ตอนที่ 1277 เป็นสิ่งที่ดีด้วยกันกับทั้งสองฝ่าย
หยุนเหมิน นับตั้งแต่รู้ว่ายังมีคนคิดจะโจมตีอีกระลอก ทุกคนก็ต่างตกอยู่ในอารมณ์ตึงเครียด บรรยากาศแห่งความกลัวก็ได้เข้าปกคลุมไปทั่วทั้ง หยุนเหมิน
พวกเขาทั้งหมดหวาดกลัว เซียวเฟย ถ้าไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือของ หลินฟาน หยุนเหมิน อาจจะถูกทำลายไปแล้ว ถ้าศัตรูอีกกลุ่มที่มา.. น่ากลัวเหมือนกับ เซียวเฟย และหลินฟาน ที่ได้จากไปแล้ว ผลที่ตามมาที่พวกเขาอาจจะต้องเผชิญนั้น มันก็อาจจะกลายเป็นหายนะ
หรือว่าพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติอีกครั้ง ..หรือไม่กัน?
หยุนเหมิน ในห้องโถงใหญ่ เหล่าผู้อาวุโสได้มารวมตัวกัน เพื่อที่จะหารือกันเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ท่านผู้นำ นี่มันไม่ใช่ทางเลือกที่เราจะดำเนินการมันไปด้วยวิธีนี้ และสมบัติของหยุนเหมินเรา ไม่รู้ว่าทําไมถึงตกไปเป็นเป้าหมายของผู้คน!” ผู้อาวุโสท่านหนึ่ง ได้กล่าวขึ้น
“ใช่ ท่านผู้นำ จนถึงตอนนี้ ยังไม่รู้ว่ามีกี่คนที่อยากได้สมบัติของเรา แม้ว่าศัตรูกลุ่มนี้เราจะรับมือได้ แต่ถ้ายังมีอีกล่ะก็..”
“ท่านผู้นำ พวกเราควรคิดถึงความปลอดภัยของชนเผ่าหยุนของเราก่อน?”
“สมบัติชิ้นนี้มันคืออะไรกันแน่ แล้วมันควรค่าแก่การที่เราต้องปกป้องด้วยชีวิตของผู้คนทั้งชนเผ่าหยุนของเราจริงๆ นะเหรอ?”
ผู้อาวุโสต่างเสนอความเห็นกันทีละคน
หยุน จงเจิ้ง มีสีหน้าจริงจัง และกล่าวไปว่า : “ไม่จำเป็นต้องหารือเกี่ยวกับปัญหานี้ สมบัติของชนเผ่าหยุนของเรา ต้องไม่ตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น แม้ว่าเราจะต้องทุ่มเทความพยายามทั้งหมดของเราก็ตาม ยังไงก็ต้องปกป้องมันเอาไว้ให้ได้ นอกจากนี้.. มันยังคงมีเรื่องที่ทำให้เราต้องเป็นห่วงจริงๆ อยู่ แต่แล้วเราก็ไม่มีทางเลือกที่สอง ลองคิดดู.. คนที่ต้องการมาปล้นสมบัติจากเรามันจะปล่อยเราไปจริงๆ นะหรือ? เราไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว นอกจากต้องสู้ไปด้วยกำลังทั้งหมด!”
ท่านยาย พูดว่า : “ท่านผู้นำพูดถูก เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรู เราไม่สามารถขลาดกลัวได้ และมันก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าผลลัพธ์สองประการ ประการแรกหากถ้าศัตรูอ่อนแอกว่าเรา เราจะทําลายล้างพวกมันทั้งหมด แต่ถ้าศัตรูแข็งแกร่งกว่าเรา เราก็ต้องสู้จนถึงที่สุด และมันไม่มีทางหากศัตรูแข็งแกร่งกว่าเรา แม้ว่าเราจะมอบสมบัติให้กับพวกมันไป แต่พวกมันก็ยังคงคิดที่จะฆ่าพวกเราทิ้งทั้งหมด นั่นก็เพื่อปิดปากพวกเราเหมือนกัน”
หยุน จงเจิ้ง กล่าวว่า : “ท่านยาย ..พูดถูก ไม่ว่ามันจะเป็นพร หรือหายนะ มันก็คือสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ สิ่งที่เราทําได้ก็คือเสริมกำลังเพื่อเตรียมรับมือเท่านั้น!”
