1055 - เส้นทางกลับบ้าน
1055 - เส้นทางกลับบ้าน
หลังจากนั้นพวกเขาค้นหาอย่างระมัดระวังและพบคัมภีร์ปรุงยาอีกเล่มหนึ่ง แต่ก็ยังเหมือนเดิม ตัวหนังสือที่อยู่ภายในถูกลบออกไปหมดแล้ว
“ไอ้สารเลวนี่เป็นคนละเอียดถี่ถ้วนจริงๆ ข้าคิดว่าแม้แต่วิญญาณของเขาก็อาจจะถูกใส่ข้อจำกัดไว้ ต่อให้มีสิ่งมีชีวิตอมตะจับตัวเขาได้ก็ไม่มีทางค้นเจออะไรอย่างแน่นอน” หลี่เทียนกล่าว
สิ่งที่พวกเขาค้นหาก็คือเส้นทางในการกลับบ้าน
เล่าจื๊อสามารถมายังโลกนี้ได้ มันจะต้องมีเส้นทางโบราณซุกซ่อนอยู่ และพวกเขาหวังว่าจะค้นพบเบาะแสจากที่นี่ แต่สุดท้ายกลับต้องกับความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำอีก
“ข้าอยากจะฉีกไอ้สารเลวนั้นเป็นชิ้นๆจริงๆ…”
เย่ฟ่านรู้สึกผิดหวังอย่างมาก หลังจากค้นหาเป็นเวลานาน เขาไม่เพียงแต่ค้นวังไป๋จิงจนทั่วแต่ยังเกือบจะขุดค้นลงไปใต้พื้นของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่ชิ’ แต่ไม่พบอะไรเลย
“ไอ้สารเลวนี่สุดยอดจริงๆ เห็นได้ชัดว่าเขาแทบจะลบร่องรอยทุกอย่างในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ออกไปแล้ว” หลี่เทียนสบถเช่นกัน
เย่ฟ่านเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว เขากำลังจะตายอยู่ที่นี่หรือไม่? ไม่เพียงแต่เขาล้มเหลวในการกลับบ้านเกิดเท่านั้น แต่เขายังแยกทางกับเพื่อนเก่าอีกด้วย
…
ในเวลานี้โลกอำพรางสวรรค์เกิดสงครามครั้งยิ่งใหญ่ แม้แต่วานรศักดิ์สิทธิ์ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลี่เหอซุยสูญเสียร่างกายและยากที่จะฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติได้
ในภาคใต้จี้ฮ่าวเยว่กำลังแบกหลี่เหอซุยหลบหนีด้วยความสิ้นหวัง ร่างกายทั้งสองคนอาบไปด้วยเลือดเห็นได้ชัดว่าพร้อมจะเสียชีวิตอยู่ตลอดเวลา
หลี่เหอซุยอ่อนแอมาก แขนขาของเขาถูกฉีกกระชากออกจากร่างและไม่สามารถยืนได้อีกแล้ว
“ข้ายังมีชีวิตอยู่...แต่พี่น้องคนอื่นๆเล่า เจ้าคนเถื่อน พี่ใหญ่อู๋จงเทียนและหลิวคุนพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่”
“ข้าไม่รู้” จี้ฮ่าวเยว่กล่าวเพียงไม่กี่คำ
“หลี่เสี่ยวมาน...หญิงสาวคนนั้นน่ากลัวมาก…” หลี่เหอซุยกระอักเลือดออกมาเต็มปากและล้มลงจมกองเลือด
…
ทุ่งดวงดาวโบราณจื่อเว่ยภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่ชิง
เย่ฟ่านอยู่ในความงุนงง ทางกลับคือที่ไหน?
“ข้ากลายเป็นศัตรูกับผู้คนทั้งโลกไปแล้ว พวกเราต้องหนีออกจากที่นี่ให้ได้เพราะข้าไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้ต่อเช่นกัน” หลี่เทียนเดินไปมา
ตัวเขามีชื่อเสียงเลวร้ายอย่างถึงที่สุด ผู้คนในโลกนี้ล้วนมีความรังเกียจในตัวเขา และเขาไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ได้อีกแล้ว
เย่ฟ่านจ้องมองที่วังไป๋จิงอีกครั้ง หลังจากเวลาผ่านไปนานในที่สุดเขาก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่องัดพื้นในบริเวณที่เคยมีแท่นบูชาขนาดเล็กตั้งอยู่
“ออกมา!”
เขายกก้อนหินขนาดใหญ่ที่ปูพื้นในบริเวณนี้ออก จากนั้นลวดลายที่เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์และสง่างามก็หลั่งไหลออกมาอย่างไม่รู้จบ
“พี่เย่ เจ้าเป็นคนไม่ธรรมดาจริงๆ!” หลี่เทียนอุทาน
“ซ่า”
ในขณะนี้ แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีปรากฏขึ้นบนพื้นและเปล่งประกายอย่างลึกลับ
“นี่คือ...แท่นบูชาห้าสีขนาดเล็ก!” เอี๋ยนอี้ซีตกตะลึง
ภายใต้วังไป๋จิงมีแท่นบูชาขนาดเล็กที่มีรัศมีน้อยกว่าหนึ่งวาตั้งอยู่ แสงห้าสีที่สว่างไสวนั้นปรากฏออกมาจากแท่นบูชานั่นเอง
“มันอยู่ที่นี่จริงๆ!”
