นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 28
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 28
ดาบฝึกซ้อมของมาร์ธาฟันผ่านอากาศอันบริสุทธิ์ ลำดับการโจมตีที่เฉียบคมทว่าลื่นไหล มันเป็นส่วนหนึ่งของวิชาดาบพื้นฐานของซีกฮาร์ทที่เรียกว่า 'ดาบผสมผสาน'
ฟรึ่บ!
เธอฟันดาบของเธอออกไปอย่างดุเดือดราวกับว่าเธออยู่กลางสนามรบ ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งกับเธอเพราะจิตวิญญาณอันแรงกล้าที่เธอปล่อยออกมา
ฟรึ่บ!
เธอได้ยินเสียงฟันดาบคล้ายๆกันกับของเธอมาจากด้านขวา นั่นมาจากเด็กผู้ชายที่มีผมสีทองและดวงตาสีแดง เป็นราอนนั่นเอง
ดาบฝึกทื่อๆ ของเขากำลังใช้กระบวนท่า'ดาบผสมผสาน'เช่นเดียวกันกับมาร์ธา
เธอเคยนำหน้าเขาไปไกล แต่ในวันนี้เขาตามเธอมาทันแล้ว
อย่างไรก็ตาม มาร์ธาไม่ได้แสดงอาการกระวนกระวายหรือกังวลออกมาเลยแม้แต่น้อย
เธอกลับปรบมือให้กับราอนด้วยรอยยิ้ม
“ทำได้ดีนี่”
มาร์ธาจัดผมยุ่งๆ ของเธอและวางดาบฝึกซ้อมของเธอลง
“แกเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ได้รวดเร็วจนเกินกว่าคำว่า 'อัจฉริยะ' เสียอีก แต่ว่านะ…”
เธอม้วนผมของเธอเล่นในขณะที่พูด
“ประสาทสัมผัสด้านมานาที่ดาษดื่นของแกมัน… เหอะ! น่าเสียดายแทนความสามารถพวกนั้นของแกจริงๆ เลย ตอนนี้ฉันไม่ได้อิจฉาแกเลยสักนิด”
เสียงของมาร์ธาดังมาก เด็กๆ ทุกคนได้ยินคำพูดเธอของเธอทั้งหมด แต่ไม่มีใครออกตัวทำอะไร
“จะดีกว่านี้นะถ้าแกมีพรสวรรค์ด้านออร่าและศิลปะการต่อสู้อย่างละครึ่ง สิ่งที่ดีที่สุดที่แกสามารถเป็นได้ก็คงเป็นแค่อาจารย์สอนวิชาดาบ”
ไม่ว่าจะเป็นเด็กๆ ที่เคยได้รับความช่วยเหลือจากราอน, เบอร์เรน, ริมเมอร์ หรืออาจารย์คนอื่นๆ ก็ต่างก็นิ่งเงียบ
'คงไม่มีใครเสนอหน้าเข้ามาปกป้องมันอยู่แล้ว'
มาร์ธาเย้ยหยันราอนหนักขึ้น
'ใครจะไปคิดว่าจะมีไอ้โง่คนหนึ่งที่ไม่มีออร่าเลย แม้จะผ่านการฝึกฝนไปตั้งสี่เดือนแล้วก็ตามล่ะ'
เป็นเวลากว่าสี่เดือนแล้วที่มีการฝึกฝนออร่าเข้ามา แต่ราอนยังคงไม่สามารถรวบรวมออร่าได้ ศูนย์พลังงานของเขาก็ยังคงว่างเปล่า
'ตอนแรกฉันก็กลัวแทบตาย'
เธอเคยประหลาดใจอย่างมากที่ได้เห็นราอนพัฒนาอย่างรวดเร็ว
เธอนอนไม่หลับด้วยซ้ำเพราะพรสวรรค์อันน่าสะพรึงกลัวนั้นกำลังไล่ตามเธอมา เธอไม่สามารถขจัดความกลัวนั้นได้แม้จะฝึกฝนตั้งแต่รุ่งสางจนถึงก่อนนอน
ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังจากได้ยินสิ่งที่คาเมลบอกกับเธอ
'มันก็ยังมีจุดอ่อนอยู่ดีนั่นแหละ'
นี่แสดงให้เห็นว่าเรื่องที่ราอนมีประสาทสัมผัสด้านมานาที่เลวร้ายที่สุดในพิธีทดสอบเป็นเรื่องจริง
จะไปมีประโยชน์อะไรกับการที่เรียนวิชาดาบและเทคนิคกำปั้นได้อย่างยอดเยี่ยม ในเมื่อเขาไม่มีพลังที่จะพัฒนาท่าทางพวกนั้นให้ดีขึ้น
“หึ!”