ถึงกระนั้น ในสายตาของ หยุน จงเจิ้ง กลับปรากฏแววตาที่กังวลออกมา และแน่นอนว่าเขาได้ยึดติดกับสมบัติ แต่ถ้าเหตุนั้นมันนำไปสู่การทำลายล้างครอบครัวจริงๆ เขาก็จะเลือก.. ปฏิเสธมันไปในทันที
ถ้าทำได้คงไม่มีใครคิดอยากจะทำลายครอบครัว.. ของตัวเอง
และแม้แต่ผู้นำก็ยังมีสีหน้าเป็นกังวลอย่างมาก มันเป็นไปได้ว่าสภาพจิตใจของทุกคนในหยุนเหมิน ขณะนี้นั้น ..เกือบจะอยู่ในสภาพตื่นตระหนกไปตลอดทั้งวัน หยุนเหมินอาศัยอยู่อย่างสันโดษในภูเขาลึกมาเป็นเวลาหลายปี และใช้ชีวิตเหมือนราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์ ความรู้สึกของภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่ใกล้จะมาถึงนี้ พวกเขากลับไม่ได้รู้สึกสัมผัสมัน ..มานานแล้ว
ขณะนี้มีคนเฝ้าหน้าประตูหมู่บ้านหยุนเหมิน มากกว่าสิบคน เพื่อป้องกันการรุกรานของศัตรูจากภายนอก หยุน จงเจิ้ง กําลังเสริมสร้างการป้องกัน ยามนับสิบกว่าคนนี้ต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในหมู่รุ่นเยาว์ของหยุนเหมิน
ยามเหล่านี้ทุกคนต่างเตรียมพร้อม ไม่กล้าผ่อนคลาย ..เหมือนเชือกที่ตึง
“มีการเคลื่อนไหว!”
ทันใดนั้น มีคนตะโกนขึ้น และทุกคนก็เริ่มตึงเครียดขึ้นมาทันที
แต่แล้วพวกเขากลับเห็นร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมา และเดินมาทางประตูหมู่บ้าน
ในขณะที่ทุกคนกําลังเตรียมพร้อมสําหรับการต่อสู้ พวกเขาก็พบว่าผู้ที่มาคนนี้นั้น ..เป็นคนพิการ
“เขาเป็นหูเป็นตาให้เราที่หมู่บ้านชิงหนิว! ทำไมเขาถึงมาที่นี่กัน?” มีคนถามด้วยความประหลาดใจออกมา
คนพิการเมื่อมาถึงหน้าประตูหมู่บ้าน เมื่อเห็นพวกเขาเตรียมต่อสู้ก็ตกใจ และรีบพูดว่า : “ท่านทั้งหลายอย่ากังวลไป ข้ามาทำตามคำสั่งของ ท่านหลิน ที่ให้มาพบกับผู้นำหยุน”
ทุกคนตกตะลึง : “ท่านหลิน? หรือว่าจะเป็น ท่านหลิน หลินฟาน?”
เกิดอะไรขึ้น หรือหลินฟาน ขอให้คนพิการนำข้อความบางอย่างมาที่หยุนเหมิน?
คนพิการ พูดว่า : “ใช่ ถูกต้องแล้ว ข้าต้องการมาพบกับผู้นำหยุน”
เหล่ายามที่หน้าประตูไม่กล้าเพิกเฉย จึงรีบพาคนพิการไปพบ หยุน จงเจิ้ง ทันที แต่เนื่องจากคนพิการเดินไม่สะดวก เลยได้ตั้งใจเรียกคนให้ไปแจ้งกับ หยุน จงเจิ้ง ก่อน
เมื่อทราบว่า หลินฟาน ได้ส่งคนพิการมา หยุน จงเจิ้ง จึงได้มารออยู่ในห้องโถงใหญ่ เขาต้องรีบออกมาต้อนรับ ชาวหยุนที่อยู่โดยรอบก็ได้ตามมาเฝ้าดู
“พบผู้นำหยุน!”
