ตอนที่แล้วบทที่ 6 จักรพรรดินีผู้ยิ่งใหญ่ ในอนาคตจงโลภให้น้อยลง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 8 หลินเป่ยฟานผู้ชอบธรรมและเที่ยงธรรม!

บทที่  7 ท่านเหยา ท่านมีความสุขเร็วเกินไป!


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่  7 ท่านเหยา ท่านมีความสุขเร็วเกินไป!

ประมาณ 10 นาทีต่อมา ทุกคนก็มาถึงบ้านของเหยาเจิ้ง

ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในลานบ้าน หญิงชราผู้สง่างามก็นำกลุ่มคนจำนวนหนึ่งมาต้อนรับ พร้อมกับไปที่ด้านข้างของเหยาเจิ้งและถามอย่างกังวลว่า “นายท่าน มือของท่านเป็นอะไรไป? คนพวกนี้เป็นใครกัน?

“มือของข้าถูกงูน้อยเจ้าเล่ห์กัด แต่ไม่มีอะไรมาก” เหยาเจิ้งส่งสายตาดุร้ายให้หลินเป่ยฟาน จากนั้นจึงหันไปหาหญิงชราและพูดว่า “เราบังเอิญผ่านมา ดังนั้นข้าจึงพาเพื่อนร่วมงานสองสามคนมาเยี่ยมเยียน และนี่คือจักรพรรดินีศักดิ์สิทธิ์องค์ปัจจุบัน จงคารวะนางด้วย!”

ทุกคนตกตะลึงและโค้งคำนับทันทีพร้อมกับกล่าวว่า “คำนับฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน!”

“ได้โปรดลุกขึ้นเถิด” จักรพรรดินีกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

“ขอบคุณเพค่ะ ฝ่าบาท!” ทุกคนลุกขึ้นยืน

เหยาเจิ้งแนะนำอย่างภาคภูมิใจ “ฝ่าบาท นี่คือภรรยาที่ต่ำต้อยของข้า เหยาจางฉี! นางมีคุณธรรมและใจดี อยู่เคียงข้างข้ามานานกว่า 30 ปี ทั้งยังมีความรักต่อกันอย่างลึกซึ้ง! สองคนนี้เป็นลูกชายของข้า ทั้งสองคนเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก!”

จักรพรรดินีพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ไม่เลว! ดึกแล้ว เข้าไปดูข้างในกันเถอะ!”

เหยาเจิ้งต้อนรับเข้าไปภายในทันที ในขณะที่เตือนภรรยาของเขาให้เตรียมเครื่องดื่มบางอย่างมา

บ้านของเหยาเจิ้งดูเรียบง่ายและสะอาดตา มีลานด้านหน้าและสวนด้านหลัง มันไม่ได้มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษและไม่ได้รับการตกแต่งอย่างฟุ่มเฟือย

หลังจากชมบ้าน จักรพรรดินีก็พอใจมาก “ดูเหมือนว่าท่านเหยาจะเป็นข้าราชการที่เที่ยงตรงและซื่อสัตย์! จักรวรรดิอู๋ที่ยิ่งใหญ่ของข้าโชคดีที่มีเจ้า เพราะอย่างนั้นจึงมีตัวข้าอยู่!”

“ขอบคุณฝ่าบาทที่เอ่ยชม ข้าไม่คู่ควรเลย”เหยาเจิ้งดีใจมาก“ข้าเข้มงวดกับตัวเองเสมอและทำทั้งหมดไปเพื่อที่จะเป็นแบบอย่างให้กับผ้คน ทั้งหมดนี้เพื่อไม่ให้ความเอื้อเฟื้อของฝ่าบาทต้องผิดหวัง!”

ในขณะนี้ เขาค่อนข้างรู้สึกขอบคุณหลินเป่ยฟานพอสมควร ถ้าไม่ใช่เพราะข้อเสนอของเขา เขาคงไม่มีโอกาสได้แสดงความซื่อสัตย์ต่อหน้าจักรพรรดินีและเหล่าข้าราชการ! การเลื่อนตำแหน่งและชื่อเสียง รวมถึงการฝากชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ ตอนนี้มันอยู่แค่เอื้อมแล้ว!

จักรพรรดินีปรบมือ “ทำได้ดีมาก!”

เหยาเจิ้งรู้สึกปลาบปลื้มพอสมควร เขามาที่ด้านข้างของหลินเป่ยฟานพร้อมกับถามอย่างภาคภูมิใจว่า “ท่านหลิน ท่านมีอะไรจะพูดอีกไหม?”

หลินเป่ยฟานยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา: “ท่านเหยา ท่านมีความสุขเร็วเกินไปแล้ว!”

เหยาเจิ้งรู้สึกไม่พอใจ: “อะไรกัน เจ้าเห็นสิ่งใดผิดปกติงั้นหรือ?”

หลินเป่ยฟานชี้นิ้วของเขาไป: "ดูนั่น!"

ตามนิ้วของหลินเป่ยฟาน ทุกคนเห็นโต๊ะและเก้าอี้ที่วางอยู่ในห้องโถง

“โต๊ะและเก้าอี้ชุดนี้มีปัญหาอะไร?”