ราอนยังคงกวัดแกว่งดาบของเขาในขณะที่เหงื่ออาบท่วม มาร์ธาหัวเราะเยาะกับท่าทีเหล่านั้น
'เขาไม่คู่ควรให้ฉันสนใจซะด้วยซ้ำ'
เธอเคยคิดว่าเขาเป็นภัยคุกคาม แต่นั่นไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว เอาราอนไปเทียบกับดอเรียนจอมขลาดยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับเบอร์เรนหรือรูนัน
แต่ว่าความจริงที่ว่าเธอเคยถูกราอนสวนกลับการโจมตียังคงฝังแน่นอยู่ในความทรงจำของเธอ
'ตอนนี้ก็ถึงเวลาจะลืมๆมันไปได้แล้ว เขาคงไม่เหมาะในการดวลกับฉันโดยใช้ออร่า'
มาร์ธาหันกลับมาด้วยรอยยิ้มสบายๆ
“หือ?”
รูนัน ซัลเลียน ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“ออกไป”
“เธอจะพูดแค่นี้เหรอไงยะ?”
“ออกไป”
“ต่อให้เธอไม่บอกฉันก็จะไปอยู่แล้วน่า! ฉันจะต้องไปฝึกในระดับที่สูงกว่านี้”
เธอโบกมือเบาๆ แล้วออกจากสนามฝึก
ฟรึ่บ!
ไม่ว่ามาร์ธาจะเยาะเย้ยเขามากแค่ไหน แต่ราอนก็ไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆ ออกมา เขายังคงกวัดแกว่งดาบในขณะที่มีไอเย็นพ่นออกมาจากปากของเขา
ดาบเป็นสิ่งเดียวที่สะท้อนอยู่ในรูม่านตาสีแดงของเขาตอนนี้
***
ราอนมองไปรอบๆ โรงฝึกในร่มหลังจากเสร็จสิ้นการฝึกซ้อมในตอนกลางคืน
'ทุกคนไปกันหมดแล้วเหรอ?'
วันพรุ่งนี้เป็นวันหยุด ทุกคนจึงกลับบ้านไปแล้ว ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในสนามฝึกซ้อมเลย
“ฮู่ว…”
ราอนหายใจอย่างโล่งอกและวางดาบลง เขามุ่งความสนใจไปที่วิชาดาบและการใช้'วงแหวนแห่งไฟ' เขาจึงไม่รู้ตัวว่าดวงอาทิตย์ได้ล่วงลับไปแล้ว
ความจดจ่อของเขาอยู่ในระดับเดียวกับการเตรียมการก่อนการลอบสังหาร การรวบรวมสมาธิในระหว่างการฝึกฝนมักเป็นเรื่องยากเสมอ
'ทักษะดาบของฉันดีขึ้นมากเลย'
ความก้าวหน้าของเขาใน'ดาบผสมผสาน'นั้นสูงขึ้นมาก ดูเหมือนว่ามันจะพร้อมใช้งานได้จริงในไม่ช้า
ในที่สุดเจ้าก็ได้รู้สึกตัวได้เสียที!!
