นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 30
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 30
กึด!
ราอนกัดฟันแน่น
'ราธ!'
เขาถูกราธขัดจังหวะก่อนที่จะรวบรวมออร่าได้สำเร็จ ออร่าเริ่มกระจายออกไป
'ฮึ่ม!'
ราอนจดจ่อและใช้ความพยายามอย่างมากในการรวบรวมออร่าตามวิธีของ'การปลูกฝังหมื่นเปลวเพลิง' แต่มันก็ต้องสลายออกไปตามเดิม เขาต้องบังคับให้ความเย็นที่พุ่งเข้ามาหาเขาสงบลงอีกครั้ง
ข้าบอกเจ้าแล้วไงล่ะ!
ราธกำลังเยาะเย้ยเขา
ราชาแห่งแก่นแท้จะโจมตีทันทีเมื่อเจ้าอยู่ในสถานะอ่อนแอที่สุด
'กรอด…'
มันพูดถูก
ราธเคยเตือนเขาว่ามันจะโจมตีเขาในช่วงที่เขาตกอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญ พูดตามตรงเลยว่าราอนคิดไว้อยู่แล้วว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น
เพียงแต่เขาลืมราธไปโดยสิ้นเชิงเลยเพราะเขาจดจ่อมากเกินไป
นี่แค่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นนะ!
ราธปล่อยความเย็นมหาศาลให้พุ่งมาที่เขา ราอนถึงกับตัวสั่น เขากำลังเผชิญกับความหนาวเย็นที่ดูเหมือนจะทำให้เหงื่อเย็นของเขากลายเป็นน้ำแข็งได้เลย
เขาอยากจะลืมตาออกจากสมาธิทันทีเพราะความหนาบเหน็บที่เข้าไปถึงกระดูก เพียงแต่ว่าเขาทำไม่ได้ มันเสี่ยงต่อการเกิดการไหลย้อนกลับของมานาของเขา นั่นอาจจะทำให้เขาพิการ
'ไอ้สารเลว…'
เขาหลงลืมไปแค่เพราะราธนั้นเชื่อฟังเขาเพียงนิดเดียว มันไม่ใช่แค่ปีศาจธรรมดาแต่เป็นถึงราชาแห่งปีศาจ มันกำลังพยายามที่จะกลืนกินวิญญาณทั้งหมดของเขาด้วยการทำลายร่างกายของเขา
ครืน!
ความหนาวเย็นของราธทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ น้ำแข็งในวงจรมานาของเขาก็เริ่มสั่นสะเทือน
'อั่ก…'
เขาร้องด้วยความเจ็บปวด รู้สึกเหมือนผิวหนังและกระดูกของเขาถูกแยกออกจากกัน ความเยือกเย็นและความเกรี้ยวกราดที่รุนแรงเริ่มกัดกร่อนจิตใจของเขา
มันจบแล้วล่ะ
น้ำเสียงเยือกเย็นของราธเต็มไปด้วยความเบิกบานใจ
ตอนนี้ร่างกายและจิตใจของเจ้าจะกลายเป็นของราชาแห่งแก่นแท้แล้ว
ร่างกายของราอนเต็มไปด้วยความเย็น เขาสูญเสียความรู้สึกไปแล้วเนื่องจากความเจ็บปวดที่รุนแรง เขารู้สึกเหมือนเขากำลังจะเป็นลม
'กึด…'
ราอนกัดลิ้นตัวเอง ความเจ็บปวดจะช่วยให้เขามีสติได้ชั่วขณะ
'คิดสิ! คิด!'
ความเยือกเย็นของราธปกคลุมไปทั่วร่างกายของเขาแล้ว มันสามารถเข้าควบคุมร่างกายของเขาได้ทุกเมื่อ
'ตอนนี้ฉันไม่สามารถหยุดการปลูกฝังหมื่นเปลวเพลิงได้..'
