นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 150 - คู่รัก?
หลังจากเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดอยู่หลายนาที และแน่ใจแล้วว่าเจ้าลิงโมโหร้ายนั่นไม่ได้ไล่ตามมา นักเรียนชาย 2 คนก็ค่อย ๆ วางร่างของเฟอร์กัสที่พวกเขาพามาด้วยลงที่โคนต้นไม้ จัดท่าให้เขานั่งพิงอยู่อย่างสบายที่สุดเท่าที่จะทำได้
อาการบาดเจ็บของเฟอร์กัสดูเหมือนว่าจะสาหัสอยู่ไม่น้อย แขนของเขาห้อยร่องแร่งอยู่ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะไหล่หลุด หรือกระดูกแขนแหลกไปจนหมดแล้วกันแน่ หน้าของเขาแดงกล่ำ แสดงอาการของการหมุนเวียนเลือดที่ผิดปกติ เลือดยังไม่หยุดซึมออกมาจากปากเลยด้วยซ้ำ แม้ว่าจะผ่านมาหลายนาทีแล้ว บางทีอาจได้รับกระทบกระเทือนจากการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บ เป็นสาเหตุให้อาการนั้นแย่ลงไปอีก ตอนนี้เลือดเริ่มทะลักออกมาจากจมูกของเฟอร์กัสด้วยแล้ว ทั้ง ๆ ที่เขากำลังหมดสติอยู่
“เฟอร์กัส”
นักเรียนหญิงคนเดียวในกลุ่มตะโกนออกมา พร้อมกับพุ่งเข้าไปที่ข้างร่างที่นอนหมดสติอยู่กับพื้นทันทีที่เธอมาถึงจุดนี้ น้ำตานั้นไหลออกมาเต็มใบหน้าไปหมดแล้ว นักเรียนคนอื่น ๆ รีบเปิดทางให้เธอเข้าไปดูอาการของเฟอร์กัสใกล้ ๆ ตามต้องการ และเธอก็รีบยื่นมือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเป้ของตัวเอง และหยิบลูกแก้วชิ้นส่วนจีโนมออกมาอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ใช้นิ้วหยิกลงไปอย่างแรงจนมันแตกออก เด็กสาวคนนั้นก็ค่อย ๆ ป้อนของเหลวเข้าปากของเฟอร์กัสอย่างระมัดระวัง ของเหลวที่แดงเข้มที่ข้นเหนียวราวกับไข่แดงหยดลงไปในปากที่ถูกบีบให้เปิดอ้าอย่างต่อเนื่อง
เดวิดนั่งอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่ไม่ห่างจากจุดที่เฟอร์กัสนอนอยู่มากนัก เขากำลังเฝ้ามองดูเหตการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสนใจและประหลาดใจ ดูเหมือนว่านักเรียนกลุ่มนี้จะพุ่งสมาธิไปที่อาการบาดเจ็บของเฟอร์กัสจนลืมการมีตัวตนของเดวิดไปแล้ว ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะมีอาการระแวดระวังภัย หลังจากที่เห็นว่าคนเจ็บได้รับการป้อนของเหลวจีโนมไปแล้ว พวกเขาถึงกับผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นไปอีก
การแสดงออกของคนกลุ่มนี้ ไม่เหมือนกับนักเรียนทั่วไปที่เขาเคยรู้จักมาก่อนเลย ราวกับว่านักเรียนกลุ่มนี้ไม่เคยต้องผ่านการแย่งชิงแข่งขัน ไม่คอยมีประสบการณ์ในการรับมือกับผู้คนมาก่อน นี่ทำให้เดวิดรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย ว่าพวกเขารอดมาถึงตอนนี้ได้อย่างไร?
และเมื่อของเหลวจีโนมในมือถูกป้อนเข้าปากของเฟอร์กัสไปจนหมด เด็กสาวก็เหมือนจะยังไม่พอใจกับประสิทธิภาพของการรักษาเลย เธอเอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋าเป้อีกครั้ง และนำลูกแก้วชิ้นส่วนจีโนมออกมาอีกลูกด้วย แต่ก่อนที่เธอจะได้ลงมือเจาะรูให้ของเหลวไหลออกมา เด็กสาวก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นเสียก่อน
“ใช้นี่ดีกว่า!”
