นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 152 - อุปกรณ์ 1 ชิ้น ชิปโปรแกรม 2 อัน และทองคำ 1 แท่ง
“เอพริลหยุดก่อน! ปล่อยให้ฉันจัดการเอง” เสียงของเฟอร์กัสดังขึ้นมาอย่างอ่อนโยน มือของตบบ่าของเอพริลเพื่อสงบสติอารมณ์ของเธอเบา ๆ
หลังจากนั้น เขาค่อย ๆ หันหน้ากลับมามองดูเดวิดที่ยังยืนยิ้มอยู่กับที่ ไม่มีทีท่าว่าจะขยับตัวแม้แต่นิดเดียว นี่ทำให้เฟอร์กัสต้องถอนหายใจออกมาเบา ๆ แล้วเอ่ยปากเสียงเรียบ “หวังว่านายคงจะเล่นสนุกพอแล้วนะ!”
ท่าทางที่ใจเย็นของเขาทำให้เดวิดต้องเม้มปาก ก่อนจะหัวเราะออกมาเบา ๆ สายตามองกวาดไปที่สมาชิกของฝ่ายตรงข้ามทุกคน “ดูเหมือนว่านายจะยังเชื่อใจฉันอยู่นะ น่าแปลกใจจริง ๆ พวกเราแทบจะไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ!” มันเป็นคำถามที่เขาสงสัยมาตั้งแต่ต้นแล้ว
เฟอร์กัสแค่ยักไหล่อย่างไม่สนใจอะไรนัก “พวกเราก็เป็นอย่างนี้นี่แหละ แล้วอีกอย่างหนึ่ง นายก็ไม่สามารถทำอะไรมากได้อยู่แล้ว อย่างมากก็หนีไปพร้อมกับกล่องใส่อุปกรณ์นั่นเท่านั้น หรือว่านายคิดว่าตัวเองจะจัดการกับพวกเราทั้ง 5 คนได้ทั้งหมดล่ะ?” ระหว่างที่พูด มือของเขายังลูบหัวเพื่อปลอบโยนเอพริลอยู่ตลอดเวลา
เดวิดได้แต่กลอกตาไปมากับคำตอบที่ได้รับ ก่อนจะตัดสินใจปลดกระเป้าเป้ใบใหม่ล่าสุดออกมาจากหลังของตัวเองในที่สุด และโยนมันลงไปที่พื้นอย่างง่าย ๆ พร้อมกับถอยหลังออกมา 2-3 ก้าวและผายมือ
“เชิญรับชมได้ตามสบายเลย” เสียงของเขายังคงยียวนอยู่เล็กน้อย
เป็นโคลเวอร์ที่ระงับความตื่นเต้นของตัวเองเอาไว้แทบไม่ไหว ถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งอก พร้อมกับขยับตัวเข้าหากระเป๋าเป้อย่างรวดเร็ว และรีบเปิดมันออกโดยไม่รอฟังความเห็นของใครทั้งนั้น
“โอ้ว!! มันมีอุปกรณ์อยู่ 1 ชิ้น อืม? ไมโครชิพโปรแกรมอะไรสักอย่าง 2 อัน แล้วก็อะไรก็ไม่รู้อีกก้อนหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่ามันจะทำมาจากทองนะ” เขาอุทานออกมาอย่างเก็บความตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่ ค่อย ๆ ขานรายการของที่อยู่ในกระเป๋าเป้ออกมาทีละอย่าง ก่อนที่ประโยคสุดท้ายจะเต็มไปด้วยความสับสน นี่มันไม่ได้ต่างจากตอนที่เดวิดพบว่าในกล่องอุปกรณ์สีเงินมีทองใส่อยู่เท่าไรนัก
ของที่อยู่ในกระเป๋าถูกนำออกมาวางอยู่ด้านนอกให้เห็นชัด ๆ แล้ว อุปกรณ์ไฮเทค 1 ชิ้นที่เขาพูดถึง มีลักษณะเป็นรองเท้าบูทขนาดใหญ่ ไม่สิ! ไม่ใช่รองเท้าแน่ ถ้ารองเท้าใหญ่ขนาดนี้ คนใส่ต้องมีขนาดตัวใหญ่ขนาดไหนกัน?
