ตอนที่ 4161 : การคัดเลือกผู้นำมณฑล
ตอนที่ 4161 : การคัดเลือกผู้นำมณฑล
การตายของโม่เหวินเต้านั้นกลายเป็นเรื่องใหญ่ในหมู่ผู้คนของตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการเลือกผู้นำมณฑลโดยเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
ภายใต้สถานการณ์ปกติแล้ว การคัดเลือกจะไม่ถูกจัดขึ้นมาอย่างเร่งรีบ พวกเขาจะไม่จำเป็นต้องคัดเลือกผู้นำมณฑลชั่วคราว แต่ด้วยการแข่งขันในหุบเขาโชคชะตาระหว่างอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ในทวีปแดนสวรรค์ใต้ที่กำลังจะมาถึง
เพราะเช่นนั้นผู้ส่งสารของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรมที่เป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูงซึ่งแกร่งกว่าโม่เหวินเต้าจึงรีบเดินทางมาที่เมือง หลังจากที่โม่เหวินเต้าตายไปไม่กี่วัน
ผู้ส่งสารของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรมได้พูดขึ้นมา “ ยอดฝีมือทุกคนสามารถเข้าร่วมการคัดเลือกผู้นำมณฑลชั่วคราวได้ การแข่งขันจะเริ่มใน 2 เดือน
หลังจากนั้นผู้นำมณฑลชั่วคราวจะติดตามเจ้านายของเราไปยังหุบเขาโชคชะตาและเข้าร่วมการต่อสู้ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของทวีปแดนสวรรค์ใต้ หากทำผลงานได้ดี นายท่านของเราจะแต่งตั้งเขาหรือนางเป็นเจ้าเมืองของตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ! ”
....
หลังจากนั้นข่าวนี้ก็เผยแพร่ออกไปรวดเร็วราวกับไฟลามทุ่ง
ผู้ส่งสารของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรมจะมาดูการแข่งขันคัดเลือกผู้นำมณฑลชั่วคราวในอีก 2 เดือน ผู้นำมณฑลชั่วคราวนั้นจะต้องเป็นผู้ปกครองของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรมไปยังหุบเขาโชคชะตาเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ หากผู้นำมณฑลชั่วคราวนั้นทำผลงานได้ดี ไม่เช่นนั้นเขาหรือนางจะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้นำมณฑลของตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์
ตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์นั้นคือหนึ่งนตระกูลภายใต้อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรม มันเป็นธรรมดาที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้นำมณฑลแห่งนี้ การแข่งขันในหุบเขาโชคชะตานั้นจะช่วยตัดสินผู้นำมณฑลชั่วคราวว่าคู่ควรกับตำแหน่งนี้หรือไม่
‘ หุบเขาโชคชะตาหรือ ? การต่อสู้ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์หรือ ? จะมีผลประโยชน์อะไรหรือถ้าไม่หากเข้าร่วม ? ’
เป็นธรรมดาที่ต้วนหลิงเทียนจะไม่เคยได้ยินเรื่องหุบเขาโชคชะตาหรือการต่อสู้ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ในทวีปแดนสวรรค์ใต้
จริงๆแล้วมีหลายคนที่ไม่รู้ว่าหุบเขาโชคชะตานั้นอยู่ที่ใด พวกเขารู้แค่ว่าเป็นที่จัดสำหรับการต่อสู้ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของทวีปแดนสวรรค์ใต้จากคำพูดของผู้ส่งสารแล้ว เขาบอกได้ว่าผู้ปกครองของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ต่างๆนั้นให้ความสำคัญกับการต่อสู้ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์
หลังจากที่ได้ยินบทสนทนาของคนอื่นๆ ต้วนหลิงเทียนก็รู้ว่าพวกเขานั้นน่าจะได้ประโยชน์จากการเข้าร่วมการต่อสู้ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ เขาจะได้พบกับผู้ปกครองของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรม
‘ บางทีข้าควรเข้าแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งผู้นำมณฑลชั่วคราวของตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ หากชนะ ข้าจะได้ตามผู้ปกครองไปยังหุบเขาโชคชะตาและเข้าแข่งขันในการต่อสู้ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ หากไม่นับผลประโยชน์ ข้าอยากพบกับผู้ปกครองอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรม...