คนพิการได้โค้งคำนับเมื่อเห็น หยุน จงเจิ้ง
หยุน จงเจิ้ง ก็ได้รีบเข้าไปช่วยประคองเขาให้ลุกขึ้น และถามอย่างไม่อดทนไปว่า : “ท่านหลิน ให้ท่านมาที่นี่ เกิดอะไรขึ้น?”
คนพิการ กล่าวว่า : “เป็นแบบนี้ บ่ายนี้มีคนสามคนมาที่หมู่บ้านชิงหนิว และพวกเขากำลังมองหาหยุนเหมิน”
อะไรนะ?
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป มีคนต้องการมองหา หยุนเหมิน หรือว่าจะเป็นศัตรู?
ไม่คิดเลยว่าศัตรูจะมาเร็วถึงขนาดนี้!
หยุน จงเจิ้ง ถามว่า : “ทราบหรือไม่ว่าพวกเขาเป็นใคร แล้วเหตุใดท่านถึงมาหาเราที่หยุนเหมิน?”
คนพิการ กล่าวว่า : “ไม่รู้ ข้าเองนั้นจะไปกล้าถามที่ไหน พวกนั้นได้จับหัวหน้าหมู่บ้านของเราเพื่อบีบบังคับให้บอกที่อยู่หยุนเหมิน ทั้งยังเข้าข่มขู่ชาวบ้านทั้งหมู่บ้าน…”
คนพิการเล่าถึงคนชั่วทั้งสามที่มายังหมู่บ้านชิงหนิว และคนชั่วทั้งสามคนนั้นได้จับ หญิงสาว คนหนึ่งได้ และเพื่อที่จะกดดันถามถึงที่อยู่ของหยุนเหมิน พวกนั้นถึงกับฉีกเสื้อผ้าของหญิงสาวคนนั้น…
คนทั้งปวงเมื่อได้ยินก็เกิดด้วยความไม่พอใจขึ้นมา คนชั่วเหล่านี้มันน่ารังเกียจเกินไป
“ตอนนั้นข้าสับสนมาก เพราะถ้าข้าไม่ก้าวออกไปข้างหน้า ชาวบ้านก็จะได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ไม่กล้าทรยศต่อหยุนเหมิน ในช่วงเวลาวิกฤตินั้น ท่านหลิน ก็ปรากฏตัวขึ้น เขาบอกว่าเขาสามารถพาคนชั่วทั้งสามคนนั้นไปที่หยุนเหมินได้ เมื่อนั้นคนชั่วทั้งสามคนจึงปล่อยหญิงสาวคนนั้นไป…” คนพิการ ได้กล่าวออกมา
หยุน จงเจิ้ง ถามต่อว่า : “แล้วไงต่อ?”
คนพิการ พูดว่า : “จากนั้น ท่านหลิน ก็พาคนชั่วทั้งสามคนออกไป แต่ไม่นาน ท่านหลิน และคนชั่วทั้งสามคนนั้นก็กลับมาที่หมู่บ้านชิงหนิวอีกครั้ง และก็เห็นว่าคนชั่วทั้งสามคนนั้นเดินกะโผลกกะเผลก พวกเขานั้นมีท่าเดินน่าเกลียดกว่าคนพิการอย่างข้าอีก และก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รับบาดเจ็บ เมื่อมองไปที่พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเขาคงจะถูกดูแลมาโดย ท่านหลิน”
ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินเช่นนี้ นั่นก็แสดงว่า หลินฟาน ก็ได้ช่วยพวกเขากำจัดศัตรูทั้งสามคน และหลินฟาน ก็ได้ช่วยพวกเขาเอาไว้อีกครั้งแล้ว!
หยุน จงเจิ้ง กล่าวไปว่า : “แล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น?”
คนพิการ กล่าวว่า : “ชาวบ้านของเราเกลียดชังคนชั่วทั้งสามคนนี้เข้ากระดูกดํา เมื่อเห็นสภาพที่อ่อนแอของพวกเขา ที่ไหนจะปล่อยพวกเขาไป ดังนั้นทุกคนจึงแห่กันเข้าไปรุมทุบตีพวกเขา!”