เย่ฟ่านและคนอื่นๆ กระโดดลงไปยืนบนแท่นบูชาห้าสีด้วยความตื่นเต้น
“เรากำลังจะไปแล้ว”
เย่ฟ่านหยิบต้นกำเนิดสวรรค์ของเขาออกมายัดลงไปในร่องของแท่นบูชาอย่างเร่งรีบ จากนั้นเขาก็ควบคุมอักขระโบราณของแท่นบูชาเพื่อเปิดใช้งานประตูมิติที่นี่
“บูม!”
ในขณะนี้หมอกสีม่วงได้ปะทุขึ้นสู่ท้องฟ้า วังไป๋จิงลอยขึ้นสูงก่อนที่มันจะเคลื่อนตัวออกจากโลกใบนี้ในเวลาไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น
ในความมืดที่ไร้ขอบเขต แม้แต่ดวงตาแห่งท้องฟ้าก็ไม่อาจมองทะลุไปได้
แต่เวลาไม่นานนัก แสงที่สว่างวาบก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของพวกเขา และทั้งสามคนก็เดินไปที่กลุ่มแสงนั้นด้วยความตื่นเต้น
“เหตุใดข้าจึงไม่รู้สึกว่านี่เป็นเส้นทางแห่งดวงดาวที่ข้าเคยเห็นมาก่อน” เย่ฟ่านรู้สึกสงสัย
“นี่คือ... เรายังไม่ได้ออกจากเขตดาวโบราณจื่อเว่ย เราแค่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเท่านั้น!” หลี่เทียนรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย
ในเวลานี้ เบื้องล่างของพวกเขาคือโลกขนาดใหญ่อย่างยิ่ง และในบริเวณใกล้เคียงก็มีดวงดาวอีกหกดวงเรียงตัวกันเป็นรูปช้อน
เย่ฟ่านก็ประหลาดใจเช่นกัน ในเวลานี้วังไป๋จิงมีลักษณะคล้ายกับดาวเทียมขนาดใหญ่ที่กำลังโคจรรอบโลก และพวกเขาไม่ได้เดินทางไปที่ไหนเลย
“นั่นคือ…” รูม่านตาของเอี๋ยนอี้ซีหดตัวอย่างรวดเร็ว ชี้ไปข้างหน้า
ในขณะนี้ หลายคนตกตะลึง มีวิหารโบราณขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนตัวมาในทิศทางของพวกเขาอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้ามันจะชนเข้ากับวังไป๋จิงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
“มันกำลังจะชนกันแล้ว!”
หลายคนดูเคร่งขรึม พวกเขาไม่เข้าใจว่ามีวิหารโบราณขนาดใหญ่ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ได้อย่างไร?
หรือว่ามันมีพลังลึกลับบางอย่างเรียกวังไป๋จิงขึ้นมาที่นี่!
….
เส้นผมของผังป๋อกระเซอะกระเซิง เลือดไหลอาบทั่วร่างกาย และบาดแผลสีดำบนร่างของเขานั้นเห็นได้ชัดว่ากำลังทำให้ร่างกายของเขากำลังออนแอร์ลงเรื่อยๆ
“เย่ฟ่านเจ้ากลับไปบ้านเกิดแล้ว เจ้าได้ดูแลบิดามารดาของข้าหรือไม่ ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการกลับไป แต่ข้ากลัวที่จะสูญเสียความหวังโดยสิ้นเชิง อย่างน้อยหากเจ้าไปไม่ถึงข้าก็ยังมีโอกาสอยู่...”
เขาเริ่มไอเป็นเลือด แต่เลือดที่กระอักออกมาจากปากของเขานั้นกลับกลายเป็นสีดำ ในภูเขาที่เขากำลังจะก้าวเดินขึ้นไปนั้นก็มีวานรศักดิ์สิทธิ์กำลังนอนอยู่บนพื้น สภาพของมันเลวร้ายอย่างยิ่ง
ในบริเวณใกล้เคียงมีสิ่งมีชีวิตโบราณแปดตัวบินไปรอบๆ วานรศักดิ์สิทธิ์ ท่าทีของพวกมันเต็มไปด้วยความดุร้ายและเตรียมจะเอาชีวิตทั้งสองคนตลอดเวลา
“หมาป่าตาขาวใช้ให้พวกเจ้ามาจัดการข้าหรือ?” วานรศักดิ์สิทธิ์เย้ยหยัน
“องค์ชายศักดิ์สิทธิ์ท่านทำได้เพียงโทษตัวเองได้เท่านั้น ว่ากันว่าพุทธองค์ในทะเลทรายตะวันตกร่วงหล่นแล้ว คนที่ลงมือคือเสด็จอาของท่านเอง ตอนนี้ท่านกลับคิดจะต่อต้านบรรพชนของตัวเองหรือ?”