และมันก็สายเกินไปแล้วที่จะใช้ 'วงแหวนแห่งไฟ' ความเย็นของราธกำลังจะกลืนกินร่างกายและจิตใจของเขาได้ก่อนที่วงแหวนจะเริ่มหมุน
'ฉันต้องผ่านมันไปให้ได้'
ราอนพยายามยืนหยัดหมุนเวียน'หมื่นเปลวเพลิง'ต่อไป มันเป็นสถานการณ์ที่น่าหวาดเสียวเหมือนกับการโหนหน้าผาด้วยเชือกเส้นเดียว
ยอมแพ้เสียเถอะ ร่างกายเจ้ากลายเป็นของข้าแล้วล่ะ
'ไม่ลองก็ไม่รู้หรอก'
ลองไปก็เท่านั้นแหละ เหมือนกับชายชราคนนั้นที่จุดเตาเผาถ่านอยู่ได้ทุกวัน…
'เตาเผาถ่าน?...เตาเผาถ่าน!'
มีวิธีที่จะช่วยเขาได้อยู่!
กึด!
ราอนกำหมัดแน่นและรวบรวมมานาด้วยพลังทั้งหมดที่เหลืออยู่
หวืด!
มานาที่ไหลเข้ามาในตัวเขาไม่ใช่มานาบริสุทธิ์ที่ถูกทำให้ร้อนโดยเตาเผาถ่าน แต่เป็นมานาจากภายในเตาเผาโดยตรง
นี่! นี่เจ้ากำลังทำอะไร?!
'ความพยายามเฮือกสุดท้ายของฉันไง!'
ใช่แล้ว นี่เป็นการต่อสู้ในเฮือกสุดท้ายของเขา ในชาติที่แล้วเขาตายลงโดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย ในปัจจุบันนั้นเขาเลยไม่ต้องการตายไปอย่างไร้ค่าอีก เขาต้องลองดูไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
กร่อบ!
เพดานของเตาเผาถ่านที่สร้างจากดินแข็งๆมีเสียงใบไม้ดังกรอบแกรบออกมา
ไอ้สารเลว! หยุดมันเดี๋ยวนี้นะ!
'อั่ก…'
ความเยือกเย็นจากราธรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ พลังมันมากพอที่จะแช่แข็งไปถึงกระดูกของเขา แขนขาของเขาชาไปหมดแล้วแต่เขาก็ทนต่อมันด้วยเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายและสูดหายใจเข้าเป็นครั้งสุดท้าย
แกร๊ก!
ความร้อนมหาศาลปะทุขึ้นในอากาศ เกิดเสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น เปลวไฟพุ่งออกมาจากเตาเผาถ่าน
เฮือก!
ราวกับว่าเขาไม่เคยหายใจมาก่อน ราอนสูดเอาไอร้อนพวกนั้นเข้าไปทันที
ความร้อนไม่ได้เข้ามาทางจมูกและปากเท่านั้นแต่เข้าผ่านผิวหนังของเขาด้วย ร่างกายของเขากำลังผลักไสความเย็นออกไป มันเป็นพลังที่ท่วมท้นราวกับมีลาวาไหลผ่านเส้นเลือดของเขา
วูบ!
พลังอันเยือกเย็นของราธหายไปราวกับหิมะเมื่อเผชิญกับคลื่นความร้อนที่ปั่นป่วน
อะ-อะไรกัน?!
'หายไปซะราธ!'
ราอนพยายามควบคุม'หมื่นเปลวเพลิง'ต่อไปพลางเม้มปาก นอกจากนี้เขายังทำให้น้ำแข็งจำนวนมหาศาลในวงจรมานาของเขาละลาย แล้วนำทางมันไปยังศูนย์กลางพลังงานของเขา
วือ!
พลังงานของ'หมื่นเปลวเพลิง'เริ่มก่อตัวเป็นรูปร่างที่ชัดเจนขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมันได้รับความร้อนจากเตาเผาถ่าน
และไม่ใช่แค่นั้นนะ…
พลังงานสีขาวบริสุทธิ์ควบแน่นเข้าด้วยกันเป็นทรงกลม มันกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งที่เติมเต็มกันภายในวงจรมานาของเขา
บ-บ้าน่า!
“ฮื่ม…”
ราอนจัดการความร้อนในอากาศและควบคุมเกล็ดน้ำแข็งในร่างกายของเขาต่อไป โดยไม่สนใจราธที่กรีดร้องด้วยความโกรธ
ราอนจะต้องใช้สมาธิอย่างมาก เขาเมินราธและเข้าไปในภวังค์ครั้งที่สอง
* * *
* * *
“เฮ้อ!”