“มันมีปัญหาใหญ่อยู่! ชุดโต๊ะและเก้าอี้ทั้งหมดนี้ทำจากไม้น่านมูสีดำทอง! ไม้น่านมูสีดำทองมีเนื้อแข็ง มีสีดำเหมือนหมึก ไม่กัดกร่อนง่าย ไม่ไหม้ง่ายและเป็นวัสดุที่ดีสำหรับการทำเป็นสิ่งอำนวยความสะดวก! ปัจจุบันไม้น่านมูสีดำทองมีราคาแพงมากในตลาด และต้องใช้เงินสิบตำลึงเพื่อที่จะได้มันมาเพียงจำนวนเล็กน้อย! โต๊ะและเก้าอี้ชุดนี้มีน้ำหนักรวมห้าถึงหกร้อยชั่ง ซึ่งหมายความว่ามูลค่ารวมเป็นเงินห้าถึงหกพันตำลึง! หากรวมค่าฝีมือด้วย ราคาของมันก็จะสูงขึ้นไปอีก!”

หลินเป่ยฟานยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา: “ขอถามหน่อยเถอะท่านเหยา ท่านได้โต๊ะและเก้าอี้ชุดนี้มาจากไหนกัน?”

“นี่…” เหยาเจิ้งพูดไม่ออกและอดไม่ได้ที่จะมองไปทางภรรยาของเขา

“ท่านหลินท่านพูดความจริงหรือ?” จักรพรรดินีมองซ้ายและขวา ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความสงสัย

“ชุดโต๊ะและเก้าอี้ที่ดูเหมือนจะธรรมดานี้มีค่าถึง 6,000 ตำลึงจริงเหรอ?”

หลินเป่ยฟานโค้งคำนับและพูดอย่างเด็ดเดี่ยว: “ฝ่าบาทสามารถส่งคนไปตรวจสอบได้ ข้าผู้รับใช้ที่อ่อนน้อมถ่อมตนของพระองค์ไม่กล้าพูดความเท็จแม้แต่คำเดียว!”

จักรพรรดินีชำเลืองมองเหยาเจิ้งและใบหน้าของนางก็ดำทะมึนไป

“ชานี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน!”

“ชานี้มีปัญหาอะไร?”

หลินเป่ยฟานยิ้ม: “ชานี้มาจากประเทศเพื่อนบ้านในภูเขาต้าฮัว หลังจากชงด้วยน้ำแล้ว มันจะปล่อยกลิ่นหอมที่ยังคงอยู่และสดชื่น ทำให้มันเป็นชาสมุนไพร! เนื่องจากการผลิตที่จำกัดมาก มันจึงเป็นที่ต้องการพอสมควร! ชาหนึ่งถ้วยคือหนึ่งตำลึงทอง มันจึงถูกเรียกว่าชาทอง! แม้แต่ข้าราชการระดับสูงและคนร่ำรวยหลายคนก็ยังไม่สามารถดื่มชานี้ได้ ท่านเหยา ท่านไปเอามาจากไหนกัน?”

“ชานี้…มีค่าขนาดนั้นเลยเหรอ?” เหยาเจิ้งดูตกใจ

“จะเชื่อหรือไม่ ก็สามารถให้คนมาตรวจสอบดูว่าสิ่งที่ข้าพูดนั้นเป็นความจริงหรือเปล่า!” หลินเป่ยฟานกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

ใบหน้าของเหยาเจิ้งซีดเผือดและใบหน้าของจักรพรรดินีก็ยิ่งมืดมนขึ้นไปอีก

จากนั้นหลินเป่ยฟานก็ชี้ให้เห็นอีกสองสามอย่าง

ตัวอย่างเช่นภาพวาดที่แขวนอยู่บนผนัง หินที่วางอยู่กลางลานบ้านและเครื่องประดับเล็กๆ น้อยๆ เป็นต้น

พวกมันทั้งหมดดูธรรมดา มักถูกมองข้ามได้ง่ายโดยคนที่ไม่ได้ใส่ใจพวกมันนัก

แต่ทั้งหมดล้วนมีมูลค่ารวมถึง 40,000 ตำลึง

ใบหน้าของเหยาเจิ้งนั้นขาวราวกับกระดาษ เหงื่อเย็นเหยียบได้ไหลออกมาอย่างท่วมท้น

จักรพรรดินีโกรธมากจนกระแทกมือของนางลงบนโต๊ะ: “เหยาเจิ้ง! เราไว้วางใจเจ้าและแต่งตั้งให้เจ้าเป็นผู้ตรวจสอบของจักรวรรดิ เพื่อกำกับดูแลเหล่าข้าราชการ! เราไม่ได้คิดเลยว่าเจ้าจะทุจริตและรับสินบนด้วยตัวเอง เจ้ายังมีเรื่องร้ายแรงอะไรที่ทำลงไปอีก?”

“ฝ่าบาท ท่านเข้าใจข้าผิดแล้ว ข้าไม่รู้เรื่องนี้เลย!” เหยาเจิ้งคุกเข่าอ้อนวอน

จักรพรรดินียิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก: “ยังปฏิเสธอีกหรือ?”

หลินเป่ยฟานยิ้มและพูดว่า “ฝ่าบาท ได้โปรดใจเย็นๆ ก่อน ท่านเหยาอาจไม่ได้ทุจริต แต่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาที่เป็นเช่นนั้น! ท่านเหยามักจะอ่านหนังสือหลักคำสอนและดำรงตำแหน่งผู้ช่วยจักรวรรดิมาอย่างยาวนาน เขาจึงสามารถควบคุมตนเองได้ แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาอาจไม่เป็นเช่นนั้น! เพราะเงินตรามักจะทำให้คนตาบอดไป!”

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด