บทที่ 10 การทำความดี
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 10 การทำความดี
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา แดร์เดวิลก็ฟื้นจากอาการโคม่า
"อย่าขยับ นายกำลังบาดเจ็บสาหัสอยู่นะ"
ในห้องนั่งเล่น แคลร์ที่ยังคงตื่นอยู่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากโซฟาจึงรีบวิ่งไปหยุดแดร์เดวิลที่อยากจะลุกขึ้น "ฉันไม่มีเครื่องมือที่ดีกว่านี้มากนัก เพราะอย่างนั้นฉันจึงได้แค่รักษาบาดแผลของนายเพียงชั่วคราว ถ้านายไม่ต้องการให้บาดแผลของแย่ลงก็นอนบนโซฟาและพักผ่อนเถอะ อย่าคิดว่าฉันจะช่วยอะไรนายอีกล่ะ"
คำพูดของแคลร์มีผลอย่างเห็นได้ชัด แดร์เดวิลหยุดดิ้นรนและนอนลงบนโซฟาพลางกุมหน้าอกของเขาและหอบหายใจช้าๆ เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
"แมตต์ แล้วคราวนี้ใครกันล่ะ?"
แคลร์รินกาแฟเพื่อลดความง่วงพร้อมกับมองไปที่แดร์เดวิล ซึ่งบนโซฟาและถามด้วยน้ำเสียงอันแสนคุ้นเคย
เห็นได้ชัดว่าเธอคุ้นเคยกับแดร์เดวิลเป็นอย่างดี ทั้งยังรู้จักตัวตนที่อยู่เบื้องหลังซูเปอร์ฮีโร่คนนี้ด้วย
"มาดามเกา เป็นหญิงชราคนหนึ่ง"
"หญิงชรางั้นเหรอ?"
แคลร์เลิกคิ้วและเงยหน้าขึ้นมองอาการของแดร์เดวิลในตอนนี้
อาการบาดเจ็บนี้ดูเหมือนจะไม่ได้เกิดจากหญิงชราเลย
"ยากที่จะเชื่อ แต่มันคือความจริง" แม้แต่แดร์เดวิลเองถ้าเขาไม่ได้สัมผัสมันด้วยตัวเอง เขาก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าร่างกายผู้สูงอายุอย่างมาดามเกาจะมีพลังที่ทรงพลังเช่นนี้
“เข้าใจแล้ว”
แคลร์ยักไหล่ ในเมื่อมีซูเปอร์ฮีโร่คนหนึ่งนอนอยู่บนโซฟาของเธอต่อหน้าต่อตา ดังนั้นการที่มีหญิงชราทรงพลังก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้สักหน่อย
"แล้วนายมาถึงหน้าบ้านฉันได้ยังไง?"
ในฐานะพยาบาลวิชาชีพ หลังจากจัดการกับบาดแผลของแดร์เดวิลแล้ว แคลร์ก็เข้าใจว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะมาที่นี่คนเดียว เพราะความรุนแรงของการบาดเจ็บของเขาสาหัสมาก
"อาซิง"
แดร์เดวิลเอ่ยชื่อออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา
"อาซิง?"
แคลร์ย้ำชื่อที่แดร์เดวิลพูดด้วยสีหน้างุนงง
"อาซิงไหน? เพื่อนศาลเตี้ยของนาเยหรอ?"
"ไม่ ฉันเจอเขาในโรงงานของมาดามเกา เขาบอกว่าเขามาจากเผิงไหล"
"เผิงไหล เผิงไหลเป็นสถานที่แบบไหนกัน?"
แคลร์ถามชื่อทวนอีกครั้ง เธอพลันรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที
“ฉันก็ไม่รู้เช่นกัน” แดร์เดวิลส่ายศีรษะ "แต่ฉันมีลางสังหรณ์ว่าจะได้พบเขาอีกในอนาคต"
...
