เขามองไปางหลินเฉินที่บินมาอย่างประหลาดใจและพูดออกมาด้วยความโกรธ “ทำไมล่ะ? ทำไมเจ้ายังไม่ตาย? ชาวไซย่าสามารถอยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมสุญญากาศได้ยังไงกัน?”

“แน่นอนว่าชาวไซย่าธรรมดาทำไม่ได้ แต่ข้าไม่ใช่ชาวไซย่าธรรมดา ข้าเป็นซูเปอร์ไซย่าในตำนาน!”

หลินเฉินดูเฉยเมยขณะที่เสียงของเขาถูกส่งผ่านก๊าซโดยรอบไป

“ซูเปอร์ไซย่าในตำนาน? ไร้สาระ เจ้าคิดว่าราชาผู้นี้จะเชื่อเรื่องไร้สาระนี้หรือ?”

ฟรีเซอร์โบกมือและพูดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้เอง ดวงตาที่เฉียบแหลมของเขาสังเกตเห็นว่ารอบๆ ตัวหลินเฉินมีแสงบางเบาปกคลุมทั่วร่างกายของเขา

นั่นน่าจะเป็นเกราะป้องกันพลังงานอะไรสักอย่าง

ฟรีเซอร์ได้คาดเดา!

สิ่งที่ฟรีเซอร์คาดเดานั้นถูกต้องแล้ว โล่พลังงานเป็นพลังสายเลือดโดยกำเนิดของสายเลือดซูเปอร์ไซย่าในตำนานของหลินเฉิน

“ในเมื่อสุญญากาศไม่สามารถฆ่าเจ้าได้ ราชาผู้นี้ก็จะฆ่าเจ้าเอง!”

ทันทีที่เสียงของฟรีซ่าเงียบไป ทันใดนั้นเขาก็ปรากฏตัวต่อหน้าหลินเฉินและต่อยหลินเฉินอย่างแรงตรงท้อง

แต่ฟรีเซอร์รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะหมัดของเขาดูเหมือนจะกระแทกเข้ากับเหล็ก หลินเฉินไม่รู้สึกอะไรสักนิด เป็นฝ่ายฟรีเซอร์เองที่รู้สึกเจ็บที่หมัดของตน

“นั่นคือความแข็งแกร่งทั้งหมดที่เจ้ามีหรือ? ฟรีเซอร์ เจ้าไม่มีร่างอื่นแล้วใช่ไหม? จะใช้มันก่อน หรือจะต้องถูกฆ่าโดยที่ไม่ได้แสดงพลังที่แท้จริงออกมา?” หลินเฉินกล่าวออกมาอย่างเฉยเมย

ความโกรธได้แล่นผ่านสายตาของเขาไป

ครั้งนี้หลินเฉินโกรธมาก

ไม่ใช่เพราะฟรีเซอร์ฆ่าฮานาเซีย แต่เพราะฟรีเซอร์ฆ่าฮานาเซียโดยไม่ใช่การต่อสู้ที่ยุติธรรม ทว่าเป็นการทำลายดาวทิ้ง

ภรรยาของข้าจะถูกฆ่าด้วยวิธีนี้ได้อย่างไรกัน!

“รีบเข้าฟรีเซอร์! จงใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของเจ้าเสีย!” เพื่อเห็นแก่คนที่เจ้าฆ่าไป ข้าจะเอาชนะเจ้าอย่างยุติธรรมในครั้งนี้เอง!”

“ไซย่าเพียงตัวเดียวจะคู่ควรให้ราชาผู้นี้ใช้พละกำลังเต็มที่อย่างงั้นเหรอ?”

ออร่าที่ชั่วร้ายระเบิดออกในทันทีและร่างทั้งหมดของฟรีซ่าก็ถูกล้อมรอบด้วยออร่าสีขาวและเขาก็เริ่มชกหลินเฉินอย่างบ้าคลั่ง

ปัง ปัง ปัง!

แม้ว่าจะไม่ได้ยินเสียงใดๆ ในพื้นที่ แต่ความผันผวนที่เกิดจากหมัดของฟรีซ่าก็ยังคงดังก้องไปทั่วทั้งหมด

“ได้แค่นี้เหรอ ราชาฟรีเซอร์!”