“ดี!”
บรรดาผู้คนในหยุนเหมินพากันปรบมือเสียงดัง และบางคนถึงกับปรบมือ และถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก!
คนพิการ กล่าวว่า : “และนั่นเป็นผลให้คนชั่วที่เป็นผู้นํา ได้ถูกเหล่าชาวบ้านเผลอทุบตีจนตาย อีกสองคนก็กําลังจะตายแล้วเช่นกัน ท่านหลิน ได้ถามหัวหน้าหมู่บ้านว่า ให้แจ้งตํารวจไหม หัวหน้าหมู่บ้านได้ปฏิเสธ ท่านหลิน จึงเดินจากไป ในช่วงเวลาที่คนอื่นไม่ได้ให้ความสนใจนั้น เขาก็บอกข้าให้มาที่หยุนเหมิน และแจ้งให้กับท่านผู้นำหยุนได้ทราบในเรื่องนี้”
หยุน จงเจิ้ง เข้าใจในความหมายของ หลินฟาน ในทันที และกล่าวถามไปว่า : “ตอนนี้ทั้งสามคนนั้นอยู่ที่หมู่บ้านชิงหนิวหรือ?”
คนพิการ พูดว่า : “ใช่.. ทั้งสองคนถูกขังอยู่ ส่วนคนที่เป็นศพก็เอาไปไว้อีกที หัวหน้าหมู่บ้านตอนนี้ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะจัดการอย่างไร”
หยุน จงเจิ้ง กล่าวว่า : “ท่านหลิน หมายความว่าให้เราไปพาสามคนนี้กลับมา คราวนี้ ท่านหลิน ก็ได้ช่วยเราจัดการกับศัตรูทั้งสามคน! และศัตรูทั้งสามคนนี้ น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ เซียวเฟย พูดถึง!”
ทุกคนพยักหน้า และรู้สึกขอบคุณ หลินฟาน ในใจอย่างมาก พวกเขายังเป็นกังวลอยู่ แต่ก็ไม่คิดเลยว่า หลินฟาน จะช่วยพวกเขาจัดการกับศัตรูได้ ในระหว่างทาง!
ครู่หนึ่งทุกคนในตระกูลหยุนก็รู้สึกชื่นชม และเคารพในตัวของ หลินฟาน อย่างมาก
ในทันใดนั้น หยุน จงเจิ้ง ก็ได้เรียกผู้อาวุโสคนหนึ่งให้ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านชิงหนิว ไปนําศพของ ชายที่มีตาสามเหลี่ยม และพวกอีกสองคนกลับมาที่หยุนเหมิน
มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วที่ หลินฟาน มอบทั้งสามคนนี้ให้กับทางหยุนเหมิน การปล่อยให้ทั้งสามคนนี้อยู่ในหมู่บ้านชิงหนิว มันก็ดูไม่มีประโยชน์อะไรต่อหมู่บ้าน หมู่บ้านชิงหนิวเป็นเพียงหมู่บ้านบนภูเขา เป็นธรรมดาที่พวกเขาไม่รู้ว่าจะจัดการกับคนทั้งสามคนนี้อย่างไร การมอบพวกเขาให้กับทางหยุนเหมินนั้น ประการแรกเพื่อช่วยให้ทางหยุนเหมินได้ทำความเข้าใจกับศัตรูได้ง่ายขึ้น ประการที่สองคือช่วยหมู่บ้านชิงหนิวแก้ไขปัญหา เรียกได้ว่า.. มันเป็นสิ่งที่ดีด้วยกันกับทั้งสองฝ่าย
บรรดาผู้คนในหยุนเหมินเข้าใจในความพยายามอย่างอุตสาหะของ หลินฟาน และต่างพากันชื่นชม หลินฟาน มากขึ้น
และในเวลานี้ หลินฟาน ก็ได้ขับรถออกจากหมู่บ้านชิงหนิว และกลับไปยังเมืองเฟิ่งเซี่ยน..