ตอนที่ 265: กระสอบทราย
“อดทนเอาไว้ก่อนนะ ฉันจะคิดหาวิธีที่จะช่วยคุณเอง”
“โอ้ ใช่แล้วล่ะ เมืองเมฆา ตราบใดที่เราไปถึงเมืองเมฆาในตํานานได้แล้วล่ะก็ เราจะหาวิธีรักษาพิษได้อย่างแน่นอนเลยล่ะ”
“คุณต้องอดทนเอาไว้ก่อนนะ แฮธาเวย์”
ล๊อคมองไปที่แฮธาเวย์ซึ่งนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขาที่มีใบหน้าที่ซีดเซียว ความวิตกกังวลในใจของเขานั้นไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้เลย
เขาไม่เคยเกลียดตัวเองที่อ่อนแอ เหมือนในวันนี้มาก่อนเลย
ถ้าหากว่าเขานั้นแข็งแกร่งขึ้น แฮธาเวย์เองก็คงจะไม่ประสบกับอันตรายเช่นนี้ได้
แม้ว่าเขาจะยังเด็กมาก แต่ล๊อคเองก็ได้กลายเป็นบีสต์มาสเตอร์ ขั้นที่ 3 ระดับ 7แล้ว เขายังได้ทําสัญญากับ มังกรศักดิ์สิทธิ์, ภูตเพลิงและวายุอย่างเพลิงอนันตืและปีกพายุ รวมทั้งงูหยกขาวสองหัวด้วย เขานั้นถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีศักยภาพที่ดีมากแล้ว
เขาเองยังเคยเอาชนะบุคคลทรงอำนาจที่แข็งแกร่งพอๆ กับเจ้าเมืองของเมืองหุบเขามาก่อนด้วยซ้ำ
ซึ่งมันถือว่าคุ้มค่าแล้ว ที่จะภาคภูมิใจได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของชายชราผู้ลึกลับและดุร้ายคนนั้น เป็นเหมือนกับการมีถังน้ำเย็นมาราดใส่หัวของล็อค
เปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจและความพึงพอใจในใจของเขาที่เคยทีนั้นดับมอดลงในชั่วพริบตา
ย่อมมีคนที่ดีกว่าเขาเสมอ
ต่อหน้าชายชราขั้นที่ 5 ล็อคนั้นเหมือนเป็นแค่มดตัวหนึ่งเท่านั้น เขาไม่มีความสามารถที่จะต่อสู้กลับได้เลย
ถ้าเขาแม้แต่ไม่สามารถปกป้องผู้หญิงที่เขารักได้ เขาไม่มีคุณสมบัติอะไรในการเป็นลูกผู้ชายได้อีกเลยด้วยซ้ำ
“ฉันจะจดจําสัญญาสามปีนี้ไปตลอดกาลเลยล่ะ!”
เปลวไฟที่ลุกโชนในดวงตาของล๊อคนั้น ทําให้หน้าอกของเขารู้สึกเหมือนกําลังจะระเบิดออกมาได้เลย
“ฉันจะต้องมุ่งหน้าไปยังหุบเขาหนวดมังกรในอีกสามปีข้างหน้านี้อย่างแน่นอนเลยล่ะ”
“ไม่เพียงแต่ฉันจะเอาชนะคนที่เรียกว่าศิษย์คนสุดท้ายของคุณเพียงเท่านั้น แต่ฉันจะทําให้คุณเสียใจกับความอัปยศอดสูที่คุณนํามาให้ฉันในวันนี้ด้วยเช่นกันอย่างแน่นอน!”
ล๊อคกําหมัดแน่น และแม้ว่าเล็บของเขาจะแทงเข้าไปในฝ่ามือของเขาก็ตาม แต่เขาก็ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆเลยในตอนนี้
เลือดที่หยดลงมาจากช่องว่างระหว่างนิ้วของเขา ตกลงบนใบหน้าที่ซีดเซียวของแฮธาเวย์ มันราวกับการมองเห็นดอกบ๊วยที่บานอยู่ท่ามกลางทุ่งหิมะเลยทีเดียว
“ล็อค แค่ก แค่ก... อย่ากดดันตัวเองมากเกินไปเลยนะ”
“ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอก... ตาแก่คนนั้นเขาแข็งแกร่งเกินไปต่างหากล่ะ ขั้นที่ที่ 5 นะ... บีสต์มาสเตอร์ ขั้นที่ที่ 5 นั้นถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังแม้ในเมืองหลักเองก็ตามที แค่ก แค่ก... อย่าโทษตัวเองไปเลยนะ!”
