ตอนที่แล้วบทที่ 8: คู่หมั้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 10: ชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่ชิ้นแรก (2)

บทที่ 9: ชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่ชิ้นแรก (1)


บทที่ 9: ชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่ชิ้นแรก (1)

เวลาปัจจุบัน: 16:25 น.

นักเรียนมากมายต่างกำลังพูดคุยกันถึงเรื่องที่พวกเขาจะทำอะไรกันในช่วงเวลาพัก

แน่นอนว่าบทสนทนาพวกนี้ไม่เกี่ยวกับฉันเลย

"...ดังนั้น การได้รับความไว้วางใจจากผู้ช่วยในฐานะฮีโร่จึงสำคัญมาก ฮีโร่คือหัวหน้า ส่วนผู้ช่วยคือแขนและขา พวกเธอต้องมีความสัมพันธ์แบบไว้ใจได้ในระดับนั้น เพราะในสถานการณ์ตึงเครียดที่ทุกคนต้องรวมพลังกัน หากศีรษะและแขนขาแยกจากกัน มันย่อมเป็นหายนะ"

การบรรยายสุดท้ายของสัปดาห์โดยอาจารย์มารีก็จบลงเช่นนี้

ตามที่คิดไว้ ฉันรู้เนื้อหาทั้งหมดแล้ว

ฉันจ้องไปที่นาฬิกาเพื่อที่รอให้การบรรยายสิ้นสุดลง

เมื่อหมดคาบแล้ว ฉันก็จะไปหาชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่ชิ้นแรก ซึ่งอยู่ในป่าตะวันออกของโรงเรียน

ฉันได้เตรียมอาหารและเครื่องมือเช่นไฟฉายไว้ในกระเป๋าของฉันแล้ว

มีรถเวียนไปที่ทางเข้าป่าตะวันออกเวลา 17.00 น.

ทว่าชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่นั้นอยู่ลึกเข้าไปในป่า ซึ่งรถม้าเข้าไม่ถึง จึงต้องใช้เวลาในการเดินทางไปมาทั้งวัน

ฉันจึงต้องไปรีบตุนท้องที่โรงอาหารก่อน

ขณะที่ฉันกำลังทบทวนแผนการในหัวของฉัน

"ก่อนที่เราจะจบการบรรยาย มาทดสอบกันว่าพวกเธอตั้งใจฟังกันหรือเปล่า หืม... ธีโอ ทำไมเธอไม่ตอบล่ะ?"

มารีเรียกฉัน

ฉันคิดไว้แล้วเชียว

ฉันคงรู้สึกเสียใจมากถ้าเธอไม่ถามฉัน

แต่ทำไมเธอถึงแกล้งทำเป็นคิดก่อนที่จะเรียกหาฉันกัน?

"ครับ"

ระยะหลังนี้ อาจารย์แทบทุกคนเรียกฉันระหว่างการบรรยายเพื่อถามคำถาม

มารีน่าจะเป็นตัวต้นเหตุ

เธอคงอยากที่จะจัดการฉันแบบไม่ทันตั้งตัว

แต่มันไม่มีทางที่จะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นหรอก

จนถึงตอนนี้ฉันตอบได้ทุกคำถาม

ด้วยเหตุนี้ สายตาของเพื่อนร่วมชั้นที่มองฉันจึงเริ่มน้อยลงบ้างแล้ว

แต่มารีถามคำถามที่ค่อนข้างยากพอสมควร

คำถามที่ไม่สามารถตอบได้ด้วยการท่องจำ ต้องใช้ข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์

มันจึงยิ่งทำให้ยังมีนักเรียนอีกหลายคนจ้องมาที่ฉันด้วยความอยากรู้

ดูเหมือนดวงตาของพวกเขากำลังอยากจะดูว่า 'คราวนี้ธีโอจะรู้หรือไม่รู้กันนะ'

