บทที่ 47 - ทะลวงขีดจำกัดและการเตรียมการ
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 47 - ทะลวงขีดจำกัดและการเตรียมการ
“ตรงนี้ ตรงนี้ หมัดของเจ้าเงอะงะเกินไป”
“และตรงจุดนี้ เจ้ากำลังเคลื่อนไหวโดยไม่จำเป็น การโจมตีของเจ้าต้องมีประสิทธิภาพกว่านี้”
“จุดนี้และจุดนี้ ถือได้ว่าเจ้าคล่องแคล่วมาก แต่เจ้าควรจะยั้งพลังไว้ด้วยเมื่อโจมตี”
“ถ้าเจ้าโจมตีเช่นนี้ ก่อนที่ศัตรูจะตาย เจ้าจะทำให้พลังของเจ้าหมดลงไปก่อน”
“ควบคุมหัวใจของเจ้าและรับรู้การไหลเวียนของพลัง!”
ความแข็งแกร่งของมิสเตอร์โปโป้นั้นไม่อาจหยั่งรู้ได้จริงๆ
หลินเฉินไม่สามารถรับรู้ออร่าที่แข็งแกร่งจากเขาได้อย่างชัดเจน แต่หลินเฉิน ซึ่งอยู่ในสถานะซูเปอร์ไซย่ากลับไม่สามารถแม้แต่จะแตะต้องร่างกายของมิสเตอร์โปโป้ได้เลย
เมื่อมิสเตอร์โปโป้หลบการโจมตีของหลินเฉิน เขาก็ยังมีเวลาที่จะให้คำแนะนำในขณะที่สังเกตการเคลื่อนไหวของหลินเฉินอยู่
ความสงบนิ่งของอีกฝ่ายทำให้หลินเฉินแทบจะไร้ซึ่งความคิดไปแล้ว
จะทนได้สักแค่ไหนกันเชียว?
หลินเฉินกวาดขาของเขาออกมา แต่ก็ถูกมิสเตอร์โปโป้หลบได้อย่างง่ายดาย
ในขณะที่เขากำลังจะไล่ตามต่อ มิสเตอร์โปโป้ก็ยกมือขึ้นและพูดว่า “หลินเฉิน จิตใจของเจ้ากำลังยุ่งเหยิง หยุดสักครู่และปรับอารมณ์ของเจ้า”
หลินเฉินหอบหายใจขณะที่เขามองไปที่มิสเตอร์โปโป้และถามว่า “มิสเตอร์โปโป้ เจ้าเป็นใครกันแน่?”
“มิสเตอร์โปโป้แข็งแกร่งใช่ไหมล่ะ?”
หลินเฉินมองดูมิสเตอร์โปโป้และอดไม่ได้ที่จะใช้ความสามารถของระบบกับอีกฝ่าย
“ระบบ ระดับพลังของมิสเตอร์โปโป้คือเท่าไร?”
ในไม่ช้า หลินเฉินก็เห็นค่าสถานะของมิสเตอร์โปโป้
มิสเตอร์โปโป้
ระดับพลัง: 1000
1000?
ล้อกันเล่นหรือไง?
ด้วยระดับพลังมากกว่าหนึ่งล้านในสภาพปกติ เขาจะไม่สามารถต่อสู้กับตัวตนที่มีระดับพลังเพียง 1,000 ได้ยังไงกัน?
ในขณะนั้นเอง ได้มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในใจของหลินเฉิน
“มิสเตอร์โปโป้ เจ้าเป็นเทวดาหรือเปล่า?”
เทวดาคือตัวตนของผู้ยิ่งใหญ่ ข้ารับใช้ ศิษย์หรือผู้ดูแลของเทพเจ้าแห่งการทำลายล้าง
ความแข็งแกร่งที่มิสเตอร์โปโป้แสดงออกมา หลินเฉินคิดได้เพียงอย่างเดียวคือเขาเป็นเทวดา
ทว่าเมื่อมิสเตอร์โปโป้ได้ยินคำพูดของเขา สีหน้าของอีกฝ่ายก็ไม่เปลี่ยนไปเลย
"เทวดา? คืออะไรงั้นหรือ?"