แฮทธาเวย์ใช้มือที่เย็นเฉียบของเธอจับไปที่ใบหน้าของล็อคไว้ และเธอก็ฝืนยิ้มอย่างน่าสมเพช
“ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ เพราะว่าเขา... เขาได้ทําข้อตกลงสามปีกับคุณเอาไว้ ฉัน... จะไม่ตายง่ายๆอย่างแน่นอนหรอกนะ”
“คุณไม่จําเป็นต้องพูดอีกต่อไปแล้วล่ะ ฉันเข้าใจแล้ว”
ล๊อคถอดเสื้อคลุมของเขาออกอย่างรวดเร็ว และคลุมไว้บนตัวของแฮธาเวย์
มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เพิ่งเกิดขึ้นในเมืองหุบเขาแห่งนี้ไป เจ้าเมืองได้เสียชีวิตไปแล้ว นายพลของพวกเขาเองก็เสียชีวิตแล้ว และบีสต์มาสเตอร์ส่วนใหญ่เองก็เสียชีวิตไปแล้วด้วยเช่นกัน
แต่ประชาชนของเมืองหุบเขานี้ยังคงไม่รู้เรื่องของเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น และล๊อคไม่รู้ว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปอย่างไรเมื่อความจริงทั้งหมดถูกเปิดเผยออกมา
ถ้าเป็นล๊อคคนเดิมในก่อนหน้านี้ เขาอาจเข้าไปมีส่วนร่วมในเรื่องพวกนี้ทันที
อย่างไรก็ตาม อย่างที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้ เขาไม่สามารถให้ความสนใจเรื่องพวกนี้ได้แม้แต่นิดเดียวด้วยซ้ำ
เขาเรียกมังกรศักดิ์สิทธิ์ของเขาออกมา และอุ้มแฮธาเวย์ไว้วางบนหลังของมัน
ด้วยลมกระโชกแรง มังกรแสงศักดิ์สิทธิ์ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับลูกศรที่แหลมคม
ในขณะที่ไปตามเส้นทางข้างหน้า ล๊อคได้ใช้มานาของเขาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างโล่อันอบอุ่นรอบๆตัวแฮธาเวย์เอาไว้
เขาไม่ต้องการให้สายลมหนาวที่เกิดจากการเดินทางด้วยความเร็วสูงของมังกรศักดิ์สิทธิ์นั้นมาทําร้ายแฮธาเวย์ได้อีกต่อไป
เมื่อรู้สึกถึงออร่าที่คุ้นเคยของล๊อคที่ห่อหุ้มร่างของเธอไว้ แฮธาเวย์ก็ยิ้มและผล็อยหลับไป
อย่างไรก็ตาม แม้แต่ในช่วงเวลาของการนอนหลับของเธอนั้น คิ้วของเธอก็ยังคงขมวดแน่น เห็นได้ชัดว่าเธอนั้นต้องรับกับความเจ็บปวดมากแค่ไหนกัน..
