บทที่ 53 รับรางวัลของลิ่วซ่านเหมิน
บทที่ 53 รับรางวัลของลิ่วซ่านเหมิน
ดาบที่หนึ่ง ยึดสามจิต
ดาบที่สอง หกวิญญาณแตกกระจาย
ดาบที่สาม บดกระดูกจนเป็นเถ้า แล้วโยนทิ้งไป
นี่คือสามกระบวนท่า ที่มีชื่อเสียงของกวนซานเตา สี่มือปราบพญายมจึงไม่กล้าที่จะประมาทเลย
อู๋จิน ใช้ค้อนขนาดใหญ่
อู๋จี้ใช้แส้เหล็ก
เหลิงเสวียนใช้เลื่อย
สุดท้าย เจี๋ยชิงใช้กระบี่
ค้อนดุร้าย แส้เหล็กยืดหยุ่น เลื่อยใหญ่เหี้ยมโหด และกระบี่พลิ้วไหว
สี่มือปราบพญายมเรียนวรยุทธ์มาจากจูเก๋อเจิ้งเฉียง และฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ด้วยกันตั้งแต่เด็ก พวกเขาต่างคุ้นเคย และให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี
ทักษะสามดาบของกวนซานเตานั้น เปรียบได้กับเทพเจ้า แต่เมื่อเผชิญกับการปิดล้อมของสี่มือปราบพญายม เขาก็ไม่สามารถรับมือกับมันได้ และร่างกายของเขาก็เพิ่มรอยแผลขึ้นเรื่อย ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลื่อยยาวของเหลิงเสวียน ทันทีที่เลื่อยถูกร่างกายขึ้นมา เนื้อและเลือดทั้งหมดก็กระจาย แม้แต่กระดูก ก็แทบจะถูกเลื่อยเปิด
ทักษะสามดาบ หกดาบ เก้าดาบ เก้าสิบดาบ...
กวนซานเตาไม่ใช่กววนซานเตา(กวนสามดาบ) อีกต่อไป แต่กลายเป็นกวนไป๋เตา(กวนร้อยดาบ)
ใช้ดาบไปร้อยกระบวนท่า แต่มุมของเสื้อผ้าของสี่มือปราบพญายม ไม่ได้สัมผัสเลยแม้แต่น้อย
ในตอนนี้ เลือดกระฉูดทั่วร่างกวนซานเตา เขาเหวี่ยงดาบอย่างบ้าคลั่ง ดูราวกับหมาบ้าที่ไม่มีวันตาย
เรื่องคดีที่เกี่ยวข้องกับสำนักคุ้มภัยไฉเสิน ทั้งหมดชี้ไปที่กวนซานเดา
เพราะฉนั้น กวนซานเตาต้องไม่ตาย
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับดาบของกวนซานเตา สี่มือปราบพญายมไม่สามารถจับเป็นได้ชั่วขณะหนึ่ง
ในที่สุด กวนซานเตาก็ล้มลง เขาเสียเลือดมากเกินไปและกำลังจะตาย
สี่มือปราบพญายม รีบพาเขาไปที่ลิ่วซานเหมินพื่อรับการรักษา
ก่อนถึงลิ่วซานเหมิน กวนซานเตาก็หมดลมหายใจลงซะก่อน
หลังจากอ่านชีวิตของกวนซานเตาแล้ว หยางจิ่วรู้สึกว่าชายคนนี้เป็นลูกผู้ชาย แต่เขามันโง่มาก
กวนซานเดาอยู่คนเดียว ทำไมต้องแบกรับภาระทั้งหมด เขาจะได้ผลประโยชน์จากอะไร?
เป็นไปได้ไหมที่จะมีความซื่อสัตย์ชอบธรรม เหมือนกวนเอ้อ? (กวนเอ้อ ที่สองแซ่กวน ก็คือกวนอูนั่นเอง)
หยางจิ่วดึงห่วงเหล็ก แล้วเจ้าหน้าที่ตงฉ่าง ก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว
หยางจิ่วถาม: "ศพของลิ่วซ่านเหมิน ถูกส่งมายังสำนักตงฉ่างของเราได้อย่างไร?"