แม้ว่าสายตาที่ดูถูกจะน้อยลงแล้ว แต่ชื่อเสียงก่อนหน้านี้ของฉันก็ยังคงแย่มาก

ทำให้มีคนมองฉันในแง่ลบอยู่พอสมควร

"...ผมเชื่อว่าภารกิจที่ปกติจะใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนสามารถลดลงเหลือประมาณหนึ่งสัปดาห์ได้ด้วยวิธีการนั้นครับ ซึ่งการทำเช่นนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องเผชิญหน้ากับพวกสัตว์ประหลาดแบบตัวต่อตัวด้วย"

ฉันกล่าวคำตอบของฉันอย่างมั่นใจ

มันถูกต้องอย่างไม่ต้องสงสัย

นั่นเป็นเพราะคำตอบของคำถามที่เธอถามมาคือกลยุทธ์ที่ฉันคิดค้นขึ้นเอง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ผู้พัฒนายอมรับว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาที่พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนด้วยซ้ำ

"..."

หลังจากที่ฉันตอบ ห้องเรียนก็เงียบไปครู่หนึ่ง

สายตาของนักเรียนดูเบื่อหน่ายกันมาก

ไม่นานมาริก็พยักหน้าและพูดว่า

"...ว้าว ฉันไม่รู้เลยว่าเธอจะเข้าใจมันได้ขนาดนั้น ฉันไม่เคยคิดเลยแม้แต่น้อยว่า...."

มารีผงกหัวหลายครั้ง ดูเหมือนจะประทับใจกับคำตอบของฉันจริงๆ จนถึงกับพึมพำว่า "อืม อืม"

นี่เธอกำลังต้องการหาเรื่องฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ?

ดวงตาของมารีเป็นประกาย ราวกับว่าเธอได้ค้นพบสิ่งประดิษฐ์ระดับสูงในดันเจี้ยนโดยไม่คาดคิด

“ธีโอ ฉันอยากฟังรายละเอียดเพิ่มเติมถึงวิธีการที่เธอพูดมา ถ้าเธอพอมีเวลา หลังเลิกเรียนมาคุยกับอาจารย์ได้ไหม?”

“ขอโทษด้วย ตารางงานของผมแน่นมาก คงไม่ได้ครับ”

ฉันปฏิเสธกลับไปอย่างมีชั้นเชิง

มารีเป็นฮีโร่ที่มีฝีมือและเป็นอาจารย์ที่อายุน้อยที่สุดในแผนกฮีโร่ การสร้างความสัมพันธ์กับเธออาจเป็นประโยชน์ในสักวันหนึ่ง

ทว่าการพูดคุยคงไม่จบลงสั้นๆ เพราะเธอเป็นอาจารย์สาวผู้กระหายการเรียนณู้

"งั้นก็แวะมาที่ออฟฟิศฉันได้ทุกเมื่อที่เธอมีเวลาว่างนะ ฉันจะอยู่ที่ออฟฟิศเสมอเลยถ้าไม่มีสอน"

แต่มารีไม่ยอมแพ้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะดูเกลียดเธอก็ตาม

ดูท่าแล้วธีโอคงจะเกลียดจนไม่อยากคุยกับเธอด้วยซ้ำ

คราวนี้สายตาของนักเรียนนับไม่ถ้วนจับจ้องมาที่ฉัน บางคนดูเหมือนจะคิดอะไรเลวร้ายอยู่ในหัวเป็นแน่

“ถ้าผมมีเวลา ผมจะไปหาครับ”

เมื่อได้ยินคำตอบของฉัน มารีก็ยิ้มกว้าง

"อืม ธีโอ อย่าลืมมานะ ส่วนคาบเรียนวันนี้ก็พอแค่นี้นะทุกคน ขอให้มีความสุขในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ล่ะ!"

เอี้ยดด—

มารีออกจากห้องเรียนไป

ในที่สุด การเรียนหนึ่งสัปดาห์ก็จบลง

“เจอกันสัปดาห์หน้า ธีโอ!”