และโคลเวอร์แบมือโชว์ชิปซิลิคอนขนาดประมาณเล็บมือที่วางอยู่บนนั้นให้ทุกคนเห็นอย่างชัด ๆ นี่น่าจะเป็นไมโครชิฟที่เขากล่าวถึงนั่นเอง
“หวา!!! น-นี่ นี่มันชุดอุปกรณ์สกายวอคเกอร์ใช่มั้ย?” เขาตื่นเต้นจนลืมหยิบของอีกชิ้นออกมาไปเลย
ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้นที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก สมาชิกคนอื่น ๆ ก็ตาเป็นประกายกันหมดทุกคน รวมถึงตัวของเดวิดเองด้วย นี่เป็นเรื่องที่สามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยากนัก เพราะมูลค่าของชุดอุปกรณ์สกายวอคเกอร์นั้นสูงอย่างน่าเหลือเชื่อ รุ่นที่มีคุณภาพต่ำที่สุด ก็ต้องใช้คะแนนจีโนมากกว่า 10,000 คะแนนเพื่อแลกมันมาจากสถาบันอย่างถูกต้องแล้ว
และชุดสกายวอคเกอร์ที่อยู่โคลเวอร์หยิบออกมา มันไม่ใช่รุ่นที่มีคุณภาพต่ำสุดอย่างแน่นอน เท่าที่ดูจากลักษณะภายนอก อย่างน้อย ๆ มันต้องเป็นรุ่นที่อยู่ในระดับกลาง ๆ แน่ มูลค่าของมันจะยิ่งสูงมากขึ้นไปอีกแน่
ไม่มีใครยืนอยู่นิ่ง ๆ ได้แล้ว ทุกคนต่างขยับเข้าไปชื่นชมกับอุปกรณ์ชิ้นนี้อย่างใกล้ชิด ไม่มีใครสนใจกับไมโครชิฟ หรือทองคำอะไรที่ยังอยู่ในกระเป๋าเป้เลย จนเมื่อผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง เฟอร์กัสก็หยิบอุปกรณ์ที่รูปร่างเหมือนกับรองเท้านั่นมาถือเอาไว้ในมือ ก่อนที่จะเอ่ยออกมาอย่างลังเลเล็กน้อย “ฉันหวังว่าคงจะไม่มีใครไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจใช่มั้ย?” อย่างคาดไม่ถึง เขายื่นอุปกรณ์ชุดสกายวอคเกอร์ชิ้นนั้นให้แก่เดวิด!
คำพูดที่เขากล่าวออกมา ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเหมือนกับคำถาม แต่เจตนาของเขานั้นชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง และสีหน้าของเห็นได้ชัดว่าไม่ยอมรับการโต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น แม้แค่โคลเวอร์ก็ได้แต่หุบปากอยู่เงียบ ๆ เท่านั้น
