บทที่ 43 - เทพพยากรณ์จักรวาล ซูโน่
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 43 - เทพพยากรณ์จักรวาล ซูโน่
ปัง!
เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงกรีดร้องของราชาโคลจากภายห้อง ผู้คุ้มกันที่อยู่ข้างนอกก็ไม่กล้าล่าช้าอีกต่อไป พวกเขาทุบประตูห้องจนเกิดคลื่นระเบิดทันที
“ราชาโคล!”
เมื่อพวกเขารีบเข้าไปในห้อง สิ่งที่พวกเขาเห็นคือราชาโคลที่กำลังยกร่างผู้คุ้มกันทรยศไว้ในมือ
หัวของผู้คุ้มกันคนนี้ถูกบิดไปด้านข้าง เห็นได้ชัดว่าตายไปแล้ว
“ราชาโคล ข-เขา…”
“ไอ้พวกไม่เอาไหน! เจ้าหมอนี้คือฆาตกรที่สร้างเรื่องทั้งหมด!” ราชาโคลโยนร่างลงบนพื้น: “ทำความสะอาดและเผาร่างของมันซะ!”
หลังจากพูดเช่นนั้น ราชาโคลก็เดินออกจากห้องไป
"ข...ขอรับ..."
คนดูแลทุกคนคุกเข่าลงกับพื้นและมองดูราชาโคลเดินจากไป
จากนั้นพวกเขาก็มองไปที่ศพบนพื้นและพูดออกมาดว้ยความสงสัย: “ชายคนนี้เป็นผู้คุ้มกันส่วนตัวของฝ่าบาท เขาจะกล้าโจมตีฝ่าบาทได้ยังไงกัน?”
“ข้าเองก็ไม่รู้สิ บางทีเขาอาจจะเป็นบ้ากระมัง? เขาเป็นผู้คุ้มกันส่วนตัวของเขาก็จริง แต่เขาไม่รู้เหรอว่าราชาโคลน่ากลัวแค่ไหน? ช่างโง่เขลาเสียนี่กระไร”
คนรับใช้พวกนี้ไม่รู้เลยว่าราชาโคลที่พวกเขากำลังพูดถึงกันอยู่นั้นเป็นศพที่กองอยู่กับพื้นต่างหาก
ส่วนคนที่เพิ่งเดินออกมาคือกินิวที่ได้ครอบครองร่างของราชาโคลไปแล้ว!
เมื่อกินิวกลับไปที่ห้องส่วนตัวของราชาโคล เขาก็ปิดประตูลงไปและอดไม่ได้ที่จะต้องหัวเราะออกมา: "ฮ่าฮ่าฮ่า! พลัง! ข้าสัมผัสได้ถึงพลัง!”
“นี่คือร่างของเผ่าปีศาจน้ำแข็งงั้นเหรอ? พลังในร่างกายนี้กำลังพลุ่งพล่านและล้นทะลัก ราวกับกำลังจะระเบิดออกมา!”
"แต่เดี๋ยวก่อน! เผ่าปีศาจน้ำแข็งสามารถแปลงร่างได้! ราชาโคลก็เหมือนกับฟรีเซอร์ที่กดพลังของตนเองไว้ตลอด! ถ้าข้าแปลงร่าง เช่นนี้ไม่ใช่ว่าข้าจะเหนือกว่าทุกคนแล้วเหรอ?”
ทันใดนั้น กินิวก็กลับมาสงบลง: “ไม่สิ…ข้ายังไม่อาจอยู่ยงคงกระพันเหนือกว่าทุกคน แม้ว่าข้าจะแปลงร่างเป็นร่างสุดท้าย ข้าก็เกรงว่าข้าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซูเปอร์ไซย่า…ต้องแข็งแกร่งขึ้น! ข้ายังต้องแข็งแกร่งขึ้น! ข้าควรฝึกฝนร่างกายนี้ต่อไป มันยังมีศักยภาพอีกมากที่ข้าจะสามารถพัฒนาได้!”
"ใช่แล้ว! ลูกแก้วมังกรพวกนั้น! ข้าจะใช้พวกมันเพื่อมีชีวิตอยู่ตลอดไป ตราบเท่าที่ข้าสามารถมีชีวิตอยู่ตลอดไป อีกทั้งร่างของเผ่าปีศาจน้ำแข็งตนนี้! ข้าหัวหน้ากินิวจะครอบครองจักรวาลทั้งหมด!”
