้องต่อสู้เป็นเวลานาน ทำให้ความแข็งแกร่งของแดร์เดวิลแทบจะถูกใช้ไปหมดแล้ว เขาล้มลงกับพื้นและหันหน้าไปทางไรอัน "ถ้าเผิงไหลเป็นสถานที่ที่มีความยุติธรรมจริงๆ อย่างที่นายบอก นายต้องช่วยฉันแน่"
"ถ้าเกิดพูดเช่นนั้น ฉันคงต้องทำอย่างช่วยไม่ได้สินะ" ไรอันทำพยักหน้าตอบโดยไม่คิดอะไรอีก
เมื่อได้ยินคำตอบของไรอัน แดร์เดวิลก็ล้มลงกับพื้นราวกับได้ปลดภาระที่แบกไว้ออกไป "ช่วยฉันพาทุกคนออกจากโรงงานที คนพวกนั่นคือผู้บริสุทธิ์ที่เป็นเหยื่อของมาดามเกา
ในยามนั้นเอง แม้ไรอันไม่คิดจะเป็นฮีโร่ แต่คำพูดของแดร์เดวิลก็ทำให้จิตใจของเขาต้องสั่นไว
"ไม่มีปัญหา ฉันจะจัดการให้เอง"
...
คนงานในโรงงานได้แยกย้ายกันไป
ไรอันก็กลับไปหาแดร์เดวิลและช่วยซูเปอร์ฮีโร่ผู้นี้ที่เริ่มหมดสติ
"เดี๋ยวก่อน อาซิง ได้โปรดช่วยฉันเป็นอย่างสุดท้ายด้วย..."
แดร์เดวิลตระหนักถึงรูปร่างของไรอันได้อย่างชัดเจน จึงพยายามรั้งเขาเอาไว้
"สหาย อาการของนายแย่มากเลยนะ หยุดพูดแล้วพักผ่อนไปก่อนไม่ได้เหรอ?"
ไรอันมองไปยังแดร์เดวิลด้วยสีหน้าสับสน 'ซูเปอร์ฮีโร่ทุกคนต้องดันทุรังขนาดนี้เลยเหรอ?'
"นี่เป็น... คำขอครั้งสุดท้ายของฉัน..."
"ก็ได้ พูดมาเลย แต่อย่าขออะไรมากเกินไปล่ะ" ไรอันมองไปทางแดร์เดวิลด้วยความเห็นอกเห็นใจ ชายคนนั้นดูราวกับว่าเขากำลังจะตายได้ทุกเมื่อ เขาสูดลมหายใจเฮือกสุดท้ายเข้ามาและพูดว่า
"ช่วยฉันเผาโรงงานที"
เมื่อพูดคำพูดสุดท้ายจบลง ศีรษะของแดร์เดวิลก็เอียงลงและสลบไป
ไรอันหันไปมองแดร์เดวิลที่มีอาการบาดเจ็บสาหัสล้มทับตัวเขา จากนั้นไรอันก็ได้แต่มองย้อนกลับไปยังโรงงานของมาดามเกาและถอนหายใจอย่างเงียบๆ
'ดูเหมือนฉันจะกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กของแดร์เดวิลแทนแล้วสินะเนี่ย'
ขณะที่คิดเช่นนั้น ไรอันจึงเตะปืนกลมือที่อยู่บนพื้นอย่างง่ายดายด้วยเท้าของเขาและยิงออกไป เขายิงถังน้ำมันที่เก็บไว้ในโรงงานและทำให้เกิดประกายไฟ เพื่อจุดไฟขึ้น ในไม่ช้าไฟก็ลุกลามไปทั่วโรงงาน ไฟได้ลุกลามทำให้บริเวณโดยรอบของโรงงานสว่างไสวราวกับเป็นเวลายามรุ่งสาง
ไฟได้ไหม้เข้ามาใกล้จุดที่ไรอันยืนอยู่อย่างรวดเร็ว เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณเตือนไฟไหม้บางเบาจากระยะไกล ไรอันก็หยุดและวิ่งออกจากห้อง พร้อมกับลากตัวแดร์เดวิลที่หมดสติไปด้วย
...
ก๊อก ก๊อก--
"ใคร?"
เสียงเคาะประตูที่เร่งรีบทำให้แคลร์รู้สึกตื่นตระหนกพอสมควร เธอเดินไปที่ประตูอย่างระมัดระวัง แต่แทนที่จะเปิดออกอย่างรวดเร็ว เธอกลับขมวดคิ้วและเหลือบมองออกไปทางตาแมว ที่ประตู ภาพที่ว่างเปล่าทำให้คิ้วขมวดของแคลร์ยิ่งขมวดกว่าเดิม
เธอถอยไปที่ห้องครัวและหยิบกระทะขึ้นมา เมื่อรู้สึกถึงน้ำหนักที่หนักหน่วงในมือของเธอ ก็ทำให้แคลร์รู้สึกมั่นใจเล็กน้อย หลังจากนั้นเธอก็หมุนด้ามจับอย่างระมัดระวังเพื่อเปิดประตู
จากนั้นแคลร์ก็พบกับแดร์เดวิลที่นอนหมดสติอยู่ที่โถงทางเดิน
"แมตต์!"
....