ดวงตาของเดวิดเป็นประกายวาบออกมา ยื่นมือออกไปรับอุปกรณ์ชิ้นนั้นเอามาถือไว้ในมือ สายตากวาดมองไปทั่ว ๆ เพื่อหาจุดที่ใช้สแกนป้ายประจำตัวเพื่อเชื่อมโยงมันให้เป็นของตัวเองอย่างสมบูรณ์ ระหว่างนั้น เขาเริ่มรู้สึกแปลก ๆ ในหัวใจขึ้นมาเล็กน้อย
และนั่นทำให้เดวิดต้องหายใจแรงขึ้นอย่างลังเล กลอกตาไปมาพร้อมกับสาปแช่งสามัญสำนึกของตัวเองอยู่ในใจ เขาสงสัยว่าทำไมมันถึงไม่ยอมหายไปให้หมดตอนที่โผล่มายังโลกนี้ ที่นี่ไม่ใช่โลกที่จะทำตัวเป็นคนดีมีน้ำใจเลย
แต่ในท้ายที่สุด เดวิดก็หยุดค้นหา เขายืนมองสิ่งที่เหมือนกับรองเท้าที่อยู่ในมือนิ่ง ท่ามกลางสายตาที่มองเข้ามาอย่างสงสัยของนักเรียนทั้ง 5 คนนั้น ก่อนจะตัดสินใจยื่นมันกลับไปให้เฟอร์กัส “เอาเถอะ! ในเมื่อนายเกือบจะต้องตายเพราะมันไปแล้ว ฉันคงต้องยอมรับตามตรง แม้ว่าจะไม่จำเป็นเท่าไร แต่นายก็เกือบตายเพราะต้องการป้องกันการโจมตีให้ฉัน เอพริลไม่ได้พูดผิดมากนักหรอก และฉันคงไม่สบายใจที่จะรับมันเอาไว้ ฉันไม่ได้ลงแรงไปมากเท่าไรนักเลย”
ระหว่างที่พูดอธิบายออกมา สีหน้าของเดวิดนั้นดูเรียบเฉย แต่ทุกคนกลับมองเขาอย่างไม่เข้าใจนัก นั่นเป็นเพราะว่าแม้มือจะยื่นของคืนให้เฟอร์กัสแล้ว มือของเขาเหมือนจะไม่ยอมปล่อยออกง่าย ๆ เลย
หลังจากที่ออกแรงดึงชุดสกายวอคเกอร์กลับมาถือเอาไว้ได้แล้ว เฟอร์กัสก็ยิ้มกว้างออกมา “เห็นมั้ย? ดูเหมือนว่าฉันจะไม่ได้เชื่อใจคนผิดไปนะคราวนี้? และเพื่อไม่ให้นายเสียน้ำใจ ฉันตกลงที่จะรับอุปกรณ์ชิ้นนี้เอาไว้อย่างเต็มใจ” ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใช่คนที่ซื่อตรงเท่าไรนักเลย เฟอร์กัสไม่มีอิดออดหรือคะยั้นคะยอให้เดวิดรับเอาไว้แม้แต่น้อย เขารีบรับมันเอาไว้ทันที ราวกับกลัวว่าเดวิดจะเปลี่ยนใจ
ซึ่งมันก็ทำให้เดวิดอึ้งไปเล็กน้อย อันที่จริงแล้วเขาคาดหวังที่จะเห็นเฟอร์กัสปฏิเสธที่จะรับมันไว้ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหมอนี่จะหน้าด้านกว่าที่คิด นั่นทำให้เขากัดฟันของตัวเองอย่างเสียดาย ถ้ารู้อย่างนี้ เขาจะเก็บมันเอาไว้เอง ไม่ยอมยื่นอ้อยเข้าปากช้างแบบนี้แน่
แต่ในเมื่อมันแก้ไขอะไรไม่ได้ เขาก็ได้แต่เอ่ยถามถึงของอย่างอื่น “แล้วชิป 2 อันนี่เอาไว้ใช้ทำอะไร?”