แต่ข้ามั่นใจว่ามีหลายคนที่อยากได้ตำแหน่งผู้นำมณฑลชั่วคราว ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่กับการได้ติดตามผู้ปกครองไปยังหุบเขาโชคชะตาและเข้าร่วมการต่อสู้ระหว่างอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งกว่านั้นข้าก็สามารถทิ้งตำแหน่งเจ้าเมืองได้หลังจากที่การแข่งขันจบลง.... ’
หลังจากที่คิดดูแล้ว แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ต้วนหลิงเทียนก็ยังมั่นใจว่าจะได้รับเลือกเป็นผู้นำมณฑลชั่วคราวของตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งกว่านั้นถึงแม้ว่าจะมีคนเข้าแข่งขันเพื่อแย่งตำแหน่งนี้ไม่น้อย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
หากไม่ใช่เพราะการต่อสู้ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ บางทีคงมีคนไม่มากที่ให้ความสำคัญกับการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งผู้นำมณฑลตำแหน่งนี้อาจจะสวยหรู แต่ที่จริงแล้วต้องแบกรับความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง ยิ่งกว่านั้นหากละเลยหน้าที่ ไม่เช่นนั้นก็อาจจะถูกลงโทษโดยผู้ปกครองอาณาจักร
นอกจากนี้แล้วการบ่มเพาะก็จะล่าช้า แต่ผู้นำมณฑลชั่วคราวนั้นต่างออกไป ยังไงพวกเขาก็แค่เข้าคัดเลือกเป็นผู้นำมณฑลชั่วคราวเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ เพราะเช่นนั้นผู้นำมณฑลชั่วคราวจึงไม่ต้องแบกรับความรับผิดชอบที่ผู้นำมณฑลต้องแบกรับ โอกาสเช่นนี้แม้แต่จักรพรรดิเทพระดับสูงอย่างจงไป่หนานก็ยังให้ความสนใจ
‘ ข้าจะใช้เวลา 2 เดือนนี้ในการพัฒนาการบ่มเพาะ ! ’ ต้วนหลิงเทียนคิดกับตัวเองพร้อมตาที่เป็นประกายขึ้นมา เขาไม่ได้สนใจที่จะขึ้นเป็นผู้นำมณฑล แต่เขาสนใจการต่อสู้ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ในหุบเขาโชคชะตา เพราะเช่นนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะเข้าร่วมการคัดเลือกผู้นำมณฑลชั่วคราวของตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์
...
ตอนแรกต้วนหลิงเทียนใช้เวลาอีก 2 วันในเมืองตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ก่อนที่จะเริ่มเบื่อ จากนั้นเขาก็เดินทางไปที่ชายเมืองและไล่ล่าจักรพรรดิเทพขั้นกลาง
แม้ว่าความแข็งแกร่งของศักดิ์สิทธิ์ตอนนี้จะเทียบได้กับจักรพรรดิเทพขั้นสูง แต่ระดับการบ่มเพาะของเขายังอยู่ที่จักรพรรดิเทพขั้นต้น เพราะเป็นเช่นนั้นรางวัลที่เขาได้มาจากการฆ่าจักรพรรดิเทพขั้นกลางจึงถือว่ามีมากมาย
หากจักรพรรดิเทพขั้นกลางฆ่าเขาได้ จักรพรรดิเทพขั้นกลางจะไม่ได้รับรางวัลอันใด
จากจุดนี้จะเห็นได้ว่าการทดสอบของเทพนั้นเอนเอียงไปทางคนอย่างต้วนหลิงเทียนที่แกร่งพอที่จะฆ่าคนที่มีระดับการบ่มเพาะสูงกว่า
นอกจากจักรพรรดิเทพขั้นกลางแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้ปล่อยจักรพรรดิเทพขั้นต้นที่เขาพบเช่นกัน
....
ในเวลาเดียวกันเมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป ยอดฝีมือหลายคนก็พากันออกมาจากการเก็บตัวและเริ่มรวมตัวกันรอบๆเมืองตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์
...
สองเดือนผ่านไปในพริบตา
ตอนนั้นต้วนหลิงเทียนใช้เวลาเกือบ 1 ปีในการทดสอบของเทพ
‘ ข้ายังเหลือเวลาอีก 2 ปีที่นี่...ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาที่ข้าจะขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพขั้นกลาง แต่ข้าสงสัยว่าข้าจะปรับระดับการบ่มเพาะให้เสถียรได้หรือไม่ในตอนนั้น ’ ต้วนหลิงเทียนพึมพำในใจและถอนหายใจออกมา เขาไม่กล้าคิดว่าจะได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูง มันคงดีถ้าหากเขาได้ก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพขั้นกลางและปรับระดับการบ่มเพาะของตนให้เสถียรใน 2 ปีนี้
ตอนนั้นเขาได้กลับไปยังเมืองจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ยังไงการแข่งขันคัดเลือกผู้นำมณฑลชั่วคราวก็จะมาถึงในวันพรุ่งนี้ เขาได้เข้าพักที่โรงเตี๊ยมในเมืองเพื่อรอวันพรุ่งนี้
ไม่เหมือนกับโลกจริง โรงเตี๊ยมในการทดสอบของเทพนั้นเรียกได้ว่าพื้นที่ฟักฟื้นชั่วคราวจะดีกว่า ต้วนหลิงเทียนพบว่าการตั้งชื่อของตัวเองนั้นดูประหลาด
ต้วนหลิงเทียนจองห้องสุดท้ายที่เหลือในโรงเตี๊ยม เพราะการแข่งขันในครั้งนี้จะมีคนแห่เข้ามาในเมือง คนส่วนมากมาเพื่อดูการแข่งขัน พวกเขาไม่ได้ถูกห้ามไม่ให้รับชมการแข่งขัน
ตอนที่อยู่ในโรงเตี๊ยม เขาก็ได้ยินบทสนทนาจากคนรอบตัว คนส่วนมากพูดถึงการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นในที่ที่ห่างจากเมืองไป 10,000 ลี้ทางตะวันออก ผู้ส่งสารของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรมจะมาดูการแข่งขันด้วยตัวเอง ใครก็ตามสามารถเข้าร่วมการแข่งขันโดยไม่สนว่าระดับการบ่มเพาะสูงต่ำเพียงใด ตราบใดที่พวกเขาแกร่งพอ ในการแข่งขันนั้นอนุญาตให้ฆ่ากันได้
ตอนที่ต้วนหลิงเทียนมาถึงประตูห้องของตน เขาก็ได้ยินคนพูดขึ้น “เมื่อการแข่งขันเกี่ยวข้องกับชีวิต ก็คงทำให้หลายคนที่เข้าร่วมเพราะความสนุกไม่อยากเข้าร่วมการแข่งขัน ข้าไม่คิดว่าจะมีผู้เข้าแข่งขันมากนัก แต่ข้ามั่นใจว่าทุกคนล้วนแต่แข็งแกร่ง...”
...
