บทที่ 58 - ความสิ้นหวังและการต่อสู้ที่ไม่อาจชนะได้
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 58 - ความสิ้นหวังและการต่อสู้ที่ไม่อาจชนะได้
“ถั่วเซียน! ไซย่าผู้นั้นมีถั่วเซียน!”
ชาวดาวนาเม็กที่มีสายตาและการได้ยินที่เหนือมนุษย์อย่างพิคโกโร่ก็กำลังมองดูการต่อสู้ เขาเป็นคนแรกที่รู้ความลับของหลินเฉิน
ก่อนหน้านี้ทั้งห้าคนรวมกันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโบรลี่เลย ดังนั้นหลินเฉินคนเดียวจึงไม่สามารถอยู่ได้นานขนาดนั้นหรอก
แต่โชคดีที่ในการต่อสู้ครั้งนี้ หลินเฉินนำถั่วเซียนจำนวนมากของคารินจากจักรวาลของเขาเผื่อไว้
จงอย่าคิดว่าถั่วเซียนมีไม่มากมายเหมือนในงานต้นฉบับ แท้จริงแล้วมีถั่วเซียนจำนวนมากมายอยู่ในหอคอยคาริน
เหตุผลที่จำนวนถั่วเซียนในหอคอยคารินมีไม่มากนัก เป็นเพราะยาจิโรเบ้กินถั่วเซียนเป็นอาหารว่าง จึงทำให้จำนวนถั่วเซียนลดลงเป็นอย่างมาก
ยามนี้ในจักรวาลของหลินเฉิน ยาจิโรเบ้ยังไม่ได้มาถึงหอคอยคารินและเนื่องจากคารินได้ถูกบอกโดยหลินเฉินให้ขยายการปลูกถั่วเซียน หลินเฉินจึงมีถั่วเซียนไว้อย่างน้อยหลายร้อยเม็ดเลย
"หา? หลินเฉินมีถั่วเซียนด้วยเหรอ? ทำไมเขาไม่ให้เราบ้างล่ะ?” โกคูถามด้วยความสับสน
โกฮังคิดอยู่พักหนึ่งและพูดว่า “ท่านพ่อ เป็นไปได้ไหมที่คุณหลินเฉินต้องการใช้ถั่วเซียนเพื่อเพิ่มระดับพลังของเขา?”
“เพิ่มระดับพลังงั้นเหรอ? อ้อ! ข้าลืมไปว่ามีวิธีแบบนั้นไปเสียสนิทเลย”
ระดับพลังของชาวไซย่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากทุกครั้งที่พวกเขาฟื้นจากความตาย โกคูและเบจิต้าได้ใช้วิธีนี้เพิ่มความแข็งแกร่งของพวกเขาอย่างรวดเร็วหลายครั้งในอดีต
แต่เบจิต้าก็พูดออกมาอย่างเหยียดหยามว่า: "โง่เง่า! นั่นเป็นเพียงวิธีสำหรับชาวไซย่าธรรมดา ร่างกายของเราผ่านการต่อสู้มามากมาย วิธีนี้คงไม่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของเราได้มากนักหรอก!”
ถ้าหลินเฉินอยู่ที่นี่ เขาคงยกนิ้วให้กับเบจิต้า
ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้จนถึงตอนนี้ เขาเกือบถูกโบรลี่ฆ่าหลายครั้ง และเขาก็ได้กินถั่วเซียนหลายสิบเม็ด แต่ระดับพลังที่เพิ่มขึ้นนั้นแทบจะช่วยไม่ได้เลย พลังซูเปอร์ไซย่าของเขาก็ถูกเร่งรุดขึ้นเช่นกัน แต่มันเพิ่มขึ้นเพียงแค่ไม่กี่แสน ดังนั้นคงไม่ต้องสนใจหรอก
อย่างไรก็ตาม วันนี้หลินเฉินได้เรียนรู้หลายเรื่องเลย
เพราะในจักรวาลของเขา หลินเฉินไม่เคยใกล้ชิดกับความตายเลยนับตั้งแต่ที่เขารวมเข้ากับสายเลือดซูเปอร์ไซย่าในตำนาน
วู้บบ ทันใดนั้นลำแสงก็พุ่งข้ามขอบฟ้าสร้างช่องว่างขนาดใหญ่ที่มีความกว้าง 100 เมตร จากนั้นไม่นาน ลูกบอลพลังงานก็ขยายออกก่อนที่จะระเบิดจนสร้างเสียงดังก้องบนปล่องภูเขาไฟที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางหนึ่งกิโลเมตร
ลูกบอลแสงพลังงานขนาดใหญ่หยุดนิ่งเป็นเวลานาน ก่อนที่จะเริ่มเลือนหายไป
แต่เมื่อลูกบอลแห่งแสงเริ่มหายไป โบรลี่ก็ได้ยินเสียงหนึ่ง
“คา…เม…คา…เม…”
ทันใดนั้นหลินเฉินก็ปรากฏตัวต่อหน้าโบรลี่อีกครั้งและผลักคลื่นกระแทกด้วยมือทั้งสองของเขา
ลำแสงหนาทึบได้กลืนกินโบรลี่ไป
แต่เมื่อลำแสงหายไป โบรลี่ก็เอียงศีรษะและมองไปทางหลินเฉินอย่างเยาะเย้ย: “ข้าไม่ได้บอกไปหรอกหรือว่ามันไร้ค่าสิ้นดี?”