เจ้าหน้าที่ตงฉ่างทั้งสองสับสนเล็กน้อย หยางจิ่วรู้ได้อย่างไรว่าศพถูกส่งมาจากลิ่วซานเหมิน
"ใต้เท้า ช่างเย็บศพที่ลิ่วซ่านเหมินไ ม่สามารถเย็บศพที่มีแผลจำนวนมากขนาดนี้ได้ ทางนั้นจึงขอให้นำศพมาที่นี่" เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตอบด้วยความเคารพ
หยางจิ่วโบกมือให้ออกไปด้านนอก
เจ้าหน้าที่ทั้งสอง หามกวนซานเตาจากไป
ร่างของกวนซานเตา ต้องถูกส่งกลับไปที่ลิ่วซ่านเหมิน
【เย็บศพสามสิบเอ็ดศพ ให้รางวัลแก่โฮสต์ด้วยโอสถจงซินเกิงเกิง(โอสถซื่อสัตย์ภักดี) 】
มีโอสถสิบเม็ดในขวดโอสถจงซินเกิงเกิง ถ้าใครได้กินเข้าไป คนๆ นั้นจะภักดีต่อเจ้า ต่อให้เจ้าพูดสักคำ เขาก็จะส่งภรรยาของเขาไปที่เตียงของเจ้า
เสียดาย ถ้าเขาได้รับยาครอบจักรวาลเร็วกว่านี้ ฉีซือเจี่ยก็คงไม่ต้องตาย
กานซือซือคิดอยากมีชีวิตที่มั่นคงในเมืองฉางอัน ดังนั้นเขาจึงต้องหาทางทำลายสำนักของนาง
คิดดูซิ เนื่องจากเหล่าศิษย์หญิงต้องอุ่นเตียงของอาจารย์ในตอนกลางคืน แล้วให้ศิษย์หญิงใช้ผงยิ้มเก้ามรณะกับอาจารย์ของนาง แค่คิดก็เจ๋งเป็นบ้า!
เมื่อซือเจี๋ยของกานซือซือมาหาอีกครั้ง เขาจะทำเช่นนี้!
...
"ฝีมือของใต้เท่าหยาง นั้นเยี่ยมจริงๆ" เมื่อมองไปที่ร่างกายที่เย็บเรียบร้อยของกวนซานเตา เหลิงเสวียนก็ชมเชยไม่รู้จบ
เจี๋ยชิงถอนหายใจ : "ตอนนี้กวนซานเตาตายแล้ว และเงื่อนงำที่ชี้ไปที่กวนซานเตาก็หายไป คดีนี้กลับเข้าสู่ทางตันอีกครั้ง"
"จากสิ่งที่ข้ารู้เกี่ยวกับใต้เท้าของข้า ข้าเกรงว่าคดีนี้จะจบลงแล้ว" อู๋จินพิงกำแพง เล่นค้อนขนาดใหญ่ในมืออย่างกระวนกระวาย
อู๋จี้หัวเราะและพูดว่า: "ตำหนักกั๋วกงไม่อนุญาตให้มีการสอบสวน และสำนักคุ้มภัยไฉเสินก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ ดังนั้นคดีจะจบลง มันก็ช่วยไม่ได้"
ทั้งสี่กำลังคุยกันเมื่อจูเก๋อเจิ้งเฉียงเดินเข้ามาจากข้างนอก
เขาไม่ได้โทษคนทั้งสี่ที่สังหารกวนซานเตา แต่เขากำลังดูรอยแยกบนร่างกายของกวนซานเตา
"ท่านปู่สามเก่งเรื่องฝีมือจริงๆ ถ้าข้าไม่หยิ่งจนเกินไป ท่านปู่สามคงอยู่ที่ลิ่วซ่านเหมินของเราแล้ว และเราจะเย็บศพได้ โดยไม่ต้องง้อตงฉ่าง"จูเก๋อเจิ้งเฉียงเต็มไปด้วยความเสียดาย
เหลิงเสวียนแก้ไข : "ใต้เท้า ท่านปู่สามไม่ได้ผู้เย็บศพนี้ ใต้เท้าหยางเป็นคนเย็บ"
"ใต้เท้าหยาง?"จูเก๋อเจิ้งเฉียงขมวดคิ้ว
เจี๋ยชิงหัวเราะตอบ: "ก็คือหยางจิ่ว ช่างเย็บศพที่ร้านเย็บศพหมายเลขเก้า ในสำนักตงฉ่าง เขาเคยมาที่ลิ่วซานหมินของเรา และให้เบาะแสเกี่ยวกับปัญหาของสำนักคุ้มภัยไฉเสิน"
จูเก๋อเจิ้งเฉียงพยักหน้า เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทำไมช่างเย็บศพที่โดดเด่น ถึงชอบอยู่ที่ตงฉ่าง?