ตกดึก
ต้วนหลิงเทียนนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงพร้อมหลับตาลง เขากำลังมองดูเวลาที่เขาเหลือในการทดสอบของเทพและเขาจะต้องทำอะไรหลังจากที่ออกจากการทดสอบของเทพไปแล้ว
‘ หลังจากที่ออกจากการทดสอบของเทพไป ก็ได้เวลาที่ข้าจะได้เข้าสู่สนามรบเขตแดน แม้ว่าสนามรบเขตแดนนั้นจะอันตราย แต่ก็มีโชคอยู่มากมาย หากข้าต้องการก้าวขึ้นเป็นเทพสูงสุดก่อนที่จะหมดเวลาพันปี
โอกาสที่ดีทีที่สุดของข้าคือเข้าไปในสนามรบเขตแดน จากความแข็งแกร่งของข้าตอนนี้แล้ว แม้แต่ตอนที่ข้าขึ้นเป็นเทพสูงสุด ความแข็งแกร่งของข้าน่าจะสูงกว่าคนทั่วไป.... ’
‘ เก้อเอ๋อ ข้าหวังว่าเจ้าจะปลอดภัยในสนามรบเขตแดน...หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้า ข้าสาบานว่าจะให้ตระกูลหยุดชดใช้ ! ’ ต้วนหลิงเทียนคิดกับตัวเองพร้อมตาที่เป็นประกาย
ตระกูลหยุนนั้นเป็นกองกำลังชั้นนำในดินแดนบูชาศักดิ์สิทธิ์และมียอดฝีมือสูงส่งให้การสนับสนุน ต้วนหลิงเทียนรู้เรื่องนี้ดี แต่เขาไม่กลัว เขารู้ว่าเขามีโอกาสสูงที่จะได้ขึ้นเป็นยอดฝีมือสูงสุด เมื่อเขากลายเป็นยอดฝีมือสูงสุด เขาก็มั่นใจว่าอย่างน้อยก็เทียบกับยอดฝีมือสูงสุดของตระกูลหยุนได้ ยังไงเสียจะมียอดฝีมือสูงสุดที่ครอบครองธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าและเข้าใจ 2 จาก 4 เต๋าสวรรค์และโลกอย่างเขาสักกี่คน ? นี่คือที่มาของความมั่นใจที่ต้วนหลิงเทียนมี
สำหรับกฎของเขาแล้ว เขามีจิตศักดิ์สิทธิ์สูงสุดช่วยกฎมิติของเขา ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิตที่ช่วยกฎชีวิตของเขา สำหรับกฎอื่นๆ เขาสามารถพัฒนามันขึ้นมาตอนนั้นได้
...
เช้าวันต่อมา
ต้วนหลิงเทียนได้ออกจากโรงเตี๊ยมและเดินตามผู้คนออกจากเมือง เขาไม่ใช่คนเดียวที่ไม่มีเพื่อน
หลังจากที่ออกจากเมืองได้ไม่นานก็มีคนเดินเข้ามาหาเขาและถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม “น้องชาย เจ้ามาคนเดียวหรือ ?”
ต้วนหลิงเทียนหันกลับไปมองชายหนุ่ม เขาบอกได้ว่าชายหนุ่มผู้นี้เป็นจักรพรรดิเทพขั้นต้น ชายหนุ่มคนนี้คงรับรู้พลังของเขาได้และพบว่าเขาเป็นจักรพรรดิเทพขั้นต้นก่อนที่จะเข้ามาพูดคุยกับเขา
ในโลกที่ผู้แข็งแกร่งสูงส่งและคนอ่อนแอนั้นเป็นเหยื่อ เป็นธรรมดาที่คนที่มีระดับการบ่มเพาะเท่ากันจะพากันจับกลุ่มกันเอง
ที่จริงชายหนุ่มคนนี้เข้ามาหาต้วนหลิงเทียนหลังจากที่พบว่าระดับการบ่มเพาะของทั้งสองนั้นเท่ากัน เขาคงไม่เข้ามาหาต้วนหลิงเทียน หากรู้ว่าต้วนหลิงเทียนนั้นมีระดับการบ่มเพาะที่จักรพรรดิเทพขั้นกลางหรือสูงกว่า เขาคงไม่เข้ามาหาต้วนหลิงเทียนหากมีระดับการบ่มเพาะต่ำกว่าจักพรรดิเทพขั้นต้น
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าตอบรับอีกฝ่าย
ชายหนุ่มคนนี้ใส่ชุดสีเขียวสว่างตัวโตและสูงใหญ่ รูปร่างกำยำ แม้ว่าหน้าตาของเขาไม่ค่อยดีก็ตาม แต่บุคลิกของเขานั้นก็ทำให้ผู้คนส่วนมากจดจำได้