"ลำแสงแห่งความตาย!"
หลินเฉินวางนิ้วทั้งสองของเขาเข้าด้วยกันและเริ่มใช้วิชาเฉพาะตัวของฟรีเซอร์
ลำแสงพลังงานสีทองเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ก่อตัวเป็นตาข่ายลมขนาดใหญ่ ซึ่งสร้างตาข่ายที่กำลังโอบล้อมตัวโบรลี่
รังสีพลังงานแต่ละดวงมีพลังที่น่าสะพรึงกลัวและหากประมาทเพียงเล็กน้อย มันจะพุ่งทะลวงเข้าสู่ร่างกาย
แต่เมื่อรังสีพวกนี้กระทบกับโบรลี่ ลืมเรื่องทะลวงเข้าสู่ร่างกายได้เลย กระทั่งจะเปิดผิวหนังของเขายังไม่อาจทำได้
ก่อนที่ลำแสงจะพุ่งเข้าใส่โบรลี่ เขาก็ได้ป้องกันด้วยกำแพงพลังงานสีเขียวอ่อน
“โล่พลังงานงั้นเหรอ?”
ทันใดนั้นม่านตาของหลินเฉินก็หดตัว ปากของเขาแสยะยิ้มออกมา
"ถ้าอย่างนั้นวิชานี้เป็นยังไงล่ะ? บอลทำลายล้างดวงดาว!”
"อะไรนะ?!"
ในระยะไกล โกคูและคนอื่นๆ ตกตะลึงเมื่อเห็นหลินเฉินยกนิ้วขึ้นและลูกบอลพลังงานสีม่วงได้ควบแน่นอยู่เหนือมือของเขา
วิชานี้ ทุกคนที่อยู่พื้นเบื้องล่างรู้ดีเลยว่ามันคืออะไร
“เขารู้วิชาของฟรีเซอร์ได้ยังไงกัน?”
"ช่างเรื่องนั้นเถอะ โกฮัง พิคโกโร่ เบจิต้า ทรังคซ์! จับข้าเอาไว้"
ตามชื่อของมัน บอลทำลายล้างดวงดาวของฟรีเซอร์สามารถทำลายดาวเคราะห์ได้อย่างง่ายดาย ตอนนี้การหายานอวกาศเพื่อหลบหนีคงจะสายเกินไปแล้ว โกคูไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจับทุกคนแล้วใช้เคลื่อนย้ายพริบตาเพื่อหนีไปทันที
“อย่ามาแตะต้องตัวข้า คาคารอท! ข้าจะไม่ยอมรับความช่วยเหลือของเจ้า!”
เบจิต้าเอื้อมไปตบมือของโกคูออกไป
"ท่านพ่อ!"
“เบจิต้า!”
