ตอนที่ 94 ความสามารถย่อยปลดล็อกคลื่นพลังไอเทม(อ่านฟรี)
ตอนที่ 94 ความสามารถย่อยปลดล็อกคลื่นพลังไอเทม
เขต 5
กว่าพวกเขามาถึงเมืองในเขต 5 ก็เป็นเวลาเย็นแล้ว แสงแดดสีส้มจางหายไปความมืดสีดำสลัวกำลังเข้าแทนที่อย่างเชื่องช้า แต่รถก็ยังไม่หยุด เพราะในเย็นนี้จะต้องไปถึงโรงพยาบาลและเคลียร์พื้นที่โรงพยาบาลให้สำเร็จ
เนื่องจากต้องใช้ที่นี่เป็นที่พักในช่วงสองสามวันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์ในพื้นที่เมืองเขต 4-5
ถนนส่วนใหญ่พังและมีเศษซากจากรถหรืออาคารที่ถล่มลงมาขวางทาง แต่ยังดีที่ผังเมืองถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี จึงมีเส้นทางหลบเลี่ยงได้หลายเส้น จนไปถึงโรงพยาบาล
ตั้งแต่ที่มาถึงที่นี้นอกจากมอนสเตอร์แล้ว ก็ยังไม่พบผู้คน แต่กลุ่มของพวกเขาเห็นสัญญาณพลุไฟมาจากตึกที่ห่างไปสามสี่ช่วงตึก
ลุคและพวกไม่ได้ไปที่นั่น เพราะแถวนั้นมีเสียงมอนสเตอร์อยู่จำนวนมากและท้องฟ้าก็ใกล้มืดแล้ว
ระหว่างทางลุคได้เจอกับมอนสเตอร์ตัวหนึ่งที่ค่อนข้างน่าสนใจ เป็นกิ้งก่ากระจก มันเป็นมอนสเตอร์ระดับ F ตัวหนึ่ง ไม่แข็งแกร่งแต่โดดเด่นในด้านการพรางตัว เพราะตัวของมันเหมือนกับกระจกแก้วใส่ที่พรางตัวได้
มันได้ลอบโจมตีรถของพวกเขา แต่โชคดีที่ลุคมีหินตาแดงระดับ F เกรดสีม่วงอยู่ เขามอบให้กับทุกคน เพื่อจะได้คอยช่วยกันมองความมืดด้านนอกได้ และก็ดันไปเห็นความผิดปกติในจุดที่กิ้งก่าหลบซ่อนพอดี มันไม่ใช่การเห็นตัวเป็น ๆ แต่เห็นแค่เค้าลางที่พอมองออกว่าเป็นมอนสเตอร์
ทำให้ลุคบังเอิญฆ่ามันได้ก่อนที่มันจะโจมตีรถของพวกเขา
“คุณได้รับไอเทมแหวนพรางตัวระดับ F เกรดสีส้ม ผลพิเศษ ทำให้พรางตัวในสภาพแวดล้อมได้ แต่จะไม่มีผลถ้าเคลื่อนไหวเร็วเกินไป”
“นี่มันของดี” ลุคค่อนข้างพอใจกับไอเทมชิ้นนี้
“เรามาถึงแล้ว”
บอสตันชะลอลดมาจอดอยู่หน้าโรงพยาบาล โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครว่าพวกเขา เพราะที่นี่ไม่เห็นใครอื่นอีกเลย นอกจากซากรถที่พังเสียหายกับรอยเลือดสีดำบนพื้น แต่ไม่พบร่างหรือศพใครเดาว่าคงโดนมอนสเตอร์กินไปแล้ว
ทั้ง 4 คนออกมานอกรถพร้อมกับอาวุธของตัวเองยืนอยู่หน้าโรงพยาบาล
“เอายังไงกันต่อ” บอสตันหันไปถามลุค
“ไม่น่ามีมอนสเตอร์ระดับ D ขึ้นไปอยู่ที่นี่ ไม่งั้นมันคงออกมาไล่ฆ่าเราทันทีที่มาถึงแล้ว แบ่งกันไปกวาดล้างก็แล้วกัน”
ในตอนนั้นพวกมันโดนองค์หญิงเทพอสูรเรียกไปรวมตัวกันหมด ส่วนพวกที่รอดนิโคลบอกว่าผู้อำนวยการอีคอนพาคนไปกวาดล้างแล้ว ทำให้ในเมืองพบเห็นมอนสเตอร์ระดับ D ขึ้นไปได้ยาก
“แบ่งกันไปกวาดล้างเหรอ แบบนั้นจะไม่อันตรายเหรอ” ไอกะพูดอย่างกังวล แม้เธอจะเป็นระดับ E แต่ก็มีคลื่นพลังไม่เกินร้อยหน่วยด้วยซ้ำ
ซึ่งก็ไม่แปลก เนื่องจากเธอพึ่งเลื่อนระดับยังไม่ถึงอาทิตย์ด้วยซ้ำ
นิโคลกับบอสตันก็เหมือนกัน
“ไม่เป็นไร ฉันมีวิธี” ลุคกล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเอาชุดเกราะด้วงทมิฬออกมา 3 ชุด
“ชุดเกราะระดับ E” นิโคลเคยใช้ชุดแบบนี้มาก่อน เธอจึงรู้ว่าชุดนี้แข็งแกร่งมากในการปกป้องชีวิต ถ้าสวมใส่มันมอนสเตอร์ระดับ E ก็ยากจะฆ่าคนที่ใส่ได้ในเวลาอันสั้น แถมยังบินหนีไปได้
แต่ว่าถ้าเข้าไปในโรงพยาบาลพวกเขายากจะบินได้ เพราะในอาคารพื้นที่มันแคบไป
ลุคเหมือนจะเห็นความกังวลของนิโคลเขาก็กล่าวขึ้นมา
“ฉันมีพลังบางอย่าง แต่อยากให้พวกเธอเก็บไว้เป็นความลับด้วย” ลุคพูดด้วยท่าทางลึกลับ
ทั้งสามคนสนใจในเรื่องพลังพรสวรรค์ของลุคมาก พวกเขาจึงพยักหน้าตกลงในทันที
เกราะด้วงทมิฬทั้ง 3 ชุดเป็นไอเทมระดับ E เกรดสีม่วงที่ลุคอัพเกรดขึ้นมาจากเกรดสีที่ต่ำลงไป ทั้ง 3 ชุดมีเกรดรองแค่ชุดเกราะเกรดสีส้มของเขาเท่านั้น อันที่จริงลุคก็อยากจะอัพเกรดให้มันสูงกว่านี้ แต่ไอเทมชุดเกราะเกรดต่ำไม่เพียงพอ
‘หวังว่าในช่วงกวาดล้างจะเจอพวกด้วงเกราะทมิฬมากขึ้น’
ลุคคิดในใจและหยิบชุดเกราะด้วงทมิฬขึ้นมาชุดหนึ่ง
ความสามารถปกติของพลังพรสวรรค์ไอเทมมอนสเตอร์คือการดูดซับซากมอนสเตอร์และเปลี่ยนพวกมันเป็นไอเทม นั้นคือช่วงที่พลังลุคอยู่ในระดับ F
พอพลังของเขาทะลวงไปที่ระดับ E ความสามารถในการดูดซับไอเทมก็แข็งแกร่งขึ้น เขาไม่จำเป็นต้องสัมผัสไอเทมโดยตรงก็เรียกหรือเก็บได้ รวมทั้งซากศพที่สังหารด้วย แต่ว่านี่เป็นเพียงการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับความสามารถเดิมที่มีอยู่