ล๊อคเอื้อมมือออกไปและลูบไล้เธอเบา ๆ เขามองไปที่ท้องฟ้าและตบมังกรศักดิ์สิทธิ์ของเขาเบา ๆ เพื่อให้มันลงจอด
มังกรศักดิ์สิทธิ์เองเพิ่งประสบกับการต่อสู้ที่รุนแรงที่สุดในเมืองหุบเขา ออร่าของชายชราผู้ลึกลับนั้นมีพลังมากซะจนมันไม่สามารถขยับเขยื้อนได้แม้แต่กระดิกนิ้วด้วยซ้ำไป
มังกรศักดิ์สิทธิ์เองก็ยังรู้สึกได้ว่า ล็อคนั้นกังวลมากแค่ไหนเมื่อตอนที่แฮธาเวย์นั้นได้รับบาดเจ็บและถูกวางยาพิษ
ดังนั้นไม่ว่ามันจะเหนื่อยแค่ไหนก็จะไม่บ่นไม่ว่าอะไรใดๆเลย มันบินไปอย่างเงียบ ๆ และมั่นคง
มันจงใจหลีกเลี่ยงสายลมพัดที่เข้ามาปะทะทั้งหมด เพียงเพื่อไม่ให้แฮธาเวย์รู้สึกถึงความปั่นป่วนได้
"นายทํางานหนักมามากเลยล่ะนะ"
ล๊อคตบคอของมังกรศักดิ์สิทธิ์และเรียกกลับไปยังพื้นที่มิติของระบบของเขาเพื่อให้มันได้พักผ่อน
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่มังกรแสงศักดิ์สิทธิ์จะจากไปนั้น มันเอาหัวอันใหญ่โตของมันถูกับล็อคเพื่อเป็นการปลอบโยนเขา
“แฮธาเวย์ อดใจรออีกหน่อยเถอะนะ อีกไม่นานแล้วล่ะเราจะหาที่พักกันน่ะ”
ล๊อควางแฮธาเวย์ไว้บนพื้นอย่างเบามือ
แม้ว่าเธอจะตกอยู่ในอาการโคม่าไม่ได้สติก้ตาม แต่ล็อคก็ยังคงคุยกับเธอต่อไปเช่นเดิม
เขาหวังเพียงว่า การทําเช่นนั้นจะทําให้เธอรู้สึกดีขึ้น
การย้ายเธอลงจากมังกรทําให้การหายใจที่มั่นคงของแฮธาเวย์ถี่มากขึ้น ล๊อคเองก็ระมัดระวังตัวมากอยู่แล้ว แต่อนิจจาเขายังคงไปแตะต้องบาดแผลของเธอไปด้วย
เขาเอื้อมมือไปแตะตรงหน้าผากเธอ
“แย่แล้วล่ะ เธอมีไข้ด้วย!”
พิษของเขี้ยวมังกรนั้นทรงพลังมากเกินไป
แม้ว่าชายชราเองจะให้คํามั่นสัญญาสามปีไว้แล้วก็ตามที แต่ถ้าล็อคไม่สามารถหาวิธีรักษาไข้ของเธอได้ทันเวลา ไม่ต้องรอถึงสามปีเลย เธออาจจะอยู่ได้ไม่ถึงสามวันซะด้วยซ้ำ!
ด้วยเหตุนี้ ล๊อคจึงสั่งให้มังกรศักดิ์สิทธิ์บินตรงไปยังเมืองเมฆาในทันที
อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุด พวกเขาจําเป็นต้องลงจอดในถิ่นทุรกันดาร
แฮธาเวย์นั้นมีไข้สูง และทําให้ล็อคเป็นกังวลอย่างมาก
ในเวลานี้ จู่ๆ ก็มีเสียงของการต่อสู้ดังมาจากระยะไกล
คนกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามาในขณะที่มีคนเฝ้ารถม้าอยู่ และไล่ตามพวกเขาไป เป็นชายชุดดำกลุ่มหนึ่ง
ทั้งสองฝ่ายเองต่างก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน และมีร่องรอยของเวทย์มนต์ตามตัวของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าทั้งสองฝ่ายต่างต่อสู้กันมาเป็นเวลานานแล้ว..
แบทเทิลบีสต์ของพวกที่มาจากรถม้าส่วนใหญ่ล้วนเป็นประเภทนก อย่างไรก็ตาม พวกมันทั้งหมดต่างได้รับบาดเจ็บหนักและไม่สามารถบินได้อีกต่อไปแล้ว
เหลือเพียงเหยี่ยวตัวเล็กๆ อยู่เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น และถึงอย่างนั้น พวกมันก็แทบจะไม่สามารถช่วยตัวเองได้ พวกมันต่างก็ใช้ทักษะออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันลูกศรจากผู้ที่ไล่ตามมาเท่านั้น
แบทเทิลบีสต์ของกลุ่มชายในชุดดําส่วนใหญ่ล้วนเป็นประเภทหมาป่า การเคลื่อนไหวของพวกมันเป็นระเบียบราวกับได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าพวกเขานั้นน่าจะมาจากกองทัพ
มีเพียงกองทัพเท่านั้นที่จะมีแบทเทิลบีสต์ที่เป็นระเบียบเช่นนี้ได้
หลังจากเหลือบมองพวกเขาแล้ว ล๊อคก็มองออกไปและแสร้งทําเป็นว่าไม่เห็นพวกเขา
เนื่องจากแฮธาเวย์เองนั้นกำลังป่วยหนักอยู่ ล๊อคจึงไม่สามารถให้ความสนใจของเขาไปกับเรื่องอื่นได้
"ช่วยด้วย!"
“ท่านนักรบ โปรดช่วยหยุดพวกเขาทีเถิด จะตอบแทนท่านอย่างแน่นอน!”
ทันทีที่ล๊อคสังเกตเห็นรถม้า คนในรถม้าเองก็เห็นเขาด้วยเช่นกัน
สําหรับพวกเขาแล้ว ล๊อคนั้นถือได้ว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่จะช่วยชีวิตของพวกเขาได้แล้ว และด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงขับรถม้ามาทางที่ล๊อคอยู่
“ยิงลูกศรไปที่เขาและหยุดเขาไว้ซะ!”
ชายชุดดําที่ยื่นมือออกมา ก็สังเกตเห็นล็อคด้วยเช่นกัน เขาสันนิษฐานว่าล๊อคนั้นเป็นกําลังเสริมของฝ่ายรถม้าและตื่นตระหนกขึ้นมาในทันที เขายิงธนูอีกหลายดอกใส่เขาอย่างรวดเร็ว
เสียงแหลมคมของบางสิ่งที่เจาะอากาศดังขึ้น เพียงฟังแค่จากเสียงเพียงอย่างเดียว ล๊อคก็พิจารณาได้ในทันทีว่าพวกเขานั้นมีผู้เชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์ธาตุลมอยู่ในทีมของพวกเขาด้วย
ลูกธนูที่ถูกบัฟด้วยเวทลมนั้น เร็วราวกับสายฟ้า
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายค่อนข้างไกล และเนื่องจากทั้งสองฝ่ายเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ความแม่นยําของลูกศรจึงลดลง
ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากทางรถม้านั้นได้รับการปกป้องโดยผู้คุ้มกันและเหยี่ยว ลูกศรบางดอกนั้นที่ยิงไปใส่เป้าหมายของพวกเขานั้นก็ปลิวกระเด็นไปทางอื่นด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้คุ้มกันดังกล่าวที่อยู่ทางล๊อคเลย
ลูกธนูดอกหนึ่งได้พุ่งมาหาแฮธาเวย์
"พวกแกกําลังหาเรื่องที่จะตายงั้นหรอ!"
ล๊อคยื่นมือออกไปเพื่อสกัดกั้นลูกศรที่พุ่งเข้ามา และดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
การต่อสู้ในเมืองหุบเขานั้นเป็นหนึ่งในความล้มเหลวและเจ็บปวดมากที่สุด ที่ล็อคเคยประสบมานับตั้งแต่เขาเริ่มเส้นทางของการเป็นบีสต์มาสเตอร์มาเลยก็ว่าได้
เขาไม่เคยมีความรู้สึกหวาดหวั่นกับการพ่ายแพ้หรือสูญเสียมาก่อน แต่จากการพ่ายแพ้ของเขาก่อนหน้านี้ ทำให้แฮธาเวย์ คนรักของเขานั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส
เขาระงับความโกรธในใจเอาไว้ เพื่อที่จะดูแลแฮธาเวย์ เขาต้องสงบสติอารมณ์ของเขาไว้
อย่างไรก็ตาม ชายในชุดดําทำให้ความโกรธของเขาปะทุออกมาได้อีกครั้ง
เมื่อเห็นว่ามีกระสอบทรายส่งตรงถึงหน้าประตูบ้านให้เขาซ้อมแล้ว ล๊อคก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องจะปฏิเสธอีกต่อไป
ล๊อคยื่นมือออกมาด้วยสายตาที่เย็นชา มองไปที่ชายในชุดดำที่อยู่ข้างหน้าเขา เขายื่นมือออกไปแล้วกวักมือเรียกงูหยกขาวสองหัวที่ไม่ได้ปรากฏตัวออกมานานแล้วให้ออกมา