บทที่ 36 - การบดขยี้และจุดจบของจักรพรรดิ
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 36 - การบดขยี้และจุดจบของจักรพรรดิ
"ไร้สาระสิ้นดี!" ฟรีเซอร์อุทานออกมาด้วยความโกรธ
แต่เขาเองก็มีความมั่นใจที่น้อยลงมาก
เพราะสิ่งที่หลินเฉินพูดไม่ได้ผิดเลย
ฟรีเซอร์ทำได้เพียงแค่คาดเดาระดับพลังของร่างที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น
เพราะนับตั้งแต่ที่มีการสร้างเครื่องวัดพลังขึ้นมา ระดับพลังงานสูงสุดที่พวกเขาสามารถตรวจจับได้มีแค่ประมาณ 2 ล้านเท่านั้น
ค่าการวัดนี้เพียงพอแล้วสำหรับ 90% ของสิ่งมีชีวิตในจักรวาลนี้ แต่มันไม่มีประโยชน์อันใดต่อเผ่าของพวกเขาเลย
เพราะเมื่อพวกเขาแปลงร่างไปสู่ขั้นสุดท้าย…หรือกระทั่งร่างดั้งเดิม ระดับพลังของฟรีเซอร์ก็เกินกว่าตัวเครื่องวัดพลังไปแล้ว
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฟรีเซอร์ พ่อของเขาและคนอื่นๆ ประเมินระดับพลังของพวกเขาเพียงคร่าวๆ เท่านั้น
เช่นเดียวกับฟรีซ่าที่คิดว่าร่างสุดท้ายของเขาแข็งแกร่งกว่าร่างที่สามหลายสิบเท่า ดังนั้นเขาจึงคาดเดาว่าระดับพลังของเขาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 120 ล้าน
แต่ในความเป็นจริง การคาดเดาของฟรีเซอร์ห่างความจริงไปไกลโข
เมื่อหลินเฉินได้ยินฟรีเซอร์อ้างว่าระดับพลังของเขาในขั้นที่สามคือ 3 ล้าน เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เพราะตามเครื่องวัดพลังที่สร้างขึ้นโดยบูลม่า ระดับพลังของฟรีเซอร์ในร่างที่สามคือ 2.4 ล้านเท่านั้น
ต่อมาเมื่อฟรีซ่าแปลงร่างเป็นร่างสุดท้าย เขาพบว่าระดับพลังของฟรีเซอร์เพิ่มขึ้นเป็น 11 ล้านเท่านั้น ซึ่งห่างไกลจากระดับพลัง 100 ล้านที่ฟรีเซอร์อ้างว่าตนพึงมี
ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเครื่องวัดพลังของบูลม่าที่ทำงานผิดปกติ แต่เมื่อเขาตรวจสอบระดับพลังของฟรีเซอร์ด้วยระบบของเขา มันก็ขึ้นแค่ 11 ล้าน
ดูทรงระดับพลัง 100 ล้านที่ฟรีเซอร์พูดซ้ำไปซ้ำมาในอดีตจะเป็นเพียงเรื่องเท็จเสียแล้ว
ในตอนแรก หลินเฉินกำลังคิดที่จะแก้แค้นฮานาเซียและเตรียมที่จะต่อสู้จนตัวตายกับฟรีซ่า แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าความแข็งแกร่งของฟรีเซอร์ไม่ได้ครึ่งหนึ่งของเขาเลย
“เหลวไหลสิ้นดี!”
ในตอนนี้ ฟรีเซอร์ยังคงคำรามด้วยความโกรธ: “ระดับพลังของข้าจะมีเพียง 11 ล้านได้ยังไงกัน?”
หลินเฉินชี้ไปที่เครื่องวัดพลังที่เขาสวมอยู่บนหัวของเขา
“ฟรีเซอร์ ข้าจะบอกเจ้าอย่างหนึ่งว่าเครื่องวัดพลังของข้าเป็นเครื่องวัดพลังตัวล่าสุดที่คิดค้นโดยอัจฉริยะ ค่าการตรวจจับของมันไม่มีขีดจำกัดและมันกำลังบอกข้าว่าระดับพลังของเจ้ามีเพียง 11 ล้านเท่านั้น”
"อะไรนะ?" ฟรีเซอร์อุทานออกมาด้วยความตกใจ
“จะว่าไปข้าขอบอกเจ้าก่อนว่าระดับพลังของข้ามีมากกว่า 20 ล้านและซูเปอร์ไซย่าสาวที่เจ้าฆ่าก่อนหน้านี้มีระดับพลัง 12 ล้าน! เพราะอย่างนั้น...”