น็อคต้าร์ ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ฉันบอกฉันว่าวันนี้เขาจะหยุดพักจากการฝึกซ้อม เนื่องจากมีเรื่องส่วนตัวบางอย่าง เขาออกจากห้องเรียนพร้อมกับเพื่อนออร์คของเขา

น็อคต้าร์ เป็นหัวหน้าของกลุ่มออร์ค ออร์คตัวอื่นก็โบกมือที่มาที่ฉันและกล่าวคำอำลา

"ระวังตัวด้วยนะทุกคน"

ฉันรีบเก็บของทันที

ยามนั้นเอง...

"ธีโอ"

นักเรียนหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาฉัน

เมื่อไม่นานมานี้เธอมองฉันแปลกๆ เธอมีผมสีเงินและดวงตาสีแดงเหมือนฉัน

คนผู้นี้คือไอชา ชื่อเต็มของเธอคือ ไอชา วันเดิร์ก ตามชื่อสกุล เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องห่างๆ ของธีโอและเป็นเด็กผู้หญิงวัยเดียวกันกับเขา

แม้ว่าเธอจะมีใบหน้าที่ไร้เดียงสา ซึ่งดูเหมือนไม่ทันโลก แต่เธอก็เป็นตัวละครประเภทซ่อนมีดไว้ที่หลัง พร้อมแว้งกัดได้ทุกเมื่อ

ไอชายิ้มและพูดว่า

"นายอยากทานอาหารเย็นด้วยกันไหม? ฉันจองร้านอาหารดีๆ ไว้ด้วยนะ"

วันนี้ไอชาปฏิเสธคำเชิญของเพื่อนร่วมชั้นที่จะออกไปเที่ยวกัน เพราะเธอต้องการจับตาดูลูกพี่ลูกน้องห่างๆ ของเธออย่าง ธีโอ ลิน วัลเดอร์ก

ตระกูลวัลเดอร์กมีชื่อเสียงอย่างมาก ไม่เพียงแต่ในจักรวรรดิเท่านั้น แต่ยังโด่งดังไปทั่วทั้งทวีปอีกด้วย ซึ่งแตกต่างจากไอชาที่มาจากตระกูลสาขาย่อยอของธีโอ

ทว่าธีโอที่มีสายเลือดอันสูงส่งกลับเป็นคนเกียจคร้านและไร้ความสามารถต่อตระกูลของเขา

...จนถึงตอนนี้

ช่วงนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นคนที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

เขาตอบคำถามที่แม้แต่เธอซึ่งเป็นนักเรียนอันดับต้นๆ ของชั้นเรียนก็ไม่รู้เรื่องในวิชาทฤษฎี

ยิ่งเขาตอบอาจารย์ได้มากเท่าไร เธอก็ยิ่งรู้สึกต่ำต้อยมากเท่านั้น

นอกจากนี้ เขาก็ไม่เคยทานอาหารในโรงอาหารของนักเรียนมาก่อน โดยอ้างว่าอาหารพวกนี้เหมาะแค่กับพวกคนธรรมดาสามัญเท่านั้น ทว่าทุกวันนี้เขากลับกินทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำที่นั่น

'มีบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอน'

ไอชาเฝ้าดูธีโอมาตั้งแต่ยังเด็ก

ในทุกการรวมตัวของสมาชิกในตระกูลทั้งสาขาหลักและสาขาย่อย เขาก็ไม่เคยล้มเลิกในการพิสูจน์ความสามารถของตัวเขาออกมาเลย

จนลูกหลานของตระกูลสาขาย่อยพูดลับหลังเรียกเขาว่าคนพิการกันถ้วนหน้า

ในบรรดาฮีโร่ทุกคน คนที่จู่ๆ เปลี่ยนนิสัยไปชั่วพริบตาเรียกว่าหายาก และธีโอยามนี้ก็อายุเพียง 16 ปีเช่นเดียวกับเธอ

รยุค ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปและเป็นอาจารย์ใหญ่คนแรกของโรงเรียนเอลิเนีย ก็มุ่งมั่นในการฝึกฝนเมื่อตนอายุ 18 ปี