“ผายลม หมาป่าตาเขาเป็นเพียงเจ้าสาระเลวที่ทรยศเนรคุณเท่านั้น มันมีสิทธิ์อะไรมาเป็นอาของข้า!”
“องค์ชายศักดิ์สิทธิ์ คำพูดของเจ้าออกจะขาดความเคารพเกินไปแล้ว!”
“องค์ชายศักดิ์สิทธิ์นี่ไม่ใช่ยุคที่พระบิดาของท่านเป็นผู้ครอบครองโลกอีกต่อไป ในอนาคตราชาหมาป่าตาขาวจะกลายเป็นจักรพรรดิอมตะคนที่สอง เรื่องนี้ท่านไม่สามารถขัดขวางได้!”
“ถุย! หมาน้อยตัวนั้นไม่ใช่ทายาทของจักรพรรดิอมตะ พวกเจ้าเพียงอุปโลกน์มันขึ้นมาอย่างมืดบอดคิดว่าจะไม่มีใครรู้ความจริงเรื่องนี้หรือ?”
“บังอาจ! เราจะไม่ยอมให้ท่านหยามเกียรติของราชาหมาป่าตาขาวอีกต่อไป องค์ชายศักดิ์สิทธิ์ท่านเดินทางไปพบกับบิดาท่านในยมโลกเถอะ!”
…
ในภาคใต้จี้ฮ่าวเยว่ร่างกายของเขาอาบไปด้วยเลือด เขาถืออาวุธเต๋าสุดขั้วกระจกแห่งความว่างเปล่าอยู่ในมือ และที่ขวางอยู่เบื้องหน้าเขาตอนนี้คือกลุ่มยอดฝีมือจากตระกูลจี้
“ฮ่าวเยว่โลกปัจจุบันวุ่นวายและน่ากลัวมาก แม้ว่าเราจะเป็นทายาทของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แต่เราก็ไม่สามารถขัดขวางการหมุนของโลกได้ ตระกูลหวังคือผู้ยิ่งใหญ่ที่จะปกครองโลกในอนาคต ในเมื่อพวกเขาต้องการฆ่าเด็กน้อยเหล่านั้น เจ้าก็ไม่สามารถขัดขวางได้”
ผู้อาวุโสของตระกูลจี้ถอนหายใจ ร่างราชันรกร้างแห่งตระกูลจี้ที่พวกเขาพากเพียรบ่มเพาะขึ้นมากลับตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูลของตัวเอง เรื่องนี้ทำให้เหล่าผู้อาวุโสเกิดความเศร้าโศกอย่างถึงที่สุด
“ท่านลุงรองลงมือเถอะ ข้าไม่มีทางปล่อยให้ท่านทำร้ายสหายของตัวเองได้” จี้ฮ่าวเยว่ยืนกราน
“โลกกำลังตกอยู่ในความวุ่นวายแล้ว ตระกูลหวังร่วมมือกับเผ่าพันธุ์โบราณเพื่อปกครองโลก เราทำได้เพียงไหลไปตามกระแสเท่านั้น” ดวงตาของชายชราเต็มไปด้วยความกังวล
“เจ้าคือร่างศักดิ์สิทธิ์รกร้างแห่งตงหวง ในอนาคตเจ้าจะกลายจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ เหตุใดเจ้าจึงไม่เข้าใจว่าเมื่อเจ้าเติบโตขึ้นอย่างแท้จริงจะไม่มีใครกล้าแตะต้องคนที่เจ้ารัก แต่ตอนนี้เจ้าเป็นเพียงเด็กน้อยที่ไม่อยู่ในสายตาของราชาโบราณเหล่านั้น ต่อให้เจ้าต่อต้านไปก็รังแต่จะเปล่าประโยชน์”
“ไม่ว่าท่านจะพูดอะไรข้าก็ไม่อนุญาตให้ท่านฆ่าพวกเขา ลุงรองอย่ากังวลไปเลย ในเมื่อนี่เป็นทางเลือกของตระกูลจี้พวกท่านก็คือควรยืนกรานให้ถึงที่สุด และสิ่งที่ข้าเลือกในตอนนี้ก็เป็นทางเลือกของข้าเองเช่นกัน”
“อันที่จริงความปรารถนาของเราคือให้เจ้าและจื่อเยว่สามารถฝึกฝนได้อย่างราบรื่นเพื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้นำของตระกูลเท่านั้น แต่ในเมื่อเจ้าเลือกที่จะเป็นศัตรูกับโลกครั้งต่อไปที่เราพบกันข้าจะไม่เมตตาพวกเจ้าพี่น้องอีกแล้ว ขอให้พวกเจ้าโชคดี”
ผู้อาวุโสของตระกูลจี้ถอนหายใจ ก่อนจะพาคนของเขาถอนตัวกลับไป
…..