“เจ้าน่ะอ่อนแอเกินไป”
“เจ้าลิงป่า เจ้ากล้าพูดได้ยังไงกันว่าข้าฟรีเซอร์ผู้นี้อ่อนแอ? บัดซบ…บัดซบ! ข้าคือฟรีเซอร์ผู้ไร้พ่าย!”
ทันใดนั้นฟรีเซอร์ก็งอมือซ้ายและหมุนร่างกายของเขาเป็นครึ่งวงกลมเพื่อรวมพลังงาน วินาทีต่อมา คลื่นพลังงานที่คล้ายเปลวไฟอันน่าอัศจรรย์ก็ถูกยิงโดยฟรีเซอร์
ตู้ม ตู้ม ตู้ม!
พวกมันทั้งหมดพุ่งโจมตีใส่ร่างร่างของหลินเฉิน
แต่มันยังไม่จบแค่นั้น ฟรีเซอร์ยังคงโบกมือและโจมตีหลินเฉินด้วยลูกบอลสังหารต่อไป
"ติ้ง! ขอแสดงความยินดีกับผู้ใช้ที่เรียนรู้บอลสังหาร!”
พื้นที่มืดมิดในอวกาศได้ถูกเติมเต็มให้ส่องสว่างด้วยเปลวไฟสีแดงเข้มอย่างต่อเนื่อง
เมื่อฟรีซ่าหยุดพักไปในขณะที่หอบหายใจ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“เจ้ากล้าพูดว่าราชาผู้นี้อ่อนแอ! ตอนนี้เจ้ารู้หรือยังว่าราชาองค์นี้ทรงพลังเพียงใด?”
“ขอโทษทีนะ ยังไงเจ้าก็ยังอ่อนแอเกินไปอยู่ดี!”
ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นและฟรีซ่าก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ราวกับถูกฟ้าผ่า
ม่านตาของเขาหดตัวลงและความเย็นยะเยือกพุ่งเข้าสู่สมองของเขา
เมื่อหลินเฉินปรากฏตัวขึ้นจากภายในควัน เขาก็เห็นฟรีซ่าที่ดูหวาดกลัวมาก
หลินเฉินได้แต่ถอนหายใจ
หากเป็นฟรีเซอร์ที่ได้แค่นี้ ฮานาเซียคงจะสามารถเอาชนะเขาได้ ถ้านางสามารถเอาตัวรอดในสุญญากาศได้
ช่างน่าเศร้าที่ฟรีเซอร์ชั่วร้ายและเจ้าเล่ห์เกินไป
ในขณะเดียวกัน เฟืองในใจของฟรีเซอร์ก็หมุนอย่างรวดเร็ว
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขารู้สึกถึงรสชาติของความหวาดกลัว
เมื่อเผชิญกับภัยคุกคามแห่งความตาย ฟรีเซอร์ก็กล่าวด้วยความตื่นตระหนก: “ไม่ดีแล้ว ข้าต้องออกไปจากที่นี่ทันที ข้าจะต้องไปหาท่านพ่อ! ตอนนี้ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน คงมีเพียงท่านพ่อเท่านั้นที่สามารถปกป้องข้าได้!”
หลังจากที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเอาชนะหลินเฉินได้ ฟรีเซอร์ก็แค่คิดที่จะหลบหนี
“ขยะเอ้ย ข้าจะทำให้เจ้าตายไปซะ!”
ฟรีเซอร์ตะโกนเสียงดังในขณะที่เขายกมือขึ้นเพื่อสร้างลูกบอลพลังงานสีม่วงดำจากอากาศบางๆ ลูกบอลพลังงานเต็มไปด้วยพลังอันแสนรุนแรง ฟรีเซอร์าดันมือของเขาไปข้างหน้าและลูกบอลพลังงานก็พุ่งเข้าหาหลินเฉินเหมือนงูที่กำลังพุ่งเข้ามาฉก
"ติ้ง! เปิดใช้งานพรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้ขั้นเริ่มต้น เรียนรู้บอลทำลายล้างดวงดาว!”