ในขณะที่เหตุการณ์กำลังโกลาหล ในที่สุดหลินเฉินก็ขว้างลูกบอลทำลายล้างดวงดาวไปยังโบรลี่
ครั้งนี้หลินเฉินไม่คิดจะรั้งมือไว้เด็ดขาด เพราะถึงแม้ดาวเคราะห์จะถูกทำลาย แต่เขาก็ยังสามารถอยู่รอดในอวกาศได้ ส่วนทางด้านโกคูกับคนอื่นๆ เขาแค่ต้องไปหาลูกแก้วมังกรบนดาวเคราะห์นาเม็กเพื่อชุบชีวิตพวกเขาในจักรวาลนี้ก็พอ
ในการที่จะเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลังอย่างโบรลี่ เขาต้องห้ามลังเลโดยเด็ดขาด
เมื่อเห็นบอลทำลายล้างดวงดาวที่หลินเฉินโยนมา โบรลี่ก็แสยะยิ้มโหดร้ายและตบมันออกไป
ตู้ม!
แต่เมื่อโบรลี่สัมผัสบอลทำลายล้างดวงดาว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
บอลทำลายล้างดวงดาวของฟรีเซอร์เป็นวิชาที่มุ่งเน้นพลังงานทั้งหมดของเขาไว้ในจุดเดียว
ดังนั้นวิชานี้จึงใช้พลังเกือบทั้งหมดของหลินเฉิน กระทั่งโบรลี่ก็คงไม่อาจจะสามารถต้านทานได้
บอลทำลายล้างดวงดาว ซึ่งสามารถทำลายดาวเคราะห์ได้พุ่งไปปะทะตัวเขา ภายใต้พลังที่น่าอัศจรรย์นี้ โบรลี่ถูกถูกส่งบินไปข้างหลัง ราวกับลูกศรที่ถูกยิงจากสายธนูและตกลงสู่พื้น
ครืน!
โบรลี่ถูกกดทะลวงลงไปบนพื้นอย่างง่ายดาย ส่วนพลังที่พุ่งเข้ามากดทับเขาก็ไม่อ่อนแรงลงเลย
ในที่สุดโบรลี่ที่ถูกฝังลงไปใต้ดิน จนเขาเผยให้เห็นใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เขาไม่เคยพ่ายแพ้หรือเจออะไรเช่นนี้เลยทั้งชีวิต
"เจ้าสารเลว!
ทันใดนั้นร่างที่ร่วงหล่นขอโบรลี่ก็ถูกหยุดลงอย่างกะทันหัน หลังจากนั้น เขาก็ผลักฝ่ามือไปข้างหน้าและผลักบอลทำลายล้างดวงดาวขึ้นไปบนท้องฟ้า!
วู้บบ!
บอลทำลายล้างดวงดาวที่เป็นเหมือนจรวดได้พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า มันเจาะขึ้นมาจากพื้นดินแล้วพุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ โดยไม่สูญเสียความแข็งแกร่งใดๆ ก่อนที่จะเจาะออกไปถึงชั้นบรรยากาศ
หลังจากนั้นไม่นาน เหนือจุดสูงสุดบนท้องฟ้า แสงคล้ายดวงอาทิตย์ก้อนหนึ่งได้ปรากฏขึ้น มันเป็นแสงที่แพรวพราวแสบตา หลังจากนั้นเสียงระเบิดก็ดังขึ้นจนแทบทะจำให้ทุกคนหูหนวก
หลังจากนั้นไม่นาน ควันก็หายไปและพายุจึงได้หยุดลง
หลินเฉินมองไปที่พื้นและม่านตาของเขาก็หดตัว หน้าผากของเขาแตกมีเหงื่อเย็นเหยียบไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว
เขาเห็นโบรลี่ค่อยๆ บินออกจากหลุมพลางหอบหายใจ
ยังคงไม่มีบาดแผลบนร่างกายของเขา แม้แต่ออร่าของเขาก็ไม่ได้อ่อนแอลงเลย ดูเหมือนว่าจะมากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยด้วยซ้ำ ระดับพลังเมื่อเทียบกับร่างปกติของเขามากกว่า 5 ล้านแล้ว!
ช่างโชคร้ายอะไรแบบนี้! ดูเหมือนว่าครั้งนี้ข้าจะอวดดีเกินไป
ในยามนั้นเอง หลินเฉินอดไม่ได้ที่จะเสียใจที่เขาเลือกทางเลือกที่สาม ถ้าเกิดเขารู้ว่าซูเปอร์ไซย่าในตำนานมีความแข็งแกร่งอันไม่อาจหยั่งรู้ได้ เขาคงจะเลือกภารกิจที่ง่ายกว่านี้แล้ว
นี่เขาได้เลือกฆ่าตัวตายหรือเปล่านะ?
หลินเฉินอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น