เมื่อเห็นแบบนี้ หลินเฉินก็ไม่ได้ถามอะไรไปเพิ่มเติม
ถ้ามิสเตอร์โปโป้เป็นคนที่อยู่ในระดับเดียวกับเทวดาจริงๆ เขาต้องซ่อนความลับอะไรบางอย่างไว้แน่
ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของหลินเฉิน มันคงจะดีกว่าถ้าไม่ไปหาเรื่องอีกฝ่าย
จากนั้นด้วยคำแนะนำของมิสเตอร์โปโป้ หลินเฉินก็ปรับการควบคุมพลังของเขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่เขาจะสามารถควบคุมพลังและชำนาญมันมากขึ้น
เวลาได้พ้นไปอย่างรวดเร็ว
ในไม่ช้า มันก็เกือบจะเป็นเวลาหนึ่งปีแล้ว นับตั้งแต่ที่หลินเฉินได้อยู่ในห้องกาลเวลา
ในหนึ่งปี แม้ว่าระดับพลังของหลินเฉินจะไม่เติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่อารมณ์ของเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ภายนอก เวลาได้ผ่านไปเพียงวันเดียวนับตั้งแต่หลินเฉินเข้าสู่ห้องกาลเวลา
วังพระเจ้ายังคงสงบสุขเช่นเคย โบรลี่นั่งขัดสมาธิอยู่บนขอบของวังพระเจ้าพลางมองดูโลกเบื้องล่าง
นี่เป็นความสามารถที่มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถทำได้ แต่โบรลี่ก็ได้เรียนรู้มันแล้วในระหว่างที่อยู่ในวังพระเจ้า
เมื่อเขาเบื่อ เขาก็มักจะใช้ความสามารถนี้เพื่อสังเกตเบื้องล่างฆ่าเวลา
ทันใดนั้นสีหน้าของโบรลี่เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาลุกขึ้นยืนและพึมพำกับตัวเอง “พลังแบบนี้ เป็นของพี่ลิงค์ ออกมาแล้วงั้นเหรอ?”
ซึ่งก็เป็นไปตามที่เขาคิด ไม่นานนักหลินเฉินและมิสเตอร์โปโป้เดินออกจากทางเข้าวัง
หลังจากสัมผัสได้ถึงพลังของหลินเฉินพระเจ้าก็รีบวิ่งเข้ามาและอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า: “ความแข็งแกร่งของเจ้าไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก แต่พลังของเจ้าดูเฉียบแหลมขึ้นมากกว่าเดิม”
“ใช่แล้ว ทั้งหมดต้องขอบคุณมิสเตอร์โปโป้เลย”
หลังจากพูดเช่นนั้น หลินเฉินก็หันไปหามิสเตอร์โปโป้และโค้งคำนับให้เขา: “มิสเตอร์โปโป้ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำในหนึ่งปีนี้”
“เจ้ายังมีหนทางอีกยาวไกล อย่าลืมว่าความแข็งแกร่งไม่ใช่ทุกอย่าง” มิสเตอร์โปโป้กล่าว
"อืม"
หลินเฉินพยักหน้าและหลังจากบอกลากับโบรลี่ เขาก็ใช้เคลื่อนย้ายพริบตาและกลับไปยังดินแดนเบื้องล่าง เพื่อเตรียมการขั้นสุดท้ายก่อนจะจากไป
ในตอนนี้ แผงค่าสถานะของหลินเฉินได้เปลี่ยนไป
ผู้ใช้: หลินเฉิน
ระดับพลังงาน: 1.56 ล้าน
สายเลือด: สายเลือดซูเปอร์ไซย่าในตำนาน
ทักษะ: เคลื่อนย้ายพริบตา, พรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้ขั้นเริ่มต้น, ปลดพลังแฝงขั้นเริ่มต้น, การควบคุมพลังที่สมบูรณ์แบบ
วิชา: บอลทำลายล้างดวงดาว ลำแสงแห่งความตาย บอลสังหาร พลังคลื่นเต่า ท่าแยกร่างภาพลวงตา 2 ชั้น พลังคลื่นเต่าสะท้านฟ้า
ในหนึ่งปี นอกเหนือจากระดับพลังของเขาที่เพิ่มขึ้นเป็น 300,000 ทักษะที่หลินเฉินเพิ่มขึ้นมามีหนึ่งทักษะ ทักษะการควบคุมพลังก่อนหน้านี้ได้เปลี่ยนเป็นการควบคุมพลังสมบูรณ์