วัลแคนสูดลมหายใจเสียงดังแล้ววางฟืนลงในเตา
ฟืนเหล่านั้นติดไฟในทันที นั่นทำให้เขานึกถึงอดีต
'สามสิบปีแล้วสินะ…'
เป็นเวลาสามสิบปีแล้วนับตั้งแต่ที่เขาสรรสร้างผลงานชิ้นเอก’ดาบศรัทธาสวรรค์’ ซึ่งมันก็เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของเขาเช่นกัน หลังจากได้มอบดาบที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาให้กับเกล็น ซีกฮาร์ทแล้ว เขาก็รู้สึกว่าการเดินทางของเขาได้สิ้นสุดลงแค่นั้น
เขาได้รับเงินทองมากมายชนิดที่ตลอดชีวิตนี้ไม่มีทางใช้หมด เขาจึงตัดสินใจเกษียณและวางแผนจะออกไปใช้ชีวิตที่เหลืออยู่
ถึงอย่างนั้นเมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีเขาก็ยังมานั่งหน้ากองไฟเหมือนเดิม
เขาไม่จำเป็นต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาจุดเตาอีกแล้ว แต่เขาก็กลับยังมาที่โรงตีเหล็ก
'ฉันยังติดอยู่ในช่วงเวลานั้น…'
เขายังคงติดอยู่ในช่วงเวลาที่เขาสรรสร้างดาบศรัทธาสวรรค์
'ฉันหยุดคิดถึงไม่ได้เลย…'
เขาสร้างดาบที่ยอดเยี่ยมมานับไม่ถ้วน และเกล็น ซีกฮาร์ทหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของทวีปก็ได้ใช้ดาบที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเขา
แม้ว่าทุกคนจะรู้กันดีว่าเขาเกษียณไปแล้วแต่เขาก็ยังไม่สามารถอยู่เฉยๆ ได้ เขาไม่สามารถหยุดถือค้อนหรือถอยห่างจากเปลวไฟได้เลย
มีเพียงเหตุผลเดียวที่ทำให้เขายังลังเลที่จะกลับไปตีดาบ
นั่นก็คือเขาไม่มั่นใจว่าจะสามารถสรรสร้างสิ่งที่เหนือกว่าดาบศรัทธาสวรรค์ที่เขามอบให้เกล็นได้
เขานั้นก่อไฟขึ้นอย่างลวกๆ และหยิบค้อนของเขาขึ้นมาเพื่อพยายามทำอะไรสักอย่าง
แต่สิ่งที่เขาสัมผัสได้คือความว่างเปล่าเพียงเท่านั้น…
'นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันมาที่นี่'
เมื่อสิบปีที่แล้ว เขาเริ่มสร้างถ่านหินจากเตาเผาถ่านเพื่อสร้างถ่านสีทองซึ่งเหนือกว่าถ่านปกติ
เขาคิดว่าเขาจะสามารถสร้างดาบที่ดีกว่านี้ได้หากเขามีถ่านพิเศษนั้น
ถึงอย่างนั้นแล้วเขาก็ไม่เคยทำสำเร็จเลยแม้แต่ครั้งเดียว
เขาลองวิธีต่างๆมานับไม่ถ้วน ทั้งทำตามตำราและข่าวลือที่บอกต่อกันมา สุดท้ายแล้วเขาก็สร้างถ่านทองคำไม่ได้
เขายังไม่อยากยอมแพ้เลย มันเป็นความหลงใหลเพียงอย่างเดียวที่เหลืออยู่ในชีวิตของเขา
แต่ในขณะที่เขากำลังคิดจะยอมแพ้ไปจริงๆ เด็กผู้ชายคนนั้นก็เข้ามาหาเขา
ราอน ซีกฮาร์ท
เด็กคนนั้นใช้ลมหายใจควบคุมเปลวไฟในเตาได้ตั้งแต่วันแรก เปลวไฟที่อ่อนตัวมานานกว่าทศวรรษเริ่มโหมกระหน่ำขึ้นเหมือนสัตว์ร้าย
นี่เป็นครั้งแรก
เปลวไฟนี้ไม่เคยมีปฏิกิริยาใดๆมาก่อน
เขาจึงยอมให้ราอนมาอยู่ข้างๆ เพราะนั่นอาจจะทำให้บางอย่างเปลี่ยนแปลงไปก็ได้ แต่เขาก็ไม่อยากคาดหวังสูงมากจนเกินไป