โคลเวอร์ที่ยังตกอยู่ในสภาพซึมเศร้า เพราะดูท่าแล้วเขาคงจะไม่ได้ครอบครองชุดสกายวอคเกอร์ที่หรูหรานี่แน่ รีบใช้ AI ส่วนตัวสแกนดูข้อมูลในชิปทันที
“อันหนึ่งเป็นโปรแกรมตรวจจับคลื่นเสียง มันใช้ดักฟังเสียงจากระยะไกลได้ แต่ดูเหมือนว่าจะใช้ได้ครั้งละไม่นานนัก อีกอันก็คล้าย ๆ กัน มันเป็นโปรแกรมที่เอาไว้ใช้ตรวจจับคลื่นความร้อน แต่ก็มีระยะเวลาในการใช้แต่ละครั้งเหมือนกัน” เขาอธิบายออกมาหลังจากที่ AI ของตัวเองอ่านข้อมูลเสร็จสิ้นแล้ว สีหน้านั้นกลับมาตื่นเต้นอีกครั้ง
เฟอร์กัสพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะมีสีหน้าครุ่นคิด และกล่าวออกมาหลังจากนั้นไม่กี่วินาที “เอาอย่างนี้เป็นไง? นายเลือกชิปพวกนี้ไปสักอัน อยากได้อันไหนก็ตามสบายเลย ฉันให้นายเป็นคนเลือกก่อน” นี่เป็นข้อเสนอที่เขายื่นให้แก่เดวิด
เอพริล โคลเวอร์ ดากริน และโอลาไมด์ไม่ได้เอ่ยโต้แย้งอะไรออกมา ข้อเสนอของเฟอร์กัสในครั้งนี้ พวกเขาเห็นด้วยแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ มันเหมาะสมกว่าข้อเสนอในครั้งแรกนั่นมาก
เดวิดได้แต่คำรามออกมาเบา ๆ เท่านั้น ก่อนจะเดินเขาไปพิจารณาชิปซิลิคอนที่วางอยู่ในมือของโคลเวอร์ คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย เพราะตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกโปรแกรมไหนดี
แต่ก่อนที่เขาจะยื่นมือออกไปหยิบชิปที่มีโปรแกรมตรวจจับคลื่นเสียงบรรจุอยู่ หางตาก็เหลือบไปเห็นสีทองแวววาวจากในกระเป๋าเป้ที่วางอยู่บนพื้น ของอีกชิ้นที่หลงเหลืออยู่ในนั้น มันคุ้นตาเดวิดไม่น้อย ไม่ใช่รูปร่างของมัน แต่เป็นวัสดุสีทองนั่น เขาพึมพำออกมาอย่างไม่รู้ตัว “ทองพวกนี้อีกแล้วอย่างนั้นหรือ?”
ตอนนี้ในใจของเดวิดมีความสงสัยเกิดขึ้นเป็นอย่างมากแล้ว ทำไมเจ้าทองแบบนี้ถึงได้ปรากฏอยู่ทั่วสนามแข่งแห่งนี้ไปหมด? นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่เขาพบกับวัสดุแบบนี้ และถ้าให้กล่าวตามตรง เดวิดเริ่มเบื่อหน่ายที่ได้เจอกับมันแล้ว
แต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่! ก้อนทองที่เขาเจอทั้ง 3 ครั้ง ไม่ได้มีขนาด หรือรูปร่างที่ใกล้เคียงกันเลย เดวิดเริ่มคิดแล้วว่า พวกมันอาจจะเป็นส่วนประกอบของอะไรสักอย่างก็เป็นได้ อาจจะเป็นอะไหล่ หรือชิ้นส่วนของอุปกรณ์ไฮเทคอะไรบางอย่าง
เดวิดยื่นมือลงไปหยิบแท่งทองนั่นขึ้นมาถือเอาไว้ในมือ มันมีขนาดใหญ่ราว ๆ 2 ฝ่ามือต่อกัน สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นแปลก ๆ ในเมื่อเขามีชิ้นส่วนอื่นอยู่ 2 ชิ้นแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ลองรวบรวมมันดูก็แล้วกัน บางที่ในตอนสุดท้าย มันอาจจะกลายเป็นของดีขึ้นมาก็ได้
แต่นั่นทำให้เฟอร์กัสขมวดคิ้ว เขารีบกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว “ไม่ต้องเกรงใจพวกเราหรอก ต่อให้มันจะเหลือไมโครชิพอยู่อีกแค่อันเดียว แต่แค่ชุดสกายวอคเกอร์ก็มีค่ามหาศาลแล้ว นายเลือกไมโครชิพไปอันหนึ่งเถอะ ไม่ต้องเกรงใจจริง ๆ”
ดูเหมือนว่าเขาจะมองเดวิดเป็นคนดีเกินไป ซึ่งเขานั้นเข้าใจผิดไปอย่างสิ้นเชิง!