มันคล้ายกับของนิโคลที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้นในการควบคุมเชือก แต่ยังมีความสามารถใหม่คือควบคุมทุกสิ่งที่เหมือนกับเชือก
ลุคเองก็ได้รับความสามารถย่อยแบบใหม่มาเหมือนกัน
“ปลดล็อกคลื่นพลังไอเทม” เป็นความสามารถที่เขาปลดล็อกข้อจำกัดในการผสานคลื่นพลังที่ปกติจะผสานแค่ตัวของเขาได้เท่านั้น แต่เขาสามารถปลดล็อกให้คนอื่นสามารถผสานกับพลังในไอเทมได้ด้วย ไม่ใช่แค่เพียงการใช้งานแบบทั่วไปอีก
“ไอเทมมอนสเตอร์ใช้ความสามารถย่อยปลดล็อกคลื่นพลังไอเทม”
ทันทีที่ลุคกล่าวจบ ชุดเกราะก็เปล่งแสงออร่าสีม่วงออกมาเป็นจังหวะ ก่อนจะกลับไปนิ่งเหมือนเดิม นี่เป็นความสามารถแฝงย่อยที่ลุคได้มา
ลุคทำแบบเดิมกับทั้งสามชุด
“ลองสวมใส่พวกมันดู”
ทั้งสามรับมาและรวมใส่ด้วยความสงสัย แต่ทันทีที่พวกเขาสวมไปบนตัวก็สัมผัสได้ถึงการผสานกันระหว่างคลื่นพลังในตัวกับคลื่นพลังที่ไอเทมส่งมาให้
“นี่มัน คลื่นพลังของฉันกำลังเพิ่มขึ้น” นิโคลรับรู้ได้อย่างชัดเจน
บอสตันและไอกะก็มีสีหน้าตื่นตกใจไม่แพ้กัน
“นี่เป็นหนึ่งในความสามารถใหม่ของฉัน พลังที่พวกเธอผสานไปด้วยมาจากไอเทมชุดเกราะที่สวมอยู่ ถึงจะเป็นพลังภายนอก แต่ก็ทำให้เธอแข็งแกร่งได้ไม่ต่างจากเหนือมนุษย์ที่มีพลังในระดับ E ขั้นสูงเลย”
“พลังของฉันไปถึง 895 หน่วย จริงอย่างที่นายบอกฉันเป็นเหนือมนุษย์ระดับ E ขั้นสูงแล้ว” บอสตันกำหมัดและลองต่อยออกไป ทั้งพละกำลังและการเคลื่อนไหว กับสภาพร่างกายเหมือนกับเหนือมนุษย์ระดับ E ขั้นสูงทุกอย่าง
“นี่เป็นพลังนายเหรอ” ไอกะพูดด้วยสีหน้าเหม่อเล็กน้อย
“อืม” ลุคพยักหน้า
“เฮ้อ นายแข็งแกร่งและน่ากลัวเกินไป” เธอกล่าวออกมาตามตรง
“ใช่พลังนายน่ากลัวเกินไป ทำให้เหนือมนุษย์ระดับ E ขั้นต้นได้รับพลังเหนือมนุษย์ระดับ E ขั้นสูงได้ในพริบตา ถ้าเกิดมีคนรู้เข้าพวกเขาจะต้องอิจฉาและมาหานายแน่”
“นั่นแหละฉันจึงอยากให้พวกเธอไม่บอกใคร หรือต่อให้ใครสงสัยก็แค่ไม่ต้องพูด พวกเขาก็ไม่สามารถยืนยันได้” ลุคกล่าว
ทั้งสามคนพยักหน้า แต่แล้วนิโคลก็ถามด้วยความสงสัย
“พลังนี้ผสานกับคนธรรมดาได้ไหม”
พอทุกได้ยินก็มองไปที่ลุคและคิดตามถ้าได้ล่ะจะเป็นยังไง
ลุคเพียงแต่ยิ้ม อันที่จริงเขายังไม่ได้ลองความสามารถย่อยนี้มากนัก แต่ในใจก็พอมีคำตอบอยู่
เขาเปลี่ยนกลับมาพูดเรื่องชุดเกราะที่ทั้งสามสวมอยู่
“ถึงมันจะผสานและมอบคลื่นพลังให้ แต่ว่าพวกเธอไม่สามารถเติมพลังให้กับชุดได้ เหมือนกับฉัน เพราะฉันเติมมันได้ผ่านพลังพรสวรรค์ที่ดูดซับจากรอบตัวและในอากาศมา ดังนั้นพวกเธอจะต้องเติมพลังให้กับไอเทมชุดเกราะด้วงทมิฬด้วยตัวเอง” ลุคพูดถึงข้อเสียของไอเทมที่พวกเขาผสานพลังไปกับมัน
“เราต้องทำยังไง” ไอกะเอ่ยถาม
“มันมีสองวิธี 1 คือเติมด้วยคลื่นพลังในตัวเอง ปล่อยเข้าไปในชุด แต่แบบนั้นคงใช้เวลานานกว่าจะเต็ม จากที่ฉันคำนวณพลังในชุดเกราะมีอยู่ 800 หน่วย ถ้าต้องการเติมคลื่นพลังเข้าไปก็ต้องใช้ 800 หน่วย แต่พวกคุณมีคลื่นพลังในตัวกันแค่ช่วง 100 เท่านั้น คงใช้เวลาสัก 4-5 วันกว่าจะเติมและพักฟื้นฟูและเติมอีกหลายครั้งจนคลื่นพลังในชุดเกราะเต็ม”
“ดังนั้นก็ต้องใช้อีกวิธีหนึ่ง” ลุคหยิบเอาหินพลังงานออกมา ก่อนจะโยนให้กับบอสตัน
“หินพลังงาน” บอสตันทำหน้าเหมือนจะเข้าใจ
“ใช่ ไอเทมไม่เหมือนกับร่างกายมนุษย์ พวกมันดูดซับพลังงานได้โดยตรงจากหินพลังงาน แค่เอาไปสัมผัสก็เติมได้แล้ว”
บอสตันลองเอาไปสัมผัสกับชุดเกราะ แต่ก็ไม่มีการเพิ่มเพราะชุดเกราะยังมีพลังเต็มเปี่ยม บอสตันจึงยิ้มอาย ๆ ให้กับตัวเอง
ลุคไม่ใส่ใจ เขาอธิบายต่อ
“แต่ว่าหินพลังงานที่ใช้ก็ควรจะเป็นระดับเดียวกับไอเทมนั้น ๆ ชุดเกราะที่พวกคุณใส่อยู่เป็นระดับ E ก็ต้องใช้หินพลังงานระดับ E ในการเติม ฉันคาดการณ์ไว้ว่า หินพลังงานระดับ E 1 ก้อนจะเติมพลังงานได้ 10 รอบ”
“นี่มันพลังที่แรกมากกับเงินตราสินะ” บอสตันมองดูหินพลังงานมือ
หินพลังงานระดับ F ราคาที่ 10,000+ เครดิต ส่วนราคาของหินพลังงานระดับ E อยู่ที่ 250,000+ เครดิต มันไม่ได้ต่างกันแค่ระดับ แต่ต่างกันถึงคุณภาพด้วยราคาจึงสูงแบบนี้
“แต่ก็คุ้มค่ากับพลังที่ได้มา” นิโคลกล่าวและลองขยับชุดเกราะดู ก่อนจะพูดเพิ่มเติมว่า “ฉันสัมผัสได้ว่าพลังในชุดเกราะถ้าสนับสนุนพลังมันกับชุดจะใช้ได้ 4 วันไม่มีปัญหา แต่ถ้าดึงออกมาใช้กับพลังพรสวรรค์ก็จะลดลงกว่าเท่าตัวหนึ่ง ดูแล้วถ้าเปิดใช้งานต่อเนื่องคงอยู่ได้ 2 วัน”