“ราชาฟรีเซอร์ผู้นี้ไม่มีทางพ่ายแพ้!”

บนยานอวกาศของฟรีเซอร์ มนุษย์ต่างดาวตะโกนด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นการโจมตีอย่างต่อเนื่องของฟรีเซอร์

ในหมู่พวกเขา กินิวเป็นคนเดียวที่ยังคงถอยห่างด้วยสีหน้าหวาดกลัว

ในฐานะที่เป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดบนยาน กินิวสามารถมองเห็นได้ว่าแม้ฟรีเซอร์จะโจมตีต่อไป แต่ชาวไซย่าก็ไม่เป็นไรเลย!

พลังของทั้งสองแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!

ซูเปอร์ไซย่าช่างน่ากลัวมากจริงๆ!

“มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกัน? ไม่มีทางจะเป็นเช่นนี้ได้!”

เมื่อฟรีเซอร์ชกไปหลายพันครั้ง เขาก็พบว่าเขาไม่ได้สร้างบาดแผลให้หลินเฉินเลย

“ระดับพลังของราชาผู้นี้อยู่ที่ 3 ล้าน! ทำไมข้าถึงสร้างบาดแผลให้เจ้าไม่ได้?”

หืม?

เมื่อได้ยินคำพูดของฟรีเซอร์ หลินเฉินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

ในตอนนั้นเอง ฟรีเซอร์ได้หยุดโจมตีและทิ้งระยะห่างจากหลินเฉิน

"ดี ดีมาก! ไอ้ลิงเวรตะไล! ในเมื่อเจ้าต้องการให้ราชาผู้นี้ใช้กำลังอย่างเต็มที่ ข้าจะทำตามที่เจ้าต้องการ! จงเผชิญกับความหวาดกลัว ระดับพลังของราชาในร่างสุดท้ายที่มีพลังถึง 100 ล้าน!”

"ฮ่า!"

ครู่ต่อมา ออร่าที่ชั่วร้ายก็ปะทุออกมาและร่างของฟรีเซอร์ที่กำลังเปลี่ยนร่าง

อย่างไรก็ตามการกลายร่างครั้งนี้ดูน่าขยะแขยงเล็กน้อยสำหรับหลินเฉิน

เพราะเขาเห็นร่างของฟรีซ่าบิดผิดรูปและเนื้อของเขาหลุดออกมา

หลินเฉินไม่รู้เลยว่า อันที่จริงแล้วฟรีเซอร์เองก็ลังเลมากกับการแปลงร่างเป็นขั้นสุดท้าย

เหตุผลที่เขาไม่เต็มใจที่จะแปลงร่างขั้นสุดท้ายในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อน

เมื่อก่อนเป็นเพราะเขาไม่ชอบแปลงร่างเป็นขั้นสุดท้าย เนื่องจากเขาไม่สามารถควบคุมพลังได้

แต่ตอนนี้การแปลงร่างเป็นร่างขั้นสุดท้ายของเขาจะทำให้เขาเจ็บปวดอย่างมาก

ทั้งหมดเป็นเพราะฟรีเซอร์ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากหลินเฉิน

ดังนั้นเมื่อร่างของฟรีเซอร์ถูกประกอบขึ้นใหม่โดยใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ร่างของฟรีซ่าจึงได้รับการฟื้นฟูแค่ในร่างแรก

แม้ว่าช่างเทคนิคที่ซ่อมแซมฟรีเซอร์จะพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายจักรกลจะไม่ส่งผลกระทบต่อการกลายร่างของฟรีเซอร์ แต่ร่างกายจักรกลก็ไม่ใช่ร่างกายดั้งเดิมของเขา

ทำให้เมื่อต้องกลายร่างเป็นขั้นสุดท้าย มันจึงทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดเจียนตาย

ดังนั้นแม้เมื่อเผชิญหน้ากับฮานาเซียก่อนหน้านี้ ฟรีเซอร์ก็แปลงร่างเป็นเพียงร่างที่สามเท่านั้น พอพบว่าเขาไม่สามารถเอาชนะฮานาเซียได้ เขาก็เลือกที่จะทำลายดาวเคราะห์แทนที่จะแปลงร่างเป็นร่างสุดท้าย

แต่ตอนนี้ พอต้องเผชิญหน้ากับหลินเฉินที่สามารถอยู่รอดในสุญญากาศได้ ฟรีเซอร์จึงทำได้เพียงเลือกที่จะอดทนต่อความเจ็บปวดและเข้าสู่ร่างขั้นสุดท้าย

"ฮ่าา..."

เมื่อออร่ารอบกายของเขาระเบิดออกอย่างสมบูรณ์ ในที่สุดฟรีเซอร์ตัวจิ๋วก็ปรากฏตัวต่อหน้าหลินเฉิน

ฟรีซ่าหอบหายใจแรงและใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อเย็นยะเยือกขณะที่เขาพูดว่า “โทษทีที่ข้าทำให้เจ้าต้องรอ! ไอ้เจ้าชาวไซย่า! นี่คือร่างที่แข็งแกร่งที่สุดของราชาผู้นี้ที่เจ้าอยากจะเห็นไงล่ะ!”

ฟรีเซอร์ยกนิ้วขึ้นข้างหนึ่งและเยาะเย้ยหลินเฉิน “ให้ข้าบอกเจ้าก่อนแล้วกัน ระดับพลังปัจจุบันของข้ามีมากกว่า 100 ล้าน!”

เมื่อได้ยินคำพูดของฟรีซ่า ความสงสัยของหลินเฉินในที่สุดก็ถูกคลายลงไป

เขาได้แต่ยิ้มขึ้นมา :“100 ล้านงั้นหรือ? ฟรีเซอร์ ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะขี้โม้ขนาดนี้!”

"หา?" ฟรีเซอร์ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดออกมาด้วยแววตามืดมน “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

“ฮ่าๆ ฟรีเซอร์ เจ้าบอกข้าได้ไหมว่าเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าระดับพลังของเจ้าตอนนี้คือ 100 ล้าน? เท่าที่ข้ารู้มา เครื่องวัดพลังของกองกำลังฟรีเซอร์มีขีดจำกัดสูงสุดอยู่ที่ 2 ล้านแล้วเจ้าจะไปมีระดับพลังถึง 100 ล้านได้ยังไงกัน?” หลินเฉินหัวเราะ

“นั่น …” ใบหน้าของฟรีเซอร์พลันแข็งทื่อ

หลินเฉินยิ้มและพูดอีกว่า: “ฟรีเซอร์ ถ้าข้าจำไม่ผิด การที่เจ้าบอกว่ามีพลังมากกว่า 100 ล้านคงเป็นการพูดเกินจริงไปสินะ? อันที่จริงเจ้าคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าระดับพลังของเจ้าคืออะไร ระดับพลัง 100 ล้านของเป็นการปรุงแต่งมันขึ้นมางั้นเหรอ?”

“ระดับพลังที่แท้จริงของเจ้าช่างอ่อนแอนัก เจ้ามีพลังเพียงแค่ 11 ล้าน เป็นเพียงหนึ่งในสิบส่วนของพลังที่เจ้าคิดขึ้นไปเอง!”

[ผู้เขียน]: . ในงานต้นฉบับระดับพลังของฟรีเซอร์อยู่ที่ 120 ล้าน แต่ผู้เขียนพบว่ามันแปลกมาก เพราะเครื่องวัดพลังแบบพกพาควรระเบิดถ้าระดับพลังเกินกว่าแสนขึ้นไป ยิ่งถ้าขึ้นไปเกินหลักล้าน เจ้าเครื่องวัดพลังตัวใหญ่ก็จะระเบิด จึงได้เกิดคำถามว่าใน Dragon Ball Z ฉบับดั้งเดิม ฟรีเซอร์รู้ได้อย่างไรว่าระดับพลังของเขามากกว่า 100 ล้าน? ดังนั้นผู้เขียนจึงเชื่อว่าฟรีเซอร์กำลังโม้และระดับพลังที่แท้จริงของเขาก็ไม่ได้สูงขนาดนั้น

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต

Article Rating

0 Comments

Inline Feedbacks

ดูความคิดเห็นทั้งหมด