'เขาคงปลุกพลังขึ้นมาได้'

มันเป็นคำอธิบายเดียวที่ทำให้ธีโอเปลี่ยนไปกลายเป็นนักเรียนตัวอย่างในชั่วข้ามคืน แม้ว่าจะเป็นไปได้ยาก แต่ก็มีบางกรณีที่คนบางคนปลุกพลังขึ้นมาช้า

ทว่าความรู้มากมายของเธอไม่สามารถรู้ถึงพลังที่เขาเพิ่งปลุกมาได้เลย

'ฉันต้องรีบรู้ให้เร็วที่สุด'

เป้าหมายของไอชาคือการเป็นหัวหน้าตระกูลวันเดอร์กคนต่อไป นั่นเป็นเหตุผลที่เธอแอบมีปฏิสัมพันธ์กับตระกูลสาขาย่อยมากมายมาเป็นเวลานาน

การสำเร็จการศึกษาจากสายฮีโร่ของโรงเรียนเอลิเนียก็เป็นข้อกำหนดขั้นต่ำในการเป็นหัวหน้าตระกูลวันเดอร์ก

หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเธอ ธีโอจะถูกไล่ออกอย่างช้าไม่เกินสองปี เด็กๆ ของตระกูลสาขาย่อยอื่นๆ ก็คงไม่สามารถแม้แต่จะเข้าสู่สายฮีโร่ได้

จากนั้น เธอก็จะอ้างสิทธิ์ในตำแหน่งหัวหน้าตระกูลคนต่อไป

มันเป็นโอกาสที่ดี เป็นฉากที่ถูกจัดมาเรียบร้อย ไม่มีแผนไหนที่ดีกว่านี้อีกแล้ว

...ถ้าธีโอไม่เปลี่ยนไปกะทันหัน

เธอจึงต้องสืบเรื่องเขา

"ธีโอ นายอยากทานอาหารเย็นร่วมกับฉันไหม? ฉันจองร้านอาหารดีๆ ไว้ล่ะ"

มันเป็นข้อเสนอที่เขาปฏิเสธไม่ได้เลย

เมื่อพิจารณาจากนิสัยของเขาแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาจงใจปฏิเสธข้อเสนอของศาสตราจารย์ก่อนหน้านี้ เพื่อกลั่นแกล้งศาสตราจารย์ที่เป็นสามัญชน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติสำหรับเขา

แม้ว่าเขาจะไม่เคยพูด แต่เห็นจากการที่เขาไปร่วมกินข้าวกับพวกออร์คที่เขาเกลียดหนักหนา คงเพราะเขาเองก็อยากจะพูดคุยกับคนอื่นเช่นกัน

ในอนาคตไอชาเองก็กลายเป็นหัวหน้าของตระกูลสาขารองไปโดยปริยาย ดังนั้นตามปกติ เขาจะต้องตอบรับคำเชิญของเธอแน่

“ไม่ ฉันมีธุระ ขอตัวก่อน”

แต่การคาดเดาของไอชากลับผิดไป

“บอกฉันได้ไหมว่านายจะไปไหนเหรอ?”

แม้จะงุนงง แต่ไอชาก็พยายามจัดการกับสีหน้าของเธอ

"มันเป็นเรื่องของตระกูล"

ธีโอหันหลังให้เธอ สะพายกระเป๋าไว้บนไหล่ เขาหันศีรษะเล็กน้อยและพูดต่อ

“ขอโทษที ฉันค่อนข้างยุ่ง ฉันต้องขอตัวไปแล้ว”

กล่าวเพียงเท่านี้

เขาก็รีบเดินออกไป

ไอชายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

".....เอ่อ"

ใบหน้าของไอชาแดงก่ำด้วยความกระอักกระอวน ไม่ใช่แค่ความอับอายที่ถูกปฏิเสธคำเชิญไปทานอาหาร

'เรื่องของตระกูล'

ไอชาที่เฉลียวฉลาดเข้าใจความหมายที่แท้จริงเบื้องหลังคำเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว

มันเป็นคำเตือน

เธอที่เป็นเพียงญาติห่างๆ ไม่จำเป็นต้องรู้

'หรือว่าจะ...'