“รอก่อนเถอะชาวไซย่า! เมื่อข้าก้าวข้ามขีดจำกัดของเผ่าปีศาจน้ำแข็ง ข้าจะตามล่าเจ้า! จักรพรรดิที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาลหาใช่ฟรีเซอร์หรือเจ้าชาวไซย่า แต่เป็นตัวข้ากินิวผู้นี้ต่างหาก!”
…….
"จาโก้! ซูโน่รู้ทุกอย่างจริงๆ งั้นเหรอ?”
"ใช่แล้ว! ท่านซูโน่น่ะเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในจักรวาลแล้ว! ความรู้ของเขาอาจยิ่งใหญ่กว่าเทพเจ้ามังกรของเจ้าเสียอีก!”
จาโก้กล่าวขณะขับยานอวกาศ
ในเวลานี้ หลินเฉินและไทต์กำลังอยู่บนยานอวกาศของจาโก้
เป้าหมายของพวกเขาคือดาวเคราะห์ลึกลับที่ไหนสักแห่งในจักรวาล
บนดาวดวงนี้มีบุคคลลึกลับชื่อซูโน่อยู่
จากความทรงจำของหลินเฉิน ซูโน่คนนี้เป็นบุคคลลึกลับที่รู้ทุกอย่างในจักรวาล
ส่วนเหตุผลที่เขากำลังตามหาซูโน่ ก็เพื่อหาวิธีเดินทางไปยังจักรวาลคู่ขนาน
หลังจากกลับมาที่โลก หลินเฉินก็ขอให้ไทต์ติดต่อจาโก้ให้เขา
แม้ว่าเขาจะมีเคลื่อนย้ายพริบตา แต่เขาก็ไม่รู้ตำแหน่งของดาวเคราะห์ของซูโน่ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงให้จาโก้กำนางไปเท่านั้น
ส่วนไทต์ หลังจากนางได้ยินเรื่องของซูโน่ นางก็อยากไปหาเขาด้วยเช่นกัน
มันจะมีอะไรน่าสนใจไปมากกว่ามนุษย์ต่างดาวผู้รอบรู้กันล่ะ?
เดิมทีบูลม่าก็คร่ำครวญอยากจะมาด้วย แต่หลินเฉินรู้เจตนาแท้จริงของเด็กสาวตัวน้อย เขาจึงปฏิเสธออกไป
ดาวเคราะห์ของซูโน่อยู่ห่างจากโลกค่อนข้างไกล ทำให้พวกเขาใช้ยานบินมากว่าชั่วโมงแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มหมดความอดทน
“จาโก้ ต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนกว่าจะถึงเนี่ย?” ไทต์ถามออกมาด้วยความรู้สึกเบื่อ
“อีกสองชั่วโมงกระมัง?” จาโก้ประมาณการณ์
"อะไรนะ? สองชั่วโมงงั้นเหรอ? ยานอวกาศของเจ้าช้าเกินไปแล้ว! เคลื่อนย้ายพริบตาของหลินเฉินสะดวกกว่าตั้งเยอะ...”
เมื่อได้ยินคำพูดของไทต์ จาโก้ก็รู้สึกไม่พอใจนัก: "พูดก็พูดเถอะ! ยานอวกาศลำนี้ข้าน่ะได้รับรางวัลจากราชาแห่งกาแล็กซี่มา เพราะข้าได้เข้าร่วมต่อสู้บนดาวเคราะห์ติ๋ว! ข้าแลกชีวิตของข้ากับมันเชียวนะ!”
"อา? ดาวเคราะห์ติ๋วเหรอ? ข้าเองก็ได้ยินเรื่องนี้จากหลินเฉิน…แล้วจาโก้ ตอนนั้นเจ้าตายเหรอ? นี่ นี่ โลกหลังความตายเป็นยังไงบ้าง? บอกข้ามาทีได้ไหม?” ไทต์ถามด้วยความสงสัย
"ข้าไม่รู้!" จาโก้หันหน้ากลับที่แท่นบังคับและตอบกลับไป
ไทต์รีบคว้าไหล่ของเขาและถามว่า “เถอะน่า? อย่าใจแคบหน่อเลย บอกข้ามาเถอะ ข้าจะได้เอามันไปแต่งในนวนิยายของข้าได้”
จาโก้จึงถามออกมาด้วยความสงสัยว่า: "นวนิยายเรื่องใหม่งั้นเหรอ? เรื่อง ‘สายตรวจอวกาศจาโก้’ เขียนเสร็จแล้วใช่ไหม?”
