เล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 3 บทที่ 15 – ค่ำคืนแห่งโชคชะตา
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
เล่มที่ 3 บทที่ 15 – ค่ำคืนแห่งโชคชะตา
(วอลสัน)
หลังจากการมองเห็นของเรากลับมาชัดเจนขึ้นอีกครั้ง ข้าก็พบว่าเราได้ถูกส่งไปยังทางน้ำขนาดใหญ่ โดยมีท้องฟ้ายามเย็นอยู่เหนือเรา
มีแสงที่อ่อนโยนออกมาจากเหนือทางน้ำ ขณะที่เดริชาและข้าตกลงที่จะมุ่งหน้าไปยังต้นน้ำ ในที่สุด เราก็มาถึงท่าเรือที่มีเรือหลายลำจอดอยู่และมีเด็กบางคนกำลังเล่นน้ำ
ในที่สุดเราก็ออกมาได้! นั่นคือสิ่งที่ข้าคิด
เนื่องจากเราถูกเคลื่อนย้ายมา การมาโผล่ที่ข้างนอกจึงเป็นสิ่งที่ไม่ได้ผิดปกติอะไรเลย
เดริชากล่าวว่านางต้องกลับไปที่พระราชวังก่อน และนางก็บอกว่าจะมาหาข้าในภายหลัง ดังนั้นเราจึงแยกทางกันไป
การอยู่ในปาร์ตี้เดียวกันกับสมาชิกของราชวงศ์นั้นมีข้อพิจารณาอยู่มากมาย บางทีการที่นางต้องรีบกลับไปที่วัง อาจเป็นเพราะข้า...
หลังจากแยกทางกันแล้ว ข้าก็กลับไปที่ “บ้านสุนัข”
…เจ้าคงกำลังถามว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ข้ากลับมา?…อืม ข้าถูกดุเป็นเวลาสามชั่วโมงติดต่อกัน
เกรซและเมล่อนดูหวาดกลัวมากกับการที่จู่ๆ ระดับของข้าก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
พวกนางทั้งสองได้ข้อสรุปเดียวกัน ทั้งการที่ข้าสูญเสียการติดต่อไป ค่าประสบการณ์จำนวนมากมายมหาศาลเมื่อกลับมา แสดงว่าข้าต้องเจอกับอะไรบางอย่างมาแน่นอน...ผลที่ได้คือข้าถูกดุด้วยความเป็นห่วง ทางด้านเมล่อนก็ทำใบหน้าเหมือนกับสุนัขถูกทิ้ง
ดวงตาที่บวมของเกรซและเมล่อนบ่งบอกได้เลยว่าพวกนางกังวลแค่ไหนในช่วงที่ข้าไม่อยู่อย่างกะทันหัน
จากนั้นข้าจึงพบว่าเวลาในภายในเขาวงกตได้ไหลแตกต่างกันกับโลกภายนอก บนโลกภายนอก ข้าได้หายตัวไปเป็นเวลาสามวัน...
…อืม ก็สมควรที่จะเป็นกังวลขนาดนี้แหละนะ
…บางทีข้าก็ควรทบทวนตัวเองด้วย ตอนนี้ตัวข้าแตกต่างจากในอดีต ตอนนี้ข้ามีคนที่รอคอยข้าอยู่
เนื่องจากทั้งเกรซและเมล่อนมาแล้ว อีกคนที่มาดุข้าอีกสามชั่วโมงก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากบาเรลล่า
“…แม้ว่าข้าจะไม่สามารถตำหนิเจ้าได้ทั้งหมด แต่เกรซและเมล่อนก็เป็นห่วงเจ้าจริงๆ นะ!”
“อืม ข้าขอโทษมากจริงๆ ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง” ข้าขอโทษด้วยที่ทำให้พวกเจ้าต้องเป็นห่วง!
แต่สิ่งที่พวกนางพูดคำถัดไปก็ทำให้ข้าประหลาดใจพอสมควร
“…ตอนที่วอลสันหายตัวไป คนแรกที่ใจเย็นที่สุดคือคุณออเรเวีย นางเป็นคนบอกให้เราควรทำอะไรต่อกัน” เกรซได้พูดแทรกขึ้นมา
“ค-คุณออเรเวียก็เป็นห่วงนายท่านมากเลยค่ะ” เมล่อนกล่าวเสริม
“ข้า… เอ่อ… ข้าแค่ …!”