มันเป็นเสียงของเดวิด ที่ยื่นมือเข้าไปในกระเป๋าเป้ของตัวเองเช่นกัน และสิ่งที่เขาหยิบออกมาก็คือลูกแก้วชิ้นส่วนจีโนมที่มีร่องรอยของการใช้ของเหลวด้านในไปแล้ว มันเป็นชิ้นส่วนจีโนมของหมาป่าราตรีตัวจ่าฝูง ที่เขาดูดซับของเหลวด้านในไปแล้ว 4 หยดนั่นเอง
“รับ!” เดวิดส่งเสียงเตือน ก่อนที่จะโยนลูกแก้วนั่นออกไปที่เธออย่างระมัดระวัง
‘เอพริล’ เงยหน้าขึ้นมามองตามเสียง ก่อนที่จะใช้มือที่ว่างอยู่รับลูกแก้วที่เดวิดโยนมาให้ไปสำรวจดู ในขณะที่ปากของเธอกำลังอ้าออกเพื่อจะบ่นเรื่องขนาด และร่องรอยการถูกใช้ไปแล้วของมัน ตาของเอพริลก็เป็นประกายขึ้นมาในทันที เมื่อสังเกตได้ว่าของเหลวในลูกแก้วเล็ก ๆ นี้ มีสีแดงที่เข้มจนเกือบดำ เธอแยกแยะระดับของมันได้ในวินาทีต่อมา ชิ้นส่วนจีโนมเล็ก ๆ นี้ ต้องได้มาจากสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ระดับสีดำขึ้นสูงแน่ มันมีประสิทธิภาพในการรักษามากกว่าของที่เธอมีอยู่เป็นอย่างมาก เอพริลมีชิ้นส่วนจีโนมอยู่อีกหลายชิ้น แต่ทั้งหมดล้วนเป็นชิ้นส่วนที่ได้มาจากสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ระดับสีดำขั้นต่ำเท่านั้น
เอพริลเงยหน้าขึ้นมองเดวิดอีกครั้ง แต่คราวนี้แววตาของเธอนั้นเปลี่ยนไปแล้ว มันกลายเป็นสงสัยและประหลาดใจอย่างมาก แต่เธอก็มองสังเกตเขาแค่เพียงแวบเดียวเท่านั้น ก่อนจะสกิดเปิดรอยแตกบนลูกแก้วจีโนมในมือ และนำมันไปวางไว้ที่เหนือปากของเฟอร์กัสทันที
ดูเหมือนว่านักเรียนหญิงคนนี้จะมีความเข้าใจเกี่ยวกับชิ้นส่วนจีโนมอย่าถ่องแท้ เพราะเธอแค่หยดของเหลวลงไปแค่ 1 หยดเท่านั้น ก่อนจะรีบนำมือของตัวเองออกมาจากร่างกายของเฟอร์กัสทันที ไม่ต้องการให้เกิดอุบัติเหตุเผลอทำของเหลวที่เหลือหยดลงไปให้เขาดูดซับมากไปกว่านี้ เพราะนั่นจะเป็นการทำร้ายมากกว่าการรักษา พลังงานที่อยู่ในของเหลวจีโนมระดับสีดำขึ้นสูงนี้มหาศาลนัก ถ้าเฟอร์กัสไม่ได้ดูดซับของเหลวจีโนมขั้นต่ำไปแล้วทั้งชิ้น เขาอาจจะพอรองรับพลังของเหลวได้อีกสักหยด แต่ในสถานการณ์แบบนี้ มันไม่ควรที่จะเสี่ยงอะไรทั้งนั้น
นักเรียนชายที่เหลืออีก 3 คนก็มีสีหน้าประหลาดใจออกมาแล้วเช่นกัน พวกเขาพากันหันมองมาที่เดวิด ราวกับเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังมีคนภายนอกอยู่กับพวกเขาตรงนี้ด้วยอีกคน
และสายตาของพวกเขาที่มองมายังเดวิดนั้น มีความยำเกรงแฝงอยู่เล็กน้อย คนที่สามารถครอบครองชิ้นส่วนจีโนมที่มาจากสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์สีดำระดับสูงได้ ต้องไม่ใช่คนอ่อนแออย่างแน่นอน!
‘โคลเวอร์’ ที่กำลังเงยหน้ามองเดวิดที่ยังนั่งอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่ เป็นคนที่เริ่มพูดทักทายออกมาก่อน “ฮ่าฮ่า! ดูเหมือนว่านายจะมีความสามารถ หรือไม่ก็โชคดีไม่น้อยเลยนี่ ที่สามารถหาลูกแก้วจีโนมขั้นสูงแบบนี้มาได้ ฉันชื่อโคลเวอร์! แล้วนายล่ะ?” เขาขยับเข้ามาใกล้กับต้นไม้ที่เดวิดนั่งอยู่เรื่อย ๆ
เดวิดเอียงหัวเล็กน้อย ก่อนจะตอบออกมาตามตรง “ฉันชื่อเดวิด อืม? ที่นายพูดมาก็ถูก ตอนที่ฉันได้เจ้านั่นมา ต้องใช้โชคไปไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่อย่างนั้นคงจะหามันไม่เจอแน่” ก่อนที่จะพยักเพยิดไปทางเฟอร์กัส แล้วเอ่ยถามออกมา
“เขาน่าจะไม่เป็นไรแล้วใช่มั้ย?”