“ข้าเขียนเสร็จแล้ว” ตอนนี้หนังสือภาคต่อเล่มใหม่ที่ข้าเขียนมีชื่อว่า ‘แฟนหนุ่มไซย่าของข้า' มันขายดีเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาหนังสือเล่มใหม่เลยนะ ขายดีกว่า ‘สายตรวจจักรวาล จาโก้’ มากด้วย”
"ฮึ! ถ้าอย่างนั้นข้าจะไม่พูดแล้ว” จาโคหันหน้ากลับไปอีกครั้งและทำหน้ามุ่ย
ขณะที่ทั้งสองคนพูดคุยกัน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงดาวเคราะห์ของซูโน่
เช่นเดียวกับซูโน่ ดาวเคราะห์ของเขาก็ค่อนข้างลึกลับเช่นกัน
ดาวเคราะห์ดวงนี้ไม่ใหญ่มากนัก มีขนาดใหญ่กว่าดาวเคราะห์ของไคโอเพียงไม่กี่เท่า และดูเหมือนจะเป็นดาวเคราะห์ที่ห่อหุ้มด้วยกล่องไม้ขนาดใหญ่
พื้นผิวของดาวเคราะห์มีสีสันมาก ทว่ามีเพียงวังของซูโน่ที่อยู่บนนั้น
พระราชวังของซูโน่เต็มไปด้วยของทรงญี่ปุ่น แต่มีบันไดเลื่อนขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าพระราชวัง ซึ่งทำให้ทั้งพระราชวังส่งความรู้สึกแปลกๆ ออกมา
ทั้งสามคนขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ทางเดินพระราชวังและเห็นคิวยาวเหยียดอยู่ตรงหน้าพวกเขา
ทันทีที่ทั้งสามคนหยุดเดิน เอเลี่ยนหลายตัวที่ดูเหมือนซามูไรก็เดินเข้ามาพร้อมกับถือสมุดบันทึกเล่มเล็กไว้ในมือ
เมื่อเห็นซามูไรพวกนี้ ไทต์ก็ถามออกมาว่า “หือ? คนพวกนี้ดูแปลกมาก คนที่ชื่อซูโน่ใช่หนึ่งในคนพวกนี้หรือเปล่า?”
“พวกเราไม่ใช่ท่านซูโน่! เราเป็นข้ารับใช้ที่รับใช้นายท่านซูโน่!”
มนุษย์ต่างดาวซามูไรพูดพร้อมเพรียงกัน
จากนั้นพวกเขาก็ล้อมรอบหลินเฉินและคนอื่นๆ: “ท่านซูโน่กล่าวว่าจะมีผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญมา ดังนั้นเราจึงมาที่นี่เพื่อตรวจสอบ”
“ผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญเหรอ?” ไทต์รู้สึกสงสัย
“ใช่แล้ว ท่านซูโน่จะไม่พบกับใครที่ไม่ได้นัดหมาย” หนึ่งในผู้ดูแลกล่าว
"หา? จาโก้! ทำไมเจ้าไม่บอกเราก่อนล่ะเนี่ย?” ไทต์ด่าทอจาโก้ด้วยความโกรธ หลังจากบินมาสองสามชั่วโมง จะไม่ได้พบกับคนที่พวกเขาต้องการมาหาเนี่ยนะ ไม่ว่าใครที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ย่อมต้องโกรธมากอย่างแน่นอน
จาโก้เองก็ชะงักไปแล้ว เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เขามาที่ดาวเคราะห์ของซูโน่ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้เรื่องกฎแบบนี้เลย
ในยามนั้นเอง คนดูแลได้เปิดสมุดบันทึกเล่มเล็กในมือของเขาและพูดว่า “ถ้าเจ้านัดหมายตอนนี้ เจ้าต้องรออีกห้าปี ว่ายังไงล่ะ? พวกเจ้าอยากจะนัดหมายไว้ก่อนไหม?”
"ห้าปีเหรอ?"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ จาโก้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดด้วยความกระอักกระอ่วนว่า: “นี่…ข้าคือหน่วยสายตรวจอวกาศ เจ้าพอจะมีข้อยกเว้นให้ได้บ้างหรือเปล่า?”
"ไม่ได้!" คนดูแลของซูโน่ปฏิเสธโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย