1057 กลับสู่โลกอำพรางสวรรค์
1057 กลับสู่โลกอำพรางสวรรค์
นอกเขตดาวโบราณจื่อเว่ยในวิหารโบราณที่โคจรรอบโลก หลุมดำที่ปรากฏบนแท่นบูชาห้าสีกำลังปิดลงอย่างช้าๆ เย่ฟ่านหลี่เทียนและเอี๋ยนอี้ซีกำลังจะหายตัวไป
อี้ชิงอู่มีรูปร่างงดงามสมกับที่เป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของโลก ใบหน้าของนางเหมือนหยกที่ปราศจากระลอกคลื่น ม่านตาของนางราวกับอัญมณีสีดำ
นางเฝ้าดูพวกเขาจากไปเช่นนี้ และเงาสุดท้ายของเย่ฟ่านที่อยู่ในใจของนางก็ถูกลบออกไป บัดนี้นางมีเพียงเส้นทางเดียวคือการพิสูจน์เต๋าเพื่อแข่งขันกับหยินเทียนเต๋อให้ได้
“ในอนาคตข้างหน้าข้าจะกลายเป็นจักรพรรดิหญิงผู้ยิ่งใหญ่และจะตามหาเจ้าอีกครั้ง!” นี่คือความในใจของนาง
“ข้าจะรอเจ้า”
ราวกับเห็นสิ่งที่นางกำลังคิดเย่ฟ่านหันกลับมากล่าวด้วยรอยยิ้มก่อนที่ร่างของเขาจะจมหายลงไปในอุโมงค์ที่ดำมืด
อี้ชิงอู่ถอยกลับอย่างรวดเร็วและตราที่ถูกตัดออกไปก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งในหัวใจของนางและของเย่ฟ่านที่ถูกลบออกจากใจของนางก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
สิ่งนี้ทำให้นางหงุดหงิดอย่างยิ่ง นางมีความรู้สึกว่ามารน้อยที่อยู่ตรงหน้าจะควบคุมหัวใจของนางไปช่วยชีวิต
ในที่สุดหลุมดำก็หายไป อย่างไรก็ตามเสียงที่โหยหวนของหลี่เทียนดังขึ้นอีกครั้ง
“ในที่สุดข้าก็จากไปได้แล้ว อนาคตพวกเจ้าจะได้ยินชื่อของข้าในนามบุตรแห่งเทพอีกครั้ง พวกเจ้าคอยดูเถอะหญิงงามทั้งหมดในโลกอำพรางสวรรค์จะต้องกลายเป็นของข้าคนนี้ อี้ชิงอู่เจ้าเป็นภรรยาของเย่ฟ่านแล้ว ข้าไม่ได้มีรสนิยมชอบแย่งชิงภรรยาสหาย ดังนั้นเจ้าจึงไม่มีโชควาสนาจะได้เป็นคู่ครองของข้า…”
ในที่สุดเสียงของเขาก็ขาดหายไป
อี้ชิงอู่สวมชุดสีขาวงดงามไร้ที่เปรียบ แต่ในขณะนี้นางตัวสั่นด้วยความโกรธ นางมีความปรารถนาอยากจะใช้วังกวงหานในมือทุบทำลายประตูมิติอีกครั้ง
…
ในความมืดมิดอันไร้ที่สิ้นสุดและความอ้างว้างชั่วนิรันดร์ มีกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวมาจากอีกฟากหนึ่งของจักรวาล
“นี่เป็นเส้นทางแบบไหน? พี่เย่เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้ากำลังกลับไปที่ทุ่งดวงดาวหมีใหญ่” เอี๋ยนอี้ซีถาม
“ใช่ นั่นคือกลิ่นอายของดินแดนที่ข้าคุ้นเคย แต่ดูเหมือนว่ามีอันตรายซุกซ่อนอยู่ในเส้นทางนี้พวกเจ้าต้องระวังด้วย” เย่ฟานดูจริงจัง
“อันตรายได้อย่างไร? เจ้าก็เคยข้ามทุ่งดวงดาวโดยใช้แท่นบูชาห้าสีไม่ใช่หรือ” หลี่เทียนมีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก
“แท่นบูชาห้าสีไม่ใช่วิธีเดียวที่จะเดินทางข้ามทุ่งดวงดาวโบราณ เจ้าก็เห็นแล้วว่าสิ่งมีชีวิตอมตะเหล่านั้นปรากฏตัวในโลกได้อย่างไร?” เอี๋ยนอี้ซีกล่าว
เมื่อได้ยินคำพูดนี้สีหน้าของเย่ฟ่านก็จริงจังมากขึ้น เพราะในขณะนี้มีศพที่อยู่ในต้นกำเนิดสวรรค์ไล่ตามแท่นบูชาห้าสีมาอย่างรวดเร็ว
เขายังคงจดจำได้ว่าในตอนที่เขาเผชิญหน้ากับเรือรบทองแดงที่บรรทุกราชาโบราณเหล่านั้นน่าสะพรึงกลัวเพียงใด
“ซ่อนกลิ่นอายของพวกเจ้าอย่าเปิดเผยอะไรออกมา มีสิ่งมีชีวิตอมตะมากมายกระจายตัวอยู่ทั่วจักรวาลนี้ กลิ่นอายของพวกเรากำลังชักนำพวกเขาเข้ามา”
“อะไรนะ ร้ายแรงขนาดนั้น?!” หลี่เทียนตกใจกลัว รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจางหายไปทันที
“แล้วข้าควรทำอย่างไรดี?”