"เป็นเช่นนั้นเองสินะ มาดามเกา คุณเองก็คงเจอปัญหาเหมือนกัน"
ในอาคารที่คุ้นเคยที่ชั้นบนสุด
คิงพินมองไปยังหญิงชราร่างบางตรงหน้าเขาและพูดออกมาอย่างเงียบๆ
"คุณก็เช่นกัน คิงพิน"
มาดามเกายืนพิงไม้เท้าของเธอพลางเหลือบมองไปที่หน้าต่างที่หายไปด้านหลังคิงพิน
"ดูเหมือนว่าเราทั้งคู่จะมีคืนที่สาหัสพอสมควร"
คิงพินเอื้อมมือออกไปแตะไม้เท้าที่หายไปครั้งหนึ่งของเขาพร้อมกับแค่นเสียงออกมา
เมื่อบุคคลที่มีชื่อเสียงสองคนจากย่านเฮลคิทเช่นมารวมตัวกัน มันไม่ใช่แค่เรื่องของการพูดคุยสารทุกข์สุกดิบแน่นอน ขณะที่กำลังยิ้มออกมา คิงพินก็มองไปที่มาดามเกาที่ดูธรรมดา แต่เขาไม่คิดที่จะดูถูกเธอเลย "ถ้าอย่างนั้นมาดามเกา คุณต้องการให้ฉันช่วยเหลือไหม?"
ด้วยความสามารถของคิงพิน ตราบใดที่เขาออกคำสั่ง เขาก็สามารถช่วยมาดามเกาสร้างโรงงานของเธอขึ้นมาใหม่ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้รับความเมตตาของคิงพิน มาดามเกากลับส่ายศีรษะและปฏิเสธทันที "ไม่จำเป็น ไม่ใช่โรงงานหรือสิ่งที่อยู่ในนั้นที่ฉันสนใจ ทุกสิ่งล้วนเป็นเพียงหนทางสู่จุดจบของความสะดวกสบายที่ฉันเคยมี"
"ฉันจะไปแล้วคิงพิน และฉันคงต้องการเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องเส้นทางข้างหน้า"
"จะไปแล้ว ที่ไหนกันล่ะ จีนเหรอ?"
เป็นครั้งแรกที่สีหน้าของคิงพินเปลี่ยนไปขณะที่เขาจ้องมองมาดามเกา
คำถามมากมายได้ถาโถมเข้ามา
"ไม่ มันไกลกว่านั้นมาก"
มาดามเกาก้าวเท้าไปสองสามก้าว และดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ ก่อนที่จะหันหน้ากลับไปหาคิงพินที่อยู่ข้างหลังเธออีกครั้ง "แต่ก่อนที่ฉันจะไป ฉันมีข่าวที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งมาแบ่งปันกับคุณ..."
...
"พ่อ พ่อ ในที่สุดพ่อก็กลับมาแล้ว"
หลังจากหลบหนีจากไฟไหม้ในโรงงานมา ชายวัยกลางคนก็รีบกลับบ้านทันที สิ่งแรกที่เขาได้ยินคือเสียงที่ไร้เดียงสาและน่ารักของลูกสาวเขา
"ใช่ พ่อกลับมาแล้วลูก"
ชายหนุ่มกอดลูกสาวของเขาไว้แน่น ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง
เมื่ออุ้มลูกสาวไปที่ข้างเตียง ชายคนนั้นก็พบกับสายตากังวลของภรรยาทันที
"คุณคงไม่ได้..."
บนเตียง ดวงตาของภรรยาของเขาจับจ้องไปที่ดวงตาของชายคนนั้นอย่างไม่วางตา เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือออกมา
ชายคนนั้นไม่ได้พูดอะไรอีกและไม่ได้พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาในเย็นวันนี้ แต่ผ่านไปสักพัก เขาก็ส่ายศีรษะตอบ
"ไม่เหรอ? ดี ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว"
หลังจากได้รับการตอบกลับจากสามี ภรรยาที่อยู่บนเตียงคนป่วยก็ลุกขึ้นมาด้วยความอ่อนแอ ทันใดนั้นก็เอนตัวพิงหัวเตียงพร้อมกับพูดพึมพำซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เธอไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าชีวิตนี้จะเป็นยังไง หากสามีของเธอเลือกตาบอดเพราะเธอ
"คุณพ่อคะ มีคนอยู่ที่หน้าต่างด้วย"
ทันใดนั้นลูกสาวที่เขากอดไว้ก็ชี้ไปที่หน้าต่างและตะโกนออกมา
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สิ่งแรกที่ชายคนนั้นคิดคือมาดามเกาส่งคนมา ด้วยความตื่นตระหนก เขาปกป้องลูกสาวและภรรยาของเขาที่อยู่ข้างหลังเขา
"ได้โปรดไว้ชีวิตลูกสาวของฉันและภรรยาของฉันด้วย พวกเขาเป็นคนบริสุทธิ์" ผมจะ... ผมจะกลับไปที่โรงงาน..."
"..."
ชายคนนั้นขอร้องออกมา แต่สถานการณ์ที่คาดไว้กลับไม่ปรากฏขึ้น ไม่มียามชั่วร้ายจากคนของมาดามเกาบุกเข้ามาและไม่มีอะไรน่ากลัวเกิดขึ้นต่อหน้าพวกเขาเลย
เมื่อหันไปหาลูกสาวที่อยู่ข้างหลังเขา เธอก็พยักหน้าเล็กน้อยด้วยสีหน้าจริงจัง
"จริงๆ นะคะพ่อ หนูเห็นชายคนหนึ่งอยู่ตรงหน้าต่าง
หลังจากลังเลอยู่ครึ่งหนึ่ง ชายคนนั้นก็เดินไปที่หน้าต่างอย่างระมัดระวัง
“นี่มัน?!”
...
[คะแนนชื่อเสียงจากแดร์เดวิล +25]
[คะแนนชื่อเสียงจากแคลร์ +15]
[คะแนนชื่อเสียงจากมาดามเกา +20]
[คะแนนชื่อเสียงจากคิงพิน +30]
[คะแนนชื่อเสียงจากพลเมืองนิวยอร์ก +0.5]
[คะแนนชื่อเสียงจากพลเมืองนิวยอร์ก +0.5]
[คะแนนชื่อเสียงจากพลเมืองนิวยอร์ก +0.3]
ไรอันกระโดดจากดาดฟ้าขึ้นไปบนดาดฟ้าในย่านเฮลคิทเช่นด้วยความแข็งแกร่งของขาอันยอดเยี่ยมจากความสามารถ [ขาเหล็กอันยิ่งใหญ่] ของเขา
มุมปากของเขาโค้งขึ้นเป็นเส้นโค้งด้วยความยินดี ในขณะที่ดวงตาของเขากวาดมองไปตามเนื้อหาที่แสดงบนแผงข้อมูล
เขาตื่นเต้นอย่างมากกับคะแนนชื่อเสียงจำนวนมหาศาลที่เขาได้รับจากแดร์เดวิลและคิงพิน
ทว่าเมื่อเห็นอีกสามข้อความหลังทั้งสามเด้งขึ้นมา ไรอันก็ยิ้มออกมา
แม้ว่าเขาจะไม่มีความคิดที่จะเป็นซูเปอร์ฮีโร่ แต่ก็รู้สึกดีที่ได้ทำความดีเป็นครั้งคราว
ขณะที่คิดเช่นนั้น ไรอันก็กระโดดขึ้นไปบนอาคารสูงด้วยพลังงานที่ระเบิดออกมา เขากระโดดเป็นลูกคลื่นสองสามครั้ง ในที่สุดก็หายไปในเงามืดของย่านเฮลคิทเช่น
....