ในตอนนี้ ช่างเย็ยศพของตงฉ่าง ได้เข้าสู่ราชสำนักแล้ว และช่างเย็บศพระดับเทียนก็เทียบเท่าขุนนางขั้นหก ในอนาคต ช่างเย็บศพที่มีความสามารถ อาจจะเลือกไปที่สำนักตงฉ่างเท่านั้น
เว่ยจงเซียน สุนัขจิ้งจอกเฒ่าผู้นี้ ดูเหมือนจะต้องการผูกขาดธุรกิจเย็บศพในเมืองฉางอันจริงๆ
"ในตอนนี้เราพบว่าสำนักคุ้มภัยไฉเสิน เกี่ยวข้องกับกล่องเงินบรรเทาทุกข์อย่างแน่นอน รางวัลเงิน 1,000 ตำลึง ที่กล่าวถึงในประกาศในเวลานั้น ... " เจี๋ยชิงรู้สึกว่า ลิ่วซ่านเหมินต้องรักษาสัญญา
หยางจิ่วให้เบาะแสที่มีค่า แต่พวกเขาไม่เข้าใจเบาะแส เรื่องนี้พวกเขาได้แต่โทษตัวเองที่ไร้ความสามารถ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องให้รางวัลที่หยางจิ่วควรได้รับ
"เราเหลือเงินอยู่เท่าไหร่?"จูเก๋อเจิ้งเฉียงรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยเมื่อได้ยิน
เจี๋ยชิงเขาพูดอย่างไร้ความรู้สึก: "ยังมีอีก 1,000 ตำลึง"
"เจี๋ยชิง พรุ่งนี้เจ้าไปให้รางวัลแก่ใต้เท้าหยาง และตรวจสอบน้ำเสียงของเขาเพื่อดูว่า เขารู้อะไรอีกบ้าง?"จูเก๋อเจิ้งเฉียงหันหลังกลับ และออกไปหลังจากพูดจบ
หากไม่พบเบาะแสใหม่ คดีก็จะจบลง
ตอนนี้จักรพรรดิทรงประชวร และราชสำนักทั้งหมดอยู่ในมือของจักรพรรดินีอู๋ ส่วนรูปคดีทั้งหมดชี้ไปที่อู๋โหย่วต้า เป็นการดีที่เราจะทิ้งคดีนัเไป ไม่งั้นต่อให้มีร้อยหัว มันก็ไม่พอให้ตัด
วันถัดมา
เจี๋ยชิงนำตั๋วแลกเงืนมูลค่า 1,000 ตำลึงไปที่ร้านเย็บศพหมายเลขเก้า ในตงฉ่าง
ประตูร้านเย็บศพปิดแน่น ดังนั้นหยางจิ่วจึงยังคงหลับอยู่
ช่างเย็บศพจะเย็บศพในตอนกลางคืน และนอนหลับในตอนกลางวัน รูปแบบการทำงานและการพักผ่อนของพวกเขาแตกต่างจากคนทั่วไป
เจี๋ยชิงหันไปเห็นฝั่งตรงข้ามถนน มันมีร้านซาลาเปานึ่งด้วย ซึ่งดูแปลกตามาก
มีคิวยาวหน้าร้านซาลาเปา และธุรกิจกำลังเฟื่องฟู
เมื่อเจี๋ยชิงเห็นกานซือซือที่กำลังยุ่งอยู่ นางรู้ว่าคนในแถวนั้น ล้วนแต่มาเพราะกานซือซือ
หลังจากรอเป็นเวลานาน หยางจิ่วก็ยังไม่ตื่น นางคิดว่า นางยังมีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำ ดังนั้นนางจึงยกมือขึ้น และเคาะประตูอย่างสิ้นหวัง
"มานี่เลย ข้าไม่ได้กินซาลาเปาเนื้อบนตัวของเจ้า ทำไมเจ้าต้องกังวลด้วย" หยางจิ่วรีบเปิดประตูพร้อมกับหาว
แก้มของเจี๋ยชิงแดงระเรื่อเมื่อได้ยินสิ่งนี้
เมื่อเห็นว่าเป็นเจี๋ยชิงที่ยืนอยู่นอกประตู หยางจิ่วก็อายมากเช่นกัน เขาไอสองครั้งแล้วถามว่า "ใต้เท้าเจี๋ยชิง อะไรทำให้เจ้ามาที่นี่?"
