บทที่ 49 - การเดินทางผ่านห้วงอวกาศและโลกอันไม่คุ้นเคย
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 49 - การเดินทางผ่านห้วงอวกาศและโลกอันไม่คุ้นเคย
ด้วยเคลื่อนย้ายพริบตา เมื่อหลินเฉินปรากฏตัวอีกครั้งที่หน้าประตูกาลอวกาศ เวลาก็ผ่านไปเพียงครึ่งชั่วโมง
นี่ถือได้ว่าเป็นการใช้เคลื่อนย้ายพริบตาติดต่อกันหลายครั้งของหลินเฉินเลย
ดังนั้นหลังจากที่เขากลับมาที่นี่ หลินเฉินก็รู้สึกเหนื่อยแทบตาย จนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
หลังจากนั้นไม่นาน หลินเฉินก็มองไปที่ประตูกาลอวกาศ ซึ่งไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย
“ระบบ ตอนนี้ข้าสามารถกำหนดปลายทางของประตูกาลอวกาศได้หรือยัง?”
"ติ้ง! ขอตอบกลับผู้ใช้ โปรดยืนยันเส้นเวลาที่ท่านต้องการไป!”
“ถ้าอย่างนั้นข้าต้องการไปที่เส้นเวลาที่สามารถทำทางเลือกที่สามให้เสร็จสิ้นได้!”
ครู่ต่อมา หลินเฉินก็สัมผัสได้ถึงพลังที่พวยพุ่งออกมาจากร่างกายของเขาและกระแทกเข้ากับประตูกาลอวกาศ
ทันใดนั้นสีของประตูกาลอวกาศสีแดงโลหิตก็เริ่มเปลี่ยนไปจากสีแดงโลหิตเป็นสีน้ำเงิน
เมื่อสีของประตูกาลอวกาศเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้ม ระบบก็แจ้งเตือนว่า: "ติ้ง! จุดหมายปลายทางของประตูกาลอวกาศถูกตั้งค่าแล้ว โปรดข้ามไปโดยเร็วที่สุด!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเฉินก็กำลังจะจากไป แต่ทันใดนั้นเขานึกถึงอีกสิ่งหนึ่งขึ้นมาได้: “ว่าแต่เมื่อข้าไปแล้ว ข้าจะกลับมายังไง?”
เขาจะต้องรู้เรื่องนี้ให้ได้ก่อน
"ติ้ง! ขอตอบกลับผู้ใช้ หลังจากผ่านประตูกาลอวกาศแล้ว ท่านจะทิ้งพิกัดไว้ในที่จุดที่ท่านไปถึง หากผู้ใช้ต้องการกลับมา เพียงกลับไปยังสถานที่เดิม แต่หลังจากเปิดประตูกาลอวกาศอีกครั้งแล้ว มันจะหายไป ดังนั้นในครั้งถัดไป จำเป็นที่จะต้องใช้คะแนนเวลา"
แสดงว่าคะแนนเวลาคือตั๋วไปกลับที่สามารถใช้ได้แค่ครั้งเดียวสินะ?
เมื่อคิดเช่นนี้ หลินเฉินก็ไม่ลังเลอีกต่อไปและมุ่งหน้าไปที่ประตูกาลอวกาศ
…….
ที่ไหนสักแห่งในจักรวาล
ไม่อาจทราบเวลาได้
ในความอนธการอันไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต มันได้ปรากฏรอยแตกสีแดงโลหิตขึ้นในพื้นที่ที่ควรจะว่างเปล่า
รอยแตกยังคงกระจายออกไป และได้หยุดลงเมื่อมันกลายเป็นประตูมิติสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่เพียงพอสำหรับคนคนหนึ่งจะผ่านไปได้
ฟูบ!
จู่ๆ ร่างหนึ่งก็โผล่ออกมาจากมัน ทันใดนั้นประตูมิติด้านหลังของเขาที่เป็นรอยแตกก็เริ่มหดตัวลงอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตามันกลายเป็นทรงกลมสีแดงเลือดที่แทบจะไม่สามารถมองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า
“นี่คือจักรวาลคู่ขนานที่มีโบรลี่อีกคนสินะ?”
ร่างที่ปรากฏจากประตูมิติคือหลินเฉินที่เดินทางผ่านประตูกาลอวกาศ
เมื่อจ้องมองไปยังดวงดาวที่พร่างพราวรอบตัวเขา หลินเฉินก็เลิกคิ้วขึ้น จากนั้นเขาจึงใช้เคลื่อนย้ายพริบตาเพื่อมุ่งหน้าไปยังพิกัดของดาวเคราะห์เบจิต้าในความทรงจำของเขา
เมื่อมาถึงที่ตั้งของดาวเคราะห์เบจิต้าในจักรวาลของเขา ตามที่คาดไว้ หลินเฉินไม่พบดาวเคราะห์เบจิต้าในที่นี่ ซึ่งเป็นจุดที่เขาขอให้เทพเจ้ามังกรย้ายดาวมาไว้
บนจักรวาลเก่า ที่นี่จะต้องมีดาวเคราะห์เบจิต้าอยู่
“แสดงว่านี่เป็นอีกจักรวาลหนึ่งจริงๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นข้าควรไปหาโบรลี่ ข้าจำได้ว่าเขาอยู่ในกาแล็คซี่ใต้…”
ในความทรงจำของเขา ซูเปอร์ไซย่าในตำนานจะสร้างความหายนะในกาแล็คซี่ใต้
เรื่องนี้เดิมทีเป็นเนื้อเรื่องของดราก้อนบอลฉบับหนังโรงเรื่อง “ร้อนแรงสุดขั้ว ศึกระเบิดซูเปอร์ไซย่า”
เนื้อเรื่องบอกว่าก่อนที่ดาวเคราะห์เบจิต้าจะถูกทำลาย ราชาเบจิต้าพยายามฆ่าโบรลี่ เพราะเขากลัวว่าโบรลี่ ลูกชายของชาวไซย่าพารากัสจะเป็นอันตรายต่อเบจิต้า
ทว่าทั้งโบรลี่และพารากัสไม่ได้ตายลงไป พวกเขาอาศัยความแข็งแกร่งของโบรลี่ในการหลบหนีและมายังกาแล็คซี่ใต้
หลังจากนั้นพารากัสก็ใช้กำลังของโบรลี่เพื่อสร้างความหายนะในกาแล็คซี่ใต้และสร้างดาวเคราะห์เบจิต้าขึ้นมาใหม่ โดยตั้งใจที่จะแก้แค้นเบจิต้าและคนอื่นๆ
เนื่องจากระบบต้องการให้หลินเฉินปลดปล่อยกาแล็คซี่ใต้ที่ถูกควบคุมโดยซูเปอร์ไซย่าในตำนาน หลินเฉินจึงต้องไปที่กาแล็คซี่ใต้เพื่อค้นหาที่อยู่ของโบรลี่และพารากัส
หลินเฉินกลั้นหายใจและตั้งสติ แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ต้องชะงักไปชั่วขณะ
“แล้วกาแล็คซี่ใต้อยู่ที่ไหนกัน?”
แม้แต่ในโลกเดิมของหลินเฉิน เขาก็ไม่เคยไปยังกาแล็คซี่ใต้ ดังนั้นเขาคงไม่สามารถใช้เคลื่อนย้ายพริบตาได้ หากไม่รู้พิกัดปลายทางที่แน่นอน
เขาควรทำยังไงดี?
หลินเฉินได้แต่เกาศีรษะของเขา
จริงสิ!
วินาทีต่อมา เขาก็ทำการเคลื่อนย้ายพริบตาอีกครั้ง แต่คราวนี้จุดหมายปลายทางคือโลก
เขาจำได้ว่าพารากัสเดินทางไปยังโลก เพื่อต้องการที่จะแก้แค้นเบจิต้าในเรื่อง ถ้าเขามาถึงตรงเวลา เขาอาจจะพบกับพวกเขาก็ได้
ข้าสงสัยเหลือเกินว่าเส้นเวลาของโลกนี้ได้ไปถึงจุดที่ตอน “ร้อนแรงสุดขั้ว ศึกระเบิดซูเปอร์ไซย่า” เกิดขึ้นแล้วหรือยัง?
แต่ถึงมันยังไม่เกิด ก็ไม่สำคัญเลย เพราะหลินเฉินสามารถตามหาพระเจ้าของจักรวาลนี้และขอให้อีกฝ่ายพาเขาไปยังโลกอื่น เพื่อไปยังดาวเคราะห์ของไคโอเหนือได้ เมื่อถึงตอนนั้น เขาก็คงจะรู้ที่อยู่ของกาแล็คซี่ใต้แล้ว
พอเขาปรากฏตัวบนโลก หลินเฉินก็รู้ได้เลยว่าเนื้อเรื่องในตอนนี้อาจแตกต่างจากโลกของเขาไปหลายปี
หลินเฉินมักจะมาเมืองตะวันตกบ่อยครั้ง ในทุกครั้งที่หลินเฉินจะใช้เคลื่อนย้ายพริบตาเพื่อมายังโลก จุดหมายปลายทางแรกของเขาจะเป็นเมืองตะวันตกเสมอ
ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน
เพียงแต่เมื่อหลินเฉินปรากฏตัวขึ้นเหนือเมืองตะวันตก เขาก็พบว่าเมืองตะวันตกที่อยู่ใต้เท้าของเขานั้นเจริญรุ่งเรืองกว่าโลกเดิมของเขามาก
ในเมืองมีป้ายโฆษณาอีกมากมายที่เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน
ตัดสินจากสภาพแวดล้อมโดยรอบ เส้นเวลาของจักรวาลนี้น่าจะเร็วกว่าจักรวาลของเขาหลายปี เรื่องราวของดราก้อนบอลคงจะเริ่มขึ้นแล้ว
แต่เขายังไม่รู้เวลาแน่ชัดเนี่ยสิ...
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลินเฉินก็ขจัดความคิดทั้งหมดและกวาดประสาทสัมผัสของเขาส่งออร่าไปทั่วทั้งโลก ในไม่ช้า เขาก็สัมผัสได้ถึงออร่าที่ทรงพลังมากมาย
มีออร่าหลายดวง เห็นได้ชัดว่าเป็นของไซย่าและหนึ่งในนั้นเป็นคนที่เขาคุ้นเคยมาก
นั่นมัน...เบจิต้าเหรอ?
เส้นเวลาได้ปรากฏตัวบนโลกแล้ว แต่ยังไม่มีการต่อสู้กัน ถ้าอย่างนั้นคงเป็นเส้นเวลาหลังจากที่ฟรีเซอร์ได้พ่ายแพ้ไปแล้ว
แต่ตัวเขาก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าเนื้อเรื่องตอนนี้ได้ไปถึงจุด “ร้อนแรงสุดขั้ว ศึกระเบิดซูเปอร์ไซย่า” หรือยัง
เมื่อกำลังคิดอยู่ หลินเฉินก็ทำการเคลื่อนย้ายพริบตาและปรากฏตัวใกล้กับที่ซึ่งเบจิต้าอยู่
มันเป็นป่าซากุระ ทันทีที่หลินเฉินปรากฏตัวมา ทุกคนโดยรอบก็สัมผัสได้ถึงออร่าของเขา
"ผู้ใดกัน?"
ครู่ต่อมา หลินเฉินก็ได้ถูกล้อมรอบไปด้วยกลุ่มคนจำนวนมากมาย
เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยเหล่านี้ หลินเฉินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกคิดถึงมาก
เบจิต้า ทรังคซ์อนาคต ซุนโกฮัง ผู้เฒ่าเต่า บูลม่า อูลอนและอีกหลายคน
เวลาของจักรวาลนี้แตกต่างจากจักรวาลของเขาไปหลายปีจริงด้วย ถ้าทุกคนอยู่ที่นี่ แสดงว่ามนุษย์จักรกลโผล่มาแล้วเหรอ?
“คือว่า…สวัสดี!” หลินเฉินโบกมือให้กับกลุ่มคนและพูดออกมาพร้อมด้วยรอยยิ้ม
แต่คำทักทายของเขาไม่ได้ทำให้ผู้คนทั้งหลายที่นี่ลดความระแวงลงไปเลย
เบจิต้าจ้องไปที่หลินเฉิน ดวงตาของเขาชำเลืองมองไปที่ชุดเกราะต่อสู้บนร่างของหลินเฉินก่อน จากนั้นก็มองไปยังหางที่พันรอบเอวของหลินเฉิน จนต้องอุทานออกมา: “ชาวไซย่า? เจ้าเป็นชาวไซย่าหรือ?”
“ใช่ ข้าเป็นชาวไซย่า ข้าชื่อลิงค์ หรือเจ้าจะเรียกชื่อโลกของข้าอย่างหลินเฉินก็ได้”