'เพราะนี่คือไฟจากนรก'
ความร้อนของเตาเผานั้นรุนแรงมากจนแม้แต่ช่างตีเหล็กมากประสบการณ์ก็แทบจะทนไม่ได้ ช่างตีเหล็กบางคนมาหาเขาด้วยความตั้งใจที่จะช่วยเหลือแต่ไม่กี่วันพวกเขาก็ต้องยอมแพ้
เด็กชายคนนี้มีเหงื่อท่วมตัวและต้องอดทนต่อความเจ็บปวดด้วยการกัดริมฝีปาก แต่เขาก็ยังคงมาที่นี่ทุกวันและนั่งอยู่หน้าเตาไฟ
ในตอนแรกเขาสังเกตได้ว่าราอนไม่สามารถตั้งสมาธิได้เลยเนื่องจากไอความร้อนที่พวยพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน ในวันที่สองก็เหมือนเดิม เขายังคงกัดริมฝีปากในขณะที่ตัวสั่นจากความร้อน
สามวัน สี่วัน หนึ่งสัปดาห์ หนึ่งเดือน สามเดือน
ราอนมาที่เตาเผาโดยไม่หยุดไปแม้แต่วันเดียว
และในวันนี้…
ไฟภายในเตาเผาโหมขึ้นอย่างรุนแรงราวกับว่ามันกำลังตอบสนองต่อการหายใจของราอน
เฮือก!
เขาควบคุมเปลวไฟในพื้นที่นั้นราวกับว่าเขาจะกลายเป็นตัวตนของไฟ
'นี่มัน-!?'
จู่ๆ วัลแคนก็รับรู้ได้ว่านี่เป็นโอกาสสำคัญสำหรับเขา ไม่ใช่โอกาสในการสร้างถ่านใหม่ แต่เป็นโอกาสสำหรับเขาที่จะใช้ชีวิตในฐานะช่างตีเหล็กอีกครั้ง
“อึก...”
วัลแคนพยายามรักษาพลังไฟไว้ในเตาเผาอย่างเต็มที่ เขาทั้งพัดและเป่าลม เขาทำทุกอย่างที่สามารถโหมไฟขึ้นได้
เปลวไฟกลับมามีชีวิตอีกครั้งแล้ว...
เปลวไฟโปร่งใสที่อยู่ตรงกลางกำลังโหมรุนแรงขึ้นในขณะที่มันก็กำลังลบเลือนสิ่งที่อ่อนแอและมืดมนออกไป
แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น...
ร่างกายของราอนขับเกล็ดน้ำแข็งออกมาทางผิวหนังแทนที่จะเป็นเหงื่อ
'นั่นมันอะไรน่ะ?'
เขามองไปรอบๆ ด้วยความตื่นตระหนก แต่ก็ไม่เจอต้นตอของน้ำแข็งเลย
เกล็ดน้ำแข็งเหล่านั้นกระจายไปทั่วร่างกายของราอน และผมสีทองของเขาค่อยๆเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง
'ฉ-ฉันต้องทำอะไร…'
ร่างกายของราอนสั่นไปหมด เขารู้ว่าราอนไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีแล้ว แต่เขาไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
เขารู้ว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งในเวลาแบบนี้ แต่ราอนจะอาจจะตายก็ได้หากปล่อยเอาไว้แบบนี้
“ฮ-เฮ้! เธอ…”
"เดี๋ยวก่อนครับ"
ขณะที่วัลแคนกำลังจะยื่นมือออกไปสะกิดราอน ริมเมอร์ก็ปรากฏตัวขึ้น เขาปรากฏตัวขึ้นราวกับสายลม
“ริมเมอร์! แกรออะไรอยู่?! นั่นเขากำลังจะตาย!”
“ตอนนี้พวกเราทำอะไรไม่ได้แล้ว”
ริมเมอร์ส่ายหัว เขาขมวดคิ้วและจ้องไปที่ราอนซึ่งตอนนี้ตัวสั่นยิ่งกว่าเดิม
“หากเขาได้รับแรงกระแทกจากภายนอกเพียงเล็กน้อย มันจะทำให้เขาไอเป็นเลือดและเสียชีวิตทันที”
“นั่นคือน้ำแข็งที่แกเคยพูดถึงหรือเปล่า?”