เขารู้งั้นเหรอ?

เขารู้มากแค่ไหน?

เขารู้ว่าเธอกำลังคอยวางแผนกับคนในสาขารองงั้นเหรอ?

เหงื่อเย็นเหยียบไหลลงบนใบหน้าของเธอ

ไอชาจ้องมองที่ประตูที่ธีโอเดินออกไป พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

นี่มันแย่แล้วสิ

***

ฉันรีบไปที่ป้ายรถเมล์

ห้องบรรยายและป้ายรถเมล์อยู่ห่างกัน 20 นาที กว่าจะเดินไปถึงก็คงเป็นเวลา 16:42 น.

ถ้าฉันไม่ระวัง ฉันอาจพลาดรถรอบ 5 โมงเย็นได้ จึงต้องมาเผื่อก่อน 2-3 นาที

แม้ว่าไอ้เจ้านิสัยเฮงซวยของฉันจะถูกเปิดใช้งาน แต่ฉันไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว

ฉันเริ่มวิ่งออกไป

***

"แฮ่ก แฮ่ก...."

โชคดีที่ฉันสามารถขึ้นรถบัสรอบ 5 โมงเย็นได้

ครื้ด ครื้ด ─

เสียงท่อไอเสียที่เป็นเอกลักษณ์ดังขึ้น จากนั้นรถก็เริ่มออกตัว

การที่ไอชามาเชิญทานข้าวด้วย นั่นแสดงให้เห็นเป็นสัญญาณที่ดีเลย

ไอชาและมารีก็เหมือนกัน  หากอยากคุยด้วย เขาก็พร้อมคุยด้วยเสมอ

ทว่าเขาต้องรีบหาข้ออ้าง เนื่องจากต้องรีบไปหาชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่ให้เร็วที่สุด

'อาทิตย์หน้าไว้ไปกินข้าวด้วยกันแล้วกัน ครั้งนี้ฉันควรจะเป็นฝ่ายต้องชวนใช่ไหมนะ?'

ในเส้นทางต่างๆ ของงานต้นฉบับ ธีโอจะถูกฆ่าโดยไอชา เธอฆ่าเขาอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมโดยไม่ทำให้มือของเธอต้องสกปรกเลย

ไอรีนเองก็ฆ่าเขาในบางเส้นทาง ซึ่งแตกต่างจากของไอชา

เพราะไอรีนเป็นคู่หมั้นของเขา

ซึ่งเธอก็เกลียดเจ้าของร่างนี้มากราวกับโกรธมาแต่ชาติปางก่อน

สายตาของเธอเวลาเข้ามาใกล้เรียกว่าน่ากลัวยิ่ง

ฉันไม่สามารถสนิทกับเธอในช่วงสามปีครึ่งนี้ได้แน่ แถมเธอเองก็คงไม่อยากอยู่ใกล้ฉันด้วยซ้ำ

ทว่าในงานต้นฉบับ ไอชาจะสนับสนุนตัวเอกอย่างนีกี้อย่างต่อเนื่องเมื่อเธอได้กลายเป็นหัวหน้าตระกูลวันเดอร์ก

เธอไม่เพียงแค่มอบของมากมาย แต่เธอยังให้อำนาจของตระกูลวันเดอร์กอันทรงเกียรติอีกด้วย แน่นอนว่าไอชาเองก็ได้รับความช่วยเหลือจากนีกี้เช่นกัน

ถ้าฉันเรียนจบอย่างปลอดภัย ฉันคงจะได้กลายเป็นหัวหน้าตระกูล แต่ตำแหน่งนี้มีภาระมากเกินไปเมื่อเทียบกับผลประโยชน์ที่ได้รับมา

ขณะที่ฉันคิดในใจ รถบัสก็มาถึงป่าตะวันออก

***

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด