บทที่ 7 แดร์เดวิล
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 7 แดร์เดวิล
เห็นได้ชัดว่าชายวัยกลางคนที่กังวลไม่ได้สังเกตเห็นเงาที่ตามมาจากข้างหลังเขาเลย
เมื่อข้ามถนนที่สกปรกและอันตรายของย่านเฮลคิทเช่นไป ชายคนนั้นก็มาถึงด้านนอกของโรงงานที่ซ่อนอยู่
ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นชำเลืองมองไปทางโรงงาน ภาพของภรรยาเขาที่นอนป่วยอยู่บนเตียงที่บ้านได้แวบเข้ามาในหัว มันทำให้เขากัดฟันและเดินเข้าไปอย่างจำใจ
"มาแล้วสินะ"
ยามที่ทางเข้าโรงงานสังเกตเห็นชายวัยกลางคน จากนั้นเขาก็ก้าวเดินมาข้างหน้าและพูดว่า...
“อืม”
ชายคนนั้นพยักหน้า แต่ดวงตาของเขากวาดมองไปยังปืนที่พาดอยู่บนไหล่ของยามรักษาการณ์โดยไม่รู้ตัว เห็นได้ชัดว่าโรงงานแห่งนี้ไม่ธรรมดาอย่างที่เห็นจากภายนอก
"รีบเข้ามาเร็วๆ เลย มาดามเกากำลังรอแกอยู่แล้ว"
ยามที่สังเกตเห็นแววตาอันสิ้นหวังของชายคนนั้นก็ไม่ได้สนใจมากนัก แต่มันกลับคล้ายทำให้เขาโกรธ
'ที่แห่งนี้เหรอ?'
ไรอันซ่อนตัวอยู่ในเงามืดตรงหัวมุมพลางมองโรงงานที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเขาและชายสองคนที่กำลังพูดคุยกันที่ทางเข้าอย่างเงียบๆ
ปืนของยามรักษาการณ์เตือนไรอันว่าสถานการณ์นั้นอันตรายกว่าที่เขาคิดไว้มาก
แม้ว่าการใช้อาวุธปืนจะเป็นเรื่องปกติในอเมริกา แต่การที่ยามของโรงงานธรรมดาจะต้องใช้อาวุธปืนในขณะที่ลาดตระเวนก็เป็นจุดที่น่าสงสัยมาก
หรือมันอาจจะไม่ใช่โรงงานที่ธรรมดาตั้งแต่แรก
เมื่อรู้ว่าโรงงานที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นผิดปกติ ไรอันก็ไม่มีเจตนาที่จะอยู่ต่อหรือคิดบุกรุก
เพราะจากการที่ชายวัยกลางคนกำลังพูดคุยกับยามข้างนอก เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายก็ตระหนักถึงสถานการณ์ที่โรงงานแล้ว แต่ยังคงยืนยันที่จะเข้าไปข้างใน
ในเมื่อเขาได้ตัดสินใจแล้ว เหตุใดไรอันจึงควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวอีกล่ะ?
แม้ว่าจะอยู่ในโลกของมาร์เวล แต่ไรอันก็ไม่เคยต้องการที่จะเป็นซูเปอร์ฮีโร่และปกป้องโลกเลย เป้าหมายของเขากลับเป็นเพียงการใช้ชีวิตตามที่เขาต้องการเท่านั้นเอง
ที่จริงก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้ตระหนักถึงความอันตรายที่แท้จริงของโลกมาร์เวลเลย
แต่หลังจากผ่านอะไรมามากมาย ไรอันก็เริ่มรู้ว่าทุกสิ่งบนโลกนี้ใช่ว่าจะทำได้โดยง่าย
เขาหันหลังกลับและกำลังเดินกลับไปตามเส้นทางที่เขาเข้ามา
ทว่าในขณะที่ไรอันกำลังจะจากไป ได้มีเสียงฝีเท้าที่พุ่งเข้ามาใกล้
จากนั้นร่างสีแดงเข้มก็กระโดดข้ามศีรษะของเขา
'แดร์เดวิล!'