"ใช่ครับ เขาเกิดมาพร้อมกับคำสาปน้ำแข็ง”
“นั่นมัน…”
วัลแคนกัดริมฝีปาก พยายามหักห้ามใจของเขา
'ยังเด็กอยู่แท้ๆ...'
เขารู้สึกเป็นห่วงที่เด็กที่ต้องเกิดมาพร้อมกับความเย็นที่รุนแรงพอที่จะกลบความร้อนของเตาได้ แต่เขาก็รู้สึกภูมิใจในตัวเด็กผู้ชายคนนี้ที่อดทนมาได้จนถึงตอนนี้เช่นกัน
เขาต้องพอช่วยได้บ้างสิ
“มีอะไรที่พวกเราจะพอทำได้บ้างไหม?”
"ไม่มีเลยครับ ถ้าคุณช่วยเขามันมีแต่จะยิ่งอันตรายมากขึ้น”
สีหน้าของริมเมอร์จริงจังผิดจากปกติ เขากำหมัดแน่นและดวงตาของเขาก็ไม่ได้ละไปจากราอน
ทั้งสองคนจ้องมองไปที่เกล็ดน้ำแข็งที่ปกคลุมทั่วร่างกายของราอนอย่างเงียบๆ
“เขา…เดี๋ยวเขาก็ตายจริงๆหรอก! อะไรก็ได้ทั้งนั้น!”
"เดี๋ยวก่อน! นั่นราอนกำลังขยับ!”
ริมเมอร์เริ่มมีความหวัง เขาตะโกนขึ้นมาอย่างเสียงดัง
"อะไร? แกพูดบ้าอะ–… ฮะ?”
วัลแคนหันศีรษะของเขาไปมอง ทันใดนั้นเปลวไฟจากเตาก็ปะทุรุนแรงขึ้น
ฟรึ่บ!
เปลวไฟจากเตาเผาลุกโชนไปทั่วทั้งเตา เปลือกดินเหนียวของเตาเผาระเบิดออก ทำให้เกิดความร้อนขึ้นมากมายมหาศาลในอากาศ
ตู้ม!
มันทำให้หายใจลำบากยิ่งขึ้นเพราะอากาศร้อนจัด
“อึก”
เขาทรุดตัวลงเพราะความร้อน มันเป็นความร้อนชนิดที่ช่างตีเหล็กของทวีปยังไม่เคยรู้สึกมาก่อน
หวืด!
ความร้อนเหล่านั้นกำลังถูกราอนดูดกลืน มันค่อยๆหมุนวนเข้าหาตัวเขา เพราะความร้อนจำนวนมหาศาลนั้นเอง ทำให้น้ำแข็งที่ปกคลุมทั่วร่างกายของเขาเริ่มละลาย
วูบ!
เปลวไฟสีแดงลุกโชนไปทั่วร่างของราอน ...ไม่สิ เปลวไฟนั้นไม่ใช่สีแดง
เปลวไฟสีทอง
เปลวเพลิงสีทองลุกโชนออกมาจากตัวราอน มันสะท้อนกับสีทองของดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นทางทิศตะวันออกของภูเขา
แม้ร่างกายจะถูกครอบคลุมไปด้วยเปลวเพลิงสีทอง แต่ราอนก็ยังไม่หยุดการปลูกฝังออร่า เขาไม่ได้แค่ดูดซับความร้อนรอบๆตัวเขาเพียงเท่านั้น เขายังรวบรวมมาจากพื้นที่ทั้งหมดบนภูเขาสุสานตอนเหนืออีกด้วย
พรึ่บ!
เมื่อดวงอาทิตย์ฉายแสงเจิดจ้าอย่างเต็มที่ แสงที่สาดส่องออกมาจากราอนก็เริ่มจางลงและเขาก็ลืมตาขึ้น
อึ่ก!
วัลแคนที่สบตาเข้ากับราอนถึงกับต้องกลืนน้ำลาย ความตื่นเต้นพุ่งขึ้นจากปลายเท้าขึ้นไปถึงสมองของเขา
เป็นแสงสีทองเข้ม…
แสงสีทองซึ่งเป็นแสงแห่งรุ่งสางกำลังแผดเผาภายในดวงตาของราอน