“น่าจะไม่มีอันตรายแล้ว อีกไม่นานก็คงพื้น บางทีอาจจะไม่ถึง 5 นาทีเสียด้วยซ้ำ ของเหลวจีโนมขึ้นสูงนั้นมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูร่างกายได้ดีมากจริง ๆ” โคลเวอร์ตอบออกมาพร้อมกับยักไหล่ตัวเองเบา ๆ ท่าทางของเขานั้นดูผ่อนคลายมากขึ้น แววตาที่มีความกังวลเล็กน้อยก่อนหน้านี้กลายเป็นแววตาที่แสดงความอิจฉาออกมาแทน และเขาหันกลับไปมองดูเฟอร์กัสตามการพยักเพยิดของเดวิดด้วยสายตาที่เป็นประกาย มันจ้องอยู่ที่ชิ้นส่วนของจีโนมสีเข้มนั่น มากกว่าการสังเกตอาการของคนเจ็บเสียอีก
และด้วยสีหน้าที่ดูตื่นเต้น เขากระโดดขึ้นมานั่งอยู่บนกิ่งไม้ข้างตัวของเดวิด และยื่นหน้าเข้ามาถามอย่างใกล้ชิด
“นายยังมีลูกแก้วขั้นสูงนั่นอยู่อีกมั้ย ให้ฉันบ้างสิ! ถ้าไม่ใช่ชิ้นส่วนจีโนมแบบนั้น เป็นของระดับสูงอย่างอื่นก็ได้ นายมีมันติดตัวอยู่อีกมั้ย?” เขาทำตัวราวกับเด็กซน ๆ คนหนึ่ง แววตาดูใสซื่อ และกระพริบตาปริบ ๆ อย่างเว้าวอนตอนที่ยิงคำถามเข้าใส่เดวิดเป็นชุดอย่างนั้น
นี่ทำให้เดวิดต้องเลิกคิ้วสูง ก่อนที่จะใช้นิ้วยันหน้าผากที่ยื่นเข้ามาใกล้ให้ถอยห่าง โคลเวอร์ในตอนนี้ไม่เหลือสภาพของบุคคลที่น่าเชื่อถือในตอนที่เขาต่อสู้กับวานรหมัดหินผาอยู่อีกเลย เดวิดประหลาดใจอยู่ไม่น้อย เขาเริ่มสงสัยว่านี่เป็นคน ๆ เดียวกันกับนักสู้ที่เข้มแข็งจริงจังในตอนนั้นหรือไม่
ดูเหมือนว่าเพื่อน ๆ ของโคลเวอร์จะไม่แปลกใจกับเหตุการณ์แบบนี้เลย นักเรียนชายอีก 2 คนนั่นยังยืนอยู่ข้าง ๆ เอพริล แค่เหลือบตาขึ้นมามองบ้างเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจกับการกระทำของโคลเวอร์มากมายนัก
“ไม่มีแล้ว! นั่นเป็นชิ้นส่วนจีโนมระดับสูงชิ้นเดียวที่ฉันมีอยู่!” เดวิดปฏิเสธออกมาอย่างทันควัน พร้อมกับขยับตัวถอยห่างออกมาเล็กน้อย เขาค่อนข้างจะอึดอัดใจ เพราะไม่ชอบให้ใครเข้ามาอยู่ประชิดตัวมากนัก
เฟอร์กัสได้สติแล้ว! เอพริลกำลังเข้าไปประคองเขาอย่างอ่อนโยน พร้อมกับพึมพำอะไรบางอย่างออกมาเบา ๆ ด้วยเสียงสะอื้น มันน่าจะเป็นทั้งการปลอบและการบ่นเฟอร์กัสไปพร้อม ๆ กันเลย
หลังจากที่ไอออกมา 2-3 ครั้ง เฟอร์กัสก็เริ่มกล่าวคำปลอบโยนออกมาเบา ๆ เช่นกัน เขาพยายามทำให้เอพริลหยุดสะอื้น และยืนยันว่าตัวเองไม่เป็นอะไรแล้ว
ที่โคนต้นไม้ในตอนนี้เหลือเพียงพวกเขาแค่ 2 คนเท่านั้น นักเรียนชายอีก 2 คนที่เคยยืนอยู่ตรงนั้นฉากหลบออกไปอย่างรู้งาน ปล่อยให้คู่รักได้ปลอบโยนกันและกันอย่างเต็มที่
“พวกนั้นเป็นแฟนกันอย่างนั้นหรือ?” เดวิดเอ่ยถามออกมาลอย ๆ
“ทำนองนั้น!” โคลเวอร์ตอบกลับมาแปลก ๆ ก่อนที่จะอธิบายต่อ “แต่ถ้านายไปถามตรง ๆ พวกเขาจะตอบปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นแฟนกัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะทำตัวอย่างนั้นก็เถอะ”
“ทำไมล่ะ?”
“เพราะพวกเขาเป็นพี่น้องกัน” โคลเวอร์ยักไหล่
แต่นั่นทำให้เดวิดหันไปจ้องหน้าเขาอย่างสับสน โคลเวอร์ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะยักไหล่อีกครั้ง “ไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิดหรอก พวกเขาเป็นพี่น้องบุญธรรมกันเท่านั้น แต่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ น่ะ”
และหลังจากนั้นเขาก็ก้มหน้าลงครุ่นคิดอะไรบางอย่าง โคลเวอร์กำลังพยายามนึกให้ออก ว่าตัวเองลืมอะไรไป ปล่อยให้เดวิดตกตะลึงอยู่กับข้อมูลที่เพิ่งได้รับมาอยู่คนเดียว!