ในขณะที่เขารู้สึกพึงพอใจกับการฝึกของเขา เสียงโกรธเคืองของราธก็ดังขึ้น
เจ้ามันน่าสมเพชจริงๆ เจ้าอยู่เฉยๆปล่อยให้นังเด็กผู้หญิงนั่นมาพูดจาดูถูกเยาะเย้ยเจ้าอยู่ได้ตั้งนาน!
'เยาะเย้ย?'
ใช่! เด็กผู้หญิงผมสีดำไง!
'โอ๊ะ! จริงดิ?'
ราออนยิ้มเยาะ เขาไม่รู้ว่ามาร์ธาเข้ามาพูดกับเขา เขากำลังจดจ่อกับการฝึกฝนมากเกินไป
ถ้าเธอมาพูดแบบนี้กับราชาแห่งแก่นแท้ ข้าจะแช่แข็งแล้วตัดเธอออกเป็นชิ้นๆเลย!
'ฉันบอกแกไปแล้วนี่ ปะทะกับเธอตอนนี้ไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา'
เขาจะไม่ได้อะไรเลยจากการยอมต่อสู้กับเธอในตอนนี้
การเผชิญหน้ากันในภายหลังจะดีกว่ามาก โดยการใช้ตำแหน่งของผู้ฝึกฝนอันดับที่หนึ่งเป็นเดิมพันเพื่อรางวัลบางอย่าง อย่างเช่น ยาอมฤตหรือตำราศิลปะการต่อสู้
'ยังไงฉันก็เอาชนะเธอได้อยู่แล้วล่ะ'
แม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถเรียนรู้'หมื่นเปลวเพลิง'ได้ แต่มันก็เป็นเรื่องง่ายที่จะเอาชนะเด็กอ่อนหัดอย่างมาร์ธา เวลาที่เหมาะสมจะสู้กันก็คงจะเป็นหลังจากที่เธอหาสมบัติอันล้ำค่าของเธอเจอแล้ว
'ตอนนี้ฉันควรจะกลับได้แล้ว…'
ขณะที่ราอนกำลังจะปิดไฟในสนามฝึกซ้อม เขาก็ได้ยินเสียงก้าวเดินอันแผ่วเบามาจากทางประตู
เป็นก้าวเล็กๆและแผ่วเบา นั่นเป็นของรูนันไม่ผิดแน่ เขาคุ้นเคยกับการได้ยินมันทุกวัน
เมื่อเขาหันไปก็เจอรูนันยืนอยู่ตรงนั้นด้วยดวงตาเป็นประกายแทนที่จะเป็นสีหน้าเรียบเฉยตามปกติของเธอ
“นี่”
เธอยื่นมือที่เธอซ่อนไว้ข้างหลังออกมา บนมือของเธอมีกล่องใบหนึ่ง ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าก้อนอิฐเพียงนิดเดียว
“นี่คืออะไรเหรอ?”
ไม่มีการตอบกลับ รูนันเปิดฝากล่องออกแทน ไอน้ำเย็นๆ ลอยขึ้นมาจากกล่อง ปรากฏเป็นก้อนกลมๆ ขนาดเท่านิ้วโป้ง
“เอ่อ…”
ราอนมองสลับไปมาระหว่างลูกกลมๆ ในกล่องกับดวงตาสีม่วงของรูนัน
“เอามาให้ฉันเหรอ?”
“อืม”
รูนันพยักหน้าและวางก้อนกลมๆ ไว้ในมือของราอน เขาสัมผัสได้ถึงความเย็นที่ทำให้รู้สึกสบายใจบนฝ่ามือของเขา
“กินสิ”
เธอพูดแล้วปิดฝากล่อง
“มันคืออะไรน่ะ?”
ราอนไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร แต่ที่แน่ๆ มันคือของมีค่าเพราะมันถูกเก็บไว้ในกล่องที่เต็มไปด้วยน้ำแข็ง
“อืม…”
จากสิ่งที่เขาเรียนรู้มาในฐานะนักฆ่าแล้ว เขาไม่ควรกินมันเลย แต่ดวงตาของรูนันก็เต็มไปด้วยการอ้อนวอน มือของเขาจึงขยับไปเอง
“เอ่อ…”
* * *
* * *
เธอคงไม่มีทางยื่นอะไรที่ไม่ดีให้เขาหรอกน่า
เขาหลับตาและเอาลูกกลมๆ อันนั้นยัดเข้าปาก มันละลายทันทีที่สัมผัสกับลิ้นของเขา รสชาติที่เย็นและหวานเหมือนช็อกโกแลตแช่แข็งก็กระจายไปทั่วปากของเขา
“อ๊ะ?”
เขาประหลาดใจกับรสชาติที่หวานและเย็น
มีรสชาติแบบนี้มีด้วยรึ! มันเป็นความหวานที่ราชาแห่งแก่นแท้ไม่เคยได้ลิ้มลองมาก่อนแม้แต่ในแดนปีศาจ! มันเป็นความเย็นที่ทำให้รสชาติหวานขึ้น? เอามา! เอามาอีก! ข้าอยากกินอีก!
เพราะประสาทสัมผัสของพวกเขาเชื่อมต่อกัน ราธยังคงกระโดดขึ้นและลงหลังจากได้กินไอศกรีม
'อยู่เฉยๆน่า'
ราธกระพือปีกเตรียมบินเหมือนผีเสื้อ ราอนก็ผลักเขาออกไปด้วยศอก
“เป็นยังไง?”
“มัน… มันอร่อย”
“นั่นคือไอศกรีม…”
รูนันพยักหน้าและหันหลังกลับ แล้วเธอก็ออกจากสนามฝึกไปทั้งแบบนั้น
“ฮะ? เฮ้!”
แม้ว่าเขาจะตะโกนเรียก แต่เธอก็ไม่หันกลับมามอง
... เป็นผู้หญิงที่แปลกจริงๆ ….มันจะดีกว่านี้ถ้าเธอให้ฉันอีกอันหนึ่ง
'หรือว่าเธอเป็นห่วงฉันงั้นเหรอ?'
ดูเหมือนว่าเธอให้เม็ดไอศครีมแก่เขาเพราะเธอเป็นห่วงที่เขาถูกมาร์ธาหัวเราะเยาะต่อหน้าทุกคน
เขาเคยกินไอศกรีมมาบ้าง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้กินไอศกรีมในรูปแบบและรสชาติแบบนั้น
ดูจากขนาดของกล่องแล้ว มันน่าจะเคยมีเม็ดไอศกรีมอยู่สี่เม็ด และเธอให้เม็ดสุดท้ายแก่เขา
'นี่เธอให้ชิ้นสุดท้ายกับฉัน…?'
เป็นไปตามประสาเด็กๆ รูนันชอบอาหารรสหวานอย่างแน่นอน
ในเมื่อของหวานชิ้นสุดท้ายสำคัญเสมอ ดังนั้นการให้ไอศกรีมแก่เขาคงเป็นการตัดสินใจที่ยากมาก
เขาสามารถจินตนาการภาพที่รูนันกำลังลังเลที่จะเก็บขนมในมือของเธอไว้กินเอง
“โอ้โห…”
ราอนหลุดขำ เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาเลยที่ทำให้เด็กคนนั้นเป็นห่วงเขา
'แต่ฉันไม่ได้เป็นอะไรเลยสักนิด…'
ใช่
เป้าหมายของเขาอยู่สูงและยากเกินกว่าใครๆ 'หมื่นเปลวเพลิง'ก็เป็นหนึ่งในแนวทางที่จะช่วยให้เขาเดินบนเส้นทางของเขาได้ง่ายขึ้น
ไม่มีทางที่พลังที่เก่งกาจเช่นนั้นจะให้ความแข็งแกร่งแก่เขาโดยง่าย เขาต้องอดทนต่อไป
'เดี่ยวฉันค่อยตอบแทนเธอละกันนะ'
ราอนยิ้มอย่างอ่อนโยนและออกจากสนามฝึก ก้าวเดินที่ควรจะเหนื่อยล้าของเขากลายเป็นเบาราวกับขนนก
***
“โอ้พระเจ้า! คุณชายราอน!”