ข้าคิดว่าบาเรลล่าจะแย้งกลับมาทันที แต่นางก็หน้าแดงจากแก้มไปจนถึงใบหูที่ยาวของนาง
“ข้า…เอ่อ ช่างมันเถอะน่า! เจ้าน่ะ! พวกนางค้นหาเจ้าทั่วทุกที่เลยนะ! ดูแลพวกนางให้ดีล่ะ ไม่งั้นข้าจะทำให้เจ้าได้นอนกองกับพื้นแน่!” ทันใดนั้นนางก็โกรธและชี้นิ้วมาทางข้าด้วยความเขินอาย
“ข้าจะกลับไปที่หอพักเดี๋ยวนี้ ข้าเหนื่อยแล้ว!” หลังจากพูดเช่นนั้น นางก็ออกจาก “บ้านสุนัข” ทันที
อา นางไปแล้ว
…ขอบคุณออเรเวียจริงๆ เจ้าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของข้าเลย
ตอนนี้เหลือเพียงสามคนใน [บ้านสุนัข]
"ถ้าเช่นนั้น..."
“…วอลสัน ไปอาบน้ำเถอะ”
"หา?"
“…มันเย็ฯแล้ว วอลสัน เจ้าคงต่อสู้อย่างไม่หยุดพักเลยสินะ”เกรซมองไปที่เมล่อนและหลังจากสบตากันไม่กี่วินาที ทั้งคู่ก็พยักหน้า
“ใช่ นายท่าน หลังจากการต่อสู้อย่างหนัก ท่านต้องพักผ่อนสิ”
ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงถูกพวกนางบังคับให้เข้าไปในห้องน้ำ
ถ้านั่นคือสิ่งที่พวกนางต้องการ ก็ไม่เป็นไร
บอกตามตรง ข้าเองก็เหนื่อยมากจริงๆ
การต่อสู้ไม่เพียงแต่ใช้พลังงานทางกายภาพเท่านั้น แต่เขายังรู้สึกเหนื่อยล้าทางจิตใจมากด้วย
เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดนี้…กับสิ่งที่ข้าพบมานับไม่ถ้วน ข้าไม่เชื่อหรอกว่ากะโหลกคำสาปเหี่ยวเฉาจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ
เมื่อนึกถึงคำพูดของท่านหญิงมังกร ข้าก็ต้องขอยอมรับเลยว่าข้าต้องเผชิญพบเจอกับปัญหาแบบนี้อีกแน่
หากมี “ตัวตนเหนือธรรมชาติ” จากโลกอื่นที่ต้องการรุกรานโลกนี้และจำเป็นต้องแหกกฎเพื่อลงมา…ข้าสงสัยเหลือเกินว่ามันคือตัวอะไรกัน
สิ่งเดียวที่ข้าคิดได้คือบางสิ่งจากเกมมายคราฟ
มังกรแห่งจุดจบงั้นเหรอ? หรือมอนสเตอร์จากแดนใต้พิภพ?
คำสุดท้ายของนางคือ “โชคชะตาได้เริ่มหมุนแล้ว” รู้สึกเหมือนกับกำลังจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นเลย
ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ ข้าเป็นเพียงสามัญชนธรรมดาๆ คนหนึ่งเองนะ ปล่อยให้โลกถูกปกป้องโดยวีรบุรุษหรือนักผจญภัยผู้ยิ่งใหญ่เถอะ
ขณะที่ข้าคิด ข้าก็ล้างคราบเลือดในห้องน้ำออกไป
จากนั้นข้าจึงกลับไปที่ห้องของข้าและกำลังคิดว่าวันนี้ได้จบลงเสียที
แต่หลังจากกลับไปที่ห้องของข้า ข้าก็รู้ว่าวันนี้ยังไม่จบ
ขณะที่ข้านอนอยู่บนเตียงนุ่มๆ กำลังจะหลับ ข้าก็ได้ยินเสียงเคาะประตู
จากแผนที่ขนาดเล็ก ข้ารู้ว่าเป็นใคร
คนนั่นคือเกรซ
"ใครน่ะ! ถ้าอยากเข้ามาก็ต้องบอกรหัสผ่านก่อน”
"...รหัสผ่าน?"
“ก็แบบ ‘โอม ประตูจงเปิด'…เฮ้อ ช่างเถอะ เข้ามาสิ” อืม สงสัยมุกของข้าคงไม่ตลก
ตอนที่ข้าทำงานเป็นพนักงานต่อสายโทรศัพท์ในชีวิตก่อนหน้านี้ หลายครั้งข้ามักจะคิดมุกแบบนี้ขึ้นมาได้เสมอ
เสียงเปิดประตูพลันดังขึ้น
.
“เอาล่ะ…มี…อะไรงั้นเหรอ?” ข้าลุกขึ้นนั่งและมองไปที่ประตู แต่สิ่งที่ข้าเห็นก็ทำให้ข้าแทบจะพูดไม่ออก
เกรซสวมชุดผ้าไหมสีขาวส่องแสงระยิบระยับบางเบาภายใต้แสงจันทร์ เผยให้เห็นส่วนเว้าโค้งที่แสนพอดีของเด็กสาว
ชุดนี้เป็นสิ่งที่ข้าทำให้นางมานานแล้ว
นางสูงขึ้นตั้งแต่นั้นมา ข้าไม่คิดเลยว่านางจะยังใส่มันได้...?
“ตอนที่ข้ามาเมืองหลวงครั้งแรก ข้าไปหาช่างตัดเสื้อเพื่อปรับเปลี่ยนมัน…” เกรซกล่าว
แสงจากดวงจันทร์ส่องใบหน้าเกรซและเมื่อข้ามองดูนาง ข้าก็สังเกตเห็นว่ามีสีชมพูจางๆ บางเบาบนแก้มของนางเหรอ?
นางเดินเข้ามาหาข้าและในที่สุด นางก็นั่งลงบนเตียงข้างๆ ข้า
"เอ่อ...หา? หา?"
แม้ว่านางจะบอกว่าเธอได้ปรับเปลี่ยนชุดนี้ไปแล้ว แต่มันก็ยังเผยให้เห็นขาที่เรียวยาและเป็นธรรมของเกรซ จนเกิดภาพอันแสนเย้ายวนใจมาก
เป็นเวลานานแล้วที่ข้าไม่ได้เห็นนางแต่งตัวเช่นนี้ ล่าสุดก็คงเป็นตอนเมื่อยามอายุสิบขวบ ซึ่งข้าแทบจะลืมไปเสียสนิทแล้ว
นางเอื้อมมือมาแตะหน้าอกข้าเบาๆ แล้วนอนลงข้างๆ ข้า
เดี๋ยวก่อนสิ! จู่ๆ ก็มาถึงขั้นนี้เลยเหรอ!? ข้ายังไม่เตรียมตัวเลยนะ!!
“สามวัน…วอลสัน…เจ้าหายไปสามวัน…เขาวงกต…อันตรายมากไหม?” มือของนางเลื่อนมาที่คอของข้า เผยให้เห็นสร้อยคอหินผู้พิทักษ์ที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้าของข้า
บางอย่างดูเหมือนจะกวนใจข้า ร่างกายของข้ารู้สึกร้อนรุ่มในทันที
ข้าไม่ได้ตอบคำถามของเกรซ เพราะหินผู้พิทักษ์ที่แตกเป็นเสี่ยงๆ เป็นคำตอบที่ดีที่สุดแล้ว
เสียงของเกรซสั่นเล็กน้อย สื่อถึงความไม่สบายใจและความโกรธของนาง
"...เจ็บหรือเปล่า?"
เมื่อข้าผละออกมาจากห้วงภวังค์ ข้าก็ตระหนักว่าใบหน้าของเกรซนั้นใกล้กับข้ามาก จนข้าสัมผัสได้ถึงลมหายใจของนาง
“ก็นิดหน่อย…อืม…”
จากนั้นความรู้สึกสดชื้นและกลิ่นก็ได้ปะเข้ากับริมฝีปากของข้า ทำให้คำพูดที่ข้ากำลังจะพูดได้เงียบลงไป จมอยู่ในความอ่อนนุ่ม ทำให้จิตใจของข้าว่างเปล่า
“…เดิมทีข้าต้องการทำเช่นนี้เมื่อเราทั้งคู่บรรลุนิติภาวะ”
“แต่…ตอนนี้ก็ดีแล้ว…”
ด้วยเหตุนี้ เกรซจึงเริ่มเอนตัวลงอีกครั้งและคราวนี้ข้าก็เริ่มรุก
รุกมาก
คืนนั้นเสียงการต่อสู้ของเราดังก้องไปทั่วห้องของข้า คนที่ไร้เดียงสาอาจจะเข้าใจผิดว่ามีใครกำลังเอาเนื้อทุบกันอยู่
ซึ่งมันก็ใช่ว่าจะผิดไปเสียทีเดียวนะ