"ใต้เท้าหยาง นี่คือเงินรางวัล" เจี๋ยชิงส่งตั๋วแลกเงินให้หยางจิ่ว
หยางจิ่วยอมรับมันอย่างตรงไปตรงมา ยัดตั๋วแลกเงินเข้าไปในอกของเขา และพูดด้วยรอยยิ้ม: "มันยังคงง่ายที่จะหาเงิน ใต้เท้าเจี๋ยชิง หากมีสิ่งดีเช่นนี้ที่ลิ่วซ่านเหมินในอนาคต โปรดอย่าลืมแจ้งให้ข้าทราบด้วย"
"ใต้เท้าหยาง พูดตามตรง เราพบว่าสำนักคุ้มกันภัยไฉเสินมีความเกี่ยวข้อง แต่จิ้งจอกชราเหล่านั้นกล่าวหากวนซานเต๋าที่ตายไปแล้ว ตอนนี้เงื่อนงำทั้งหมดถูกทำลาย ข้าสงสัยว่าสวรรค์อาจอยากให้เรายุติคดี?” เจี๋ยชิงพูดอย่างช่วยไม่ได้
แม้ว่าจะพบหลักฐานที่แท้จริงเพื่อเป็นพยานปรักปรำอู๋โหย่วต้าได้ อู๋โหย่วต้าจะถูกนำตัวไปที่ไฉ่ซิโข่วเพื่อตัดหัวจริง ๆ ได้งั้นหรืิอ?
(ไฉ่ซิโข่ว เป็นย่านในปักกิ่งที่ตั้งอยู่ในเขตซีเฉิง ส่วนหนึ่งของสถานที่นี้เรียกว่า Caishikou Execution Grounds ซึ่งเป็นที่ที่การลงโทษประหารชีวิต)
หยางจิ่วพูดด้วยรอยยิ้ม: "ใต้เท้าเจี๋ยชิง ข้าคิดว่าเป็นการดีที่จะจัดการให้ถึงที่สุด ท่านเป็นมือปราบที่ดี ถ้าท่านจับโจรได้มากขึ้น และทำลายคนพาลมากขึ้น ท่านก็ยังทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้นได้”
"คำพูดของใต้เท้าหยาง มีเหตุผล ข้าขอลาท่าน"เจี๋ยชิงประสานหมัดอย่าง นางหันหลังและจากไป
เว่ยอวี่เหยียนวิ่งมาหาทันที ยัดซาลาเปาให้หยางจิ่ว แล้ววิ่งกลับไปทำงาน
เมื่อคืนพวกเขาทำซาลาเปาไปเยอะ ดังนั้นพวกเขาน่าจะทำเงินได้มากมาย
หยางจิ่วกลับเข้าบ้านเพื่อล้างหน้า บ้วนปาก และนั่งกินซาลาเปาที่ประตู
ท่านปู่สามเพิ่งออกมาจากร้าน และเห็นว่าหยางจิ่วกำลังนั่งกินซาลาเปาอยู่ ดังนั้นเขาจึงเข้ามาคุยด้วย
"เด็กน้อยเจ้าสามารถเย็บห้าศพรวดในคืนเดียว เจ้ามีความสามารถมากทีเดียว" ท่านปู่สามได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสำเร็จของหยางจิ่วในตำหนักยมบาล เขายกนิ้วขึ้นและยกย่องอย่างมาก
หยางจิ่วพูดอย่างถ่อมตัว: "ข้าคือแมวตาบอดที่ได้พบหนูที่ตายแล้ว มันเป็นโชคจริงๆ ข้าจะเทียบกับท่านปู่สามได้อย่างไร"
"นั่นสิ...นั่นสิ...อือ….เจ้ายังมีจู๋ลานั่นอีกไหม?" ท่านปู่สามยิ้มอย่างร่าเริง และลดเสียงลงอย่างกะทันหัน