เมื่อราอนเปิดประตูอาคารรองและเข้าไป เฮเลนซึ่งยืนอยู่ที่ทางเข้าพอดีก็เดินเข้ามาหาเขาด้วยดวงตากลมโต
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ราอนมาแล้วเหรอ!?”
ซิลเวียที่ได้ยินเสียงของเฮเลนก็รีบเปิดประตูแล้ววิ่งมาหาราอนเพื่อสวมกอดเขา
“นานเท่าไหร่แล้วเนี่ย! ลูกไม่ได้กลับมาตั้งเกือบเดือน!”
“เราพึ่งเจอกันไปเมื่ออาทิตย์ก่อนเอง…”
ราอนพยายามผละออก ผู้ปกครองสามารถมาเยี่ยมผู้เข้ารับการฝึกฝนในช่วงสุดสัปดาห์ได้ ซิลเวียจึงมาหาเขาทุกสัปดาห์
“มันไม่เหมือนกันซะหน่อย!”
ซิลเวียส่ายหัวของเธอ
“ลูกยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม? แม่จะเตรียมอาหารให้เอง เฮเลน!”
“ได้โปรดรอสักครู่นะคะคุณชาย”
ซิลเวียรีบวิ่งไปที่ครัวพร้อมกับสาวใช้ จากกลิ่นแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังเตรียมซุปเนื้อตุ๋น
เขาจะบอกยังไงดีล่ะ
มันยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูด แต่เขารู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้มาที่อาคารรอง บางทีที่นี่อาจจะเป็น’บ้าน’ของเขาจริงๆ เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยมีมาก่อนในชาติที่แล้ว
“เร็วเข้า! ราอนคงจะหิวแล้วแน่เลย!”
“ดิฉันทราบค่ะ! แต่ว่าวัตถุดิบตอนนี้…”
“ใส่ทุกอย่างที่เหลืออยู่ลงไปเลย!”
ราอนเดินไปเข้าห้องน้ำ เขายังได้ยินเสียงที่เป็นมิตรดังมาจากห้องทำอาหาร
***
รุ่งอรุณวันต่อมา ในห้องของราอน จูเดียลกำลังคุกเข่าก้มศีรษะแนบพื้น
ราอนนั่งอยู่บนเตียงและเคาะแผ่นกระดาษในมือ มันเป็นกระดาษแบบเดียวกับกระดาษแสงจันทร์ที่เขาเจอที่ทะเลสาบในครั้งก่อน
“เงยหน้าขึ้น”
ด้วยน้ำเสียงที่สง่าผ่าเผย จูเดียลตัวสั่นและเงยหน้าขึ้นตามคำสั่ง
“มีคำสั่งเพิ่มเติมจากศูนย์บัญชาการกองทัพบ้างไหม?”
“ไม่นะคะ ไม่ได้มีอะไรที่พิเศษค่ะ เคยมีคำสั่งที่ให้ตรวจสอบคุณชายให้ละเอียดมากขึ้นเพราะคุณชายเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยกเลิกไปแล้วเพราะคุณชายไม่สามารถพัฒนาออร่าได้ค่ะ”
“แค่นั้นเองเหรอ?”
ราออนแสยะยิ้ม ออร่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนักรบ ดูเหมือนเขาคงไม่สำคัญอีกต่อไปในสายตาของพวกเขา ในเมื่อเขาไม่มีพรสวรรค์ในเรื่องนี้
“แล้วเรื่องท่านแม่ล่ะ?”