ในขณะที่เสียงเตือนของระบบดังขึ้นในใจของหลินเฉิน ร่างของฟรีเซอร์ก็กลายเป็นลำแสงพุ่งออกไปในทิศทางตรงกันข้ามกับหลินเฉิน
ตรงนั้นเป็นยานอวกาศของฟรีเซอร์
แม้ว่าฟรีเซอร์จะสามารถอยู่รอดและเคลื่อนที่ไปมาในอวกาศได้ แต่มันก็แตกต่างจากการเดินทางจากดาวเคราะห์ดวงหนึ่งไปอีกดวง วิธีที่เร็วที่สุดของการเคลื่อนที่ไปมาระหว่างดาวคือการใช้ยานอวกาศ
ฟรีเซอร์มองไปที่ยานอวกาศในระยะไกลที่ค่อยๆ ใหญ่ขึ้นและพึมพำกับตัวเอง: “เมื่อข้าไปถึงบ้านของท่านพ่อ ข้าต้องฝึกให้หนัก! มันก็แค่ลิงไซย่าไม่กี่ตัว! ราชาผู้นี้จะไม่แพ้เจ้าอย่างแน่นอน!”
เพราะฟรีเซอร์เกิดมาแข็งแกร่ง เขาจึงไม่ได้รับการฝึกฝนมาตั้งแต่เกิด เขาเชื่อว่าด้วยพรสวรรค์ของเขา ตราบใดที่เขาฝึกฝนเพียงเล็กน้อย เขาก็สามารถเหนือกว่าไซย่าคนนั้นได้
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เกือบจะมาถึงใกล้ๆ ยานและฟรีเซอร์ก็สามารถมองเห็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่หวาดกลัวผ่านช่องประตูได้
ทันใดนั้น เขาก็ตระหนักว่าลูกน้องของเขากำลังทุบหน้าต่างด้วยความกลัวและในขณะเดียวกัน พวกเขาก็โบกนิ้วไปทางด้านหลังของฟรีเซอร์อย่างเร่งรีบ
ด้านหลังงั้นหรือ?
ฟรีซ่าหันศีรษะกลับไปมองและเห็นแสงสีฟ้าระยิบระยับราวกับดวงอาทิตย์ปรากฏขึ้นในพื้นที่ด้านหลัง
หลินเฉินวางฝ่ามือของเขาเข้าด้วยกัน จ้องไปที่ฟรีซ่าในระยะไกลและพึมพำเสียงเบา: “คา…เม… คา… เม…”
เมื่อเขากำลังพูดคำว่า “เม” ร่างของหลินเฉินก็หายไปทันทีจากจุดที่ฟรีเซอร์โยนลูกบอลพลังงานมา
ครู่ต่อมา หลินเฉินก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังฟรีซ่าจนทำให้เขาต้องตกใจ เขาหันไปมองด้วยความไ่อยากจะเชื่อ
“เจ้าทำได้ย…” ฟรีซ่ากำลังเปิดปากพูด แต่ก็พูดได้ไม่จบ
หลินเฉินตะโกนคำสุดท้ายออกมาทันที
"ฮ่า!"
หลังจากตะโกนเสียงดัง หลินเฉินก็ผลักมือของเขาไปข้างหน้าและคลื่นพลังงานสีน้ำเงินได้พวยพุ่งออกมามุ่งตรงไปด้วยพลังที่แสนน่าสะพรึงกลัว
“ราชาผู้นี้จะตายไม่ได้!”
เมื่อรู้ว่ามันสายเกินไปที่จะหลบหนี ฟรีเซอร์ก็ตะโกนเสียงดังและเหยียดแขนออกมาเพื่อพยายามผลักพลังคลื่นเต่าของหลินเฉินกลับไป
อย่างไรก็ตาม ฝ่ามือของเขาสามารถต้านทานได้เพียงชั่วครู่ คลื่นก่อนจะถูกกลืนกินด้วยพลังงานที่แสนน่าสะพรึงกลัว
"อ๊าาาาาาากก!
วินาทีต่อมา แม้แต่ฟรีเซอร์เองก็หายตัวไปท่ามกลางลำแสงสีฟ้า