แม้ว่าร่างนั้นจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แต่ไรอันก็จดจำตัวตนของร่างนั้นได้
มันคือ แดร์เดวิล ซูเปอร์ฮีโร่ที่โด่งดังในย่านเฮลคิทเช่นที่ปรากฏมาในช่วงนี้
แน่นอนว่าไรอันรู้ตัวตนที่แท้จริงของแดร์เดวิลด้วย ในตอนกลางวันเขาคือ ทนายความตาบอดผู้มากพรสวรรค์ชื่อ แมตต์ เมอร์ด็อค
การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของแดร์เดวิลค่อนข้างเป็นเรื่องที่ไรอันคาดไม่ถึงเลย
เมื่อเขากำลังคิดที่จะออกไป ไรอันก็เหลือบมองกลับไปที่โรงงานด้านหลังเขา
สีหน้าของเขาตอนนี้ค่อนข้างยุ่งเหยิงพอสมควร
แม้ว่าการรีบออกไปจะลดความเสี่ยงที่เขาต้องเจอ แต่เขาก็จะพลาดโอกาสที่จะได้พบกับแดร์เดวิลและอดได้รับคะแนนชื่อเสียงอย่างแน่นอน
แม้ว่าจะมีซูเปอร์ฮีโร่จำนวนมากในนิวยอร์ก แต่ด้วยระดับตอนนี้ ไรอันคงไม่สามารถพบกับพวกเขาได้
แต่ถ้าเป็นแดร์เดวิลก็คนละเรื่องกัน เพราะความสามารถของเขาถือได้ว่าอยู่ในระดับเริ่มต้นของในหมู่ฮีโร่ แถมคู่ต่อกรของแดร์เดวิลก็คือเหล่าอันธพาลในย่านเฮลคิทเช่น ศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดก็แค่คิงพินเท่านั้น
ถือได้ว่าระดับความอันตรายห่างไกลจากแกนหลักโลกของมาร์เวลที่มีการรุกรานของมนุษย์ต่างดาวและการทำลายล้างดาวเคราะห์แทบทุกครั้ง
ดังนั้นหลังจากลังเลใจอยู่พักหนึ่ง ไรอันก็ได้ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าถึงจะต้องตัดสินใจอีกครั้ง แต่ไรอันก็ไม่ได้โง่พอที่จะบุกเข้าไปในโรงงาน
ก่อนที่จะเข้าไป เขาตัดสินใจว่าจะต้องเปิดหีบสมบัติเพื่อลดความกลัวของเขาลงเสียก่อน
...
"มาดามเกา ชายคนนั้นมาที่นี่แล้ว"
ในโรงงาน ชายคนหนึ่งได้เดินขึ้นไปที่ชั้นสองภายใต้คำแนะนำของยามรักษาความปลอดภัย และได้พบกับมาดามเกาที่เลื่องชื่อ
แม้ว่ามาดามเกาจะมีสีหน้าดูใจดีและดูเหมือนหญิงชราทั่วไปที่สามารถพบได้ในบ้านเกิดของชายคนนั้น...