“เหมือนว่าพวกเขาจะสนใจคุณหญิงซิลเวียน้อยลงเช่นกัน มีความเป็นไปได้ที่ดิฉันจะถูกเรียกตัวกลับในเร็วๆนี้ค่ะ”
บางคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องดีที่เธอถูกเรียกตัวกลับ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับเขาเลย
'ฉันจะใช้งานเธอไม่ได้อีกต่อไป'
เขาทำให้จูเดียลกลายเป็นสายลับสองหน้าแล้ว เขาไม่ควรจะปล่อยเธอไปแบบง่ายๆ
“คือ… คือว่าคุณชายจงใจหลีกเลี่ยงการปลูกฝังออร่าหรือเปล่าคะ…”
จูเดียลปากสั่น
“ก็อาจจะเป็นงั้นมั้ง”
แทนที่จะตอบคำถาม ราอนกลับยิ้ม ทำให้จูเดียลต้องกลืนน้ำลายลงคอ
ความหวาดกลัวในวันนั้นยังคงครอบงำเธออยู่
“ขอบใจสำหรับการรายงาน ไปได้แล้ว”
“ค่ะ?! ค่ะ!”
จูเดียลลุกขึ้นยืนพร้อมกับร่างกายที่สั่นเทา เธอรีบเปิดประตูและเดินออกไปด้วยความดีใจที่เธอจะไม่ต้องทนเจ็บปวดและหวาดกลัวอีกต่อไป
แล้วพวกมันก็จะเชื่อว่าเจ้าไม่ได้สนใจเรียนรู้ออร่าสินะ
'การใช้บรรยากาศและสถานการณ์ให้เป็นประโยชน์ก็เป็นจุดแข็งของฉันเหมือนกันแหละน่ะ'
ราอนเคาะราธที่อยู่บนข้อมือของเขา ปล่อยจูเดียลที่เข้าใจผิดไปเองเพราะความหวาดกลัวที่มีต่อเขา
ช่างน่าสมเพชเหลือเกิน จะเรียกใช้ออร่าก็เรียกยังไม่ได้ ราชาแห่งแก่นแท้สามารถใช้เวทมนตร์หรือศิลปะการต่อสู้ใดๆ ก็ได้ด้วยการเรียนรู้เพียงชั่วพริบตา
'ฉันมันน่าสมเพชจริงๆเล้ย…เฮ้อ’
ราอนตอบกลับอย่างติดตลกและออกจากห้องไป เขาก็ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไรสักเท่าไหร่ เขาสามารถหัวเราะเยาะให้การดูถูกเหยียดหยามของราธได้
“หืม…”
เขากำลังจะเข้าไปที่สวนเพื่อเริ่มการฝึกฝนในช่วงกลางวัน แต่ก็มีชายคนหนึ่งมุ่งหน้ามาหาเขา เป็นเอลฟ์ชายผมสีแดงที่มาพร้อมกับสายลม นั่นคือริมเมอร์
“อาจารย์?”
“หลับสบายดีไหม?”
ริมเมอร์ยกมือปัดผมที่รกรุงรังของเขาตามปกติ
“ทำไมอาจารย์ถึงมาที่นี่ตอนนี้?”
“ตอนนั้นฉันไม่รักษาสัญญาเองแหละ! ฉันรู้สึกแย่เกี่ยวกับเรื่องนั้นมากๆเลย ดังนั้นฉันเลยคิดว่าฉันจะมาช่วยเธอสักหน่อย”
“สัญญาอะไรนะครับ?”
“ก็ที่ฉันชิ่งหนีไปหลังจากที่สัญญาว่าจะสอน'หมัดผงาดขั้นสูง'ให้เธอไง”
“อ๋อ!”
“ตอนนี้มันคงสอนไม่ได้แล้ว งั้นฉันจะสอนอย่างอื่นให้เธอแทนละกัน”
เขายกยิ้มและดีดนิ้ว ลมสีเขียวเข้มพุ่งขึ้นจากปลายนิ้วเรียวยาวของเขา
“ฉันจะสอนเธอเกี่ยวกับคุณสมบัติ!”