แม้ว่าจะมีเพียงคำเดียวที่เพิ่มขึ้นมา แต่หลินเฉินก็รู้ว่าเพียงคำเดียวนี้ก็เพิ่มความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาได้ถึง 30%
ตอนนี้ลูกแก้วมังกรของดาวเคราะห์นาเม็กเกือบจะสามารถใช้ได้แล้ว คงถึงเวลาที่เขาต้องเตรียมตัวไปทำภารกิจของระบบ
สาเหตุที่เขาต้องจัดการอะไรหลายอย่างมากขนาดนี้ เพราะเขากำลังจะไปยังจักรวาลคู่ขนานและเขาไม่รู้ว่าเขาจะอยู่ที่นั่นอีกนานแค่ไหน ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องมีหลายเรื่องให้จัดการ
ไม่ว่าจะเป็นไทต์และคนอื่นๆ หรือดาวเคราะห์เบจิต้า หลินเฉินก็ต้องเตรียมการล่วงหน้าไว้
เขาจัดทุกอย่างเสร็จสิ้นภายในเวลาสามวัน
ณ ดาวเคราะห์นาเม็ก เสียงคำรามอันบางเบาได้ดังขึ้น เมฆสีดำลอยมาจากขอบฟ้าและดาวเคราะห์นาเม็ก ซึ่งไม่มีเวลากลางคืนพลันมืดมิดไป
จากนั้นเอง ท่ามกลางเสียงฟ้าผ่าและฟ้าร้อง ร่างขนาดยักษ์ของเทพเจ้ามังกรโปรุนก้าก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
“ผู้ที่รวบรวมลูกแก้วมังกร จงบอกความปรารถนาของเจ้ามา!” เสียงของโปรุนก้าดังก้องทะลวงผ่านระหว่างสวรรค์และโลก
“เอาล่ะ หลินเฉิน บอกความปรารถนาของเจ้ามา” เนลพูดกับหลินเฉิน
หลินเฉินพยักหน้าและบอกพรที่เขาต้องการ: “ข้าอยากจะได้โลหะแห่งกาลเวลา!”
เมื่อเนลแปลคำพูดของหลินเฉิน โปรุนก้าก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพูดว่า “โลหะแห่งกาลเวลามีเพียงไคโอชินเท่านั้นที่จะสามารถใช้ได้ พวกเจ้าจะเอามันไปทำอะไร?”
“ข้ามีเรื่องที่ต้องใช้มัน เจ้าสามารถนำมันมาให้ข้าได้ไหม?” หลินเฉินตอบกลับไป
โปรุนก้าก็กล่าวเสียงดังว่า “ได้ แต่โลหะแห่งกาลเวลาเป็นของเทพเจ้า เพื่อให้ได้มันมา เจ้าต้องใช้ความปรารถนาทั้งหมดสามข้อ!”
“สามข้องั้นเหรอ? ได้อยู่แล้ว!”
หลินเฉินเรียกเทพเจ้ามังกรมาในครั้งนี้ด้วยสาเหตุเดียวคือ โลหะแห่งกาลเวลา ถ้าใช้พรสามข้อไปก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
ครู่ต่อมา ชิ้นส่วนโลหะเงินได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าหลินเฉิน
แม้ว่ามันจะดูไม่โดดเด่นอะไร แต่เมื่อหลินเฉินหยิบชิ้นส่วนโลหะนี้ขึ้นมา เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังแปลกๆ จากมัน
พลังนี้ค่อนข้างแปลก หลินเฉินไม่กล้าแตะต้องมันนานเกินไป ดังนั้นเขาจึงต้องการโยนโลหะเข้าไปในพื้นที่ระบบของเขา
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่โลหะแห่งกาลเวลากำลังจะเข้าสู่พื้นที่ของระบบ ทันใดนั้นมันก็ทะลุออกมา
โลหะแห่งกาลเวลาและพื้นที่ระบบของหลินเฉินกำลังต่อต้านกันอยู่!
เป็นเพราะพลังกาลอวกาศในโลหะนี้ไม่เข้ากับพื้นที่ของระบบงั้นเหรอ?
หลินเฉินคิดอยู่พักหนึ่ง แต่เขาก็ทำได้เพียงหยิบกล่องออกมาและใส่ชิ้นส่วนโลหะลงในกล่อง พร้อมกับถือไว้ในมือของเขา
“เนล ข้าจะต้องไปแล้ว คราวนี้ข้าคงไปไกลแสนไกล หากดาวเคราะห์นาเม็กมีเรื่องเร่งด่วน เจ้าสามารถติดต่อดาวเคราะห์เบจิต้าได้เลย”
หลังจากพูดเช่นนั้น หลินเฉินก็เคลื่อนย้ายพริบตาและออกจากดาวเคราะห์นาเม็กไป