แต่หลังจากเห็นคนงานที่ชั้นล่าง ชายคนนั้นก็ไม่สามารถผ่อนคลายได้แม้แต่น้อย
"มาแล้วสินะ ส่วนเธอ ขอบคุณที่ทำงานอย่างหนักล่ะ"
มาดามเกาโบกมือให้ยามที่มากับชายคนนั้นพลางมองไปที่ชายตรงหน้าพร้อมด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นเธอก็พูดขึ้นว่า "ในเมื่อเธอตัดสินใจที่จะมาทำงานให้ฉัน เธอก็ต้องคิดให้ดี งานที่นี่ไม่ง่ายอย่างที่เห็นอยู่ข้างนอก ไม่ใช่งานที่จะสามารถเข้าและลาออกได้เมื่อต้องการ"
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเคยเห็นที่ชั้นหนึ่งของโรงงาน ชายคนนั้นก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น "มาดามเกา ภรรยาของผมป่วยและผมต้องการเงินจริงๆ"
“ฉันรู้แล้ว รู้แล้ว”
มาดามเกาพยักหน้า แต่ก็พูดถ้อยคำที่โหดร้ายออกมากด้วยสีหน้าใจดี "คนงานหลายคนที่มาหาฉันก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเธอ ฉันจะไม่ตระหนี่เรื่องเงินหรอก ฉันจะจ่ายค่ารักษาภรรยาของเธออย่างแน่นอน ตราบใดที่เธอไร้ซึ่งดวงตาเหมือนที่พวกเขาเป็น แล้วก็ทำงานให้ฉันในโรงงานแห่งนี้
คำพูดของมาดามเกาทำให้ชายคนนั้นเงียบลง
แม้ว่าเขาจะคิดเสมอว่าเขาตัดสินใจแล้ว แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกลังเลใจเมื่อถึงเวลาต้องเลือก เพราะว่ามันเป็นดวงตาของเขาเอง ใครเล่าจะอยากเป็นชายตาบอด?
เมื่อมองไปที่ชายที่กำลังลังเลใจ มาดามเกาก็ไม่ได้พูดอะไรเพื่อให้เขารีบตัดสินใจ เธอเพียงแค่มองไปที่เขาอย่างเงียบๆ ด้วยสีหน้าใจดีประดับบนใบหน้าของเธอ
"มาดามเกา คุณจะให้เงินที่ผมต้องการเพื่อรักษาอาการป่วยของภรรยาผมจริงหรือ?"
"จริงแท้แน่นอน"
"ถ้าอย่างนั้นผมสัญญาว่าจะทำงานในโรงงานแห่งนี้"
ในท้ายที่สุด ชายคนนั้นก็ตัดสินใจด้วยตัวเองไปแล้ว
“ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม”
เมื่อเห็นเช่นนี้ มาดามเกาก็ยิ้มและพยักหน้า เธอค่อยๆ เดินไปที่ลิ้นชักในห้องและหยิบขวดสีดำขวดเล็กออกมาพร้อมกับยื่นให้ชายคนนั้นดื่มยาพิษในขวด "สายตาของเธอจะค่อยๆ พร่ามัวภายใน 3 วันและเธอจะตาบอดสนิทเหมือนคนงานที่ทำงานอยู่ด้านล่าง
ชายที่อยู่ตรงข้ามโต๊ะเอื้อมมือที่สั่นสะท้านไปหยิบขวดออกจากมือของมาดามเกาและจับไว้ในฝ่ามือของเขาแน่น
เขากัดริมฝีปากล่างแน่น ยกมือขึ้นและเปิดขวดเพื่อดื่ม
"รอเดี๋ยว"
ทันใดนั้นมาดามเกาก็เอียงศีรษะและยื่นมือออกไปเพื่อหยุดชายคนนั้นไว้
"ค่อยดื่มทีหลัง ดูเหมือนว่าจะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาที่โรงงาน"
ด้วยเหตุนี้ มาดามเกาจึงยกไม้เท้าและเดินออกไป
เมื่อมาดามเกาขัดจังหวะอย่างกะทันหัน ความกล้าหาญที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ก็ได้เลือนหายไปหมดสิ้นแล้ว
ชายคนนั้นก้มลงมองพิษในมือของเขา ใบหน้าของเขาดูไม่แน่ใจว่าจะขอบคุณหรือกังวลดี
แต่ความโล่งใจหรือความกังวลนั้นอยู่ได้ไม่นานนัก ในไม่ช้ามันก็ถูกทำลายด้วยเสียงโหยหวนของมาดามเกาที่อยู่ข้างนอก
"ไอ้บอดนั่นอยู่ที่นี่ จับมันมาให้ฉัน!"
....