เอี๋ยนอี้ซีรู้สึกว่าสถานการณ์นั้นร้ายแรงมาก ทุ่งดวงดาวหมีใหญ่คืออนาคตที่พวกเขาวาดฝันไว้ แต่หากไปไม่ถึงที่นั่นมันจะกลายเป็นหายนะทันที
“ศิษย์พี่เจ้าอ่านตำรามามากมาย มีเหตุการณ์ที่สำคัญเกี่ยวกับการเดินทางข้ามทุ่งดวงดาวหรือไม่”
หลี่เทียนกล่าว จิตใจของเขาเปหลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
“มีการดำรงอยู่ที่ยิ่งใหญ่มากมายอาศัยอยู่ในจักรวาลนี้ พวกเขาแข็งแกร่งเทียบเท่ากับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ บางคนเรียกพวกเขาว่าราชาผู้ไม่ดับสูญ…”
สายตาของทั้งสามจับจ้องไปที่อีกปลายด้านหนึ่งของทุ่งดวงดาวซึ่งซากศพในต้นกำเนิดสวรรค์กำลังเคลื่อนตัวเข้าหาเส้นทางของพวกเขา สีหน้าของแต่ละคนเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
“สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นแข็งแกร่งอย่างยิ่ง พวกมันบางตัวเป็นสัตว์อสูรบางตัวก็เป็นเผ่าพันธุ์ลึกลับ” เอี๋ยนอี้ซีกล่าว
“นี่เป็นปัญหาใหญ่แล้ว”
หลี่เทียนพยักหน้าเห็นด้วย เขาเคยได้ยินตำนานโบราณเหล่านี้มาเช่นกัน
ในที่สุดเย่ฟ่านก็มีโอกาสได้เดินทางกลับบ้าน อย่างไรก็ตามการเดินทางบนเส้นทางนี้พวกเขากลับอ่อนแออย่างยิ่ง ในขณะนี้เย่ฟ่านตระหนักได้แล้วว่าต่อให้เขากลายเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะที่แท้จริงก็ยังยากที่จะเอาตัวรอดไปถึงโลกอำพรางสวรรค์ได้
“ให้ตายเถอะ ก่อนหน้านี้ข้ามีความขัดแย้งกับเรือรบทองแดงลำนั้น หากซากศพนี้มาจากเรือรบทองแดงจริงๆ พวกเราคงเผชิญกับภัยพิบัติอย่างแน่นอน”
บนเรือรบทองแดงมีสิ่งมีชีวิตอมตะอยู่มากมายนับไม่ถ้วน เย่ฟ่านไม่มีทางเชื่อว่าชายชราผู้บ้าคลั่งเพียงคนเดียวจะสามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตอมตะเหล่านั้นได้ทั้งหมด
สิ่งมีชีวิตอมตะมีความสามารถในการใช้ชีวิตอยู่ในจักรวาลนี้อย่างแน่นอน อย่างน้อยพวกที่อยู่ในเรือรบลำนั้นก็น่าจะมีชีวิตมานานหลายแสนปีแล้ว
และซากศพที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าหาพวกเขานั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันก็มาจากเรือรบทองแดงนั่นเอง!
บัญชีที่ชายชราผู้บ้าคลั่งสร้างขึ้น หลังจากที่ชายชราผู้บ้าคลั่งตายไปแล้วไม่ว่าอย่างไรความแค้นทั้งหมดก็ต้องถูกสุมมาที่ศีรษะของเขา
“พี่เย่ ทำไมหน้าเจ้าจึงเปลี่ยนเป็นสีเขียว?” หลี่เทียนกล่าว
“ก่อนหน้านี้ไม่นาน…”
เย่ฟานเล่าเบื้องหลังเหตุผลทุกอย่าง หลี่เทียนกัดฟันเล็กน้อยและกล่าวว่า “ทำไมข้าถึงต้องโชคร้ายอะไรแบบนี้”
“ไม่มีทางอื่นแล้วหรือ?” เอี๋ยนอี้ซีกล่าว
“ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย” เย่ฟ่านกล่าว
“วิธีใด?” หลี่เทียนถาม
“ทำลายศพโบราณนี้ซะ” เย่ฟ่านกล่าว
โดยไม่กล่าวอะไรสักคำ หลี่เทียนหยิบเตาหลอมเซียนออกมาและตั้งใจจะทำลายซากศพนั้น
“ช้าก่อน” เย่ฟ่านหยุดเขา
“เจ้าจะห้ามเพื่ออะไร ข้ากำลังเปิดทางหนี ทำลายซากศพนี้ซะ…”
“อาวุธครึ่งก้าวเต๋าสุดขั้วมีพลังมหาศาล หากใช้มันอาจทำให้เกิดการเบี่ยงเบนของเส้นทางและเราจะถูกเนรเทศอยู่ในจักรวาลอันมืดมิดนี้ชั่วนิรันดร์” เย่ฟ่านกล่าว
“ก็ดีกว่าต้องถูกมันฆ่าตายตอนนี้”
หลี่เทียนกรีดร้องและกระตุ้นเตาหลอมเซียนให้ตื่นขึ้น
“หากการเดินทางในเส้นทางดวงดาวโบราณถูกขัดจังหวะความเลวร้ายนั้นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะจินตนาการได้” เอี๋ยนอี้ซีเตือน
“แล้วพวกเราจะทำอย่างไร!”
หลี่เทียนเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง จากนั้นเขาก็ครุ่นคิดอย่างหนักและกล่าวว่า “ศิษย์พี่อาจารย์สาระเลวของเราดูเหมือนจะมีของสิ่งหนึ่งทิ้งไว้ให้ มันมีความเกี่ยวข้องกับเต๋ามิติอยู่บ้าง เจ้าลองหยิบออกมาดูหน่อยเป็นไร?”
จากนั้นศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสองก็เริ่มค้นทรัพย์สมบัติของตัวเองจนได้คัมภีร์สีเหลืองเล่มหนึ่งออกมา
“เจอแล้ว!”
พวกเขาทั้งสามรวมตัวกันเพื่อศึกษาคัมภีร์โบราณอย่างจริงจังในนั้นมีวิธีการสร้างประตูมิติขึ้นมา วิธีการค่อนข้างง่าย สิ่งที่ต้องทำเพียงแค่กระตุ้นเตาหลอมเซียนให้ทำลายความว่างเปล่าก็จะเปิดประตูมิติได้แล้ว
อย่างไรก็ตามหากพวกเขาสร้างประตูมิติขึ้นในเส้นทางนี้มันไม่แตกต่างอะไรจากการฆ่าตัวตายเช่นกัน เพราะมันจะทำให้พวกเขาหลุดออกจากแท่นบูชาห้าสีและติดอยู่ในจักรวาลอันมืดมิดตลอดไป
“ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งลงมือ รอจนกว่าเราจะเข้าใกล้ทุ่งดาวดาวหมีใหญ่แล้วจึงค่อยสร้างประตูมิติขึ้น ไม่อย่างนั้นหากติดอยู่ในจักรวาลอันมืดมิดเราคงทำได้เพียงฆ่าตัวตายเท่านั้น”
เย่ฟานเตือน เขาอยู่คนเดียวบนท้องฟ้าอันมืดมิดมาเจ็ดปี ความรู้สึกนั้นทำให้เขาเกิดความหวาดกลัวอย่างยิ่ง
ทั้งสามคนหันกลับไปมองซากศพที่กำลังไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่กี่วันข้างหน้าพวกมันจะตามพวกเขาทันอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ในที่สุดหลังจากผ่านไปสองวันเย่ฟ่านก็อุทานด้วยความตกใจ
“ข้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของตงหวง มันอยู่ในทุ่งดวงดาวหมีใหญ่!”
“ใช่ ข้าก็สัมผัสได้ถึงพลังชีวิตอันยิ่งใหญ่ของผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนเช่นกัน” เอี๋ยนอี้ซีพยักหน้า
หลี่เทียนถือเตาหลอมเซียนไว้ในมือ จากนั้นเขาก็ใช้มันทำลายความว่างเปล่าและเปิดอุโมงค์มิติขึ้นบนแท่นบูชาห้าสี
ชายหนุ่มทั้งสามคนไม่ลังเลอีกต่อไปพวกเขารีบกระโดดเข้าสู่อุโมงค์มิติอย่างรวดเร็ว
……….