“อืม” ลุคพยักหน้ายืนยันความคิดของเธอว่ามันถูกต้อง
“ไปลุยกันเถอะ จริงสิพวกเธอควรเอาอาวุธไปด้วย” ลุคกล่าว ก่อนจะเอาไอเทมเคียวยมทูตออกมา
“ฉันขอใช้พลังพรสวรรค์ก็แล้วกัน” ไอกะบอกกับลุค
พลังพรสวรรค์ของเธอเป็นประเภทสร้างสรรค์ที่สร้างมีดทำครัวเป็นอาวุธอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเอาอาวุธเพิ่ม แถมหลังจากเป็นระดับ E มีดทำครัวที่เธอสร้างได้ก็ทรงพลังมากขึ้น มันสามารถเปลี่ยนรูปแบบได้ไม่ใช่แค่มีดเชฟทั่วไปอีก เธอมีความสามารถรูปแบบที่สองคือมีดสับกระดูก
มีดเซฟทั่วไปเหมาะกับการเฉือน ซึ่งไอกะใช้มันเฉือนเนื้อมอนสเตอร์ทั้งเป็นได้ แต่บางครั้งเมื่อเจอพวกที่หนังเหนี่ยวกระดูกแข็งเธอก็ทำอะไรไม่ค่อยได้ แต่พอมีมีดสับกระดูกแล้ว เธอสามารถสับส่วนที่แข็งของมอนสเตอร์ได้โดยตรง
ตัวอย่างก็เช่นเกราะของมอนสเตอร์ด้วงเกราะดำในระดับเดียวกัน มีดสับกระดูกของไอกะสามารถสับเกราะมันแตกได้ นี่คืออีกเหตุผลที่ในช่วงภัยพิบัติไอกะจึงช่วยเหลือคนอื่น ๆ รอดมาได้
ตอนนี้เมื่อได้รับสนับสนุนจากคลื่นพลังในชุดเกราะด้วงทมิฬ พลังพรสวรรค์ของไอกะก็ทรงพลังมากขึ้น เธอคิดว่าน่าจะจัดการมอนสเตอร์ในระดับ E ได้ไม่ยาก
ถ้าเอามาทำอาหารก็ไม่ต้องเมื่อยในการชำแหละพวกมันอีก...ไอกะคิดอย่างตื่นเต้นและอยากจะรีบลองไปชำแหละมอนสเตอร์สักตัวดูโดยเร็วที่สุด
บอสตันและนิโคลนั้นรับอาวุธมาก
ก่อนหน้านั้นบอสตันมีหอกหนามระดับ F เป็นอาวุธ ซึ่งลุคมอบให้ไป แต่มันพังไปแล้ว ก็ไม่แปลก เพราะเขาเอามันไปสู้กับมอนสเตอร์ระดับ E
และนิโคลเธอเสียอาวุธโซ่ที่เป็นอาวุธพิเศษระดับ E ไปตอนที่ช่วยลุค ทำให้เธอต้องเอาโซ่เส้นใหม่มาใช้ แต่เพราะสถานการณ์ตอนนี้ก็หาได้เพียงโซ่ธรรมดาเท่านั้น
นิโคลเคยมีประสบการณ์ใช้อาวุธธรรมดาอยู่ สมัยเป็นเหนือมนุษย์ระดับ F เธอใช้เชือกธรรมดาที่ผูกติดกับมีดที่เป็นอาวุธพิเศษ คราวนี้ก็แค่เปลี่ยนไปใช้เคียวยมทูตติดกับโซ่เท่านั้น
ทั้งสองเอาเคียวยมทูตไปคนละเล่ม เพราะถ้ามากเกินไปก็จะสิ้นเปลืองพลังงานโดยเปล่าประโยชน์
“ไปลุคกันเถอะ”
...